เหมยกุ้ยครางประท้วง ลองมือผวาจิกเข้าไปที่สะโพกแกร่งของชายหนุ่ม ในขณะที่ลิ้นเล็กพยายามดุนหัวบากมังกรของเขาให้ออกไปจากปาก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้แก่ชายหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าครางออกมา
“อร้ากกกกกกกก ซี้ดดดดดดดดดดดด โอ้ววววววว”
ส่วนล่างหวังเหล่ยก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกแทงเข้าออก ให้กลีบหอยคายน้ำหวานออกมาไม่หยุด ชายหนุ่มเร่งจังหวะแทงเข้าออกจนกลีบหอยเบ่งปริ
ส๊วบบบบบบบบบบบบ
จึ๊ก!
“อ่าซ์”
ส๊วบ ส๊วบ จึ๊ก!
“อ่าซ์”
“โอ้วววววววววว”
เหม้ยกุ้ยเจ็บแปลบปนสุขสมเจียนขาดใจ ยิ่งหวังเหว่ยกระแทกดุ้นมังกรเข้าหอยนางมากเท่าไหร่ ปากนางก็ยิ่งรูดแก่นมังกรจางเหว่ยหนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น
“อ๊ากกกก โอ้ววววว ไม่ไหวแล้ววววววว จะถึงแล้ว จะถึงแล้ว”
จางเหว่ยครวญครางอย่างสุขสม ดวงดาวเริ่มพร่างพราย เขาหยัดสะโพกใส่ปากเล็กของเหมยกุ้ยให้มากขึ้นเพื่อให้แตะถึงสวรรค์ นางโม้กมังกรเขาอย่างร้อนแรง ทั้งรูด ทั้งดุน ดูดจนแก้มตอบเสียงดูดดัง
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
“โอ้ววววว ซี้ดดดดดด ยะ อย่างนั้น เร็วอีกๆ”
จางเหว่ยเกร็งตัวอย่างเสียวซ่าน มือสากของเขาตะปบลงเป็นสองเต้างาม เคล้นคลึงหัวนมชมพูจนเจ้าของมันบิดร่างแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน ราวกับว่าทั้งร่างแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ
“ซี้ดดดดด อา หอยเจ้าปี้สนุกมาก โอ้ววววว อ่า ทั้งแน่น ทั้งอุ่น อ่าซ์”
หวังเหว่ยยังคงกระแทกสะโพกเด้าซอยหนักหน่วงไม่ยั้ง เขาจับสองขาเรียวของนางขึ้นพาดบ่ากำยำเพื่อให้ดุ้นมังกรกระแทกได้ถนัด เข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้น
ตับ! ส๊วบ! ตับ! ส๊วบ!
ตับ! ตับๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
สะโพกกำยำโหมกระหน่ำซอยถี่ ๆ เมื่อหอยของสาวน้อยรัดตอดมังกรเขาถี่ ๆ
“อร๊างงงงงงงงงงงงงงง”
“อืมมมมมม อะ”
เหมยกุ้ยครางออกมาไม่เป็นเสียงเพราะปากยังอมดุ้นมังกรผู้พี่ไว้
“อะ อ่า ซี้ดดดดดดดด ถึงแล้ว ถึงสวรรค์แล้วววววววว โอ้วววววว”
ดุ้นมังกรของจางเหว่ยกระตุกเกร็ง ก่อนที่จะพ่นน้ำทิพย์สีขาวขุ่นออกมาจนเต็มอุ้งปากเหมยกุ้ย
เมื่อหวังเหว่ยเห็นผู้พี่ไปถึงสวรรค์แล้ว เขาจึงเร่งกระหน่ำกระแทกหอยเยิ่ม ๆ ของนางจนสะโพกกลมกลึงของเหมยกุ้ยลอยเด้งขึ้นตามแรงกระแทก
“อะ อะ อร้ายยยย”
ตับ! ส๊วบ!
ตับ! ตับๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“อร้างงงงงงงงง”
“อร้ากกกกกกกกกก”
ร่างบางกระตุกเกร็งขึ้นสวรรค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนในที่สุดชายหนุ่มก็ขึ้นสวรรค์ตามไปติดๆ
หมายเหตุ
*เมืองหาน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉีซาน หากต้องการจะเดินทางไปที่เมืองหานต้องเดินทางผ่านเมืองฉีซานเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เหมยกุ้ยก็น้ำตาซึมออกมา นางยังคงจรดจำวันนั้นได้ดี ชายกำยำทั้งสองบรรเลงเพลงกามถาโถมใส่นางไม่ยั้ง ร่างกายที่แสนบอบบางของสาวน้อยมีหรือจะทนแรงกระเด้าสุดแรงของชายฉกรรจ์สุดแสนป่าเถื่อไหว หลังจากเสร็จกิจกาม สาวน้อยวัยแรกแย้มที่เพิ่งถูกผู้ชายทะลวงพรหมจรรย์เป็นครั้งแรกก็สลบไปทั้ง ๆ ที่ดุ้นมังกรทั้ง 2 ลำยังคาอยู่ทั้งปากทั้งรูหอย
ส่วนชายหื่นทั้งสองคนที่สอนให้นางรู้จักหน้าที่ของนางคณิกาก็ทิ้งให้นางนอนสลบภายในห้อง เมื่อนางรู้สึกตัวขึ้นตอนรุ่งสางร่างกายของเหมยกุ้ยเจ็บระบบไปทั่วทั้งกายราวกับว่าจะปริแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ตั้งแต่วันนั้น นางก็สาบานกับตนเองว่า “นับจากนี้ไปชั่วกาล จะไม่ยอมเป็นที่ระบายความใคร่แก่ชายใด มีเพียงข้าเท่านั้นที่เป็นผู้คุมเกมกาม!”
ก๊อก ๆ
ก๊อก ๆ
“ท่านพี่ ท่านพี่ ข้าไป๋หลาน”
เสียงเรียกขานจากหน้าประตูดึงให้เหมยกุ้ยออกจากอดีตที่เจ็บซ้ำ นางลุกขึ้นยืนอย่างสง่างาม สาวน้อยไร้เดียงสาเมื่อ 6 ปีก่อน ไม่มีอีกแล้ว มีเพียง “เหมยกุ้ย ยอดคณิกาอันดับหนึ่งแห่งหอมู่ตาน!”
แอ๊ดดดดดดดดดดด
เหมยกุ้ยเปิดประตูรับผู้มาเยือน ไป๋หลานยกสำรับเดินตามเข้าไปในห้องรับแขก
“ท่านแม่สั่งให้ข้านำอาหาร และสุราชั้นดีขึ้นมาเตรียมให้ท่านรับแขกคืนนี้”
ไป๋หลานเจื้อนแจ้ว ขณะที่จัดวางจานอาหารลงบนโต๊ะ
“ลำบากเจ้าแล้ว”
ผู้เป็นเจ้าของห้องยิ้มให้อย่างเอื้ออาทร
“เป็นหน้าที่ของข้า ไม่ลำบากอันใด”
ไป๋หลานมองมาที่เหมยกุ้ยอย่างชื่นชมในความงามและความสามารถที่เป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งเมือง
“ข้าได้ยินมาว่า ที่บ้านเจ้าลำบากมาก นอกจากจะต้องเช่าทำกินแล้ว ยังต้องจ่ายภาษีแพง ๆ ให้กับขุนนางหน้าเลือด พ่อแม่เจ้าล้มเจ็บจนเจ้าต้องมาอยู่ที่หอมู่ตาน”
“ใช่แล้ว”
ไป๋หลานสบตาเหมยกุ้ยอย่างซาบซึ้ง ที่ยอดหญิงอันดับหนึ่งของหอมู่ตานเอาใจใส่นางคณิกาเล็ก ๆ อย่างนาง แล้วเอ่ยต่อว่า
“ข้าต้องการหาเงินรักษาพ่อแม่ และไถ่ถอนที่ดินจากพวกนายทุน”
“เจ้าช่างเป็นลูกที่กตัญญูยิ่งนัก แล้วพ่อ แม่เจ้าหายดีหรือยัง”
เหมยกุ้ยรั้งมือหญิงสาวให้นั่งลงข้าง ๆ
“ท่านพ่อหายแล้ว เหลือเพียงท่านแม่ที่สุภาพไม่ค่อยดีนัก”
ไป๋หลานตอบขณะที่นั่งลง นางรู้สึกดีที่มีใครสักคนชื่นชม เพราะนางคณิกาอย่างนางน้อยนักที่มีผู้ใดให้ความสำคัญ
“ขอให้ท่านแม่เจ้าหายไว ๆ และไถ่ถอนที่ทำกินได้ในเร็ววันนะ”
“ขอบคุณท่านพี่มาก ข้าพยายามเก็บเงินทุกตำลึงที่ใช้เรือนกายแลกมา”
“หากเจ้าได้เรียนรู้วิธีมัดใจชาย เจ้าก็จะเป็นที่เลื่องลือเหมือนเช่นข้า เมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องอดทนถึงหนึ่งปี เจ้าก็จะสามารถไถ่ถอนที่ดินมาคืนพ่อกับแม่เจ้าได้”
แววตาไป๋หลานลุกวาวเมื่อได้ยินสิ่งที่เหมยกุ้ยแนะนำ นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า
“ทะ ท่านจะสอนบทเรียนข้ารึ ท่านพี่!”
“หากเจ้ายินดี ให้ข้าเป็นผู้แนะนำ”
“ข้ายินดี ข้ายินดี”
สาวน้อยตอบอย่างกระตือรือร้น แม้นางอายุน้อยกว่าเหมยกุ้ยเพียงสองปี แต่ชื่อเสียงของเหมยกุ้ยเป็นที่ประจักษ์แก่หญิงทุกนางในหอนางโลมแห่งนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อเหมยกุ้ยยื่นข้อเสนอดี ๆ ให้ มีหรือที่นางจะปฏิเสธ
เมื่อสาวน้อยรับคำอย่างเต็มใจ เหมยกุ้ยจึงก้มลงกระซิบแนบหูนางให้ได้ยินเพียงสองคน ไป๋หลานตั้งใจฟังสิ่งที่เหมยกุ้ยกระซิบบอกแววตาเต้นระริก เมื่อกระซิบบอกแล้วเหมยกุ้ยจึงเอ่ยว่า
“หากเจ้าเรียนรู้ได้ดี เจ้าจะได้รางวัลจากข้าด้วย รางวัลนี้ ไม่มากไม่น้อยหนึ่งพันตำลึง”
“พันตำลึง! นั่นมันค่าตัวข้าทั้งเดือนเลยนะ”
“ฮ่า ฮ่า เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าลองคิดสิ หากเจ้ามีชื่อเสียงขึ้นมาเมื่อใด เพียงแค่เจ้ากระแอมไอ เงินหนึ่งพันตำลึงก็จะร่วงลงสู่มือเจ้าอย่างง่ายดาย”
ไป๋หลานมองเหมยกุ้ยอย่างเลื่อมใส นางเชื่อทุกถ้อยคำที่ยอดหญิงคณิกาพูด
“อะ อะ อ่าซ์ อร้ายยยยยยยยยยยย”สิ้นเสียงครวญคราง เรือนร่างโชกเหงื่อของทั้งคู่ก็สั่นสะท้านราวกับถูกไฟฟ้าซ็อต ทั้งสองนิ่งค้างซึมซาบความซาบซ่านให้เต็มทรวง ก่อนจะจบบทสวาททะลวงหอยของแม่ทัพด้วยการจูบบดลึกวาบหวามฝากความหวานให้ตราตรึงใจและแล้ววันแต่งตั้งองค์จักรพรรดินีอย่างเป็นทางการพื้นที่ท้องพระโรงลามไปจนถึงประตูวังด้านหน้าเต็มไปด้วยบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ เข้าร่วมถวายพระพรและเป็นสักขีพยานในการรับตำแหน่งอันสูงส่งเมื่อเสียงแตรเสียงประทัดดังสนั่นขึ้นเป็นสัญญาณการเริ่มพิธี เสียงแซ่เซ็งพูดคุยของเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างสงบลง พร้อมกับยืนในแถวรอรับการเสด็จขึ้นบัลลังก์ไม่ช้าร่างงดงามในชุดจักรพรรดิเต็มยศก็ปรากฏบนพรมสีแดงที่ทอดยาวสู่ราชบัลลังก์ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวสีแดงปักมังกรที่ฐานด้านล่าง ชายกระโปรงยาวระพื้น ยามก้าวเดินสะบัดไหวดูราวกับมังกรโลดแล่นในสายน้ำแยงชี ผ้าคล้องไหล่สีทองอร่ามคลุมเป็นสายยาวที่แขนทั้ง 2 ข้าง เสื้อชั้นนอกแขนกว้างปักลายกุหลาบดิ้นทอง แขนเสื้อที่ยาวลงมาถึงสะโพกพลิ้วไหวตามจังหวะย่างก้าว เนื้อแพรพรรณล้วนทักทอจากช่างฝีมือดีที่สุดในแผ่นดิน !!“แม่ทัพใหญ่จางหย่งขอเข้าเฝ้า!!!”
ตับ ตับ ตับ ตับๆๆๆๆๆๆ“อะ อ่า อ๊า อร้ายยยยยยยย”ซ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบพรวดดดดดดดดดดดดดดดด“อร้ากกกกกกกกกก”มังกรยักษ์พ่นพิษอุ่นซ่านเข้าเต็มโพรงหอยพร้อมกับเสียงครางระงมจนถึงสวรรค์ของทั้งคู่ ร่างอรชรกระตุกงึกๆ เกร็งเสียวสุดขีด สะโพกแกร่งของแม่ทัพหนุ่มผู้หิวกระหายตอกตรึงรูหอยบดแน่น ปล่อยให้จิตวิญญาณของตนล่องลอยไปแสนไกล ในไม่ช้าเรือนร่างกำยำก็ค่อยๆ เอนซบลงอกอวบๆ ทั้งคู่หอบหายใจกระเส่า“อ่า ข้าไม่เคยกินสุราอร่อยขนาดนี้มาก่อน”แม่ทัพรำพันกระซิบแนบเนื้อนวล บนโต๊ะกลมใหญ่กลางกระโจม เขาไม่คิดว่าการเดินทางกลับวังหลวงครั้งนี้จะได้พบเทพธิดาที่นำพาเข้าสู่สรวงสวรรค์อย่างไม่คาดฝัน“ข้าก็ไม่เคยถูกมังกรยักษ์จ้วงกระหน่ำได้ถึงใจขนาดนี้เช่นกัน โอ้แม่ทัพสมแล้วที่ท่านเป็นยอดชาตรี”เหมยกุ้ยพลิกตัวขึ้น ดุ้นมังกรยักษ์จึงหลุดออกจากร่องหอย“อ่า”ร่างอรชรค่อยๆ เลื้อยกายลงมาที่หว่างกำยำ จนสบเข้ากับลำตัวของมันเยิ้มไปด้วยน้ำทิพย์สีขาวขุ่น“มังกรท่านใหญ่น่ากินเหลือเกิน”เหมยกุ้ยถึงกับอุทานกระเส่าเมื่อเจอหัวดุ้นสีน้ำตาลไหม้อาบช่ำด้วยน้ำทิพย์ เส้นเลือดปูดโปนยังเต้นตุบๆ ลิ้นเรียวเล็กแลบเลียริมฝีปากตนอย่างห
ยิ่งลิ้นสากสอดแทง... น้ำหวานยิ่งทะลักจนฉ่ำปาก เขาดูดดื่มตักตวงความหวานฉ่ำที่ทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสายแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อือ... อะ อ่า จะแตกแล้ว อ่อยยยยยย”ปากใหญ่ร้อนฉ่ายังคงขบเม้มกลีบเนื้อหอยเต็มปากเต็มคำ ลิ้นร้อนฉ่าแทงเข้าแทงออกรัวๆ เร่งจังหวะตามเสียงกระเส่าของนาง ยิ่งดูด ยิ่งเลียน้ำหอยฉ่ำ ๆ ยิ่งไหลทะลัก ร่างอรชรบิดส่ายบ่งบอกว่าเจ้าของร่างกำลังเสียวซ่านมากแค่ไหนจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ แฮ่กๆ แฮ่กๆ“โอ้วววววววว ท่านแม่ทัพ ไม่ไหวววว แล้ววววว อร้ายยยย”เหมยกุ้ยแอ่นสะโพกหยัด มือเรียวขยุ้มผมดกดำของเขาให้แนบชิดร่องสาว ร่างอรชรกระตุกเกร็งงึก ๆ ริมฝีปากสีแดงสดเผยอค้างครางออกมาผะแผ่วด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั้งกายสาว“อร้ายยยยยยยยยยย”พรวดดดดดดดดดดดด น้ำหอยแตกพรวดทะลักง่ามขา รูหอยขมิบตอดอากาศอย่างหิวโหย ซ่านกระสันอยากให้มังกรจ้วงแทงแทบขาดใจ เหมยกุ้ยครางกระเส่าขมิบตอดความว่างเปล่าไม่ยอมหยุด นางลอยขึ้นสวรรค์ชั้นหนึ่งไปแล้ว“อะ อ่า อือ อ่อยยยยยย”“อู้ววว.. อ่า... เหมยกุ้ย... เงี่ยนมากแล้วสินะ นำทะลักเลยนะ โอ้ววววว”แม่ทัพหยัดกายขึ้นแลบล
“เชิญชิมสุราชั้นเลิศจากข้า... เหมยกุ้ย มอบเป็นของขวัญแด่ท่านแม่ทัพ”มือใหญ่ยึดข้อมือเล็กกางออก แล้วร่างใหญ่ก็ถาโถมเข้าใส่ร่างเล็กที่นอนแผ่หลาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว“เหมยกุ้ยยยยยยย ฮ่า ๆ เหมยกุ้ย”จ๊วบ!ซู้ดดดด จ๊วบ“อะ อ่า หือ อ่า”ลิ้นสากร้อนระอุแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่น มันตวัดลิ้นเล็กให้ตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนเลือดในกายนางร้อนระอุ เผยอเรียวปากขึ้น ตอบรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามา และหยัดร่างเข้าเบียดกายแข็งแกร่งทันทีซู้ดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“อืม อ่า จ๊วบ”ร่างอรชรใต้ร่างใหญ่กำยำบิดส่าย อย่างซ่านกระสันเมื่อแม่ทัพหนุ่มบรรจงจูบด้วยลิ้นร้ายอย่างหื่นกระหาย ลิ้นร้อนควาญรีดน้ำหวานในโพรงนางจนหมดสิ้น แล้วลามเลียมาถึงติงหูเกิดความสยิวแผ่ซ่านจนขนอ่อนของนางลุกซู่ทั้งกายจนครางกระเส่าออกมา“อร้ายยยย อ่า หือ”แผล็บ! จ๊วบ!ปากร้อนระอุของแม่ทัพใหญ่ลามเลียเลื้อยลากมาถึงซอกคอขาวผ่อง ลิ้นร้อนตวัดเลียกลืนกินสุราในเนื้อนวลมาเรื่อยๆ มือใหญ่ร้อนฉ่าดึงทึ้งอาภรณ์นางออกจนเกิดรอยแยกของเสื้อคลุม หน้าอกอวบอิ่มเผยชูชันอวดเต้าสล้างกลมกลึงเฉิดฉายอยู่ตรงหน้าแม่ทัพหนุ่มจับจ้องอกอวบๆ ของนางอย่างหลงใหล
แม่ทัพใหญ่ยืนนิ่งราวกับถูกสาป เขาคาดว่าจะได้กลิ่นคาวเลือดและการสู้รบซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ คือ สาวงาม งามที่สุดที่เขาเคยพบยิ่งยามที่ร่างอรชรเยื้องย้ายขยับกายเข้าใกล้ กลิ่นหอมฟุ้งลอยอบอวลไปทั่วทั้งกระโจม ใจของแม่ทัพใหญ่เต้นตึกตักระส่ำ เต้นแรงยิ่งกว่าการเห็นกองทัพศัตรูนับแสนอยู่ตรงหน้าสติของแม่ทัพใหญ่หลุดลอยลืมสิ้นว่าตนมาที่กระโจมน้อยนี้เพื่อสิ่งใด หัวใจของเขามันวาบหวามเคลิบเคลิ้ม แม้มือเรียวของนางเอื้อมเข้าสัมผัสมือใหญ่ เขาก็ยอมให้นางนำพาแต่โดยดี“ท่านแม่ทัพเชิญทางนี้เถิด”เหมยกุ้ยจูงร่างสูงใหญ่ให้นั่งลงที่โต๊ะกลมกลางกระโจม ที่มีสำหรับอาหารและเหล้าชั้นดีไว้เพียบพร้อม หากแม่ทัพใหญ่มีสติมากพอเขาจะประเมินสถานการณ์ตรงหน้าว่าคือ กลลวง แต่เหตุไฉนร่างกายของเขากลับวูบไหวยอมนั่งลงตามคำสั่งนางแต่โดยดี“ขออภัยท่านแม่ทัพที่ข้าน้อยบังอาจมารบกวนท่าน”เหมยกุ้ยชวนคุยระหว่างรินสุราเลิศรสลงในจอก“อะ เอ่อ ไม่เป็นไร เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นแม่ทัพ?”แม่ทัพใหญ่จางหย่งตอบอย่างเงอะงะ หลายเดือนที่ผ่านมาเขากรำศึกทั้งวันทั้งคืนเจอแต่บรรดาทหารหนุ่มๆ นี่เป็นคืนแรกที่เขา
“หากผู้ใดแพร่งพรายเรื่องในพระตำหนักนี้ออกไป มันผู้นั้นจะมีสภาพเป็นเหมือนนายทหารผู้นี้!”ปากสีแดงสดเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น“หากผู้ใดสวามิภักดิ์ต่อข้า มันผู้นั้นจะยังคงนอนหลับกินอิ่มอยู่ในตำหนักแห่งนี้เหมือนเช่นเคย!”องค์จักพรรดินี จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!บรรดาข้าทาสบริวารต่างคุกเข่าหมอบลงถวายความจงรักภักดี ไม่มีใครไม่รักชีวิต!เมื่อผู้เป็นนายเก่าสิ้นวาสนา นกน้อยที่ไร้ผู้ปกครองย่อมบินหาคอนเกาะที่มั่นคงกว่ามันคือสัจธรรมของชีวิต“ฮ่าๆ ทุกคนจงฟัง!”เสียงประกาศก้อง ร่างอรชรในชุดสีทองกรุยกรายยืดกายขึ้นองครักษ์ทั้งสองยืนเคียงข้าง“ขอให้พวกเจ้าทุกคนจงปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเหมือนเช่นเคยปฏิบัติมา อีกไม่เกิน 1 ชั่วยาม พระชายาก็จะฟื้น แต่จะกลายเป็นคนไร้สติ ให้พวกเจ้าทุกคนบอกกล่าวต่อๆ กันออกไปว่า -พระชายาโศกเศร้าเพราะสูญเสียพระสวามีจนเสียสติ-”น้อมรับพระบัญชา!“ระหว่างที่เจ้าเฝ้าพระตำหนักพระชายามีผู้ใดเล็ดลอดคาบข่าวไปบอกแม่ทัพใหญ่หรือไม่?”เหมยกุ้ยเอ่ยถามหลี่เจี๋ยขณะเสด็จกลับตำหนักของตน“ไม่มีแม้แต่เงาเส้นหนึ่ง”องครักษ์หนุ่มตอบ“ดีมาก ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ดูแลพระตำหนักของพระชายาเพราะข้ายังไม่ไว