เหตุการณ์การลักพาตัวโดยฟรานเชสโกทิ้งร่องรอยความหวาดกลัวไว้ในใจของแพรไหมอย่างลึกซึ้ง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความรักที่ คริสเตียน มีต่อเธอ
คืนนั้นคริสเตียนนอนกอดแพรไหมแน่น เขากระซิบคำว่ารัก และนั่นทำให้หัวใจของแพรไหมเต้นรัวด้วยความสุขและความอบอุ่น เธอรู้สึกว่าแม้จะยังคงมีความเจ็บปวดจากเรื่อง ลิเลีย แต่ความรู้สึกที่คริสเตียนมอบให้เธอนั้นก็เป็นของจริง
ทว่า อันตรายยังไม่หมดสิ้น ฟรานเชสโกยังคงลอยนวล และเขาจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่แท้จริง นั่นคือการทำลายคริสเตียนให้ย่อยยับ และแพรไหมก็ยังคงเป็นหมากสำคัญในเกมอันตรายนี้
หลายวันต่อมา การตามล่าฟรานเชสโกยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น คริสเตียน ระดมกำลังคนทั้งหมดที่เขามี โดยมี ลีโอ และ นิค ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ คริสเตียนไม่ยอมให้แพรไหมคลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว เขาแทบจะอยู่กับเธอตลอดเวลา ยิ่งทำให้แพรไหมรู้สึกถึงความห่วงใยที่เขามีต่อเธอ
วันหนึ่ง คริสเตียนได้รับเบาะแสสำคัญจากสายลับของเขา ว่าฟรานเชสโกกำลังซ่อนตัวอยู่ในคลังเก็บสินค้าเก่าแก่แห่งหนึ่งชานเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เข้าถึงยากและเต็มไปด้วยกับดัก
“แน่ใจนะว่าใช่ที่นั่น” คริสเตียนถามเสียงต่ำ ดวงตาคมกริบของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“แน่ใจครับนาย” สายลับตอบ “ลูกน้องของเขาเพิ่งเห็นฟรานเชสโกเข้าไปที่นั่นครับ”
คริสเตียนกำมือแน่น “เตรียมคน! เราจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”
ลีโอ รีบเตรียมรถและอาวุธต่างๆ ให้พร้อม ส่วน นิค ก็แสดงความจำนงที่จะร่วมไปด้วยอีกครั้ง
“ผมไปด้วยครับพี่คริสเตียน” นิคพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมจะไม่ยอมให้พี่สะใภ้ต้องเจอเรื่องร้ายอีกแล้ว”
คริสเตียนมองนิคด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “ดี! เตรียมตัวให้พร้อม”
แพรไหมซึ่งได้ยินบทสนทนาทั้งหมด รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก เธอเป็นห่วงคริสเตียนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“คุณคริสเตียนคะ…คุณระวังตัวด้วยนะคะ” แพรไหมพูดเสียงแผ่ว
คริสเตียนเดินเข้ามาหาแพรไหม เขาดึงเธอเข้ามากอดแน่น “ผมจะกลับมาหาคุณ แพรไหม ผมสัญญา”
การเดินทางไปยังคลังเก็บสินค้าเก่าแก่เป็นไปอย่างรวดเร็ว รถยนต์ของคริสเตียนแล่นฉิวไปตามท้องถนนยามค่ำคืน เมื่อมาถึงสถานที่เป้าหมาย คริสเตียนมองไปยังโกดังร้างขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยความมืดมิดและเงียบสงัด มันดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยอันตราย
“ล้อมโกดังไว้ทั้งหมด!” คริสเตียนสั่งลูกน้องเสียงดัง “อย่าให้ใครหนีรอดไปได้!”
ลีโอสั่งลูกน้องให้กระจายกำลังโอบล้อมโกดังไว้ ส่วนคริสเตียน นิค และลีโอ ก็เตรียมพร้อมที่จะบุกเข้าไป
“ระวังตัวด้วยนะครับนาย” ลีโอเตือน
คริสเตียนพยักหน้า เขาดึงปืนพกคู่ใจออกมาจากซอง ปืนในมือของเขาเป็นอาวุธที่อันตราย แต่เขาก็ใช้มันอย่างเชี่ยวชาญ
“เราจะเข้าไปเอง!” คริสเตียนพูดเสียงต่ำ “ลีโอ! นายจัดการด้านนอก ส่วนนิค นายตามฉันมา!”
ประตูโกดังถูกพังเข้ามาอย่างแรง คริสเตียนบุกทะลวงเข้าไปข้างในพร้อมกับนิค ลูกน้องของฟรานเชสโกปรากฏตัวขึ้นและเปิดฉากยิงทันที เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดและรุนแรง
คริสเตียนเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เขายิงตอบโต้ไม่ยั้ง กระสุนพุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างแม่นยำ เขาสังหารศัตรูไปทีละคนด้วยความโกรธแค้นและความมุ่งมั่นที่จะตามหาฟรานเชสโกให้เจอ
นิคเองก็ต่อสู้ได้อย่างกล้าหาญ เขาพยายามปกป้องคริสเตียนและยิงตอบโต้ศัตรูอย่างไม่ลังเล เขาใช้ปืนที่พกติดตัวมาอย่างคล่องแคล่ว แพรไหมที่รอคอยอยู่ที่คฤหาสน์คงจะภูมิใจในตัวน้องชายของคริสเตียนไม่น้อย
“ระวัง!” นิคตะโกนเตือน เมื่อเห็นศัตรูอีกคนกำลังเล็งปืนมาที่คริสเตียน
คริสเตียนหันกลับไปยิงใส่ศัตรูทันที กระสุนพุ่งเข้าใส่หน้าอกของชายคนนั้นอย่างจัง ทำให้เขาล้มลงไปกองกับพื้น
“ขอบใจ” คริสเตียนพูดเสียงสั้นๆ
พวกเขาบุกทะลวงเข้าไปข้างในเรื่อยๆ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้องลับห้องหนึ่ง เสียงปืนจากข้างในดังขึ้นหลายนัด
“อยู่ข้างในนี่แหละ!” คริสเตียนคำราม เขาสั่งให้นิคเตรียมพร้อม ก่อนจะพังประตูเข้าไปอย่างแรง
สิ่งที่คริสเตียนเห็นในห้องนั้นทำให้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ฟรานเชสโกกำลังยืนอยู่ตรงหน้า แพรไหม โดยมีปืนจ่ออยู่ที่ศีรษะของเธอ แพรไหมมีสีหน้าหวาดกลัวสุดขีด
“คริสเตียน!” ฟรานเชสโกหัวเราะอย่างสะใจ “ในที่สุดนายก็มาถึง…แต่ดูเหมือนจะสายไปหน่อยนะ”
คริสเตียนกำปืนแน่น ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยความโกรธแค้น “แกปล่อยเธอไปเดี๋ยวนี้!”
“ทำไมผมต้องปล่อยล่ะ” ฟรานเชสโกยิ้มเยาะ “นี่คือของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ผมจะมอบให้นาย…การได้เห็นคนที่นายรักตายไปต่อหน้าต่อตา”
ฟรานเชสโกจ่อปืนที่ศีรษะของแพรไหมแน่นขึ้น แพรไหมหลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัว เธอคิดว่านี่คือจุดจบของเธอแล้ว
“แกกล้าดียังไง!” คริสเตียนคำราม เขาพุ่งเข้าไปหาฟรานเชสโกอย่างรวดเร็วราวกับพายุร้าย ฟรานเชสโกพยายามจะยิงแพรไหม แต่คริสเตียนก็เร็วกว่า
ในเสี้ยววินาทีที่กระสุนกำลังจะลั่นออกจากลำกล้อง คริสเตียนก็พุ่งตัวเข้าไปบังแพรไหมไว้ เขาใช้ร่างกายของตัวเองรับกระสุนแทนเธอ เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แพรไหมลืมตาขึ้นมองคริสเตียนด้วยความตกใจ เธอเห็นเลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาจากเสื้อเชิ้ตของเขา
“คริสเตียน!” แพรไหมกรีดร้องเสียงดัง
ฟรานเชสโกตกใจเล็กน้อยที่คริสเตียนรับกระสุนแทนแพรไหม เขากำลังจะยิงซ้ำแต่ นิค ก็พุ่งเข้ามาประชิดตัวเขาอย่างรวดเร็ว นิคต่อสู้กับฟรานเชสโกอย่างดุเดือด เขาใช้ทักษะการต่อสู้ที่เขาฝึกฝนมาทั้งหมด เพื่อปกป้องคริสเตียนและแพรไหม
ในขณะเดียวกัน ลีโอ ซึ่งตามเข้ามาในห้องทันเวลาก็รีบเข้ามาช่วยคริสเตียน เขาเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากตัวคริสเตียน ก็รู้สึกตกใจและเป็นห่วงอย่างมาก
“นายครับ!” ลีโอรีบเข้ามาพยุงคริสเตียนไว้
คริสเตียนกัดฟันแน่น เขารู้สึกเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงจ้องมองฟรานเชสโกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
นิคต่อสู้กับฟรานเชสโกอย่างดุเดือด จนในที่สุด ฟรานเชสโกก็พลาดท่า นิคใช้ปืนที่ยึดมาได้จากลูกน้องของฟรานเชสโกจ่อไปที่ศีรษะของฟรานเชสโก
“แกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำ!” นิคคำรามเสียงต่ำ
ฟรานเชสโกยิ้มเยาะ “แกกล้าดียังไงกับฉัน นิค…จำไม่ได้เหรอว่าใครเป็นคนช่วยแกตอนเด็กๆ”
คำพูดของฟรานเชสโกทำให้คริสเตียนรู้สึกผิดปกติ เขามองไปที่นิคด้วยความสงสัย
นิคกำปืนแน่น ใบหน้าของเขาซีดเผือด เขาลังเลที่จะลั่นไก
“ทำไมล่ะนิค!” คริสเตียนถามเสียงต่ำ “จัดการมันเดี๋ยวนี้!”
นิคเงียบไป เขาไม่สามารถทำตามคำสั่งของคริสเตียนได้ ฟรานเชสโกหัวเราะอย่างสะใจ
“หึๆ…นายคงไม่รู้สินะ คริสเตียน ว่าน้องชายของนายเป็นหนี้ชีวิตฉัน” ฟรานเชสโกพูดเย้ยหยัน
คริสเตียนมองไปที่นิคด้วยความไม่เข้าใจ เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
“ฉันเป็นคนช่วยแกตอนที่แกถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่…และฉันก็เป็นคนส่งแกกลับไปให้คาร์ดินัลอย่างปลอดภัย” ฟรานเชสโกพูดต่อ “แกเป็นหนี้บุญคุณฉันนิค”
คำพูดของฟรานเชสโกทำให้คริสเตียนรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เขาเข้าใจมาตลอดว่าพ่อของเขาเป็นคนช่วยนิคออกมา แต่ความจริงกลับเป็นฟรานเชสโก
“โกหก!” คริสเตียนตะโกน
“ผมไม่ได้โกหกครับพี่คริสเตียน” นิคพูดเสียงสั่น “ฟรานเชสโก…เขาช่วยผมจริงๆ ครับ”
แพรไหมมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ เธอไม่เคยคิดว่าความจริงจะเป็นแบบนี้
“ผมจะจัดการมันเอง!” คริสเตียนคำราม เขาพยายามจะลุกขึ้น แต่บาดแผลที่ได้รับทำให้เขาทรุดลง ลีโอรีบเข้ามาช่วยพยุงคริสเตียนไว้
ในขณะเดียวกัน ฟรานเชสโกก็ฉวยโอกาสที่นิคลังเล พุ่งตัวเข้ามาแย่งปืนจากมือของนิค นิคพยายามขัดขืน แต่ฟรานเชสโกก็เร็วกว่า เขาหักแขนของนิคอย่างรุนแรง ทำให้ปืนหลุดมือไป
“แกกล้าดียังไง!” ฟรานเชสโกคำราม เขายกปืนขึ้นมาจ่อที่ศีรษะของนิค
คริสเตียนมองนิคด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าฟรานเชสโกจะทำเช่นนี้
“แกจะฆ่าน้องชายของแกงั้นเหรอ คริสเตียน” ฟรานเชสโกยิ้มเยาะ “ทำสิ…ทำในสิ่งที่นายอยากทำมาตลอด”
คริสเตียนกำมือแน่น เขาไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้
“ไม่!” แพรไหมตะโกนเสียงดัง เธอพุ่งตัวเข้าไปบังนิคไว้ ทำให้ฟรานเชสโกตกใจ
“คุณแพรไหม!” นิคตะโกน
ฟรานเชสโกมองแพรไหมด้วยความโกรธแค้น เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำเช่นนี้
“แกคิดว่าแกจะช่วยมันได้งั้นเหรอ” ฟรานเชสโกคำราม “แกก็แค่ผู้หญิงไร้ประโยชน์คนหนึ่ง!”
คริสเตียนมองแพรไหมด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องนิค
“อย่านะฟรานเชสโก!” คริสเตียนตะโกน
ฟรานเชสโกยิ้มเยาะ เขาเตรียมจะลั่นไก แต่ทันใดนั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นหนึ่งนัด ฟรานเชสโกทรุดลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว เลือดไหลออกมาจากกลางหน้าผากของเขา
ทุกคนหันไปมอง และเห็นลีโอยืนอยู่ตรงนั้น ปืนในมือของเขายังคงมีควันกรุ่นๆ ลีโอเป็นคนยิงฟรานเชสโก เพื่อปกป้องคริสเตียน แพรไหม และนิค
คริสเตียนถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาไม่คิดว่าลีโอจะกล้าทำเช่นนี้ แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณลีโออย่างมาก
“คุณลีโอ!” แพรไหมพูดด้วยความตกใจ
ลีโอเก็บปืนลง “มันสมควรตายครับนาย”
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย คริสเตียน ลีโอและนิค ก็พาแพรไหมกลับคฤหาสน์ทันทีตลอดทาง คริสเตียนไม่ยอมปล่อยแพรไหมห่างกายแม้แต่วินาทีเดียว
เขาโอบกอดเธอไว้แน่น แสดงความห่วงใยอย่างเต็มที่ แพรไหมรู้สึกซาบซึ้งในความรักของคริสเตียนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอตระหนักว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ
เมื่อมาถึงคฤหาสน์ คริสเตียนก็สั่งให้แพทย์ประจำตระกูลมาตรวจดูอาการของแพรไหมและตัวเขาเองทันที
“บาดแผลไม่ลึกมากครับนาย” แพทย์รายงาน
“แต่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ”
คริสเตียนพยักหน้า ก่อนจะหันมามองแพรไหม “คุณเป็นอะไรไหม”
แพรไหมส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”
นิคเองก็ถูกตรวจดูอาการ เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการต่อสู้กับฟรานเชสโก
หลังจากแพทย์กลับไปแล้ว คริสเตียนก็พาแพรไหมกลับเข้าห้องนอน เขาไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่กอดเธอไว้แน่น แพรไหมรู้สึกถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ผมขอโทษ” คริสเตียนกระซิบเสียงแผ่ว
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
แพรไหมเงยหน้าขึ้นมองเขา “คุณไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะคริสเตียน คุณช่วยฉันไว้”
คริสเตียนมองแพรไหม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความเป็นห่วง ความรัก และความต้องการที่จะปกป้อง
“ผมรักคุณ แพรไหม” คริสเตียนกระซิบเสียงทุ้มต่ำ
“ผมรักคุณมากจริงๆ”
แพรไหมยิ้มทั้งน้ำตา เธอรู้สึกถึงความสุขที่ล้นทะลักเข้ามาในหัวใจ เธอรู้ว่าความรักที่เขามีให้เธอเป็นของจริง และมันก็คุ้มค่ากับความเจ็บปวดที่เธอต้องเจอ
“ฉันก็รักคุณค่ะคริสเตียน” แพรไหมตอบกลับเสียงแผ่ว
คริสเตียนโน้มตัวลงมาจูบแพรไหมอย่างอ่อนโยน จูบของเขาเต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนา และการปลอบโยน แพรไหมตอบสนองจูบของเขาอย่างเต็มที่ เธอปล่อยให้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขานำพาไป
คริสเตียนค่อยๆ พาแพรไหมลงนอนบนเตียง เขาจูบเธออย่างอ่อนโยน พรมจูบไปทั่วใบหน้า ซอกคอ และไล่ลงมาตามเรือนร่าง แพรไหมรับรู้ได้ถึงความปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นในร่างกายของเขา
คริสเตียนค่อยๆ สอดมือเข้าไปใต้เสื้อผ้าของแพรไหม เขาปลดกระดุมเสื้อและถอดมันออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นผิวเนียนละเอียด แพรไหมเองก็ช่วยเขาถอดเสื้อผ้าออก เผยให้เห็นเรือนร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นจากการต่อสู้
เมื่อทั้งคู่เปลือยเปล่า คริสเตียนก็ดึงแพรไหมเข้ามากอดแน่น เขาจูบเธออย่างดูดดื่ม ก่อนจะพลิกร่างของเธอให้ขึ้นมาอยู่ด้านบน
“คุณ…อยู่ข้างบน” คริสเตียนกระซิบเสียงแหบพร่า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา
แพรไหมหน้าแดงก่ำ แต่เธอก็เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการ เธอค่อยๆ ทรงตัวขึ้นนั่งคร่อมอยู่บนสะโพกของคริสเตียน แท่งรักที่แข็งขืนและร้อนผ่าวของเขาเสียดสีกับกลีบกุหลาบของเธออย่างยั่วเย้า แพรไหมสัมผัสได้ถึงความพร้อมของเขา
เธอค่อยๆ ขยับตัวลงช้าๆ นำพาแท่งรักของคริสเตียนเข้ามาในช่องทางรักของเธออย่างช้าๆ แพรไหมรู้สึกถึงความคับแน่นและความร้อนผ่าวที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง
เสียงร้องครางต่ำๆ ของคริสเตียนดังขึ้น
“อ่าห์…ดีมาก แพรไหม”
แพรไหมเริ่มขยับสะโพกช้าๆ เธอขึ้นขย่มแท่งรักของคริสเตียนอย่างเป็นจังหวะ เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้น
‘ตับ! ตับ! ตับ!’ แพรไหมรู้สึกถึงความสุขสมที่ถาโถมเข้ามา เธอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงคราง
คริสเตียนใช้มือใหญ่โอบรัดเอวของแพรไหมไว้แน่น เขาช่วยประคองจังหวะการขย่มของเธอ แพรไหมค่อยๆ เพิ่มความเร็วและแรงในการขย่ม เธอปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไปอย่างเต็มที่
แพรไหมเริ่มส่งเสียงครางออกมา
“อื้อ…อื้อ…อ๊าาา…” อย่างควบคุมไม่ได้ ทุกครั้งที่เธอขย่มลงไป แพรไหมก็รู้สึกถึงความสุขสมที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง คริสเตียนก็ร้องครางตอบกลับมาเป็นจังหวะ
“อ่าห์…ซี๊ดดด…แพรไหม…”
พวกเขาขย่มแท่งรักเข้าหากันอย่างบ้าคลั่ง ความปรารถนาของทั้งคู่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ แพรไหมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงแห่งความสุขสม เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังถี่ขึ้น
จนกระทั่งความรู้สึกสุขสมถึงขีดสุด แพรไหมก็ตัวเกร็งไปทั้งร่าง เธอขย่มแท่งรักลงไปลึกที่สุด ก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำหวานออกมา คริสเตียนเองก็ถึงจุดสุดยอด เขากระตุกอย่างรุนแรง ก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำรักอุ่นร้อนเข้าไปในร่างกายของแพรไหม
แพรไหมล้มตัวลงนอนทับคริสเตียนอย่างเหนื่อยอ่อน คริสเตียนกอดเธอไว้แน่น เขาจูบลงบนศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน
“ผมรักคุณ แพรไหม” คริสเตียนกระซิบเสียงแผ่ว
หลังจากพักได้ไม่นาน คริสเตียนก็พลิกร่างของแพรไหมให้นอนหงาย เขายังคงไม่ยอมปล่อยเธอไปไหนเลย แพรไหมมองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา
คริสเตียนค่อยๆ อุ้มแพรไหมขึ้นมาในอ้อมแขน แพรไหมโอบแขนรอบคอของเขาอย่างอ่อนโยน คริสเตียนอุ้มเธอในท่าลิงอุ้มแตง ทำให้ร่างของเธอลอยอยู่กลางอากาศ แท่งรักของเขายังคงแข็งขืนและพร้อมที่จะเสียดสีกับช่องทางรักของเธอ
คริสเตียนเริ่มขยับสะโพกช้าๆ แท่งรักของเขาเสียดสีกับช่องทางรักของแพรไหมอย่างแผ่วเบา แพรไหมรู้สึกถึงความวาบหวามที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง เธอส่งเสียงครางออกมาเบาๆ
“อื้อ…”
คริสเตียนค่อยๆ เพิ่มจังหวะการขยับสะโพกให้เร็วและรุนแรงขึ้น แท่งรักของเขาเสียดสีกับผนังช่องทางรักของเธออย่างเร้าใจ แพรไหมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ และถูกแท่งรักของคริสเตียนควบคุมทุกการเคลื่อนไหว
เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
‘ตับ! ตับ! ตับ!’ ตามแรงกระแทกของคริสเตียน แพรไหมรู้สึกถึงความสุขสมที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มร้องครางออกมาอย่างชัดเจน
“อ๊าาา…อ๊าาา…ซี๊ดดด…”
คริสเตียนกระซิบข้างหูเธอ
“คุณชอบไหม แพรไหมคุณชอบที่ผมทำแบบนี้กับคุณใช่ไหม”
แพรไหมไม่สามารถตอบอะไรได้ เธอทำได้เพียงร้องคราง
“อ๊า…อ๊า…ชอบค่ะ…ชอบ…” ออกมาด้วยความสุขสม
คริสเตียนเร่งจังหวะการกระแทกให้เร็วและรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เขากระแทกแท่งรักของเขาเข้าไปลึกที่สุด แรงกระแทกของเขารุนแรงและเร้าใจ ทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดใจ
เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังถี่ขึ้น จนกระทั่งความรู้สึกสุขสมถึงขีดสุด ทั้งคู่ก็กระตุกอย่างรุนแรง คริสเตียนปลดปล่อยธารน้ำรักอุ่นร้อนเข้าไปในร่างกายของแพรไหม แพรไหมเองก็ปลดปล่อยธารน้ำหวานออกมาพร้อมๆ กัน
คริสเตียนวางแพรไหมลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ แพรไหมยังคงนอนหอบ หายใจแรงด้วยความเหนื่อยอ่อนและสุขสม
คริสเตียนดึงร่างของแพรไหมเข้ามากอดแน่น เขาจูบลงบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน
“ผมรักคุณ แพรไหม” คริสเตียนกระซิบเสียงแผ่ว
“ขอบคุณที่อยู่ข้างผม”
แพรไหมเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและความซาบซึ้ง เธอรู้ว่าเธอได้ค้นพบความรักที่แท้จริงแล้ว แม้ว่ามันจะเริ่มต้นขึ้นในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และเต็มไปด้วยอันตราย แต่เธอก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันไปพร้อมกับคริสเตียน
การต่อสู้กับฟรานเชสโกได้จบลงแล้ว แต่การเดินทางของความรักระหว่างคริสเตียนและแพรไหมเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และมันจะเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ความสุข และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ
ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม
ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา
ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด
ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู
ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่