หลังจากเหตุการณ์รุนแรงจาก ฟรานเชสโก ที่พุ่งเป้ามาที่ แพรไหม อย่างชัดเจน คฤหาสน์ตระกูลคาร์ดินัลก็เต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียด คริสเตียน สั่งเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แพรไหมเองก็พยายามใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังคงมีความหวาดกลัวที่ไม่จางหายไป
เช้าวันหนึ่ง แพรไหมกำลังเดินกลับจากเรือนกระจกหลังจากรดน้ำต้นไม้ เธอรู้สึกถึงอากาศสดชื่นยามเช้าที่ช่วยคลายความกังวลไปได้บ้าง แม้จะมีบอดี้การ์ดเดินตามห่างๆ แต่เธอก็ยังคงรู้สึกถึงอิสระเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอมีอยู่ ทันใดนั้น ความรู้สึกผิดปกติก็แวบเข้ามาในใจเธอ เธอได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ หลายคนดังมาจากด้านหลัง ไม่ใช่เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยของบอดี้การ์ด เธอหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เห็นทำให้เลือดในกายของแพรไหมเย็นเฉียบ ชายฉกรรจ์สองคนในชุดดำกำลังวิ่งตรงเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว บอดี้การ์ดของเธอล้มลงกับพื้นแล้ว แพรไหมรู้ทันทีว่านี่คือฝีมือของฟรานเชสโก เธอพยายามจะวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทัน ชายฉกรรจ์คนหนึ่งพุ่งเข้ามาคว้าแขนของเธอ อีกคนใช้ผ้าชุบยาสลบปิดจมูกและปากของเธออย่างรวดเร็ว
กลิ่นฉุนของยาสลบทำให้แพรไหมรู้สึกมึนงง เธอพยายามดิ้นรนสุดกำลัง แต่แรงของชายฉกรรจ์นั้นมากมายเกินกว่าที่เธอจะต้านทานได้ ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือใบหน้าของชายฉกรรจ์ที่ยิ้มเยาะอย่างชั่วร้าย ก่อนที่โลกของเธอจะมืดดับไป
เมื่อคริสเตียนรู้ข่าวว่าแพรไหมถูกลักพาตัวไป เขาก็บ้าคลั่งราวกับสัตว์ร้ายถูกจู่โจม ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาแดงก่ำไปด้วยความโกรธแค้นและความเจ็บปวดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“มันกล้าดียังไง!” คริสเตียนคำรามเสียงต่ำ เส้นเลือดที่ขมับปูดโปน “ลีโอ! เตรียมคนทั้งหมด! ตามหาแพรไหมให้เจอเดี๋ยวนี้!”
ลีโอ ซึ่งได้รับรายงานเหตุการณ์แล้ว ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดไม่แพ้กัน เขารู้ว่านี่คือจุดจบของฟรานเชสโกอย่างแน่นอน หากคริสเตียนเป็นคนลงมือเอง
“ครับนาย! ผมจะระดมคนทั้งหมดตามหาคุณแพรไหมทันทีครับ” ลีโอตอบรับคำสั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบออกไปจัดการ
คริสเตียนเดินไปทั่วห้องทำงานอย่างกระวนกระวาย เขาไม่สามารถอยู่นิ่งได้ ความรู้สึกที่แพรไหมกำลังตกอยู่ในอันตรายกัดกินหัวใจของเขา เขาเห็นภาพแพรไหมถูกทรมาน ถูกทำร้าย และนั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดใจตาย
“ฟรานเชสโก…แกจะต้องชดใช้!” คริสเตียนคำรามเสียงต่ำ
ในขณะเดียวกัน นิค ซึ่งเพิ่งทราบข่าวการลักพาตัวแพรไหม ก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องทำงานของคริสเตียนด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดและดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ
“พี่คริสเตียน! พี่สะใภ้ถูกลักพาตัวไปจริงเหรอครับ!” นิคถามเสียงสั่น
คริสเตียนเงยหน้าขึ้นมองนิค ดวงตาของเขาแดงก่ำ “แกจะมาทำอะไรที่นี่! ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!”
“ผมจะช่วยพี่สะใภ้ครับ!” นิคพูดเสียงดัง “ผมจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายพี่สะใภ้เด็ดขาด!”
คริสเตียนมองนิคด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เขาเห็นความมุ่งมั่นในแววตาของน้องชาย และในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีเวลามาทะเลาะกับนิค
“นายรู้ไหมว่าฟรานเชสโกอยู่ที่ไหน” คริสเตียนถามเสียงต่ำ
นิคพยักหน้า “ผมพอจะรู้เบาะแสครับ ผมเคยได้ยินมาว่าเขามีเซฟเฮาส์ลับอยู่ชานเมือง”
คริสเตียนพยักหน้า “ดี! นายเตรียมตัวไปกับฉัน! ลีโอ! เตรียมรถ!”
การตามล่าเริ่มต้นขึ้นทันที คริสเตียนขับรถนำขบวนด้วยความเร็วสูง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ถนนข้างหน้าอย่างไม่กระพริบ ลีโอขับรถอีกคันตามมาติดๆ โดยมีลูกน้องที่ติดอาวุธครบมืออยู่เต็มคันรถ นิคซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ คริสเตียน ก็คอยบอกเส้นทางและเบาะแสต่างๆ ที่เขารู้
“ฟรานเชสโกเป็นคนเจ้าเล่ห์ครับพี่คริสเตียน เขาไม่ไว้ใจใคร นอกจากคนสนิทเพียงไม่กี่คน” นิคอธิบาย “เซฟเฮาส์ของเขาจะมีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนามาก”
คริสเตียนกำพวงมาลัยแน่น “ผมไม่สนว่ามันจะแน่นหนาแค่ไหน ผมจะพังมันเข้าไปให้ได้!”
รถยนต์แล่นฉิวไปตามท้องถนนยามค่ำคืน เสียงเครื่องยนต์คำรามก้องไปทั่วบริเวณ คริสเตียนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เขามีเพียงเป้าหมายเดียวในตอนนี้ คือการตามหาแพรไหมให้เจอและพาเธอกลับมาอย่างปลอดภัย
ในขณะเดียวกัน แพรไหมก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนงงและปวดศีรษะ เธอพยายามลืมตาขึ้นช้าๆ สิ่งแรกที่เธอเห็นคือความมืดมิดรอบตัว เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกมัดมือและเท้าไว้กับเก้าอี้ ปากของเธอถูกปิดด้วยผ้าเทป
“ตื่นแล้วเหรอไง…ของเล่นชิ้นใหม่ของคาร์ดินัล”
เสียงหัวเราะเยือกเย็นดังขึ้นในความมืด แพรไหมพยายามมองหาเจ้าของเสียง และเมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายคนนั้น หัวใจของเธอก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“ฟรานเชสโก…” แพรไหมพึมพำเสียงแผ่ว แม้ปากจะถูกปิดไว้
ฟรานเชสโกเดินเข้ามาใกล้แพรไหม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “คุณคงสงสัยสินะว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”
แพรไหมพยายามดิ้นรน แต่เธอก็ไม่สามารถขยับตัวได้
“ผมต้องการให้คริสเตียนเจ็บปวด…และคุณคือเครื่องมือที่ดีที่สุด” ฟรานเชสโกพูดต่อ “เขาคงจะบ้าคลั่งมากตอนนี้ ที่เห็นของรักของหวงของเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของผม”
แพรไหมรู้สึกถึงความกลัวที่ถาโถมเข้ามา เธอรู้ว่าฟรานเชสโกจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ และเขาจะทำทุกอย่างเพื่อสร้างความเจ็บปวดให้คริสเตียน
“คริสเตียนรักคุณมากเลยใช่ไหมล่ะ” ฟรานเชสโกยื่นมือมาสัมผัสใบหน้าของแพรไหมอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาทำให้แพรไหมรู้สึกขยะแขยง “เขาคงไม่รู้หรอกว่าคุณจะต้องเจอกับอะไรบ้าง”
แพรไหมพยายามจะกรีดร้อง แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ ออกมา ฟรานเชสโกหัวเราะอย่างสะใจ
“ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ…ผมจะไม่ทำร้ายคุณให้ถึงตายในตอนนี้” ฟรานเชสโกพูด “ผมจะเก็บคุณไว้…เป็น ‘ของขวัญ’ ชิ้นสุดท้ายที่ผมจะมอบให้คริสเตียน”
คำพูดของฟรานเชสโกทำให้แพรไหมรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด เธอไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับเธอ แต่เธอก็รู้ว่ามันจะต้องเลวร้ายอย่างแน่นอน
คริสเตียน ลีโอ และนิค ตามรอยมาจนถึงชานเมือง บริเวณที่นิคบอกว่าเป็นเซฟเฮาส์ลับของฟรานเชสโก สถานที่แห่งนั้นเป็นโกดังร้างขนาดใหญ่ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวในย่านอุตสาหกรรมเก่าแก่ บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยความเงียบสงัดและน่าขนลุก
“ใช่ที่นี่แน่ครับพี่คริสเตียน” นิคกระซิบเสียงเบา “ฟรานเชสโกชอบใช้ที่นี่เป็นที่ซ่อนตัว”
คริสเตียนมองไปที่โกดังร้าง ดวงตาของเขาคมกริบ “เตรียมพร้อม! เราจะบุกเข้าไป!”
ลีโอสั่งลูกน้องให้กระจายกำลังโอบล้อมโกดังไว้ คริสเตียนเดินนำหน้า เขาถือปืนพกคู่ใจแน่นในมือ
“นายท่านระวังตัวด้วยนะครับ” ลีโอเตือนด้วยความเป็นห่วง
คริสเตียนไม่ตอบ เขามีเพียงเป้าหมายเดียวในตอนนี้ การบุกเข้าไปช่วยแพรไหม
พวกเขาบุกเข้าไปในโกดังอย่างรวดเร็ว เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ลูกน้องของฟรานเชสโกปรากฏตัวขึ้นและเปิดฉากยิงทันที การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ คริสเตียนยิงตอบโต้ไม่ยั้ง เขาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เขาสังหารศัตรูไปทีละคนด้วยความโกรธแค้น
ลีโอและนิคก็ช่วยคริสเตียนต่อสู้อย่างเต็มที่ ลีโอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ เขาสามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่วนนิคก็แสดงความกล้าหาญออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาพยายามปกป้องคริสเตียนและยิงตอบโต้ศัตรูอย่างไม่ลังเล
คริสเตียนบุกทะลวงเข้าไปข้างใน เขาไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เขามุ่งหน้าไปยังจุดที่เขาเชื่อว่าแพรไหมถูกจับตัวไว้
“แพรไหม! คุณอยู่ไหน!” คริสเตียนตะโกนเรียกชื่อแพรไหมสุดเสียง
ในที่สุด คริสเตียนก็มาถึงห้องลับห้องหนึ่ง เขาพังประตูเข้าไปอย่างแรง และสิ่งที่เขาเห็นทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง
แพรไหมถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ ใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ แต่สิ่งที่ทำให้คริสเตียนบ้าคลั่งที่สุดคือรอยฟกช้ำบนใบหน้าของเธอ และผ้าที่ปิดปากเธออยู่
“ฟรานเชสโก!” คริสเตียนคำรามเสียงต่ำ เมื่อเห็นฟรานเชสโกยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
ฟรานเชสโกหัวเราะอย่างสะใจ “ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว คริสเตียน”
คริสเตียนพุ่งเข้าไปหาฟรานเชสโกอย่างรวดเร็วราวกับพายุร้าย ฟรานเชสโกพยายามจะยิง แต่คริสเตียนก็เร็วกว่า เขาคว้าปืนของฟรานเชสโกและบีบมันจนหัก
“แกกล้าดียังไง!” คริสเตียนคำราม เขาซัดหมัดเข้าใส่ใบหน้าของฟรานเชสโกอย่างไม่ยั้ง ความโกรธแค้นและความเจ็บปวดที่สะสมมานานระเบิดออกมา คริสเตียนไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขามีเพียงเป้าหมายเดียวคือการทำให้ฟรานเชสโกเจ็บปวดให้มากที่สุด
ฟรานเชสโกถูกชกจนล้มลงกับพื้น แต่คริสเตียนก็ยังไม่หยุด เขายังคงเตะซ้ำแล้วซ้ำเล่า แพรไหมมองคริสเตียนด้วยความตกใจ เธอไม่เคยเห็นเขาบ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อน
“พอแล้ว คริสเตียน!” นิค รีบวิ่งเข้ามาห้าม “อย่าฆ่ามันเลยครับ!”
ลีโอเองก็เข้ามาช่วยห้าม “นายท่านครับ คุณแพรไหมรอคุณอยู่นะครับ”
คริสเตียนหยุดมือลง เขาหันไปมองแพรไหม ดวงตาของเขากลับมาอ่อนลงเล็กน้อย เขาเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของเธอ และนั่นทำให้เขารู้ว่าเขาควรจะหยุด
คริสเตียนเดินตรงเข้าไปหาแพรไหม เขาแกะเชือกที่มัดเธอออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะดึงผ้าที่ปิดปากเธอออก
“แพรไหม…คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม” คริสเตียนถามเสียงสั่น เขาสำรวจร่างกายของแพรไหมอย่างละเอียดด้วยความเป็นห่วง
แพรไหมสวมกอดคริสเตียนแน่น น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ฉัน…ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ” แพรไหมพูดเสียงแผ่ว “คุณมาช่วยฉันแล้ว”
คริสเตียนกอดแพรไหมแน่นขึ้น เขาจูบลงบนศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน “ผมจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายคุณได้อีกแล้ว แพรไหม ผมสัญญา”
ฟรานเชสโกถูกจับตัวไป และโกดังร้างก็ถูกเคลียร์ออกอย่างรวดเร็ว คริสเตียนพาแพรไหมกลับคฤหาสน์ทันทีตลอดทางเขากอดแพรไหมไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยเธอห่างกายแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อมาถึงคฤหาสน์ คริสเตียนก็สั่งให้แพทย์ประจำตระกูลมาตรวจดูอาการของแพรไหมทันที
“คุณแพรไหมปลอดภัยดีครับนาย” แพทย์รายงาน “แค่ตกใจและอ่อนเพลียเล็กน้อย”
คริสเตียนถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาจูบลงบนมือของแพรไหมอย่างอ่อนโยน
ในคืนนั้น คริสเตียนนอนกอดแพรไหมแน่น เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปไหนเลย แพรไหมรู้สึกถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ผมขอโทษ” คริสเตียนกระซิบเสียงแผ่ว “ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องเจอกับเรื่องแบบนี้”
แพรไหมเงยหน้าขึ้นมองเขา “คุณไม่ได้ผิดอะไรค่ะคริสเตียน”
คริสเตียนมองแพรไหม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความเป็นห่วง ความรัก และความต้องการที่จะปกป้อง
“ผมรักคุณ แพรไหม” คริสเตียนกระซิบเสียงทุ้มต่ำ “ผมรักคุณมาก”
คำพูดของคริสเตียนทำให้หัวใจของแพรไหมเต้นรัว นี่เป็นครั้งแรกที่คริสเตียนพูดคำว่ารักกับเธออย่างชัดเจน และมันก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความสุขและความอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แพรไหมยิ้มบางๆ เธอซบหน้าลงบนอกของคริสเตียน “ฉันก็รักคุณค่ะคริสเตียน”
การลักพาตัวในครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างคริสเตียนและแพรไหม มันแสดงให้เห็นว่าคริสเตียนแคร์แพรไหมมากแค่ไหน และทำให้แพรไหมเชื่อใจเขามากขึ้น ในสถานการณ์ที่อันตราย ทั้งลีโอและนิคก็แสดงบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือแพรไหม ทำให้ความผูกพันของพวกเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ
ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม
ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา
ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด
ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู
ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่