“ขอบคุณค่ะ พี่ชาย ที่ช่วยลิลลี่อีกครั้ง” ลิลลี่กระพริบตาให้เจเรมี่ด้วยดวงตาที่ดูบริสุทธิ์ราวกับแก้วของเธอ “แม่ของหนูอยู่ที่นี่ ดังนั้นพี่ชายสามารถปล่อยหนูลงได้เลย”เจเรมี่มองไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในอ้อมแขนของเขาขณะที่เผยรอยยิ้มอ่อนโยนให้ปรากฏบนใบหน้าที่เย็นชาของเขา “หนูชื่อลิลลี่เหรอ?”“อื้อ …” ลิลลี่พยักหน้าอย่างเชื่อฟังแต่ไม่นานนักคิ้วเล็กขมวดขึ้นอย่างน่ารักก่อนจะส่ายหัว “มี แต่คุณแม่เท่านั้นที่เรียกหนูว่าลิลลี่ แต่พ่อไม่เคยเรียกหนูแบบนี้เลยสักครั้ง”พ่อเจเรมี่ไม่เคยรู้สึกว่าสองคำนี้รุนแรงขนาดนี้มาก่อนรุนแรงและไม่คุ้นเคยเขานึกถึงแจ็คสัน ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่ได้ยินแจ็คสันเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ เลยหัวใจของเขาเต้นอย่างไม่สบายใจด้วยเหตุผลบางอย่างเขาปล่อยลิลลี่ลง เธอรีบวิ่งตรงไปอยู่ด้านข้างของมาเดลีน “คุณแม่ น้าคนนี้พยายามจะตีหนู แต่เธอล้มลง โชคดี ที่พี่ชายคนนี้ช่วยหนูไว้”ลิลลี่เงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางจริงจังก่อนจะอธิบายสถานการณ์ก่อนหน้านี้ให้มาเดลีนฟังมาเดลีนยิ้มอย่างอ่อนโยนและกอดลิลลี่ “คุณวิทแมน ขอบคุณมากค่ะ แต่ได้โปรดอย่ามาหาฉันอีกต่อจากนี้ ฉันเกรงว่าคู่หมั้นของคุณจะ
มาเดลีนไม่อาจหยุดตัวเองให้ไม่ชะงักการเดินของเธอได้ เธอมองไปที่เมเรดิธที่พูดคำเหล่านี้ขณะที่ความสงสัยค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในใจของเธอเหตุใดอดีตของเมเรดิธและเจเรมี่จึงคล้ายคลึงกับประสบการณ์ของเธอกับเจเรมี่ในตอนนั้น?ยิ่งไปกว่านั้น เอพริลฮิลล์ก็เป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกเช่นกัน?“เจเรมี่ ฉันไม่ต้องการอะไร แต่ฉันขาดคุณไม่ได้จริง ๆ ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไป ได้ไหม?”เสียงอันนุ่มนวลของเมเรดิธดึงความคิดของมาเดลีนกลับมาเธอเห็นดวงตาของเมเรดิธที่เต็มไปด้วยน้ำตาในขณะที่เธอมองไปที่เจเรมี่ด้วยสายตาที่คาดหวังแม้ว่าเจเรมี่จะไม่ตอบกลับ แต่เขาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเพื่อพันแผลของเมเรดิธ เขายังคงดูแลเมเรดิธ “เจเรมี่ ... ”“หยุดพูด ผมจะพาไปโรงพยาบาล”เมเรดิธมองไปที่เจเรมี่ด้วยความรัก “เจเรมี่ เพียงแค่มีคุณอยู่ด้วยกันกับฉัน ฉันจะไม่เจ็บปวดมากฉันรู้ว่าคุณจะปกป้องฉันตลอดไป”มาเดลีนได้ยินคำพูดเหล่านี้จากจุดที่เธอยืนอยู่ในขณะที่ดูเจเรมี่ช่วยเมเรดิธให้ลุกขึ้น เมเรดิธได้หันหน้ามาเพื่อแสดงชัยชนะและยั่วยุให้มองเธอขณะที่เธอกำลังเข้าไปในรถ ราวกับว่าเธอกำลังพูดว่า ‘วีล่า ควินน์ เธอไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะ
มันจะไม่เกิดขึ้นเมื่อเห็นว่ามาเดลีนพร้อมที่จะเดินออกไป เจเรมี่กระตุกยิ้มที่ริมฝีปาก “คุณวีล่า คุณต้องการจะกีดกันผมหรือไง?”มาเดลีนหันกลับไปและหัวเราะเบา ๆ “คุณวิทแมน คุณและฉันเป็นเพียงแค่คนเดินสวนกัน ไม่จำเป็นต้องกีดกันอะไรทั้งนั้น”เธอรีบพาลิลลี่ขึ้นรถและกลับไปที่อพาร์ตเมนต์หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอเตรียมที่จะส่งลิลลี่เข้านอนแต่โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นอีกครั้งหลังจากมองดู คราวนี้เป็นเมเรดิธมาเดลีนเดินไปที่ระเบียงเพื่อรับโทรศัพท์ และเสียงถามของเมเรดิธดังมาจากอีกด้านหนึ่งทันที “วีล่า ควินน์ ตอนนี้เจเรมี่อยู่ที่ไหน? เธออยู่กับเขาหรือไม่?”มาเดลีนหัวเราะเสียงต่ำ “คุณครอว์ฟอร์ด ทำไมคุณถึงไม่มาหาฉันหากคู่หมั้นของคุณหายไป? คุณนี่น่าสนใจจริง ๆ”“วีล่า ควินน์ คุณไม่ต้องเสแสร้ง! ถ้าไม่ใช่เพราะศัลยกรรมของเธอไม่ดูเหมือนอดีตภรรยาของเจเรมี่คิดว่าคุณจะดึงดูดความสนใจของเขาได้งั้นเหรอ?” น้ำเสียงของเมเรดิธเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“ฟังฉันนะ อย่าคิดว่าตัวเองสามารถดึงดูดความสนใจของเจเรมี่ได้ด้วยการทำเช่นนี้ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดจาเถียงกับฉันเพื่อมาแย่งผู้ชายของฉัน?!”หลังจากที่เมเรดิธพูดออกมาอย่างห
เสียงนั้นฟังคุ้นเคยประสาทสัมผัสของเธอกำลังบอกว่าเจ้าของเสียงนั้นต้องการปฏิเสธเธอกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าอย่างแปลกประหลาดเธอเงยหน้าขึ้นมอง ไฟทางเดินสว่างมากพอที่จะทำให้เห็นใบหน้าที่น่ารังเกียจของเทนเนอร์ อย่างชัดเจน เธอปรากฎเข้ามาในสายตาขณะนี้เทนเนอร์เมาได้ที่ เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ดูคุ้นเคยเพียงเล็กน้อยหากมองจากรูปลักษณ์ด้านข้างของเธอ ทว่าตอนนี้ เขาสามารถเห็นใบหน้าของมาเดลีนได้อย่างชัดเจน และนั่นทำให้เขาตกใจทันที! เขาถอยหลังครั้งแล้วครั้งเล่า และเป็นผลให้ เท้าทั้งสองสะดุดเข้าด้วยกัน เขาล้มลงในท่าคุกเข่ามาเดลีนยืนอยู่ที่ประตูห้องอย่างสงบ ดูเทนเนอร์หน้าซีดด้วยความตกใจ เขาดูเหมือนกำลังคลานถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก และเธอยิ้มอย่างสดใสด้วยมุมริมฝีปากที่สวยงามของเธอ“คุณ…เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอถามเขาด้วยรอยยิ้มที่งงบนใบหน้าที่สวยงาม “คุณเป็นไงบ้าง? ต้องการให้ฉันช่วยไหมคะ?”เทนเนอร์มองไปที่เธออีกครั้ง ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความสยดสยอง “มา มาเดลีน! อย่าเข้ามา!”‘อย่าเข้ามางั้นเหรอ?‘ฮึ่ม!’มาเดลีนยิ้มอย่างสดใสย่างเท้าเดินเข้าไปหาเขา “ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงกลัวฉัน? ฉันเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ผี
เธอพยายามดึงมือกลับ แต่เจเรมี่ไม่ได้แสดงอาการที่จะปล่อย“ได้โปรดปล่อยฉันไป คุณวิทแมน”“ผมจะไม่ปล่อยคุณไปอีกแล้ว”อะไรกัน?มาเดลีนตกใจกับคำสารภาพผิดที่ไม่คาดคิดของเจเรมี่เธอหันไปจ้องเขาด้วยความสับสน ไม่คาดคิดว่าเจเรมี่จะดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาขณะที่เธออยู่บนรองเท้าส้นสูง มาเดลีนเสียหลักในขณะที่ถูกกระชากอย่างกะทันหันและล้มลงบนตัวเจเรมี่เป็นเสี้ยววินาที เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นอย่างคุ้นเคยที่สัมผัสได้ถึงแม้จะรู้สึกถึงระยะเวลาที่เเตกต่างของมันก็ตามเขาอาจไม่เคยรักเธอ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาเธอรวบรวมอารมณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว และพยายามดันตัวเองขึ้นเป็นเหตุให้เจเรมี่โอบแขนรอบเอวของเธอ“คุณกำลังทำอะไร คุณวิทแมน?”ในขณะที่เธอรู้สึกถึงความอึดอัดนี้ มาเดลีนพยายามดิ้นรนให้พ้นจากการรัดแน่นนี้ของเขา ความพยายามของเธอไร้ผลเนื่องจากเป็นความแตกต่างระหว่างพละกำลังของพวกเขาทั้งสองทันใดนั้น แขนที่สัมผัสรอบเอวของเธอกระชับขึ้น รัดให้มาเดลีนกับเจเรมี่ใกล้กันมากขึ้นก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาที่มึนเมาของเขาถูกขยายต่อหน้าต่อตาเธอ เมื
เมเรดิธวิ่งเข้าหาพวกเขาราวกับผู้หญิงบ้าคลั่ง โดยลืมเรื่องบุคลิกที่อ่อนโยนและใจดีที่แสดงออกต่อหน้าเจเรมี่มาเสมอเธอยกขวดขึ้นและมุ่งเป้าไปที่ใบหน้าของมาเดลีนในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ เจเรมี่ยกมือขึ้นเพื่อหยุดเมเรดิธเขาดึงมาเดลีนมาไว้ข้างหลัง ความมึนเมาที่อาจดูเหมือนมีเมื่อครู่นี้ แต่ในตอนนี้เจเรมี่จ้องมองเมเรดิธด้วยความไม่พอใจ เเละเคร่งขรึม“เธอจะทำอะไร?”การได้เห็นเจเรมี่ปกป้องมาเดลีนทำให้เมเรดิธพยายามเก็บอาการโกรธของเธอไว้ อย่างไรนั้น เธอรู้ดีว่าน้ำตาและการทำตัวอ่อนแอเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้ในสถานการณ์นี้“ฉันไม่ได้อยากทำร้ายเธอจริง ๆ เจเรมี่ ฉันเพียงไม่อยากเห็นผู้หญิงคนนี้อยู่กับคุณ” เธอบ่นอย่างเจ็บใจพลางวางขวดลง“มองไม่ออกหรือไง เจเรมี่? เธอทำศัลยกรรมให้ดูเหมือนมาเดลีนเพื่อให้ตัวเธอสามารถดึงดูดความสนใจจากคุณได้ เจเรมี่ ได้โปรดอย่าหลงกลผู้หญิงคนนี้”เจเรมี่หันไปมองผิวที่ไร้ที่ติของมาเดลีนด้วยคำว่า ‘ศัลยกรรม’แต่สิ่งที่มาเดลีนทำ เธอเพียงแค่ยิ้ม “ฉันไม่รู้เลยว่าคุณหนูแห่งมอนต์โกเมอรีและว่าที่สะใภ้แห่งตระกูลวิทแมนในอนาคตจะพูดในลักษณะที่ขาดคสติเช่นนี้ รูปร่างหน้าตาของฉันเป็นของขวัญ
ดวงตาของแจ็คสันเบิกกว้างอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นรอยยิ้มของเมเรดิธ“ผมต้องการให้พ่อเซ็นการบ้านของผม”เมเรดิธยิ้มอย่างอบอุ่นขณะมองสมุดการบ้านในมือของแจ็คสันที่สบตาเธอ “แล้วถ้าแม่เป็นคนเซ็นให้ล่ะ?”แจ็คสันบีบมุมสมุดงานและหันไปมองเจเรมี่อย่างคาดหวัง“ก็แค่ให้แม่เซ็นแทน และอย่าเข้านอนดึกเกินไปล่ะ” จากนั้น เจเรมี่ก็ปิดประตูห้องของเขาขณะที่มองไปยังประตูที่ปิดอยู่ แสงทั้งหมดในดวงตาของแจ็คสันก็ถูกแทนที่ด้วยความกลัวที่ไม่รู้จักและความมืดเขาหันไปรอบ ๆ แล้วรีบเดินไปที่ห้องของตัวเองอย่างรวดเร็วเมเรดิธดันขวางประตูห้องลูกไม่ให้ปิดทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอถูกลดลงเธอไม่พอใจอย่างยิ่ง เธอเดินหน้าเข้าไปในห้องของแจ็คสัน แล้วเธอก็เตะประตูที่อ้าเปิดอยู่ในขณะที่เขากำลังจะปิดใส่คำว่า “แม่” อยู่ที่ปลายลิ้นของแจ็คสัน แต่เขาไม่กล้าเรียกเมเรดิธเลย“เป็นอะไรไป แจ็ค? ฉันเป็นแม่ของลูกไง ทำไมลูกดูเศร้าทุกครั้งที่เห็นแม่?”เธอเดินเข้าหาเเจ็คสันด้วยรอยยิ้ม เพื่อเปลี่ยนการแสดงออกของเธอในวินาทีถัดไป ราวกับว่าเธอเป็นปีศาจที่ฉีกหน้ากากชนิดหนึ่งออก มันไม่มีอะไรเลยนอกจากความน่าเกลียดอยู่ข้างใน“ตลอดเวลา ทำไมเเ
“คุณใช่ แมดดี้ไหมครับ?”เมื่อจ้องมองมาเดลีนอย่างจริงจัง ในที่สุดแจ็คสันก็รวบรวมความกล้าที่จะถามมาเดลีนตะลึงไปสักครู่ จึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “เฮ้ หนุ่มน้อย ฉันเป็นแม่ของลิเลียน ฉันสามารถบอกชื่อของฉันได้ถ้าหนูต้องการ ดีไหม? ดีใจที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่อวีล่า ควินน์”เธอแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้ม โดยตระหนักว่าแจ็คสันกำลังวิเคราะห์เธออยู่ใบหน้าเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้าของเธอเป็นลักษณะที่โดดเด่นมีเสน่ห์อย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากยีนที่ยอดเยี่ยมของเจเรมี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง มาเดลีนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ลึกล้ำและกดดันมากขึ้นภายในดวงตากลมโตสีนิลของแจ็คสันบางทีมันอาจจะเป็นแสงสว่างบางอย่างเด็กคนนี้อาจมีปัญหาอะไรบางอย่าง ก็เป็นไปได้?ความทรงจำเกี่ยวกับตอนที่เมเรดิธเฉือนแก้มของแจ็คสันเพื่อใช้สร้างสถานการณ์ของเธอปรากฏขึ้นในหัวของมาเดลีน เธอยังจำได้ว่าเลือดไหลออกมาอย่างไม่หยุดมากแค่ไหนและเด็กชายครวญครางอย่างไร มันต้องเจ็บมากแน่ ๆ เมื่อเห็นแก้มที่ไร้ที่ติของเขาตอนนี้ มาเดลีนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่อธิบายไม่ได้ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีแผลเป็น“คุณแม่ คุณแม่คะ คนนี้คือแจ็คก