แต่เป็นเพราะฉู่เฉินได้รับการถ่ายทอดจากราชันมังกรแห่งแดนเหนือ ด้วยเหตุนี้รูปแบบของพลังวิญญาณถึงได้วิวัฒนาการเป็นเงามังกร แม้ว่าไม่มีกลิ่นอายมังกรที่แท้จริงอยู่ในเงามังกรนี้ แต่มันดูดซับพลังวิญญาณที่สั่งสมในร่างกายของฉู่เฉินไม่หยุดเพื่อหล่อเลี้ยงเงามังกรนี้อย่างต่อเนื่อง และนี่ทำให้พลังวิญญาณที่จำเป็นต่อการยกระดับขั้นของฉู่เฉินเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ถ่วงความเร็วในการเพิ่มระดับขั้นของฉู่เฉินโดยไม่รู้ตัว แต่สำหรับฉู่เฉิน ตัวตนของเงามังกรนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลยเมื่อฉู่เฉินได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือว่าจุดตันเถียนได้รับความเสียหาย เงามังกรนี้ก็จะใช้พลังวิญญาณที่สะสมไว้ในร่างกายตัวเองฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของฉู่เฉินอย่างรวดเร็ว ก็เท่ากับว่าฉู่เฉินมีความสามารถในการฟื้นฟูที่น่าสะพรึงกลัว และความสามารถในการฟื้นฟูเช่นนี้ต้องการใช้แค่พลังวิญญาณบางส่วนเท่านั้น ขอเพียงมีพลังวิญญาณเพียงพอ แม้ว่าจุดตันเถียนกับทะเลปราณของฉู่เฉินถูกทำลายก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ในระยะเวลาสั้น ๆ นอกจากนี้ ต่อให้ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บ เงามังกรนี้ก็จะช่วยปรับแก้กายเนื้อของฉู่เฉินตลอดเวลา แม้ว่าพลังวิญญาณที่สั
เมื่อม่านราตรีคืบคลานลงมา ขณะที่ฉู่เฉินกับโจวเทียนเฟิ่งกำลังเพลิดเพลินกับอาหารทะเลมื้อใหญ่ ในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในเจียงจง หลี่เต้าผิงกับฉินหล่างสองศิษย์อาจารย์กลับกินแป้งม้วนพลางหัวเราะอย่างขมขื่น เพราะจากไปโดยที่รีบร้อนมากเกินไป สองศิษย์อาจารย์จึงลืมบัตรเอทีเอ็มไว้บนเกาะเล็ก ๆ ไร้นามแห่งนั้น โชคดีที่เงินติดตัวของฉินหล่างยังพอจ่ายค่าที่พักแต่ว่าเรื่องอาหารการกินทำได้เพียงกินง่าย ๆ เพื่อประทังท้องเท่านั้น โครกคราก! ฉินหล่างกลืนแป้งม้วนแห้ง ๆ ลงท้องแล้วก็ดื่มน้ำแร่อึกใหญ่เพื่อให้ชุ่มคอ จากนั้นก็เอ่ยปากพูดกับหลี่เต้าผิงว่า “อาจารย์ แค่ปรมาจารย์คนเดียวไม่ต้องให้ผู้อาวุโสอย่างท่านออกหน้าหรอกครับ” “อาศัยผมคนเดียวก็พอที่จะแก้แค้นให้ศิษย์น้องได้แล้ว” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินหล่างก็โยนแป้งม้วนที่กินไปได้ครึ่งเดียวในมือลงพื้นอย่างแรงและเอ่ยพลางกัดฟันกรอด หลี่เต้าผิงไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ก็ได้ แต่ถ้าเจอยอดฝีมือขึ้นมา อย่าต่อสู้อย่างรุนแรงเด็ดขาด อาจารย์จะรอข่าวของแกอยู่ที่นี่” ไม่ว่าจะพูดอย่างไรฉินหล่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งฝึกปราณชั้นห้า เทียบเท่ากั
“บอกมา จินเจิ้นหลงอยู่ที่ไหน?”ฉินหล่างเอ่ยปากพูดด้วยเสียงเย็นชา“แกกล้าดีนักนะที่ทำตัวไร้มารยาทกับศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเรา!”เมื่อเห็นหลี่ก่านถูกฉินหล่างหิ้วขึ้นกลางอากาศ ลูกศิษย์ของสำนักหลายคนก็รวบรวมความกล้าพุ่งไปข้างหน้า ทว่าพวกเขามาเร็ว แต่ก็ไปเร็วยิ่งกว่า ถึงขนาดที่พวกเขายังไม่ทันเข้าใกล้ฉินหล่าง ก็เห็นฝ่ายตรงข้ามโบกมือทีหนึ่ง สายลมพัดมาอย่างรุนแรง ลูกศิษย์สิบกว่าคนของสำนักพากันล้มลงไปกองกับพื้นลุกไม่ขึ้นอีก ไม่รู้ว่าตายหรือยัง “ซี้ด!” เมื่อเห็นฉากนี้ หลี่ก่านก็อดตกใจกลัวจนหนังศีรษะชาไม่ได้ เมื่อกี้มือของฉินหล่างปล่อยปราณแท้ออกมา ขนาดจินเจิ้นหลงที่เป็นอาจารย์ของเขาก็ทำเรื่องนี้ไม่ได้เลยมั้ง?นี่อธิบายได้ว่าพลังของอีกฝ่ายเหนือกว่าจินเจิ้นหลงมาก! “บอกมา จินเจิ้นหลงอยู่ที่ไหน ฉันขอเตือนแกไว้เลยว่าความอดทนของฉันมีจำกัดมาก!” ฉินหล่างค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น สายตาที่พร้อมจะฆ่าคนจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของหลี่ก่าน ทำให้หลี่ก่านตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษทันที เหงื่อเย็น ๆ ไหลรินลงมา“ท่านผู้กล้าได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย ผะ...ผมจะบอก ผมจะบอก อาจารย์ของผมอยู่ที่...” ขณะที่ฉิ
“พ่อ พวกเราไม่ไป!” จินอ้าวเทียนกับจินหลิงเอ๋อร์เอ่ยด้วยสีหน้าดื้อรั้นจินเจิ้นหลงขมวดคิ้วเอ่ยเสียงเคร่งขรึมว่า “คนที่มาไม่เป็นมิตร พ่ออาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา พวกลูก...”จินเจิ้นหลงยังไม่ทันพูดจบ จินอ้าวเทียนก็พุ่งปราดเข้าไป จินอ้าวเทียนสังเกตฉินหล่างพลางแค่นเสียงเย็นแล้วพูดว่า “แกแม่งเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม กล้าลงมือทำร้ายคนในถิ่นของสำนักตระกูลจินเราเหรอ?”สิ้นเสียงพูด จินอ้าวเทียนก็ยกมือขึ้นต่อยหมัดพิฆาตใส่หน้าของฉินหล่างก่อนหน้านี้โดนฉู่เฉินสั่งสอนไปหนึ่งยก จินอ้าวเทียนก็เดือดดาลอยู่แล้ว ตอนนี้มีไอ้คนรนหาที่ตายจากไหนก็ไม่รู้มาเป็นที่ระบายอารมณ์ให้เขาได้พอดี แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณชายจินก็คิดไม่ถึงว่าชายวัยกลางคนที่ไม่เตะตาตรงหน้านี้ยังมีความสามารถเหนือกว่าพ่อของเขาเสียอีกเขาเพิ่งจะออกหมัดนี้ลงไปก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงส่งมาจากตรงท้องน้อย วินาทีต่อมา ร่างกายของเขาก็กระเด็นลอยออกไปโครม!จินอ้าวเทียนตกลงไปไกลเจ็ดแปดเมตร ก่อนจะกระอักเลือดออกมา“แก...” เวรเอ๊ย นี่มันเล่นสกปรกนี่หว่า จินอ้าวเทียนเอามือกุมเป้ากางเกง ร้องไห้เสียงดังตะโกนบอกจินเจิ้นหลงด้วยสีหน้า
“ผมทำเท่าที่ทำได้แล้ว นอกจากนี้ขอเพียงคุณเชื่อฟังแต่โดยดี บอกที่อยู่ของฉู่เฉินออกมา ผมคิดว่าคุณฉินจะต้องเมตตาคุณแน่” หลี่ก่านกล่าวจบก็เบนสายตาไปทางฉินหล่าง ความจริงแล้วระหว่างทางที่มาตระกูลจิน หลี่ก่านได้เล่าเรื่องของซ่งหู่ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว นอกจากนี้ยังตั้งใจพาฉินหล่างวนบริเวณรอบข้างบ้านใหญ่ตระกูลฉู่เป็นพิเศษด้วยแต่น่าเสียดายที่ฉู่เฉินทำการควบคุมไว้อย่างลับ ๆ ก่อนที่จะไป ด้วยเหตุนี้พวกเขาสองคนวนรอบบ้านใหญ่ตระกูลฉู่สามรอบก็หาบ้านเก่าตระกูลฉู่ไม่เจอนี่ถึงได้ย้อนกลับมาทางเดิม ไปที่ตระกูลจิน “เหอะ พวกแกหลงผิดไปแล้วจริง ๆ! คุณฉู่มีบุญคุณกับตระกูลจินของฉัน ต่อให้ฆ่าพวกเรา พวกแกก็อย่าหวังว่าจะรู้ที่อยู่ของคุณฉู่เลย!” จินเจิ้นหลงยังไม่ทันเอ่ยปาก จินหลิงเอ๋อร์ก็ตวาดด้วยความเกรี้ยวกราด เอ่ยปากพูดอย่างเด็ดขาด“คุณฉิน คุณก็เห็นแล้วนะครับ ตระกูลจินใจแข็งกันหมด ถ้าเกิดไม่สั่งสอนพวกเขาสักหน่อย เกรงว่าพวกเขาคงไม่บอกที่อยู่ของฉู่เฉินหรอกครับ” ฉินหล่างหัวเราะอย่างเหี้ยมเกรียม ดวงตาเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยตัณหากวาดมองร่างของจินหลิงเอ๋อร์ไปมา จากนั้นเขาก็ก้าวมาข้างหน้า ก่อนจะโบกมือให้หลี่ก่
ฉินหล่างหันหน้าไปมองจินอ้าวเทียนแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มเหี้ยมว่า “พูดมา!” “ฉู่เฉิน...จริง ๆ แล้วฉู่เฉินก็เป็นแค่คนช่วยเหลือ คนที่ต้องการฆ่าซ่งหู่จริง ๆ คะ...คือโจวเทียนเฟิ่ง” จินอ้าวเทียนกลอกตาหลายครั้ง โยนความผิดไปที่โจวเทียนเฟิ่งทันที ถึงแม้ฉู่เฉินมีบุญคุณกับตระกูลจิน ไม่ว่ามองจากด้านไหนก็ไม่ควรบอกที่อยู่ของฉู่เฉินออกมา แต่ว่าโจวเทียนเฟิ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจินจินอ้าวเทียนได้แต่เสียสละโจวเทียนเฟิ่งเพื่อช่วยเหลือจินหลิงเอ๋อร์ “อ้อ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แววตาของฉินหล่างพลันเย็นเยียบ เขาหันไปหาหลี่ก่านที่ยังคงยืนอยู่หน้าประตูจ้องมองเรือนร่างของจินหลิงเอ๋อร์พลางน้ำลายไหล เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาราวกับจะฆ่าคนของฉินหล่าง หลี่ก่านก็ตกใจกลัวจนตัวสั่นทันที“พูดอีกอย่างก็คือ คนที่ชื่อโจวเทียนเฟิ่งถึงจะเป็นตัวการที่ฆ่าศิษย์น้องของฉันเหรอ?” ฉินหล่างหรี่ตามองจินอ้าวเทียน“ถูกต้อง ครอบครัวของซ่งหู่ตายในเงื้อมมือของสำนักเฟิ่งกันหมด เขากลับมาที่เจียงจงเพื่อแก้แค้น คนที่เขาตามหาก็คือโจวเทียนเฟิ่ง”จินอ้าวเทียนเล่ารายละเอียดทั้งหมดที่เขาได้ยินให้ฉินหล่างฟังหลังจากที่ฟังจินอ้าว
ปลาหยินหยางกับมังกรทองตัวเล็กนั้นคล้ายกับกำลังตอบสนองซึ่งกันและกันจากไกล ๆ ประสานพลังหยินหยางภายในร่างกายของฉู่เฉินไว้ เมื่อพลังวิญญาณมหาศาลทะลักเข้ามาในร่างกาย ทะเลปราณที่เคยว่างเปล่าของฉู่เฉินก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณเหลวสีทอง หลังจากสูดลมหายใจลึกติดต่อกันหลายครั้ง ระดับของฉู่เฉินก็หยุดอยู่ช่วงกลางของฝึกปราณชั้นหกอย่างมั่นคงแล้วส่วนสถานการณ์ของโจวเทียนเฟิ่งก็ใกล้เคียงกับฉู่เฉินเช่นกัน ขณะที่ปราณแท้ในร่างกายยิ่งเต็มเปี่ยม ตรงท้องน้อยของเธอก็ปรากฏลวดลายปลาหยินหยางในขณะที่โจวเทียนเฟิ่งตกตะลึง ทันใดนั้นก็มีเสียงต่อสู้ดังมาจากหน้าประตูฉู่เฉินขมวดคิ้ว ไม่สนใจเสียงด้านนอกประตู แต่อุ้มโจวเทียนเฟิ่งขึ้นมาแล้วกดเธอลงบนโซฟาทันที .....ปัง ๆๆ! เสียงดังสนั่นขึ้นหลายครั้ง บอดี้การ์ดหลายคนกระเด็นลอยเข้าไปในลานบ้านของเทียนเฟิ่งวิลล่า“ใครกัน!” หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดได้ยินเสียงดังผิดปกติก็รีบพุ่งออกมาจากคฤหาสน์เมื่อเขาเห็นเพื่อนร่วมงานหลายคนนอนกองกับพื้นหายใจรวยริน เขาก็อดเดือดดาลไม่ได้!“แกบังอาจนักนะ กล้าทำตัวเหิมเกริมที่เทียนเฟิ่งวิลล่า ดูสิว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้!” เมื่อสิ้นคำพูด หั
“คุณฉู่...” จงอาหู่ฝืนข่มกลั้นความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ลุกขึ้นมาอย่างโซเซ แต่วินาทีต่อมาเขาก็สูญเสียการทรงตัวอีกครั้งแล้วล้มลงไปกองกับพื้นทันที “เสียวหู่ ทำใจให้สบายรักษาอาการบาดเจ็บ ที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรให้นายต้องยุ่งด้วยแล้ว” ฉู่เฉินสะบัดมือโยนขวดยาบำรุงปราณให้จงอาหู่ ก่อนจะเดินอยู่บนรองเท้าแตะไปหาฉินหล่างฉินหล่างนิ่วหน้าจ้องมองฉู่เฉิน อย่างไรก็ตามเขากลับมองพลังฝึกปรือของฉู่เฉินไม่ออกเลย กลิ่นอายของฉู่เฉินดูคลุมเครือเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา บางครั้งเหมือนยอดฝีมือระดับสุดยอด บางครั้งก็เหมือนคนธรรมดา นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? “แกก็คือฉู่เฉิน ตัวการที่สังหารซ่งหู่ศิษย์น้องของฉันใช่ไหม?” ฉินหล่างฝืนทำเป็นเยือกเย็น พอตั้งท่าเรียบร้อยแล้วก็ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ “ซ่งหู่คือศิษย์น้องของนาย?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วถามเมื่อคืนฉู่เฉินยังคงขบคิดว่าควรขุดสำนักของซ่งหู่ออกมาอย่างไร ถึงอย่างไรอาจารย์ของซ่งหู่ก็เป็นผู้บำเพ็ญตน จะเหลืออันตรายแอบแฝงแบบนี้ไว้ไม่ได้เด็ดขาด แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะใส่ใจขนาดนี้ ส่งตัวเองมาหาถึงที่เลย “ถูกต้อง ฉัน...”ฟิ้ว!ฉินหล่างเพิ่งพยักหน้าก็เห็นฉู่เฉินยกเ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า