ในตอนนั้นเอง โจวเทียนเฟิ่งที่กำลังอยู่ในห้องอาบน้ำของวิลล่า แช่น้ำด้วยกลีบดอกไม้ นมสีขาวขุ่นกระเพื่อมเล็กน้อยในอ่างอาบน้ำ ในขณะที่มือเรียวเล็กของเธอค่อยๆ ยกมันขึ้น นมในอ่างอาบน้ำก็ไหลลงมาที่คอของเธอ และตกลงบนยอดหยกสูงของเธอนี่เป็นวิธีการดูแลผิวที่โจวเทียนเฟิ่งชอบที่สุดในหลายปีที่ผ่านมานี้ เธออายุสามสิบกว่าแล้ว และด้วยการอาศัยเทคนิคลับนี้ที่เธอสามารถทำให้ผิวของเธอขาวและเรียบเนียนได้ไม่ด้อยกว่าเด็กสาวในขณะที่โจวเทียนเฟิ่งกำลังเพลิดเพลินกับแสงแดดและอาบน้ำนมอยู่นั้น ข้างนอกประตูก็มีเสียงเคาะประตูอย่างร้อนรนดังขึ้นมา“อาเจ๊ แย่แล้วล่ะ เกิดเรื่องแล้วครับ!”ข้างนอกประตูมีเสียงของจงอาหู่ที่ดูร้อนรนดังขึ้นมาหืม?โจวเทียนเฟิ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดกับจงอาหู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามรบกวนตอนฉันอาบน้ำ? ยังไม่รีบกลับไปอีก!”“แต่ว่า...”ไม่รอให้จงอาหู่พูดจบ โจวเทียนเฟิ่งก็ตัดบทขึ้นมาอย่างรำคาญ “แต่ว่าอะไร! ต่อให้ฟ้าถล่มก็ต้องรอให้ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วค่อยพูด ออกไปซะ!” จงอาหู่จิปาก หันหน้าไปมองอินซู่ซู่ที่สีหน้าวิตกกังวล“เจ้าสำนักเฟิ่ง นายท่านถูกคนของกรม
...“ท่านหลงแย่แล้วล่ะครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คนของสำนักเฟิ่งเคลื่อนไหวแล้วครับ!”คนที่เข้ามารายงานรีบร้อนวิ่งเข้ามาในห้องของจางหลงอย่างกระวนกระวาย เช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขาอะไรนะ?จางหลงขมวดคิ้ว สูบซิการ์ พูดขึ้นมาอย่างกลัดกลุ้มใจ “โจวเทียนเฟิ่งนางพวกนั้นบ้าไปแล้วเหรอ? เธอไม่กลัวถูกกรมตำรวจไปหาที่บ้านหรืออย่างไร?”จิ!พูดถึงตรงนี้จางหลงก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมา พูดกับคนที่มารายงานว่า “ไป ไปถามมาให้แน่ชัด สำนักเฟิ่งจะมาไม้ไหน...”“ท่านหลง!”ไม่รอให้จางหลงพูดจบ ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว หอบหายใจพูดว่า “เกิดเรื่องแล้วครับ ผู้มีพระคุณของท่านถูกปีศาจโลหิตของเขตซีเฉิงจับกุมไปครับ!”อะไรนะ!จางหลงได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็เผยให้เห็นความอาฆาต!กล้ายุ่งกับฉู่เฉิน นั่นก็หมายถึงกล้าต่อกรกับจางหลง!ในเจียงจงนี้เขาได้ประกาศไปทั่วแล้วว่าฉู่เฉินเป็นผู้มีพระคุณของเขา ใครกล้าแตะต้องฉู่เฉินก็เท่ากับว่าแตะต้องจางหลงเหมือนกัน!“ให้คุณไป๋มากับฉัน แล้วไปพบเจียงเหวินป๋อจากเขตซีเฉิงด้วยกัน!”เมื่อพูดจบ จางหลงก็เรียกลูกน้องที่มารายงานเรื่องไว้ หรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “แจ้งลูก
“เสียงข้างในนั่นมันอะไรกัน?”หนึ่งในตำรวจมองไปยังทางเดินห้องสอบปากคำด้วยความสงสัย“เป็นไปได้สูงว่าพี่เจวียนน่าจะใช้วิธีพิเศษในการสอบปากคำหรือเปล่า อาชญากรครั้งก่อนก็เป็นตัวอย่างแล้วนี่”ตำรวจอายุราวๆ สามสิบกวาดสายตามองไปข้างในแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาดูเอกสารในมือของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้นำเรื่องนั้นมาใส่ใจเลยสักนิด อีกทั้งยังไม่ได้ตรวจสอบดูความผิดปกติตรงนั้นด้วย“พี่หลี่ ผมว่ามันแปลกๆ นะครับ แม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ไม่ปกติ แต่มันก็ไม่ควรเป็นเสียงแบบนี้ไหมครับ?”ตามมาด้วยเสียงจากทางเดินที่ดังขึ้นมาเรื่อยๆ แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มยังสังเกตถึงความผิดปกติเรื่องแบบนี้ ไม่เคยกินหมูก็จะไม่เคยเห็นหมูวิ่งงั้นเหรอ?อย่างน้อยก็คงต้องเคยดูหนังเพศศึกษาบ้างใช่ไหม?“นายคงยังไม่รู้สินะว่าอาญชากรครั้งก่อนไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมสารภาพ นายรู้ไหมว่าพี่เจวียนให้เขาปริปากสารภาพอย่างไร?”คนที่ชื่อหลี่เกอตบเข้าที่ไหล่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มนั้นแล้วยิ้ม“ไม่... ไม่รู้ครับ...”เจ้าหน้าที่ตำรวจมองไปที่ห้องสอบปากคำอย่างไม่สบายใจ เขาไม่ได้กังวลจ้าวเจวียน แต่เขากังวลโจวน่าแฟนสาวของเขาเขา
เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในล็อบบี้ชั้นหนึ่งรีบออกจากกรมเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเป็นโจวเทียนเฟิ่งยืนอยู่หน้าประตูนั้นก็ต่างพากันถอยหลังกลับไปอย่าทำให้โมโห!ทำให้โมโหไม่ได้เด็ดขาด!อย่าคิดว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ในโลกใต้ดินเธอขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมที่สุด!แค่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งจะกล้าไปยั่วโมโหคนแบบเธอได้อย่างไร?“พี่เฟิ่ง ผม... เดี๋ยวผมจะไปแจ้งให้นะครับ พี่รอสักครู่”หลี่เกอเอามือกุมรอยฝ่ามือนั้นไว้ หันหน้าแล้ววิ่งไปทางห้องทำงานอธิบดีชั้นสาม……ในตอนนั้นเอง เจียงเหวินป๋อสีหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเดินตรงไปยังห้องทำงาน ในตอนที่เขาค้นพบความผิดปกตินั้น เขาก็อยากจะพาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดแต่เมื่อเขาลองสังเกตการณ์ดูการเคลื่อนไหวรอบๆ แล้ว เขาก็สิ้นหวังอย่างถึงขีดสุดแม้แต่หูโข่วสถานที่ที่ห่างไกลแบบนี้ก็เต็มไปด้วยคนของสำนักเฟิ่ง แต่ละคนดุดันน่าเกรงขาม ในมือล้วนแต่ถือมีดไว้ หากเขาออกไปอาจจะโดนหั่นเป็นชิ้นๆ ก็ได้ใช่ไหม?เมื่อถึงตอนนั้น โจวเทียนเฟิ่งก็หาลูกน้องคนสองคนมารับผิด แบบนั้นเขาก็ไม่ได้ตายฟรีเหรอ?เฮ้อ!เจียงเหวินป๋อขยี้บุหรี่ที่เขาพึ่ง
“ข้างในนั้นมันเสียงอะไรกัน? หรือว่านอกจากคุณฉู่แล้วยังมีคนอื่นที่ถูกจับกุมมาอีกเหรอ?”โจวเทียนเฟิ่งรีบหันหน้าไปมองอินซู่ซู่ถ้าแฟนของฉู่เฉินหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเขาถูกนำตัวเข้าไปในห้องสอบปากคำด้วย เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังลั่นในตอนนี้ โจวเทียนเฟิ่งคงจะชักจูงผู้คนให้รีบเข้าไปถลกหนังของเจียงเหวินป๋อทั้งเป็น!เป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะโจวเทียนเฟิ่งที่เคยมีประสบการณ์มาแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องคิดก็สามารถเข้าใจได้เลยว่าเสียงร้องนั่นหมายถึงอะไร!“ไม่... ไม่มีนะคะ มีแค่นายท่านที่ถูกจับขึ้นรถตำรวจไปนะคะ”อินซู่ซู่แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมโจวเทียนเฟิ่งถึงได้ร้อนรนเช่นนี้ แต่เธอก็ตอบกลับไปอย่างแผ่วเบาเมื่อได้ยินดังนั้น โจวเทียนเฟิ่งถึงได้สบายใจขึ้นมา หันหน้าไปทางเจียงเหวินป๋อพูดขึ้นมาว่า “เจียงเหวินป๋อ ฉันให้เวลานายคิดแค่หนึ่งนาทีว่าจะปล่อยเขาหรือไม่!”เจียงเหวินป๋อวางมือไว้ด้านหลังแล้วมองไปที่โจวเทียนเฟิ่ง “เจ้าสำนักเฟิ่งแม้ว่าสำนักเฟิ่งจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่มีทางใหญ่ไปกว่ากฎหมายบ้านเมืองใช่ไหมครับ? อย่าคิดว่าผมเจียงป๋อเหวินกลัวคุณ!”“ผมจะบอกความจริงอะไรให้คุณอย่างหนึ่ง
“จางหลง คุณจะทำอะไร? คุณยังต้องการให้คนของคุณลอบสังหารตำรวจเหรอ?”หากจะบอกว่าเจียงเหวินป๋อไม่กลัวนั่นก็คงจะเป็นการโกหก!ไป๋ชางที่อยู่ข้างหลังจางหลงเป็นถือเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง!แม้ว่าจะมีตำรวจถือปืนหลายสิบคนอยู่รอบๆ แต่ต่อหน้าปรมาจารย์แล้ว ปืนที่อยู่ในมือพวกเขานั้นก็ไม่ต่างจากของเล่นมากมายนักหากไป๋ชางลงมือ เจียงเหวินป๋อต้องตายอย่างแน่นอน!“ไม่กล้าครับ!”จางหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากอธิบดีเจียงไม่ให้เกียรติผมจางหลง ผมก็ไม่จำเป็นต้องออมมือ!”ซี้ดๆ!ตำรวจที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันสูดหายใจแรง จางหลงกำลังวางแผนกบฏหรือเปล่า?ต่อหน้าปรมาจารย์ตำรวจในห้องโถงก็ต่างพากันก้าวถอยหลังไป พวกเขากลัวว่าจะต้องมาตายแทนเจียงเหวินป๋อ“หยุดนะ!”ขณะที่ไป๋ชางกำลังเตรียมจะลงมือ จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากนอกประตู!“ปังๆๆ !”ตามมาด้วยเสียงปืนสามนัดทุกคนในห้องโถงพากันมองออกไปข้างนอกประตูชายหนุ่มสวมชุดมังกรสีฟ้าและรองเท้าบู๊ททหารปรากฏตัวขึ้น เดินอย่างสง่างามและบนใบหน้าของเขาดูเต็มไปด้วยความมีอำนาจข้างหลังของเขายังมีกลุ่มชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อผ้าเช่นเดียวกับเขาตามห
ครั้งนี้สวี่จวินตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก หนึ่งในเสียงนั้นเป็นเสียงที่โจวน่าส่งเสียงร้องออกมา!อีกทั้งเขาและเธอคบกันมาเกือบจะสามเดือนแล้ว แม้แต่มือของเธอเขาก็ยังไม่เคยได้จับ วันนี้กลับได้ยินเสียงครวญครางของเธอดังออกมาจากห้องสอบปากคำ เขาไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้อีกต่อไป หันร่างไปแล้ววิ่งไปยังห้องสอบปากคำที่อยู่สุดทางเดินยิ่งเข้าใกล้ประตูเหล็กสีดำสนิทนั้นเท่าไหร่ เสียงของโจวน่าก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำเอาสวี่จวินหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ“น่าน่า!”สวี่จวินเอาตัวแนบกับประตูเหล็ก ตะโกนเข้าไปข้างในห้องสอบปากคำแต่ไม่มีเสียงตอบรับเขาเลย!นี่... นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ใบหน้าของสวี่จวินแนบชิดไปกับประตูเหล็ก เขาแทบอยากจะมุดหัวเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอดให้มันรู้กันไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ประตูเหล็กหนามาก นอกจากความเย็นเฉียบแล้ว ก็มีเพียงเสียงที่ดังมาจากข้างในห้องสอบปากคำดวงตาของสวี่จวินแดงไปหมด เขามั่นใจแล้วว่าเสียงที่เขาได้ยินตั้งแต่แรกเป็นเสียงของโจวน่า!ขณะนั้นเองสวี่จวินดูเหมือนเป็นคนเลี้ยงสัตว์ที่บริสุทธิ์ และในทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม!“นังแพศยาพวกนี้! ฉ
ชั่วขณะหนึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่สุดทางเข้าห้องโถงขณะนี้ เจียงเหวินป๋อรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถือหนังสือ 'เหตุผลหมื่นข้อ' ไว้ในใจ โดยมีเสียงของจ้าวเจวียนเมื่อกี้ดังก้องอยู่ในใจของเขา เป็นเสียงที่เขาจะไม่มีวันลืมไม่ได้การแล้ว!เจียงเหวินป๋อที่แต่เดิมจะกลับไปยังห้องทำงาน จู่ๆ เขาก็หยุดฝีเท้าลง หันร่างเดินไปทางห้องสอบปากคำได้ยินเสียงฝีเท้าที่ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที ฉู่เฉินก็แสยะยิ้มร้ายออกมา “อธิบดีเจียงกำลังแอบฟังอยู่หน้าประตู คุณไม่กลัวว่าเขาจะได้ยินเหรอ?”จ้าวเจวียนในตอนนี้จะมีเวลาไปสนใจอธิบดีเจียงได้อีกล่ะ?“อย่างนั้นก็ให้เขาฟังให้ดีๆ! ใครใช้ให้เขาไร้น้ำยากันล่ะ!”นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ในเมื่อเธอก็คนเหมือนกันแม่งเอ๊ย!จ้าวเจวียนชักจะทำตามอำเภอใจเกินไปแล้วนะ หน้าไม่อายจริงๆ!เจียงเหวินป๋อที่เอาหูแนบกับประตูเหล็กเพื่อแอบฟัง เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็นูนให้เห็นอย่างชัดเจน!ผู้หญิงที่พูดประโยคนั้นข้างใน ถ้าไม่ใช้จ้าวเจวียนแล้วจะเป็นใครได้?!นังสารเลวนี่ กล้าดีอย่างไร!กล้าพูดออกมาว่าเขาไร้น้ำยาได้อย่างไร?!โมโห!เจียงเหวินป๋อตอนนี้อยากจะบุกเข้าไปฆ่าชายหญิงสารเลวคู่นี้ให้รู้แล้
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ
เมื่อลั่วเทียนเต๋อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ลั่วหัวเอ๋อร์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่ได้!เธอเคยเจอเจ้าสำนักน้อยคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าต่อให้เห็นผ่าน ๆ แค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็ดูออกได้ไม่ยากว่า นั่นเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดูดีแค่ภายนอกตามมาตรฐานเลย ถ้าต้องแต่งกับผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตนี้ของเธอมีหวังได้จบสิ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?และถ้าครั้งนี้กัวเฟิงช่วยตระกูลลั่วให้ผ่านพ้นวิกฤติได้จริง ๆ เธออยากปฏิเสธการแต่งงานก็คงไม่ได้แล้ว“เจ้าสำนักน้อย? ไอ้กัวเฟิงนั่นมันตัวอะไรกัน! ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด ดึงลั่วหัวเอ๋อร์ให้มาอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนจะเอามือชี้หน้าลั่วเทียนเต๋อแล้วพูดว่า “ไอ้คนแซ่ลั่ว คุณเป็นคนหาเรื่องเอง เลิกลากพวกเราแม่ลูกเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว” พอลั่วเทียนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ โทสะก็พุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ดี! คุณมันแพศยาไร้ยางอาย รีบไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลลั่วเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ไม่ต้องพึ่งตระกูลหลินของพวกคุณ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี!” อะไรนะ?หลินเยว่หรูถลึงตาใส่ลั่วเทียนเต๋อ กัดฟันกรอแล้วกล่าวว่า “คุณ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่