ฉู่เฉินหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า ปรมาจารย์ยุทธ์?เฮ้อ เดี๋ยวนี้ปรมาจารย์ยุทธ์เกลื่อนกลาดขนาดนี้แล้วเหรอ?“ได้ แกโทรได้ตามสบาย แต่ฉันขอบอกแกไว้ให้ชัดๆ ตรงนี้เลยนะ ว่าถ้าวันนี้แกไม่ขอโทษเซี่ยฉีฉี ถึงเง็กเซียนฮ่องเต้มาก็ช่วยอะไรแกไม่ได้!”พูดจบ ฉู่เฉินก็ดึงเก้าอี้มานั่งขวางจังก้าอยู่หน้าประตูเห็นฉู่เฉินปิดทางเข้าออกห้องส่วนตัว พวกลูกสมุนของจางไห่หยางตกใจจนแทบฉี่ราดถึงแม้พวกเขาไม่ได้ผ่านโลกมามากมาย แต่พวกเขายังหวาดกลัวฝ่ามือเมื่อกี้ของฉู่เฉินไม่หายความรู้สึกอย่างนั้น เหมือนใช้ท่อนไม้ฟาดใส่ท่อนเหล็ก ฉู่เฉินไม่เพียงไม่เป็นอะไร พวกเขากลับเจ็บจนแขนชาไปหมดคนอย่างนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!ตระกูลจางมีสายสัมพันธ์กับปรมาจารย์ยุทธ์อยู่จริงๆ แต่ปัญหาคือคนอื่นเขาจะไว้หน้าจางไห่หยางที่เป็นรุ่นลูกของตระกูลจางหรือเปล่าถ้าเชิญปรมาจารย์ยุทธ์มาไม่สำเร็จ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจะมีจุดจบยังไง ดีไม่ดี แม้แต่พวกเขาก็ยังต้องเอาชีวิตน้อยๆ มาทิ้งไว้ที่นี่ด้วย“เหอะ! ไอ้หนู แกรอฉันก่อนเถอะ!”จางไห่หยางพูดจบก็ค้นเบอร์โทรศัพท์และโทรศัพท์ออกทันทีรออยู่นาน กว่าอีกฝ่ายจะรับสายจางไห่หยางร้องคร่ำครวญทันทีที่อีกฝ่ายร
ปรมาจารย์ยุทธ์มาแล้ว!พวกจางไห่หยางดีใจมาก ลูกสมุนที่อยู่ด้านหนึ่งชี้ไปทางประตูใหญ่ และพูดอย่างลิงโลดว่า “คุณชายจาง ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เขามาด้วยตัวเองเลยครับ”จางไห่หยางมองตามนิ้วมือของคนคนนั้น เห็นเพียงชายชราผมขาวคนหนึ่งสวมชุดฝึกยุทธ์สีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวถึงกลางหลัง ท่าทางสง่างาม ยืนในท่าเอามือไพล่หลัง เขากำลังเดินมาทางนี้โดยมีลูกศิษย์รายล้อมอยู่รอบๆพอเห็นปรมาจารย์ยุทธ์โจวมา จางไห่หยางกลับมามีความมั่นใจขึ้นหลายส่วนแม้อยู่ห่างกว่าหนึ่งร้อยเมตร คำพูดของฉู่เฉินกลับไม่อาจรอดพ้นหูของปรมาจารย์ยุทธ์โจวได้มิหนำซ้ำ เมื่อกี้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวยังจงใจสำแดงวิชาขจรเสียงพันลี้อีกด้วย!ปรมาจารย์ยุทธ์ก็ยังเป็นปรมาจารย์ยุทธ์วันยังค่ำ แม้แต่ฉากเปิดตัวก็ยังต้องเว่อร์วังอลังการอย่างนี้!จางไห่หยางที่มีที่พึ่งตวัดสายตามองฉู่เฉินอย่างดูแคลน เขาดึงเก้าอี้มานั่งไขว่ห้าง จากนั้นก็ชำเลืองมองฉู่เฉินด้วยหางตาแววตาของเขาเหมือนกำลังมองเจ้าโง่คนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลย“ไอ้แซ่ฉู่ แกคงไม่คิดว่าฉันจะเชิญปรมาจารย์โจวมาได้จริงๆ ใช่ไหมล่ะ? จะบอกอะไรให้ นี่แหละอำนาจของเงิน ต่อหน้าตระกูลจางของฉัน ถึงแกจะเป็นมังกรก็ย
ในเวลานี้เอง เสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวโกรธดังกัมปนาทราวกับเสียงฟ้าผ่าทุกคนในห้องต่างก็สะท้านสะเทือนจนหน้ามืดตาลาย!วิชาราชสีห์เมฆาสายฟ้าคำราม!วิชาที่ทำให้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวมีชื่อเสียง!ทุกคนในห้องสีหน้าพลันเปลี่ยน แม้แต่จางไห่หยางก็ยังต้องลุกขึ้นยืนตัวตรงอย่างนอบน้อม!เห็นเพียงชายชราผมขาวคนนั้นเหยียดยืนหลังตรง เอามือสองข้างไพล่หลัง ท่าทางผึ่งผายอยู่ตรงหน้าประตูโจวฉีหลิน หัวหน้าปรมาจารย์ยุทธ์แห่งเมืองเจียงจง หรือที่ผู้คนขนานนามว่าราชสีห์เมฆาสายฟ้า!เซี่ยฉีฉีเห็นโจวฉีหลินปรากฏตัวอยู่หน้าประตูห้องก็แตกตื่น เธอกุมแขนของฉู่เฉิน และมองหน้าเขาด้วยร่างกายอันสั่นเทาถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น วันนี้เธอไม่น่าเรียกฉู่เฉินออกมาเลย แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอะไรก็สายไปแล้ว!จางไห่หยางยิ้มเย็นพลางตวัดสายตามองฉู่เฉิน ก่อนจะหันไปฉีกยิ้มและพูดกับโจวฉีหลินว่า “ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เมื่อกี้ไอ้หมอนี่แหละครับที่พูดจาอวดดี!”โจวฉีหลินแววตาเย็นชา จ้องพิจารณาเงาหลังของฉู่เฉิน ก่อนจะพยักหน้าหยิ่งผยอง ก่อนเอ่ยว่า “ผมได้ยินหมดแล้ว คนหนุ่มสาวบางคน มักไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”“คิดว่าตัวเองฝึกยุทธ์แค่สองส
ได้ยินเสียงคำรามอย่างเดือดดาลของโจวฉีหลินที่ดังมาจากข้างหลัง จางไห่หยางตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะเกิดอะไรขึ้น?เหมือนปรมาจารย์ยุทธ์โจวกำลังด่าเขาอยู่?ในเวลานี้เอง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็หันไปมองที่ประตูแม้แต่เซี่ยฉีฉีเองก็หันไปมองโจวฉีหลินด้วยสายตาสงสัยซี้ด!ครั้นเห็นโจวฉีหลินที่คุกเข่าหลังเหยียดตรงอยู่บนพื้น แทบทุกคนต่างพากันสูดหายใจอย่างเหลือเชื่อเซี่ยฉีฉีก็ยังแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองเมื่อวานฉู่เฉินหักขาของเจิ้นหู่ก็จริง แต่เจิ้นหู่ไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์นี่นา เขาเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งของจางหลงเท่านั้นและที่เมื่อวานฉู่เฉินไม่เกรงกลัวอะไร ก็เหมือนจะเป็นเพราะสนิทกับจางหลงแต่ตอนนี้ เขากำลังเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ยุทธ์เชียวนะ แต่โจวฉีหลินกลับคุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉิน?ส่วนจางไห่หยางที่เห็นภาพนั้นได้อึ้งตาค้างไปแล้วนี่มันอะไรกัน?ทำไมโจวฉีหลินถึงได้คุกเข่าให้ฉู่เฉิน?โจวฉีหลินหันไปเห็นสายตาแปลกๆ ของจางไห่หยาง แทบอยากจะตบเขาให้ตายในฝ่ามือเดียว!มีเรื่องกับใครไม่ว่า แต่ดันมีเรื่องกับฉู่เฉิน?แต่แกจะมีเรื่องก็มีเรื่องไปสิวะ ทำไมต้องเรียกฉันมาด้วย?เขาอายุเกิน
“นี่น่ะเหรอที่พึ่งของแก? แกถามเขาสิ ว่ากล้าพูดอะไรแทนแกสักคำไหม?”ฉู่เฉินชี้หน้าโจวฉีหลิน ก่อนจะหันไปมองจางไห่หยางด้วยสายตาเยาะเย้ยวินาทีนี้ จางไห่หยางมีหรือจะกล้าอวดดีอีก?เขามองฉู่เฉินอย่างอึ้งๆ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวเขาจะพูดอะไรได้อีก?แม้แต่ปรมาจารย์ยุทธ์ก็คุกเข่าแล้ว เขายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีกเหรอ?“เพี๊ยะ!”ฉู่เฉินตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของจางไห่หยาง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ขอโทษฉีฉี!”จางไห่หยางหันหน้าไปอีกทาง คายฟันที่ถูกตบจนหลุดออกมาสองซี่ เขาอดทนต่อความเจ็บปวด เดินมาหยุดต่อหน้าเซี่ยฉีฉี ก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ขะ…ขอโทษ”“เพี๊ยะ!”พูดจบ ฝ่ามือของฉู่เฉินตวัดออกมาอีกครั้ง“ขอโทษต้องจริงใจ รู้หรือยังว่าผิดเรื่องอะไร?”สายตาของฉู่เฉินเย็นเยียบ แววตาเต็มไปด้วยอายสังหาร!“ฉีฉี ขอโทษ เมื่อกี้ผมไม่ควรด่าคุณ ยิ่งไม่ควรคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงของผมอย่างหน้าไม่อาย ทุกอย่างเป็นผมที่คิดเองเออเอง ผมรับประกันว่าต่อไปจะไม่กล้ารบกวนคุณอีกแน่นอน คุณปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะ”จางไห่หยางฉีกยิ้มขมขื่นขณะพูด ไม่เพียงเท่านั้นยังโค้งตัวให้เซี่ยฉีฉีอีกหลายครั้งด้วยเซี่ยฉีฉีมึนง
“คุณชายจาง คุณชายจาง…”หลังจากฉู่เฉินกับเซี่ยฉีฉีเดินลับตาไป พวกลูกสมุนของจางไห่หยางถึงค่อยพุ่งตัวเข้ามาตบหน้าอกตบหลังอยู่นาน กว่าจางไห่หยางจะได้สติ“อ๊าก…เชี่ย… เชี่ยเอ๊ย เจ็บฉิบหาย…”จางไห่หยางที่เพิ่งฟื้นส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือด“คุณชายจาง ไม่เป็นไรใช่ไหม…”พวกลูกสมุนต่างทำอะไรไม่ถูกสภาพของจางไห่หยางตอนนี้ค่อนข้างน่าอนาถ ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด ขาสองข้างก็หักหมด ถึงขั้นที่กระดูกโผล่ออกมาข้างนอก สภาพสยดสยองจนไม่กล้ามอง“เชี่ยแม่ง! แกว่าฉันดูไม่เป็นไรหรือเปล่าล่ะ แม่งรีบโทรหาโรงบาลสิโว้ย ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”จางไห่หยางด่ากราดไม่ยั้งไอ้พวกหน้าโง่ไร้สมอง ไม่เห็นเหรอว่าขาเขาหักหมดแล้ว?ยังมีหน้ามาถามว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า?“ครับๆๆ ผมจะโทรเดี๋ยวนี้ โทรเดี๋ยวนี้เลย!”ลูกสมุนคนนั้นรีบควักโทรศัพท์ออกมาโทรศัพท์หาโรงพยาบาลทันที……ในอีกด้านหนึ่ง โจวฉีหลินที่นั่งอยู่ในรถสั่งคนขับรถด้วยสีหน้าลนลาน “เร็วเข้า…กลับมณฑล บอกคนที่บ้านว่ารีบเก็บข้าวของ เราต้องออกจากเมืองเจียงจงคืนนี้เลย”ได้ยินอย่างนั้น พวกลูกศิษย์ของโจวฉีหลินพูดอย่างไม่เข้าใจ “อาจารย์ นี่อาจารย์
เวลานี้ หลิ่วหรูเยียนกำลังแช่ตัวอยู่ในห้องอาบน้ำ หยดน้ำสาดกระเซ็น ทรวงอกเอิบอิ่มคู่นั้นโผล่พ้นผิวน้ำวับๆ แวมๆ ตามจังหวะคลื่นน้ำขณะที่ในใจกำลังคิดคำนวณว่าจะทำอย่างไรให้ฉู่เฉินขายหน้าในการแข่งขันแพทย์แผนจีน จู่ๆ โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นหลี่จวิ้นเฟิงโทรศัพท์มา หลิ่วหรูจึงรับสายอย่างเบื่อหน่ายถ้าไม่ใช่เพราะยังต้องพึ่งพาเขาในการแข่งขันแพทย์แผนจีน หลิ่วหรูเยียนไม่อยากสนใจหลี่จวิ้นเฟิงด้วยซ้ำ“คุณหลี่ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”หลิ่วหรูเยียนข่มกลั้นความเกลียดชังที่มีต่อหลี่จวิ้นเฟิง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“คุณหลิ่ว ผมมีข่าวดีจะบอกคุณ”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ข่าวดี? ข่าวดีอะไรกัน?”“คุณหลิ่วคงยังไม่รู้สินะครับ ไอ้แซ่ฉู่นั่นหักขาทั้งสองข้างของลูกชายประธานจางซื่อกรุ๊ป!”“ตอนนี้จางปินสั่งให้คนติดต่อกรมตำรวจไปแล้ว เดาว่าคงอีกไม่นาน ฉู่เฉินต้องได้ใช้ชีวิตที่เหลือเน่าตายในคุกแน่ๆ”หลี่จวิ้นเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงยินดีปรีดา“จริงเหรอคะ?”หลิ่วหรูเยียนได้ยินก็อดตื่นเต้นดีใจไม่ได้ เธอลุกขึ้นยืนในอ่างอาบน้ำ ทำให้เรือนร่างอันงดงามสมบูรณ์แบบเปลื
อีกทางด้านหนึ่ง ฉู่เฉินกับเซี่ยฉีฉีที่เพิ่งรับประทานอาหารกลางวันเสร็จก็จับมือกันค่อย ๆ เดินลงบันไดจากหอเซียงไช่บนชั้นสี่ของภัตตาคารเทียนเฟิ่ง เซี่ยฉีฉีถูกฉู่เฉินจูงมือเล็ก ๆ ไว้ ดวงหน้างามแดงก่ำ ราวกับมีกวางน้อยวิ่งพล่านอยู่ในอก เธอโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายขนาดนี้ “ฉะ...ฉู่เฉิน ตะ...ตอนนี้นายมีแฟนหรือยัง?” ขณะที่เซี่ยฉีฉีถามคำถามนี้ออกมา หัวใจก็กระดอนขึ้นมาถึงลำคอถึงอย่างไรฉู่เฉินในตอนนี้ก็ยอดเยี่ยมมากเกินไปจริง ๆ หลังจากที่ออกจากตระกูลฉู่แล้ว อย่าว่าแต่เขาก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเลย ดูเหมือนว่าเขายังสนิทสนมกับผู้จัดการภัตตาคารแห่งนี้มากด้วยบวกกับท่าทีของจางหลงที่เคารพนอบน้อมฉู่เฉินก็ดูออกไม่ยากว่าฉู่เฉินในตอนนี้ไม่ใช่คนไร้ค่าอย่างที่เล่าลือกันเลย ตรงกันข้ามเขาเป็นผู้มีอิทธิพลที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง สิ่งสำคัญคือฉู่เฉินยังหนุ่มยังแน่นและหล่อเหลาขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีสาว ๆ ตามจีบฉู่เฉินเลย?“อุ้ย ถ้าเกิดฉู่เฉินมีแฟนแล้วจะทำยังไงดี?” เซี่ยฉีฉีเพิ่งเอ่ยถามออกมาก็เริ่มนึกเสียใจแล้ว“ตอนนี้ยังไม่มี”ฉู่เฉินเอ่ยพลางยิ้มมองไปทางเซ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก