LOGIN“จากนี้ไป... เธออยู่ในการดูแลของผม ไม่มีใครแตะต้องเธอได้... ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม” ทุกคำพูดหนักแน่นจนทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบลง มีเพียงเสียงหัวใจของฉัน...ที่เต้นแรงจนแทบหลุดออกมา 💓
View Moreแสงแรกของรุ่งอรุณสาดลอดระหว่างตึกระฟ้า
ฉันยกกล้องขึ้น...แชะ แชะ แชะ
“เจ๋งมาก… ลิลิน”
เสียงพึมพำแผ่วเบา หลุดออกมาพร้อมรอยยิ้มบางบนใบหน้า ความภูมิใจอุ่นวาบในอก เหมือนแสงอาทิตย์ที่เพิ่งเริ่มทอบนดาดฟ้าของตึกสูงเด่น
เสียงรถราและฝูงชนด้านล่างประสานกันเป็นจังหวะชีวิตของเมืองใหญ่แต่สำหรับฉัน… ลิลิน ช่างภาพนักข่าวฟรีแลนซ์
สายตาและกล้องคู่ใจ มักเก็บเรื่องเล็ก ๆ ที่ใครหลายคนมองข้ามไปเพราะทุกภาพ…
ล้วนมีเรื่องเล่าของมันเสมอพ่อคือแรงบันดาลใจของฉัน
เขาทิ้งไว้เพียงความทรงจำและ กล้องตัวเก่า พร้อมกับคอนโดเล็ก ๆ ในย่านแออัดกลางใจเมือง ที่ฉันอาศัยอยู่กับแม่แม่มักเงียบ แต่ความรักของเธอ…อบอุ่นเหมือนมหานคร
บางครั้งสวยเกินจริง บางครั้งมืดมนและเหนื่อยล้า แต่เราสองคนสัญญากัน ว่าจะไม่ถอย แม้บิลค่าใช้จ่ายจะยาวเป็นหางว่าวจนวันหนึ่ง…เหมือนพระเจ้าจะยื่นแสงเล็ก ๆ เข้ามาในหัวใจของฉัน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พร้อมกับน้ำเสียงปลายสายที่ชัดเจน
“สวัสดีครับ คุณลิลินใช่ไหมครับ? ผมมาจากบริษัท Strite X เราต้องการคุณสำหรับ งานพิเศษ…ระดับประเทศ รายละเอียดจะส่งให้ทางอีเมลนะครับ รบกวนยืนยันกลับด้วย”นั่นคือ…จุดเริ่มต้น และเปลี่ยน ทุกสิ่ง
เมื่อใครบางคน… ก้าวเข้ามา แตะหัวใจฉันโดยไม่รู้ตัว***
เรื่องราวของ ลิลิน ช่างภาพสาวตัวเล็ก ๆ ค่ะ พ่อของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้เธอถ่ายภาพ เธอชอบมองโลกผ่านเลนส์กล้อง เพื่อเก็บความสวยงามและเรื่องราวชีวิตที่คนอื่นมักมองไม่เห็น ทุกภาพของเธอไม่ได้เป็นแค่ภาพสวย ๆ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก ทั้งรอยยิ้ม น้ำตา และความเหน็ดเหนื่อยของชีวิตแล้ววันหนึ่ง โชคชะตาก็นำพาเธอไปเจอกับ อารัญ อรันฟอร์ด หนุ่มผู้ทรงอิทธิพล ประธานบริษัท ทั้งหล่อ น่าหลงใหล และมีความลึกลับซ่อนอยู่ในสายตาคม เขายืนหยัดปกป้องเธออย่างไม่หวั่นไหว เรื่องราวของคนสองโลกที่แตกต่างกันจึงเริ่มขึ้น เต็มไปด้วยแสงไฟ ความตึงเครียด ความลึกลับ และความสวยงามแบบโรแมนซ์หรู ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ 🥰
ทุกคอมเมนต์ ทุกไลก์ และทุกการติดตาม คือแรงใจสำคัญที่ทำให้ผู้เขียนอยากเล่าเรื่องต่อไปค่ะถ้าอยากเห็นเมืองใหญ่ แสงสี และความรัก ผ่านสายตาของลิลิน กดติดตามไว้เลย แล้วเราจะได้ไปสัมผัสเรื่องราวเหล่านี้ด้วยกัน ✨ติดตามลิลิน… และอารัญ แล้วคุณจะได้พบกับความโรแมนซ์หรู ระยิบระยับเหนือกาลเวลา ที่ทั้งน่าหลงใหลและตราตรึงใจค่ะอย่าลืมเพิ่มลงคลังและกดติดตามไว้ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวเข้มข้น จนถึงตอนสุดท้าย
ขอบคุณทุกคนจากใจจริงค่ะ 💖“ลิลิน… ดูแลตัวเองนะลูก”น้ำเสียงสั่นเครือของแม่ แทรกขึ้นมาจากลำคอ..ยังคงดังก้องอยู่.ในอกของฉัน ไม่จาง แม้เวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตามเช้าวันนี้คือวันแรกในฐานะ ช่างภาพและนักข่าวฟรีแลนซ์ของ StrideXฉันในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีอ่อน สอดชายไว้ในกระโปรงยาวผ้าลินินสีเทาเข้ม ปลายกระโปรงพลิ้วเบาเมื่อสายลมพัด รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาลเข้ม ฉันยืดหลังตรง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ปลายนิ้วเลื่อนไปสัมผัสกล้องราวกับย้ำเตือนตัวเองให้มั่นใจ เพื่อจะก้าวเท้าเข้าสู่โลกอีกใบ โลกที่เต็มไปด้วยความหรูหรา อำนาจ และความคาดหวังที่สูงลิ่วเบื้องหน้า ตึกกระจกสูงเสียดฟ้า เหนือถนนสะท้อนแสงแดดจ้า ราวกับประกาศความรุ่งโรจน์และอำนาจที่ไม่มีใครเทียบ ชายหญิงในชุดสูทเรียบเคลื่อนไหวเป็นระบบ “คนในที่นี่หน้าไม่รับแขกเลย…” ฉันพึมพำกับตัวเอง ขณะกวาดตามองผู้คนที่เดินสวนไปมา สูทเรียบหรู ผมเกล้าตึง และท่าทีเย็นชาราวกับทุกคนถูกฝึกให้ปิดอารมณ์ไว้หลังใบหน้าเรียบเฉยแสงไฟจากโถงใหญ่ส่องกระทบพื้นหินอ่อนจนมันวาว เงาของผู้คนซ้อนทับกันเป็นริ้วๆ ดูราวกับกระจกเงาที่สะท้อนโลกอีกใบโต๊ะประชุมยาวเรียงรายด้วยเอกสารและแก้วคริสตัล ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
แสงยามเช้าสาดลอดผ่านผ้าม่านบาง เฉือนผ่านเงามืดที่ยังหลงเหลือจากค่ำคืนแห่งความวุ่นวาย…ฉันขยับเปลือกตา เสียงไอ ค๊อก ๆ แค๊ก ๆ ของแม่ดังแผ่วออกมาจากโซนด้านนอก ความห่วงใยแทรกขึ้นในอก ดึงให้ฉันลุกออกจากเตียงกาน้ำร้อนบนเคาน์เตอร์ส่งไอน้ำพวยพุ่ง สายน้ำชารินลงถ้วยเป็นเส้นแสงอ่อนในอากาศ กลิ่นชาหอมอุ่นลอยคลุ้ง ไอร้อนลอยแตะปลายคางของแม่ที่ก้มอยู่ เสื้อคาร์ดิแกนสีอ่อนของท่านดูเปราะบางกว่าทุกเช้าที่ผ่านมา“แม่คะ” ฉันเอ่ยเสียงนุ่ม พลางวางมือลงบนแผ่นหลังท่านอย่างอ่อนโยน แล้วพยุงแม่นั่งบนโซฟายาวในมุมนั่งเล่น ค่อยๆทรุดตัวลงเคียงข้าง แนบศีรษะกับแขนเล็ก ปลายนิ้วแตะเอวบางเบา ๆ“แม่นอนไม่ค่อยหลับจ้ะ…เมื่อคืนลูกกลับดึกจนแม่ตกใจ” เสียงแม่แผ่วพร่า คล้ายความเหนื่อยล้าที่เกาะอยู่ในลำคอ “หนูขอโทษค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะ แค่เรื่องงานนิดหน่อยเอง”แม่ยกชาขึ้นจิบชาช้า ๆ แล้ววางถ้วยลงด้วยมือสั่นเล็กๆ จากนั้นหันมองรูปถ่ายของพ่อในกรอบไม้ข้างตัว ด้วยแววตาอ่อนโยน… แต่ซ่อนความหม่นเศร้าที่เห็นได้ชัด“อย่าพาตัวเองไปยุ่งกับเรื่องของคนพวกนั้นก็พอ…” คำเตือนของแม่ทำให้หัวใจฉันสะดุด ท่านไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นสักนิด แต่เหม
ฉันมองตามแผ่นหลังของเธออย่างพินิจวิเคราะห์ ความสง่างามนั้นไม่อาจกลบความลึกลับที่แผ่ออกมาได้เลยเธอคือ ‘อเล็กซี่’ อายุ 34 ปี อดีตนักข่าวสาย Corporate มือหนึ่งของสำนักข่าวใหญ่หลายแห่ง ผู้สร้างชื่อจากบทความเชิงสืบสวนที่เขย่าวงการธุรกิจและการเมืองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนฉันเคยอ่านบทความของเธอบนเว็บไซต์ส่วนตัวที่มีผู้ติดตามเป็นแสน ถ้อยคำของเธอเฉียบคม เย็นชา และจริงเกินกว่าจะเป็นเพียงข่าว มันคือการเปิดโปงสายตาแบบนั้น… ฉันจำได้ดี เป็นสายตาของคนที่มองโลกเหมือนสนามล่าแต่คืนนี้ เธอไม่ได้ถือกล้อง หรือไมค์จ่อปากใครเธอสวมชุดราตรีสีน้ำเงินระยับ ท่ามกลางเหล่าผู้บริหารและนักลงทุนในงานกาล่าหรู เธอมาในฐานะอะไร? ผู้สังเกตการณ์? แขกของใครบางคน?เธอมีแผนอะไรอยู่กันแน่…?คำถามนั้นวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด ขณะที่ดวงตากลมของฉันยังคงจ้องตามร่างในชุดราตรีสีน้ำเงิน…จนกระทั่งเธอค่อย ๆ เลือนหายไปท่ามกลางฝูงแขกที่เคลื่อนไหวราวเกลียวคลื่นแห่งความหรูหรา.“คุณ ลิลินคะ”เสียงนุ่มละมุนของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากด้านข้าง ดึงฉันให้หันกลับมา เธอสวมเดรสเกาะอกเลื่อมประดับเพชรระยับ แสงไฟสะท้อนเล่นกับอัญมณีจนแทบแสบตา ถุงมื
เที่ยงตรงเป๊ะตามนัดฉันในสูทเข้ารูปสีเข้มแนบลำตัว กางเกงขายาวรีดกลีบคม รองเท้าหนังสีดำขัดจนเงาวับ ทุกอย่างดูเรียบร้อย สมบูรณ์แบบในแบบมืออาชีพทว่าในอกกลับเต็มไปด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นถี่ แผ่วเบาราวระลอกคลื่นใต้น้ำ ซึ่งฉันพยายามซ่อนมันไว้หลังดวงตากลมโตที่ไม่สั่นไหวฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นิ้วแตะกระเป๋ากล้องคาดลำตัว พลังใจค่อย ๆ แทรกซึมขึ้นมาพร้อมลมหายใจ กับความเชื่อมั่นที่เอ่อล้นในอกเบื้องหน้า คือโรงแรมสูงระฟ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา กระจกใสสะท้อนแสงเที่ยงวันระยิบระยับเหมือนแผ่นฟิล์มต้องแดดประตูหมุนค่อย ๆ เปิดรับผู้มาเยือน ฉันก้าวเข้าไปด้วยความมั่นใจ ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศพัดผ่านผิวหน้า กลิ่นน้ำหอ
ฉันลืมตาขึ้นก่อนฟ้าสาง..เสียงเอะอะโวยวายจากซอยด้านล่างดังทะลุขึ้นมาถึงชั้นสองของคอนโด แสงนีออนจากป้ายโฆษณาริมทางด่วนลอดผ่านม่านขาวบางพาดแถบแสงลงบนผ้าห่มอย่างแผ่วเบาฉันพลิกตัว ลุกขึ้นไปยืนที่หน้าต่าง มือค่อย ๆ เลื่อนม่าน เปิดบานเกร็ดกระจกออก ทอดมองเบื้องล่างคือภาพชีวิตในตรอกแคบกลางกรุง หญิงสาวในชุดเดรสเกาะอกสีดำเดินอย่างอ่อนแรงผ่านหน้าร้านสะดวกซื้อ ไม่ไกลกัน ชายไร้บ้านนอนขดอยู่บนพื้น มีสุนัขตัวหนึ่งเฝ้าอยู่ข้างกายแสงนีออนจากป้ายริมถนนสะท้อนบนใบหน้าของหญิงอีกคนในชุดวาบวาม เธอยืนพิงเสาไฟอย่างเงียบงัน เหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง บางอย่าง...ที่อาจไม่มีวันมาถึงประกายในหัวเริ่มก่อรูปเป็นภาพชัดเจน ฉันเอื้อมมือคว้ากล้องคู่ใจ ปลายนิ้วแตะเนื้อโลหะเย็นเฉียบ สัมผัสคุ้นเคยที่ปลุกให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกับลมหายใจยกกล้องขึ้นแนบตา ผ่านกรอบชัตเตอร์ โลกทั้งใบหดเหลือเพียงภาพตรงหน้าหญิงสาวในชุดดำยืนพิงเสาไฟ แสงนีออนสีชมพูทอดแถบแสงอ่อนบนไหล่เปลือยของเธอ ชายเร่ร่อนใต้ผ้าห่มเก่าขาดขยับตัวเล็กน้อย ร่างสั่นสะท้านกับอากาศเย็นใกล้รุ่ง ไอร้อนจากฝาท่อค่อย ๆ ลอยขึ้นเป็นหมอกบาง ตัดผ่านขอบเลนส์อย่
🌟 หนึ่งสัปดาห์ก่อน คาเฟ่หรูกลางใจเมือง เสียงกาแฟบดกับเครื่องชงดังคลอเบา ๆ“ลิลิน แกไม่หางานประจำทำบ้างล่ะ งานฟรีแลนซ์รายได้ไม่แน่นอนนะ”แนนซี่ เพื่อนสนิทสมัยมัธยมปลายของฉัน นั่งหลังตรงอยู่ตรงข้าม นิ้วเรียวยาวเล็บสีแดงเด่นยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะวางถ้วยลง แล้วขยี้คำพูดต่อด้วยน้ำเสียงกวน ๆ “หรือไม่ก็…หาผู้ชายรวย ๆ สักคนดูสิ”ฉันเลิกคิ้ว ตอบกลับไปอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ตลกนะ แนนซี่”“โอ๊ย ฉันพูดเล่นน่า… อย่าทำหน้าเหมือนเพิ่ง
Comments