หลี่คลื่นยักษ์แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยารู้ไหมว่าเธอยอมพลีกายไปให้เขาไปแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยได้สัมผัสความสัมพันธ์แบบที่ฟางอวี่เจิ้งทำกับฉู่เฉินเลยแม้แต่กู้รั่วเสวี่ยก็คิดไม่ถึงว่า ระยะเวลากินข้าวเพียงสั้นๆ ฉู่เฉินและฟางอวี่เจิ้งจะกลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานได้ นี่มันน่าทึ่งมากจริงๆแต่เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ กู้รั่วเสวี่ยก็ยิ่งมีความรู้สึกดีๆ ต่อฉู่เฉินตอนแรกเธอคิดแค่ว่าฉู่เฉินไม่เหมือนใครแต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าฉู่เฉินถูกกำหนดไว้ให้ยิ่งใหญ่ และจะมีชื่อเสียงและความสำเร็จในเร็วๆ นี้!ดังนั้นความรู้สึกดีๆ ที่กู้รั่วเสวี่ยมีต่อฉู่เฉินนั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตอนนั้นเอง หลี่คลื่นยักษ์ที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักกู้รั่วเสวี่ยเบาๆ เธอโน้มตัวเข้าไปข้างหูกู้รั่วเสวี่ยแล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณกู้คะ รบกวนขอช่องทางการติดต่อของคุณฉู่ให้ฉันได้ไหมคะ?”“คุณอย่าเข้าใจผิดไปนะคะ นี่เป็นความประสงค์ของประธานฟาง เมื่อกี้คุณฉู่ก็พูดไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ จำเป็นต้องรักษาให้ถึงรากลึก อีกทั้งยังต้องกินยาบำรุงวิญญาณอะไรนั่นอีกไม่ใช่หรือคะ?”“คุณก็รู้นี่คะ ว่าเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ประธานฟางเขาไม่กล้าออกหน้าหรอกค่ะ
อีกด้านหนึ่ง กู้รั่วเสวี่ยก็ส่งฉู่เฉินกลับบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ หลังจากนั้นเธอก็ขับเข้าไปในเมืองหลวงเพื่อจัดการงานในบริษัทของเธอฉู่เฉินบอกลากู้รั่วเสวี่ย เขากำลังจะไปที่บริษัทเพื่อตรวจดูว่าร่างกายของกวนเหล่ยฟื้นฟูถึงไหนแล้วคราวที่แล้วมันก็น่าตื่นเต้นจริงๆ นะ เขาว่ายัยเด็กน้อยนั่นคงจะตกใจน่าดูฉู่เฉินยังไม่ทันออกจากประตูก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา“ฮัลโหล? คุณฉู่ใช่ไหมคะ?”ปลายสาย มีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมาฉู่เฉินขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาจำได้ว่าเขาไม่ได้โทรไปหาใครมั่วซั่วนะ?มีคนต้องการทำธุรกิจเลยติดต่อเขามางั้นเหรอ?“คุณคือ...”ฉู่เฉินขมวดคิ้วถามขึ้นมา“ฉันหลี่จิงจิงไงคะ คุณฉู่ผู้สูงส่งนี่ขี้ลืมจริงๆ นะคะ เมื่อกี้เรานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกันไงคะ”อ้อ!ฉู่เฉินพึ่งจะนึกออก นึกตั้งนานที่แท้ก็หลี่คลื่นยักษ์นี่เอง ว่าแต่เธอมีช่องทางการติดต่อของเขาได้อย่างไร?ฉู่เฉินเต็มไปด้วยความสับสน ถามขึ้นมาอย่างใจเย็นว่า “ผู้อำนวยการหลี่มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”“คุณฉู่ ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอคะว่าประธานฟางยังต้องกินยาบำรุงวิญญาณอะไรนั่นอีก? ไม่ทราบว่าคุณจะสะดวกไหมคะ ถ้าฉันจะขอรายล
เฟอร์นิเจอร์การตกแต่งต่างๆ ในห้องนั้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครลูกโป่งสีชมพูลูกใหญ่ถูกวางไว้ที่ที่วางตรงกลางห้อง ข้างๆ ลูกโป่งยังเปลอีกด้วยเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ เปลนั้นเป็นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์มาก เก้าอี้นั้นถูกแบ่งเป็นสองชั้นบนและล่าง ชั้นเป็นรูอาจจะเพราะมีเด็กซนมาทำทิ้งไว้ข้างๆ เตียงไม่ได้วางดอกกุหลาบไว้ แต่กลับเป็นของที่ลักษณะเหมือนสว่านไฟฟ้า เพียงแต่ว่าหัวของสว่านนั้นมีลักษณะที่แปลกประหลาด หากเทียบเคียงรูปร่างต่างๆ แล้วน่าจะเล็กกว่าของฉู่เฉินไปมากเลยล่ะเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่ามีไว้ทำอะไรในส่วนของวอลล์เปเปอร์บนผนังล้วนแต่เป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ทำให้ผู้คนเขินอายเมื่อมองไปมีทั้งคนผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า และคนผิวสีแทน ทุกตัวมีสีหน้าแสดงออกแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดล้วนเน้นธีมเดียวกัน นั่นก็คือการล่อลวง!“ผู้อำนวยการหลี่ลงโทษคนไปแล้วกี่คนครับ?”ฉู่เฉินมองไปที่แส้สีดำแล้วหยิบขึ้นมา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่จิงจิงหัวเราะคิกคัก หลังจากนั้นเธอก็หยิบแส้จากมือของฉู่เฉินโยนทิ้งไปอีกด้าน พูดขึ้นมาอย่างเหนียมอายว่า “นอกจากคุณ ฉันก็ไม่เคยมาที่แบบนี้กับคนอื่นมาก่อนค่ะ”เอ๋?
รู้ไหมว่าแรงจับของหลี่จิงจิงนั้นกำลังพอดีเลยในระหว่างที่เธอจับไว้นั้น สามารถทำให้วิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ในร่างกายของฉู่เฉินโคจรขึ้นมาได้ในขณะที่พลังวิญญาณหมุนเวียนอยู่ในร่างกายของเขา ก็มีหมอกสีขาวบางๆ ลอยขึ้นมาจากทะเลปราณที่ว่างเปล่า ฟื้นฟูพลังของเขากลับมาได้เกือบหนึ่งในสิบไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนมักพูดว่าเด็กสาวไม่ดีเท่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ครั้งนี้ฉู่เฉินเข้าใจความหมายนั้นอย่างถ่องแท้แล้วผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะรู้วิธีที่จะดูแลผู้อื่น“ถ้าคนในโรงพยาบาลของพวกคุณมีคนดีแบบคุณคงจะดีไม่น้อย”ฉู่เฉินยิ้มอย่างซุกซนและจั๊กจี้เอวของหลี่จิงจิงหลายครั้ง เธออุทานอย่างออนอ้อน ลูบกล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแรงของฉู่เฉินและพูดว่า “ไปไกลๆ เลยนะ”“มีเรื่องอะไรก็รีบพูดตอนฉันอารมณ์ดีเถอะค่ะ”ทันทีที่เธอพูดจบ หลี่จิงจิงก็เริ่มกดฉู่เฉินลงใต้ตัวเธอ โดยทำท่าเป็นผู้พิชิตขณะที่เธอพูด“โรงพยาบาลของคุณมีคนไข้ที่ชื่อจางไห่หยางใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินรีบเข้าประเด็นหลักจางไห่หยาง?หลี่จิงจิงบิดสะโพกไปมาเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นท่าทีที่สบายตัว กล่าวขึ้นมาอย่างครุ่นคิดว่า “เหมือนจะมีนะคะ อ้อแล้วฉันก็ไ
ยัยผู้หญิงคนนี้ยังเด็กอยู่เลย และมีวิสัยทัศน์สูงเสียดฟ้า โดยปกติแล้วแม้แต่ผู้อำนวยการหลี่ก็ไม่เคยอยู่ในสายตาเธอเลย หลี่จิงจิงกำลังอยากจะสั่งสอนเจ้าเด็กที่ดื้อรั้นและไม่เชื่อฟังอยู่พอดี ในขณะที่เธอกำลังจะนอนหลับนั้นก็มีใครบางคนยื่นหมอนมาให้เธอทั้งสามารถทำให้ฉู่เฉินพอใจ อีกทั้งยังสามารถสั่งสอนยัยเด็กนั่นได้อีกด้วย นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว“อืม ผมอยากเห็นความสำเร็จเร็วๆ นะครับ”ฉู่เฉินพูดจบก็ลุกขึ้นมาจากเตียง มองไปที่เปลที่ห้อยอยู่ข้างๆ “อันนี้เอาไว้ทำอะไรเหรอครับ?”“เอาไว้เอาฉันค่ะ!”หลี่จิงจิงตบหน้าฉู่เฉินด้วยรอยยิ้มอันหวานหยดย้อย หลังจากนั้นเธอก็บิดสะโพกอวบอั๋นของเธอ ก้าวลงมาจากเตียง สอดต้นขาที่อวบอิ่มและสวยงามของเธอเข้าไปในถุงน่อง จากนั้นก็นั่งลงบนเปลแล้วแกว่งไปแกว่งมาฉู่เฉินเข้าใจในทันทีบอกไว้เลยนะว่าสติปัญญาของมนุษย์นั้นไร้ขอบเขตสิ่งเดียวที่ทำให้ฉู่เฉินรู้สึกไม่พอใจคือคุณภาพของเปลที่ไม่ดี ตอนที่เปลกำลังแกว่งไปมาก็จะส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แม้ว่าจะเคลื่อนไหวแค่เล็กน้อยก็ตามยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่หลี่จิงจิงกำลังปลดปล่อยอย่างเต็มที่ เสียงร้องกังวานของเธอก็ผสมผสานกั
อีกด้านหนึ่ง แพทย์สภาเจียงจง ห้องทำงานของฝ่ายบริหารการตลาดยังคงเปิดไฟไว้สว่างหญิงวัยกลางคน อายุราวๆ สามสิบเอ็ดถึงสามสิบสองปี สวมเครื่องแบบสีขาวและปล่อยผมยาวคลุมไหล่ กำลังอ่านเอกสารเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนบริษัทซินฉู่ฟาร์มาติคอลในมืออย่างตั้งใจเธอคือเจียงอิ่ง หัวหน้าฝ่ายสาวสวยผู้มีชื่อเสียงแห่งแพทย์สภาเจียงจงวันนี้ตอนบ่ายเธอได้รับสายจากหลี่จวิ้นเฟิง ขอร้องให้เธอช่วยปรับปรุงบริษัทใหม่ที่ชื่อว่าซินฉู่ฟาร์มาติคอลตอนแรกเจียงอิ่งไม่อยากจะตอบตกลงสักเท่าไหร่แต่ว่าเธอติดหนี้บุญคุณหลี่จวิ้นเฟิงไว้ หากไม่ใช่เพราะเขา โรคข้อเข่าเสื่อมของเธอก็คงจะก่อกวนเธอจนถึงตอนนี้พอลองพิจารณาดูแล้ว เจียงอิ่งจึงทำได้แค่พยักหน้าตอบรับแต่ถึงอย่างไร เธอก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย และไม่สามารถแทรกแซงองค์กรที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายของโดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นเธอจึงได้รับเอกสารทั้งหมดจากซินฉู่ฟาร์มาติคอลมา“ซู๊ด”เจียงอิ่งหันศีรษะเล็กน้อยแล้วกัดหลอดชานมเข้าไปอย่างจัง พร้อมทั้งให้รางวัลตัวเองด้วยการจิบชานมที่ทั้งหวานและอร่อยเพียงแต่ว่าการกระทำที่แสนธรรมดาของเธอนี้ กลับทำให้เหล่าเพื่อนร่วมงานที่กำลังเดินผ่
ประตูรถถูกเปิดออก หญิงสาวรูปร่างเพรียวบางในชุดเครื่องแบบสีขาวราวกับหิมะและหมวกสีขาวใบเล็ก ผิวของเธอขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะ กล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาชายที่อยู่ข้างหลังเธอว่า “ปิดอาคารทำงานของบริษัทซินฉู่ฟาร์มาติคอลให้หมด!”หลังจากที่เธอพูดจบ คนจำนวนนับสิบคนในชุดเครื่องแบบสีขาวรุมกันวิ่งเข้าไปในห้องโถงของอาคารผ่านไปไม่นาน เขตอาคารทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอลทั้งหมดก็ถูกเหล่าคนในชุดเครื่องแบบสีขาวล้อมไว้“พวกคุณจะทำอะไร? มีสิทธิ์อะไรมาปิดห้องทำงานของพวกเรา!”กวนเหล่ยที่พึ่งเลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยประธานได้ไม่นานก็ออกโรงก่อนเป็นคนแรก หน้าอกที่อวบอั๋น ถามขึ้นมาด้วยความมั่นใจเจียงอิ่งเอามือทั้งสองข้างไพล่หลังไว้ เจียงอิงสวมรองเท้าหนังสีดำและเดินอย่างช้าๆ ท่ามกลางฝูงชนและมองไปที่กวนเหล่ยแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันมีเหตุผลที่จะสงสัยว่าบริษัทของพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน!”“ดังนั้นการปิดกั้นอาคารสำนักงานของบริษัทของพวกคุณเพื่อการตรวจสอบตามปกติจึงถือเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายค่ะ”“อีกอย่างแจ้งให้เจ้านายของบริษัทพวกคุณด้วยนะคะว่าภายในครึ่งชั่วโมงให้รีบมายังห้องประชุมของบริษัท ไม่อย่างนั้นหากตราประ
ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง เขาก็ผละตัวออกมาจากกู้รั่วเสวี่ยกู้รั่วเสวี่ยสัมผัสได้ว่าข้างกายของเธอว่างเปล่า เธอจึงขมวดคิ้วถามขึ้นมาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?”ฉู่เฉินส่งเสียงพึมพำในลำคอ พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่เจียงอิ่งพาคนมาปิดซินฉู่ฟาร์มาติคอลให้เธอฟังอีกครั้ง“อะไรนะคะ? ปิดล้อมเหรอคะ?”กู้รั่วเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว หลังจากนั้นเธอก็ยื่นมือเข้าไปรั้งฉู่เฉินแล้วเอ่ยว่า “พี่อย่าหุนหันไปนะคะ ตอนนี้กิจการเดียวที่ซินฉู่ฟาร์มาติคอลมีก็คือยาบำรุงปราณนะคะ”“พี่เคยยื่นเรื่องขอใบอนุญาตจำหน่ายแล้วหรือยังคะ?ยาใหม่ทุกตัวต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขึ้นทะเบียนและจำหน่ายอย่างเคร่งครัด ขั้นแรกต้องมีรายงานการทดลองทางการแพทย์ และใบอนุญาตจำหน่ายสองสิ่งนี้ขาดไม่ได้แม้ว่าใบอนุญาตจะมีโจวเทียนเฟิ่งจัดการให้แล้ว แต่ในมือของฉู่เฉินไม่มีรายงานการทดลองทางการแพทย์นี่เป็นจุดที่ฉู่เฉินจะโดนเล่นงาน“ใบอนุญาตอะไรก็ช่างมัน ใครหน้าไหนที่กล้ามาปิดบริษัทของผม คนคนนั้นก็โชคร้ายอย่างแรงแล้วล่ะ!”พูดจบฉู่เฉินก็สวมเสื้อผ้า รีบออกไปจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เขารีบขับรถมุ่งตรงไปยังอาคารทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอลกู้รั่ว
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก