“ฮ่าๆๆ!”พวกอันธพาลต่างพากันหัวเราะ ทำเอาถังเจียวเจียวโกรธจนหน้าซีดเซียว ด่าขึ้นมาว่า “แก พวกแกมันหน้าไม่อาย!”“คนสวย จะบอกความจริงให้พวกเธอนะ ที่นี่แจ้งความไปก็ไม่มีประโยชน์ หากไม่อยากทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้ ก็เชื่อฟังแล้วไปแช่ออนเซ็นกับพี่เป้าของพวกเราซะดีๆ”“พี่เป้าของพวกเราเป็นคนใจกว้าง ขอเพียงแค่พวกเธอทำให้พอใจ กระเป๋าแบรนด์เนมเอย อยากได้อะไรก็จะได้”หัวทองหนึ่งในนั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ“ถุย! ใครอยากได้กระเป๋าจากเขากัน! ไสหัวไปนะ!”กู้รั่วเสวี่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ทว่าอันธพาลพวกนั้นกลับไม่ยอมหลีกทางให้ ไม่พอยังก้าวมาข้างหน้าอีกหลายก้าว สิ่งนี้ทำให้กู้รั่วเสวี่ยต้องถอยกลับไปสองสามก้าว จนโซซัดโซเซเกือบจะล้มลงยังดีที่ฉู่เฉินโอบเอวเล็กของกู้รั่วเสวี่ยไว้ทัน หลังจากนั้นเขาก็ไปบังข้างหน้าสองสาวเอาไว้ พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันให้เวลาพวกแกสิบวินาที หายไปจากหน้าฉันเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นละก็ผลลัพธ์ที่ตามมาพวกแกก็รับผิดชอบเองนะ!”“อะไรนะ? ไอ้หนุ่มแกพูดอีกรอบสิ?”หัวทองเอียงหัว ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจถึงขนาดยืนมือ ใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าอกพ
“ได้! ไอ้เวร แกอย่าได้เสียใจทีหลังล่ะ!”หลินเป้าตะโกนขึ้นมาอย่างดุเดือด ควักโทรศัพท์ออกมา กดสายไปยังเบอร์หนึ่ง“ฮัลโหล พี่หู่ นี่ผมเองอาเป้า ผมกับพวกลูกน้องถูกคนทำร้ายอยู่ที่คลับน้ำพุร้อนอวี้หลง พี่รีบพาคนมาหน่อยครับ”ด้านปลายสายจงอาหู่เพิ่งออกมาจากคฤหาสน์ของโจวเทียนเฟิ่ง ขึ้นรถก็กดรับสาย ใบหน้าของเขาเข้มขึ้น ใบหน้าดำมืด กล่าวอย่าไม่พอใจว่า “แกว่าอะไรนะ? แกโดนทำร้ายงั้นเหรอ? แกไม่ได้บอกว่าแกเป็นคนของสำนักเฟิ่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นคนของจงอาหู่เหรอ?”“บอกแล้วครับพี่หู่ แต่ว่าฝั่งตรงข้ามมันกำแหงมากครับ มันไม่เห็นสำนักเฟิ่งกับพี่อยู่ในสายตาเลย” หลินเป้าถลึงตาใส่ฉู่เฉินพร้อมกับพูดไปด้วย“แม่งเอ๊ย! ได้ ฉันรับรู้แล้ว รออีกสักพักเดี๋ยวฉันก็จะถึงแล้ว!” จงอาหู่พูดด้วยความโมโห วางสายไป เรียกเหล่าลูกน้อง เหยียบคันเร่งบึ่งไปยังคลับน้ำพุร้อนอวี้หลงภายในล็อบบีน้ำพุร้อนอวี้หลงหลินเป้าจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาที่เยาะเย้ยที่น่ากลัวที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา และตะโกนว่า “ไอ้น้อง ฉันจะบอกแกให้นะ แกไม่รอดแน่! รอให้พี่หู่ของพวกฉันมาถึงเถอะ แกได้เจอดีแน่!”“ถ้าเข้าใจสถานการณ์แล้วก็รีบคุกเข่ากราบขอโท
เสียงนี้ทำไมมันดูคุ้นหูแบบนี้นะ?อีกทั้งมองไปยังคนตรงหน้าที่หันมาอย่างช้าๆ รูปร่างนั่น ใบหน้าด้านข้างนั่น ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้นตาเมื่อถึงตอนที่ฉู่เฉินหันใบหน้าทั้งหมดมาที่พวกเขา จงอาหู่กลับตกตะลึงจนตัวสั่น สีหน้าซีดเซียว!“คุ คุณฉู่?!”จงอาหู่กลัวจนฉี่เล็ดเขาคิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นฉู่เฉิน!“จงอาหู่ นายจะจัดการฉันเหรอ?” ฉู่เฉินถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มจงอาหู่กลัวจนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ รีบวิ่งเข้าไป โค้งคำนับยิ้มพร้อมพูดว่า “คุณฉู่ คุณก็พูดไป ผมไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ครับ” ทางด้านหลินเป้าและคนอื่นอึ้งไปหมดเกิดอะไรขึ้น?ทำไมพี่หู่ถึงก้มหัวให้กับไอ้เด็กนั่น อีกอย่างดูๆ ไปเหมือนเขาจะกลัวมากๆ ด้วย“พี่หู่ พี่ทำอะไรน่ะ? ไอ้นี่แหละที่มันทำร้ายพวกเรา พี่รีบจัดการสั่งสอนพวกมันแทนพวกเราเร็ว” หลินเป้าตะโกนขึ้นมาจงอาหู่ได้ยินดังนั้น ก็หันร่างมา ก้าวเดินมา ถีบเข้าไปอย่างแรง หลินเป้าถูกเตะห่างออกไปสามหรือสี่เมตรด้วยเสียงปัง ล้มลงกับพื้นอย่างแรง และตะโกนด้วยความโกรธว่า “อวดดี! สั่งสอนคุณฉู่งั้นเหรอ? พวกแกไปเอาความกล้ามาจากไหน!”“ถึงพี่ใหญ่จะอยู่ที่นี่ เมื่อ
“พี่ฉู่เฉิน ชุดของฉันชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ?” กู้รั่วเสวี่ยจงใจเดินเข้าไปหาฉู่เฉิน หมุนตัว เผยให้เห็นแผ่นหลังที่ไร้ที่ติ และบั้นท้ายอมชมพูที่โค้งงอนความเด้งและความโค้งของบั้นท้ายนั้น มันช่างน่าทึ่งจริงๆผิวก็ขาวราวกับหิมะ“ฟู่...”ฉู่เฉินถอนหายใจเอาลมร้อนออกมา ร่างกายร้อนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แย่แล้วล่ะ!วิชาเก้าผันกลืนสวรรค์โคจรอัตโนมัติแล้ว“พี่ฉู่เฉิน พี่เป็นอะไรคะ? หน้าทำไมแดงขนาดนี้...”กู้รั่วเสวี่ยเห็นว่าสีหน้าของฉู่เฉินไม่สู้ดี ก็รีบถามขึ้นมาอย่างกังวล ยืนมือออกไปลูบเข้าที่หน้าของฉู่เฉิน ร้อนจนน่าตกใจ“พี่ฉู่เฉิน พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ พี่อย่าแกล้งฉันสิคะ? เป็นเพราะน้ำร้อนเกินไปเหรอคะ ฉันเติมน้ำเย็นให้พี่เพิ่มนะ” กู้รั่วเสวี่ยกังวลเป็นอย่างมาก รีบหันหลังไปปราณหยางในร่างกายของฉู่เฉินพุ่งกระฉูด จำเป็นต้องปลดปล่อยออกมาให้เร็วที่สุด เมื่อเห็นว่ากู้รั่วเสวี่ยกำลังจะออกไป เขาก็คว้าไหล่ของเธอไว้ คว้าเธอมาไว้ในอ้อมอก พูดขึ้นมาว่า “ผมต้องการให้คุณช่วย”“หา? ชะ ช่วยอย่างไรคะ?”กู้รั่วเสวี่ยราวกับกระต่ายน้อยที่ทำให้ตกใจ หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบสายตาฉู่เฉินเพราะว่าสายตาของเ
คำพูดของจินเอ้าเทียนสิ้นสุดลง ชายร่างกำยำห้าหรือหกคนในชุดฝึกวิชาก้าวมาข้างหน้า เพียงแค่ยื่นมือไปก็สามารถจับคอเสื้อของฉู่เฉินไว้ได้ฉู่เฉินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ยักคิ้วให้จินเอ้าเทียนแล้วพูดว่า “พวกแกเป็นใคร?”จินเอ้าเทียนพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวง แววตายั่วยุมองไปยังฉู่เฉิน แล้วขยับนิ้วพูดอย่างกำแหงว่า “ฉันเป็นใคร แกไม่ต้องรู้หรอก จัดการมัน!”เมื่อสิ้นเสียงนั้น ชายร่างกำยำสองคนก็พุ่งเข้าไปขวางฉู่เฉินไว้ข้างหลังส่วนชายสามคนที่เหลือก็ก้าวไปข้างหน้า ยืนสามมุมล้อมฉู่เฉินไว้โดยรอบ“ไอ้นี่ อย่าพล่ามให้มันมาก ยอมให้จับซะดีๆ แกจะได้เจ็บน้อยหน่อย!”หัวหน้าเป็นชายที่ซึ่งมีใบหน้าที่ดูแข็งแรง เหยียดฝ่ามือออกเหมือนพัดใบไม้ธูปฤาษี และกำลังจะคว้าแขนของชูเฉินไว้ข้างๆ เขามีชายใบหน้าดำแดง ในมือถือมีดสั้นไว้ในมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเยือกเย็นนั้นพุ่งเข้ามา หลังจากจับฉู่เฉินได้แล้ว เขาก็ตัดเอ็นมือและขาออกด้วยมีด“ปัง!”ก่อนที่หัวหน้าจะคว้าแขนของฉู่เฉิน เขาก็ได้ยินเสียงอู้อี้ดังออกมาวินาทีต่อมา ชายร่างกายสูงใหญ่กำยำสองเมตร น้ำหนักกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัม ก็ถลาออกมา!ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหั
เมื่อคำพูดนี้ได้เอ่ยออกไป จินเอ้าเทียนก็อดไม่ได้ที่จะโมโห จะหักมือทั้งสองข้างของเขางั้นเหรอ?ไอ้คนไร้ประโยชน์ฉู่เฉิน มันเอาความมั่นใจมาจากไหน!“แกไปตายซะ!”เมื่อคำพูดนี้จบลง จินเอ้าเทียนยังฝ่ามือขึ้นมา พุ่งตรงไปที่ส่วนศีรษะของฉู่เฉิน!ขอเพียงแค่หมัดนี้ต่อยโดน แม้ว่าศีรษะของฉู่เฉินจะไม่แบะออกมา แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต!ฉู่เฉินหรี่ตาสองข้าง ตามองไปที่ฝ่ามือของจินเอ้าเทียนที่ห่างจากส่วนศีรษะเขาไม่ถึงสามนิ้ว เขายกมือขึ้นมาทันทีปัง!หลังจากนั้นก็มีเสียงดังตามขึ้นมา ร่างร่างหนึ่งมีเลือดกระจายออกมา พร้อมกระเด็นไปข้างหลัง!ตึ่ง!จินเอ้าเทียนหล่นลงบนพื้นอย่างแรง เขามองไปที่ฉู่เฉินอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองฝ่ามือเมื่อครู่ เขาเหมือนกับการซัดขุนเขา แขนของเขาสั่น และเขาก็หมดสติไปช็อก!หวาดกลัว!นี่จะเป็นคนไร้ประโยชน์ได้อย่างไร?นี่มันปรมาจารย์ยุทธ์ชัดๆ !หลิ่วหรูเยียนนังเลว กล้าหลอกฉันเหรอ!แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียใจ แต่จินเอ้าเทียนจะมาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะ!ฉู่เฉินไม่รีรอให้เขาลุกขึ้นมาจากพื้น ฉู่เฉินยกเท้าขึ้นมาเหยียบที่หน้าอกของเขา พละกำลังเฉกเช่นภูผา ทันทีที่ถ
“มันจะเป็นใครได้อีกล่ะคะ มันก็ต้องเป็นฉู่เฉินคนไร้ประโยชน์นั่นไงคะ!”เมื่อพูดถึงตอนนี้ ในดวงตาของหลิ่วหรูเยียนก็ฉายแววตาเกลียดชังออกมาเมื่อนึกถึงฉู่เฉินคนไร้ประโยชน์นั่น บังอาจให้เธอคุกเข่าโขกหัวขอโทษ ในใจของหลิ่วหรูเยียนเต็มไปด้วยความโกรธอย่างไรก็ตามหลังจากดูเวลาแล้ว ฉู่เฉินก็น่าจะไม่รอดแล้วล่ะ น่าจะโดนคุณจินหักมือเท้าใช่ไหม?เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อารมณ์ของหลิ่วหรูเยียนก็ดีขึ้นมาเยอะ“ลูกบอกว่าฉู่เฉินเปิดบริษัทเหรอ? เป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไรล่ะ?”หลิ่วชิงเหออดไม่ได้กับคำพูดที่ฉู่เฉินพูดตอนนั้น หรือว่าไอ้เลวนั่นมันคิดจะแก้แค้นพวกเธอสองแม่ลูกกันนะ?“เป็นบริษัทยาค่ะ ชื่อบริษัทคือซินฉู่ฟาร์มาซูติคอล คนไร้ประโยชน์แบบมันน่ะเหรอ อยากจะเลียนแบบคนอื่นเปิดบริษัทเหรอ? หนูเกรงว่าแม้แต่ทุนจดทะเบียนก็จะไม่พอนะสิคะ”หลิ่วหรูเยียนสีหน้าเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยกิจการของตระกูลฉู่ทั้งหมด ล้วนแต่อยู่ในมือของเธอและหลิ่วชิงเหอ ฉู่เฉินไม่มีเงิน แม้แต่ค่าดำเนินการก็อาจจะต้องไปหามาอย่างยากลำบาก“ซินฉู่ฟาร์มาซูติคอล...”หลิ่วชิงเหอสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น คิ้วทั้งสองข้างของเธอขมวดเข้าหากัน จริงๆ ด้วย!ฉู่เฉิ
ขอเพียงแค่พิษของหรูเยียนหายไปจนหมด หลังจากนั้นจะกลายเป็นเวลาตายของไอ้เลวนี่!หลิ่วชิงเหอแอบวางแผนในใจ แม้จะสูญเสียทุกสิ่งไปก็ตาม เธอก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญ หั่นไอ้เลวนี้เป็นชิ้นๆ ซะ!ฉู่เฉินที่อยู่ปลายสายก็สามารถจินตนาการท่าทางเกรี้ยวกราดของหลิ่วชิงเหอได้เขาพูดด้วยสีหน้าติดตลกเล็กน้อย “ง่ายนิดเดียว ก็เงื่อนไขที่ฉันบอกไปไง”ฉู่เฉินหัวเราะออกมาเล็กน้อย“แก... ฉันเป็นแม่บุญธรรมของแกนะ!”หลิ่วชิงเหอกัดริมฝีปากไว้แน่น“เธอไม่ใช่แม่บุญธรรมของฉัน ในเมื่อยังคิดไม่ได้ งั้นก็อย่าโทรมาหาฉัน”พูดเสร็จ ฉู่เฉินก็วางสาย“เดี๋ยว!”หลิ่วชิงเหอตะโกนออกมา เล็บจิกลึกเข้าไปในเนื้อ เลือดหยดลงตามข้อมือของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน หลิ่วชิงเหอก็ปริปากพูดออกมาอย่างยากลำบากว่า “ได้! ฉันรับปากแก!”“ได้ ไปรอฉันที่บ้าน”ฉู่เฉินยิ้มอย่างชั่วร้าย วางสาย รีบไปยังคฤหาสน์ของตระกูลหลิ่วเมื่อฟังสัญญาณไม่ว่างทางโทรศัพท์ หลิ่วชิงเหอหายใจเข้าลึก ๆ และสั่งด้วยเสียงเย็นชา “ป้าอู๋ พยุงหรูเยียนไปที่โซฟา”“ค่ะ!”ป้าอู๋เห็นว่าสีหน้าของหลิ่วชิงเหอดูไม่ดี ก็ไม่กล้าที่จะปริปากถาม พยุงหลิ่วหรูเยียนไปที่โซฟา พร้อมกับซ่อนตัว
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ
เมื่อลั่วเทียนเต๋อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ลั่วหัวเอ๋อร์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่ได้!เธอเคยเจอเจ้าสำนักน้อยคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าต่อให้เห็นผ่าน ๆ แค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็ดูออกได้ไม่ยากว่า นั่นเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดูดีแค่ภายนอกตามมาตรฐานเลย ถ้าต้องแต่งกับผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตนี้ของเธอมีหวังได้จบสิ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?และถ้าครั้งนี้กัวเฟิงช่วยตระกูลลั่วให้ผ่านพ้นวิกฤติได้จริง ๆ เธออยากปฏิเสธการแต่งงานก็คงไม่ได้แล้ว“เจ้าสำนักน้อย? ไอ้กัวเฟิงนั่นมันตัวอะไรกัน! ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด ดึงลั่วหัวเอ๋อร์ให้มาอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนจะเอามือชี้หน้าลั่วเทียนเต๋อแล้วพูดว่า “ไอ้คนแซ่ลั่ว คุณเป็นคนหาเรื่องเอง เลิกลากพวกเราแม่ลูกเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว” พอลั่วเทียนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ โทสะก็พุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ดี! คุณมันแพศยาไร้ยางอาย รีบไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลลั่วเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ไม่ต้องพึ่งตระกูลหลินของพวกคุณ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี!” อะไรนะ?หลินเยว่หรูถลึงตาใส่ลั่วเทียนเต๋อ กัดฟันกรอแล้วกล่าวว่า “คุณ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่