공유

บทที่ 208

작가: มู่โร่ว
ใบหน้าของพวกนางไม่ได้ล้างหน้ามานาน แต่มวยผมก็ถูกหวีอย่างพิถีพิถัน

ฮูหยินเฉินกวาดตามอง กวักมือเรียกฮูหยินทั้งสาม แล้วพูดด้วยรอยยิ้มมีเมตตา “มาสิ ฮูหยินทั้งสามมานี่!”

สามีของฮูหยินทั้งสามมีตำแหน่งขุนนางระดับเดียวกับเฉินขุย

เฉินขุยเกิดมาในตระกูลโหวที่มีสถานะทางครอบครัวสูงกว่าทหารธรรมดา

แคว้นต้าฉี่ให้ความสำคัญกับภูมิหลัง สถานะของฮูหยินเฉินสูงกว่าสตรีชั้นสูงทั้งสามคนนี้

พวกนางเดินไปที่รถม้า แล้วทำความเคารพต่อฮูหยินเฉิน

“ข้าน้อยคารวะฮูหยินเฉิน”

ฮูหยินเฉินหยิบลูกอมหนึ่งกำมือออกมามอบให้ฮูหยินคนแรกด้วยรอยยิ้ม

“มานี่สิ เอาไปแบ่งให้ลูก ๆ กินเถอะ!”

เมื่อฮูหยินคนแรกเห็นว่าเป็นลูกอม นางตกใจมาก ไม่คิดว่าในด่านเจิ้นกวนจะมีลูกอม

นางปฏิเสธอยู่หลายครั้ง “นี่จะรับได้อย่างไรเจ้าคะ?”

ลูกอมในฐานะที่เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ นางรู้ว่ามันมีค่าเพียงใด

ฮูหยินเฉินหยิบข้าวห้าชั่งสามถุงและน้ำแร่สามขวดออกมาจากห้องโดยสารรถม้า มอบให้ฮูหยินทั้งสามคน

“จริง ๆ แล้วของพวกนี้เก็บไว้ให้อวิ๋นเหนียง ในเมื่อนางไปกับข้าแล้ว ฮูหยินทั้งสามเอาไปเถอะ”

“วันหน้า หากมีเรื่องทุกข์ร้อนอันใดก็ไปหาข้า ข้าช่วยได้ข้าจะช
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
Surirat Yui Chompoo Kampi
อย่าเชียวนะ!อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ บักสวีหวย!!! อยากอดตายกะอดตายผู้เดียวโลดดดด อย่าลากผู้ใด๋ตายมุ่นอุ้ยปุ้ยไปนำเจ้า! หนหวยเด้นิ!! เป็นตาสูนนนนน มื้อนี้กะคือเก่า ไรท์กะอย่าลืมดูแลเจ้าของนำเด้ สวบข้าวสวบน้ำ หิวนอนกะพักผ่อนบ้างเด้อ อย่าหักโหมหลาย อัพเดตเรื่อยๆนำเด้อ(วันนี้มาแนวอีสานบ้าง แก้ความจำเจ555)
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 209

    เช้าตรู่ เย่มู่มู่รับสายจากผู้อาวุโสมู่และรองผู้อำนวยการจางผู้อาวุโสมู่มาถึงหน้าประตูพร้อมกับรองผู้อำนวยการจางและผู้อำนวยการนักสะสมรายใหญ่สองคนจากคราวที่แล้วก็ตามมาด้วย ผู้อาวุโสจางสวมแว่นตา ผู้อาวุโสสวี่บุคลิกสุภาพและสง่างามกลุ่มคนขับรถมาถึงนอกคฤหาสน์ของเย่มู่มู่อย่างยิ่งใหญ่พนักงาน บอดีการ์ด และคนขับรถรออยู่ด้านนอกเย่มู่มู่พาพวกเขาไปที่ห้องอาหาร พนักงานในครัวของบ้านพักตากอากาศเซียนหยวน ส่งอาหารเช้ามาเรียบร้อยแล้วผู้อาวุโสมู่หยิบซาลาเปานึ่งร้อน ๆ บนโต๊ะขึ้นมา พลางถามเย่มู่มู่ขณะกิน“เครื่องลายครามโบราณล่ะครับ?”เย่มู่มู่เปิดประตูบานเลื่อนที่เชื่อมระหว่างห้องครัวและห้องรับแขก“นี่ค่ะ อยู่ในห้องรับแขก มาดูเองเลยค่ะ!”พวกเขาคิดว่าของโบราณที่เย่มู่มู่จะให้ยืมนั้นเป็นเพียงชามกระเบื้องไม่กี่ใบเท่านั้นใครก็คิดไม่ถึงว่า จะมีของโบราณหลายร้อยชิ้นวางอยู่ในห้องรับแขกของเธอนี่มันหลายร้อยชิ้นเชียวนะ!นักเล่นของโบราณเหล่านี้ จะเคยเห็นจำนวนมากเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันตอนนี้ พวกเขารู้สึกเหมือนกับหนูตกถังข้าวสารวิ่งไปที่ห้องรับแขกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายสักพักก็ดูข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 210

    ไม่คิดเลยว่าจะมีค่ามากขนาดนี้ผู้อาวุโสจางเสนอราคา “หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน!”ผู้อาวุโสมู่ “สองพันห้าร้อยล้าน!”ผู้อำนวยการหลิวก็อยากประมูลด้วยเช่นกันแต่ใช้เงินจำนวนมากไปกับการปรับปรุงและบำรุงรักษาพิพิธภัณฑ์ กองทุนที่จังหวัดจัดสรรมาให้ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนพวกเขาซื้อของโบราณราคาแพงอีกเมื่อของโบราณล้ำค่าไปตกอยู่ในมือของนักสะสม เขายังปวดใจมาก“คุณหนูเย่ พวกเราหารือกันหน่อยได้ไหมครับ กาน้ำชาสามารถจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สักระยะหนึ่งก่อนค่อยนำออกไปขายได้ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า “ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ผู้ซื้อก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย!”“พวกเขาจะยินดีให้ความร่วมมือแน่นอนครับ!”ตอนนี้เป็นตลาดของผู้ขายแล้วเธอยังมีของโบราณมากมายหากนักสะสมรายใหญ่หลายรายอยากทำธุรกิจกับเธอ พวกเขาจะร่วมมืออย่างแน่นอนเป็นไปตามคาด พวกเขาทั้งหมดพยักหน้าตกลง“ตราบใดที่ขายให้ผม อย่าว่าแต่แสดงในพิพิธภัณฑ์ ต่อให้ต้องจัดแสดงอีกสองสามปีผมก็ยินดีครับ”ในที่สุดผู้อาวุโสจางก็ซื้อกาน้ำชารูปทรงน่าเกลียดในราคาสามพันล้านเขาเซ็นสัญญากับผู้อำนวยการหลิวเจิ้งชิงโดยจะจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์เป็นเวลาสามปี มีค่าชดเชยความเส

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 211

    เมื่อผู้อาวุโสมู่เห็นว่าเย่มู่มู่จะเปิดร้านขายวัตถุโบราณ ก็ถามทันทีว่า “ร้านค้าข้าง ๆ ผมจะเซ้งออกไป คุณต้องการหรือเปล่าครับ?”เย่มู่มู่เคยไปย่านวัตถุโบราณเพียงครั้งเดียว เธอลืมไปแล้วว่า ร้านค้าที่อยู่ติดกับร้านของผู้อาวุโสมู่เป็นแบบไหนผู้อาวุโสมู่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดคลิปของร้านค้าด้านข้างให้เย่มู่มู่ ๆ ดู“เถ้าแก่ร้านข้าง ๆ วางแผนจะปล่อยร้านให้คนอื่น พื้นที่ร้อยกว่าตารางเมตร มีสองชั้น เทียบกับร้านเล็ก ๆ ของผมแล้วกว้างขวางกว่ามาก”“ร้านค้าต่าง ๆ ในย่านวัตถุโบราณเป็นที่ต้องการมาก ถ้าคุณต้องการ ผมจะโทรหาเถ้าแก่ ช่วยคุณเซ้งต่อมา”ผู้อาวุโสสวี่และผู้อาวุโสจาง สองตาแก่ ต่างพากันเดาะลิ้นโดยไม่ได้นัดหมายตาแก่นี่คิดจะเอายัยหนูไว้ใกล้ ๆ จะได้ประโยชน์ก่อนใครเขานี่ถึงขนาดช่วยคนเขาเซ้งร้านที่อยู่ข้าง ๆ แล้วช่างเจ้าเล่ห์จริง ๆเย่มู่มู่ดูคลิปอย่างตั้งใจ ร้านค้าแบ่งออกเป็นชั้นบนกับชั้นล่างสองชั้น แต่ละชั้นมีขนาดร้อยกว่าตารางเมตรสำหรับถนนย่านวัตถุโบราณและเครื่องหยก ถือได้ว่ากว้างขวางแล้วการตกแต่งดูมีระดับเป็นอย่างมาก บนชั้นวางของจัดแสดงของชิ้นเล็ก ๆ จากสมัยราชวงศ์ชิงไว้เธอแยกข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 212

    ส่งไปให้จ้านเฉิงอิ้นเธอเขียนจดหมายว่า “เด็กกำพร้าสองพันคน จะต้องสร้างโรงเรียนสักแห่ง”ส่วนโรงเรียนคืออะไรนั้น เย่มู่มู่แกะโทรศัพท์เครื่องใหม่ออก จากนั้นดาวน์โหลดคำแนะนำของโรงเรียนสิบกว่าแห่งลงไปรวมถึงโรงเรียนประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย และโรงเรียนที่เด็กในวัยต่าง ๆ เข้าเรียนหลังจากเธอส่งโทรศัพท์มือถือไปให้จ้านเฉิงอิ้นแล้ว ก็หยิบกระดาษใบที่สามบนพื้นขึ้นมาเป็นมั่วฝานส่งจดหมายมา บอกว่าประทัดและอากาศยานไร้คนขับใกล้จะหมดแล้ว จำเป็นจะต้องรีบเติมของส่วนสาเหตุว่าทำไมอากาศยานไร้คนขับถึงถูกใช้หมดเร็วขนาดนี้นั้นเพราะเขาใช้อากาศยานไร้คนขับบรรทุกระเบิด บุกเข้าไปในทัพของศัตรูโดยตรง ดังนั้นตอนนี้ จึงมีอากาศยานไร้คนขับเหลืออยู่เพียงสิบสามลำเท่านั้น!ฟ้าด้านนอกยังไม่มืด เย่มู่มู่อุ้มแจกันลงไปชั้นล่าง ขับรถกระบะตรงไปที่ร้านค้าออฟฟิเชียลของแบรนด์ที่ขายอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งเป็นศูนย์ขนาดใหญ่และมีสินค้าครบครันในเมืองโดยตรงเธอซื้ออากาศยานไร้คนขับบรรทุกหนัก ที่สามารถส่งสินค้า พ่นยาฆ่าแมลง และบรรทุกของได้ถึงห้าสิบกิโลกรัมแต่ราคาที่ขายนั้นแพงมาก ลำละสี่แสนเก้าหมื่นเก้าพันบาท อีกนิดเดียวก็จะห้า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 213

    ฮ่องเต้ทั้งสุภาพและมีมารยาท เจตนาจะดึงเขาไปเป็นพวกเขาเริ่มจากการชื่นชมความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการป้องปรามเผ่าหมานของจ้านเฉิงอิ้นก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้รับความสำคัญ เป็นเพราะฮ่องเต้แคว้นฉี่ตาบอด มองคนไม่เป็นจึงคิดจะยึดอำนาจการทหาร ของแม่ทัพใหญ่ที่มีผลงานการรบอันเกรียงไกรเช่นนี้หากจ้านเฉิงอิ้นเต็มใจออกจากแคว้นฉี่ ฮ่องเต้แคว้นอวี่จะมอบงานสำคัญให้เขา ให้เขาควบคุมอำนาจทหารของแคว้นอวี่ทั้งหมดและจะรับกองทัพตระกูลจ้านและราษฎรในด่านเจิ้นกวนทั้งแปดหมื่นชีวิตภายใต้การดูแลของเขา ไว้ทั้งหมดเช่นกันและจะแบ่งที่นาให้ชาวบ้านทุกคนด้วยแม้จะกล่าวเช่นนั้น ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่ใต้หล้าแร้นแค้น ไร่นาไม่อาจเพาะปลูกเสบียงอาหาร ที่ดินนี้จะให้หรือไม่ แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างกันมากนักแต่หากจ้านเฉิงอิ้นไม่เต็มใจไปจากด่านเจิ้นกวน ประสงค์จะทำงานให้แคว้นฉี่ต่อไป เยี่ยงนั้นก็ไม่เป็นไรเขาได้ให้คณะทูตเตรียมเงินทองและเครื่องใช้ที่ทำจากหยกจำนวนมาก มาเจรจาค้าขายกับจ้านเฉิงอิ้นแคว้นอวี่ต้องการซื้อเสบียง กับหญ้าและอาหารที่วัวม้ากิน หากสามารถขนน้ำกลับไปด้วยจำนวนหนึ่งก็ยิ่งดีส่วนเงินทองและเครื่องหยกนั้น คณะท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 214

    ทันทีที่เริ่มเปิดการแลกเปลี่ยน ก็จะเป็นการเปิดเผยไพ่ใบสำคัญที่สุดของจ้านเฉิงอิ้นออกไปท่านเทพไม่ต้องการให้เขาตกอยู่ในอันตราย จึงได้ปฏิเสธแล้วนางดีเหลือเกินจริง ๆคิดแทนตัวเขา คิดแทนราษฎรของด่านเจิ้นกวนอยู่เสมอเหมือนกับวันนี้ ที่เขาปรารถนาจะขอเพียงหนังสือและปากกาเท่านั้นแต่นางกลับคิดถึงการสร้างโรงเรียน โรงอาหาร หอพัก…เพื่อบ่มเพาะเลี้ยงดูบรรดาเด็กกำพร้าอย่างจริงจังหากนางไม่เห็นด้วยกับการแลกเปลี่ยน เช่นนั้นก็ช่างเถอะจ้านเฉิงอิ้นเรียกสวี่หมิงมา “เจ้าจงไปบอกทูตแคว้นอวี่ที่ประตูเมืองว่า ข้าไม่ตกลงเรื่องการแลกเปลี่ยน”“แน่นอนว่า พวกเขาเดินทางมาไกลนับพันลี้ จงหาน้ำเต้ามาใส่น้ำและมอบขนมปังสักสองสามชิ้นให้พวกเขาเถอะ“แล้วค่อยส่งคนกลับไป!”สวี่หมิงรับคำ “ขอรับ ท่านแม่ทัพ”เขาออกจากกระโจมไปจัดการแล้วเดิมคิดว่าไล่แคว้นอวี่ไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าต่อมา แคว้นเยี่ยนและแคว้นหย่ง…ก็ส่งคณะทูตมาซื้อเสบียงด้วยเช่นกันทว่าท่าทางของทูตจากสองแคว้นก้าวร้าวอย่างยิ่ง แม้แต่เทียบคารวะก็ไม่มี เมื่อมาถึงด่านเจิ้นกวนก็ให้คนทุบประตูดังปัง ๆ ๆ ทันทีกระทั่งหน้าไม้ราชวงศ์ฉินถูกยิงลงมาจากกำแพงเมือง ยิงท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 215

    เมื่อเย่มู่มู่ส่งอากาศยานไร้คนขับเสร็จ ก็กลับไปพักผ่อนที่คฤหาสน์วันถัดมา เธอไปที่ร้านวัตถุโบราณ หานักออกแบบภายในมาออกแบบร้านใหม่อีกครั้งผู้อาวุโสมู่ก็อยู่ด้วยเช่นกัน เขาช่วยออกความเห็นให้เธออย่างแข็งขันว่าวัตถุโบราณในร้านของเธอมีมูลค่าสูง จะต้องติดตั้งกระจกกันกระสุน และจะต้องติดตั้งสองชั้นด้วยสัญญาณเตือนภัยก็ต้องมีการติดตั้งให้พร้อมพรักส่วนกล้องวงจรปิดนั้น ไม่อาจปล่อยหลุดรอดมุมอับใดไปแม้แต่มุมเดียววัตถุโบราณส่วนใหญ่เป็นเครื่องกระเบื้องเคลือบ ต้องออกแบบตามแนวทางของงานนิทรรศการเครื่องลายครามฐานล่างของถาดต้องหมุนได้ แสงไฟต้องส่องถึงในองศาและทิศทางต่าง ๆ เพื่อแสดงความงดงามของเครื่องลายครามออกมานักออกแบบทำตามข้อเรียกร้อง ดีไซน์แบบแปลนออกมาเมื่อเย่มู่มู่และผู้อาวุโสมู่ได้เห็นก็ล้วนรู้สึกพอใจเธอจึงมอบการตกแต่งร้านให้เธออย่างวางใจ และบอกนักออกแบบลงมือทำได้อย่างเต็มที่ ผู้อาวุโสมู่ก็อยู่ที่ร้านข้าง ๆ เมื่อมีเวลาว่างก็จะมาช่วยตรวจดูงานด้วยหลังจากบอกลาผู้อาวุโสมู่ เย่มู่มู่ก็กลับไปที่รถ แล้วจึงได้เห็นกระดาษข้อความแผ่นเล็ก ๆ ที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาเรื่องที่ด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 216

    หลังเหอหงจากไป เฉินขุยก็เข้ามาในกระโจม กล่าวกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “วันนี้ มีคนมาจากค่ายทหารของสวีหวยห้าร้อยกว่าคนขอรับ ล้วนเป็นสตรี คนชรา และเด็ก อดทนต่อแสงอาทิตย์แรงกล้า เดิน ๆ หยุด ๆ ตากแดดเป็นวันกว่าจะมาถึงด่านเจิ้นกวน…น่าสงสารมากเลยขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นถามเขาว่า “จัดหาที่อยู่ให้คนพวกนี้เรียบร้อยหรือยัง?”“ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ ฮูหยินของข้าทำงานเชื่อถือได้ขอรับ”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ทางด้านสวีหวยยังไม่มีทหารมาหรือ?”เฉินขุยส่ายหัวเขาก็ประหลาดใจเช่นกัน วันนั้นลำโพงประกาศเสียงก็ประกาศออกไปอย่างชัดเจนแล้วแต่ทหารพวกนั้นถึงกับไม่หวั่นไหว!หรือว่าสวีหวยออกคำสั่งเด็ดขาด ขอเพียงเป็นผู้ทรยศออกจากค่ายทหาร ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกประหารสถานเดียว?จำนวนทหารของด่านเจิ้นกวนมีน้อย นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาปวดหัวที่สุดมาโดยตลอดส่วนการรับทหารเพิ่มจากชาวบ้านในด่านเจิ้นกวนนั้น ขอเพียงเป็นผู้ที่สามารถเข้าร่วมกับกองทัพได้ ก็ล้วนมากันหมดแล้วทว่าถึงอย่างไรจำนวนก็มีจำกัด“ชาวฉู่ที่ครั้งก่อนรับมาสองพันคน เวลานี้เป็นอย่างไรบ้าง?”คนพวกนี้ มีอู๋ซานหลางเป็นผู้ควบคุมมาอยู่ตลอดในตอนที่ลอบโจมตีทัพแคว้นฉู่ยามร

최신 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status