"น้องกายไม่สบายหรอ"
"ทำไมหน้าแดงจัง" "ร้อน" "แอร์ก็เย็นนี่นา" "เรียกแค่กายได้มั้ย" "ลูกพีชว่า เรียกน้องกายน่ารักจะตาย" "..." ผมอาศัยจังหวะที่เธอกำลังสนใจปรับแอร์เพราะกลัวว่าผมจะร้อนจริงๆ ขับเลยสถานีรถไฟฟ้ามาตรงไปร้านอาหารไทยในห้างดังใจกลางเมือง ตั้งใจพาเธอไปกินขนมจีนน้ำยาปูเหมือนที่เราเคยกินด้วยกันตอนเด็กเด็กที่คุณยายของผมจะทำแบบไม่เผ็ดแยกไว้ให้สำหรับผมกับเธอ และกว่าเธอจะรู้ตัวรถสีชมพูหวานก็เข้ามาจอดในที่จอดสำหรับรถไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วเพราะตรงนี้จะมีที่ชาร์ตแบตไว้บริการสำหรับลูกค้าที่มาจอด ก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอลงมา แล้วดึงกระเป๋าใบใหญ่บนตักเธอมาสะพายเข้าที่ไหล่กว้างของผมแล้วเดินนำทางเธอโดยไม่แคร์สายตาที่มองมา "น้องกายมาทำธุระหรอ" "หิว กินข้าวกัน" "..." "ขนมจีนน้ำยาปูร้านนี้อร่อยมาก" "กินได้มั้ย" "กินได้สิ" "วันเสาร์นี้ว่างรึเปล่า" "ปกติลูกพีชกลับบ้านเสาร์อาทิตย์หน่ะ" "น้องกายมีอะไรหรอ" "จะพาไปทำสีรถ" "แล้วรถน้องกายล่ะ" "เรียกรถมายกแล้ว" "อาการหนักเลยหรอ คงแพงน่าดูเลย" "มีประกัน" พอพูดถึงเรื่องรถ เธอก็หน้าเศร้าปากเล็กเล็กนั่นยู่เข้าหากันทันทีคงกังวลว่าจะต้องจ่ายค่าซ่อมให้ผมแพงมากจนผมรู้สึกสงสารเอ่ยปากบอกไปว่ามีประกัน เธอถึงได้ยิ้มหวานตาเป็นประกายแสดงอาการดีใจออกมาอย่างปิดไม่มิด ทั้งที่จริงๆแล้วเพราะความรีบของผมเมื่อเช้าเลยลืมแวะเติมน้ำมันทำให้รถสตาร์ทไม่ติดแค่นั้นเอง และดูเหมือนว่าขนมจีนจะอร่อยถูกปากเธอเพราะถึงขนาดกินไปยิ้มไปแต่ด้วยรสชาดที่ค่อนข้างเผ็ดทำให้เวลานี้แก้มใสใสของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ ปากสีชมพูพีชกลายเป็นสีแดงโดยไม่ต้องทาลิปให้เปลี่ยนสี ผมเลยจัดการสั่งเฉาก๊วยหนึบหนับโรยน้ำตาลทรายแดงเมนูแนะนำของทางร้าน มาให้เธอกินแก้เผ็ด ทำเธอติดใจถึงกับลิสต์ชื่อร้านไว้เป็นร้านโปรดของเธออีกหนึ่งร้าน ซึ่งผมก็ขอคิดค่าแนะนำเป็นรับนัดผมเพื่อพาไปทำสีรถของเธอในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เฮ้อ อะไรอะไรก็ดูเป็นใจให้ผมไปหมด "น้องกาย มันเลยสถานีรถไฟฟ้ามาแล้วนะ" "ไม่ได้บอกนะว่าจะลงรถไฟฟ้า" "อ้าว" อยู่อยู่ฉันก็ได้มานั่งกินข้าวกับเขาคนที่พึ่งรู้จักกันไม่ถึงหนึ่งวัน แถมยังได้มาส่งเขาถึงคอนโดอีกด้วย แต่ก็เอาเถอะ! ทำยังไงได้ฉันเป็นต้นเหตุให้รถเขาเสียนี่นา ถือว่าชดเชยเวลาที่เขาเสียไปก็แล้วกัน ไหนจะต้องร่วมงานกันอีกหลายเดือนด้วย และจากที่ได้คุยกันตลอดหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เขาก็ไม่ได้ดูเป็นคนเลวร้ายหรือมีทีท่าจะล่วงเกินฉันเลยสักนิดไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ฉันเคยเจอ เขาดูมีน้ำใจช่วยสะพายกระเป๋าให้ฉันตลอดและมื้อเมื่อครู่เป็นเขาที่ควักเงินจ่ายไม่ใช่ฉันที่ควรจะทำหน้าที่นั้นแทน คงไม่ได้เข้ามาหลอกกันหรอก "แล้วพรุ่งนี้น้องกายจะไปเรียนยังไง" "เดี๋ยวให้เพื่อนมารับ" "อ๋อ ดีดี" "หรือเธอจะมารับ" "ไม่ดีกว่า ลูกพีชไม่ชินทาง" "กลัวหลงจะพากันสาย" "ไปก่อนนะ" "เดี๋ยว" "..." "ถ้าถึงแล้วแชทมาบอกหน่อย" "..." "จะรอ" แล้วกว่าฉันจะงมแมพกลับมาถึงห้องได้ก็ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเลย อันที่จริงคอนโดเราสองคนก็ไม่ได้ไกลกันมากเท่าไหร่ แต่เป็นฉันเองที่งงกับการเบี่ยงขึ้นสะพานหรือรอดใต้สะพานทำให้ขับเลยออกมาอีกทางนึงเลย ซึ่งกว่าจะหาที่กลับรถได้ก็กินเวลาไปครึ่งค่อนชั่วโมง ได้แต่แอบบ่นให้กับความเงอะงะของตัวเองในใจ เหนื่อยชะมัดเลย ขอแช่น้ำอุ่นสบายสบายให้หายเหนื่อยหน่อยละกัน จนฉันอาบน้ำสระผมเสร็จและอยู่ในชุดกระโจมอกผ้าขนหนู ก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าถ้าถึงห้องต้องแชทบอกเขาด้วย นี่ก็สี่ทุ่มแล้วไม่รู้ว่าป่านนี้ยังรออยู่รึเปล่าลองส่งข้อความไปทิ้งไว้ก่อนแล้วกันเดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก ลูกพีชเองค่ะ : ถึงแล้วนะ KKAY : (สายเรียกเข้าแบบวิดีโอคอล) ข้อความที่ฉันส่งไปถูกอ่านทันทีราวกับเปิดหน้าแชทไว้รอข้อความจากฉันอย่างที่เขาบอกจริงๆ แต่สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น และทำให้ฉันต้องรีบกุลีกุจอวิ่งไปหยิบชุดนอนกระโปรงแขนยาวสีขาวตัวเก่งมาใส่ให้เรียบร้อยและรวดเร็วในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีจนหายใจหอบ ก็เพราะมีสายเรียกเข้าจากเขาแถมมาแบบเปิดกล้องด้วย ทำฉันตั้งสติอยู่นานก่อนจะกดรับด้วยใจที่เต้นระรัว "น้องกาย ว่าไง" "ทำไมถึงช้า" "ลูกพีชลืมหน่ะ" "ถึงตั้งแต่กี่โมง" "สองทุ่ม หลงทางอยู่" "หลงบ่อย?" "อืม ถ้าออกนอกเส้นทาง" "เพิ่งอาบน้ำหรอ? " "ห๊ะ อะ อ๋อ อืม" ผมนอนพิงหัวเตียงมองเธอผ่านหน้าจอด้วยสายตายิ้มกรุ่มกริ่ม ดูเธอที่อยู่ในชุดนอนกำลังนั่งเช็ดผมไปคุยกับผมไปไม่ทันได้ระวังว่าเส้นผมที่พึ่งสระจะพาให้เสื้อนอนสีขาวของเธอเปียกจนแนบเนื้อไปด้วย ผมเลยพยายามชวนคุยไปเรื่อยเพื่อไม่ให้คิดอะไรอะไรจนเดือดร้อนตัวเองทีหลัง รอจนผมหนาของเธอแห้งสนิท เธอก็เหมือนจะเริ่มคุยกับผมได้อย่างเป็นตัวเองมากขึ้นแถมยังเล่าเรื่องโก๊ะของเธอให้ผมฟังอย่างไม่เคอะเขิน จนผมได้รู้ว่าช่วงเวลาที่เราไม่ได้เจอกันเธอไปทำอะไรหรืออยู่ที่ไหน อย่างตอนนี้เธอขอที่บ้านลองออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองไม่มีคนขับรถคอยรับส่งเลยเป็นเหตุให้เธอหลงทางอยู่ทุกวัน รอก่อนนะลูกพีชเดี๋ยวกายจะไปเป็นคนขับรถให้เอง"ลูกหลับยัง" "ชู่ววว" "..." ผมนั่งมองลูกชายวัยหกเดือนตัวอ้วนจ่ำม่ำผิวขาวอมชมพูนอนหลับตาพริ้มแต่ปากยังอยู่ที่ยอดอกมามี๊ไม่ยอมปล่อย สงสัยจะอร่อยถูกใจน่าดูถึงได้กินไปยิ้มไป หรือจะกำลังฝันดีอยู่กันนะ นั่งมองนั่งหอมแขนป้อมอยู่สักพักปากจิ้มลิ้มก็ค่อยๆ คลายออกจากก้อนกลมของมามี๊บ่งบอกให้รู้ว่าเบบี๋น้อยหลับสนิทแล้ว ผมจึงค่อยๆ ยื่นแขนไปช้อนหลังเจ้าตัวเล็กอุ้มพาดบ่าแกร่งพร้อมกับตบก้นน้อยเบาเบาเป็นการกล่อมไม่ให้ตื่นมาโยเย เดินไปเดินมาอยู่ห้านาทีถึงพาไปส่งลงเปลนอนข้างๆ เตียงคิงไซต์ของผมกับพีช "จัดกระเป๋าเสร็จแล้วหรอ" "เสร็จแล้วคับผม" "ของเราสองคนหนึ่งใบ ของลูกหนึ่งใบ" "ชุดว่ายน้ำของมี๊ได้ใส่ไปมั้ย" "เรียบร้อยค้าบ แต่ป๊าไม่ให้ใส่" "มี๊อยากใส่" "ไม่รู้แหละ ห้ามเถียง เดี๋ยวลูกตื่น" "..." วันหยุดยาวนี้ผมและเพื่อนๆ จัดทริปไปเที่ยวทะเลหัวหินและแน่นอนว่าที่พักต้องเป็นหนึ่งในรีสอร์ทของผมอยู่แล้ว เพื่อความเป็นส่วนตัวของเราสี่ครอบครัวผมเลยสั่งปิดโซนบ้านพักทั้งหมด เปิดให้แขกเข้ามาพักผ่อนได้เฉพาะโซนโรงแรมซึ่งมองเห็นทะเลและลงไปเดินเล่นที่ชายหาดได้เหมือนกัน แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากจะ
"ไหวมั้ยปะป๊า""ป๊าไหวครับมี๊""ยาดมหน่อยมั้ย มี๊ถือให้""ขอมือมี๊ก็พอครับ"หลังจากคืนเข้าหอของฉันกับเขาหนึ่งเดือน เบเบี๋ก็มานอนอยู่ในพุงกลมกลมของฉันอย่างสบายใจ ตอนแรกฉันก็ไม่รู้ตัวหรอกคิดว่าที่กินจุกกินจิกเป็นเพราะใกล้ช่วงวันนั้นของเดือนเท่านั้น จนทุกคนที่มาเจอต่างพากันทักเป็นเสียงเดียวว่าดูมีน้ำมีนวลขึ้น ให้ลองตรวจๆ ดูหน่อย เท่านั้นแหละ! เขาก็รีบไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาครบทุกยี่ห้อในเวลาไม่ถึงสิบนาที ตื่นเต้นที่สุดก็คุณสาของฉันเองและเหมือนเบบี๋จะรู้ว่าปะป๊ากับมามี๊รับรู้ถึงการมาของเขา เลยทักทายกันโดยการแกล้งให้ปะป๊าสุดหล่อแพ้ท้องทุกวัน บางวันทำเอาปะป๊าแทบจะนอนในห้องน้ำเพราะอาเจียนหนักมาก จนฉันอดสงสารไม่ได้ แต่นิสัยขี้แกล้งแบบนี้ก็มาจากเขานั่นแหละ...อย่างวันนี้ ฉันต้องเข้ามาประชุมสำคัญเป็นเพื่อนเขา เพราะนอกจากอาการแพ้ท้องอาเจียนของเขาแล้วยังติดกลิ่นฉันหนักมากเหมือนกันราวกับเป็นยาดมแก้เวียนหัวอย่างดีอย่างไงอย่างงั้น"โอ้โห หมดสภาพเพื่อนกู""ไงวะ ไหว?" "มันแค่หาเรื่องอ้อนพี่ลูกพีชแค่นั้นแหละ""เหมือนมึงไง"เมื่อก่อนตอนซุ่มคบกันมันก็มีบ้างที่เขาออกไปปาร์ตี้แฮ้งค์เอาท์กับเพื่อนตามประสาห
"อุ้ย มีงานแต่งหรอ""ไปดูกันมั้ย""...""ไปนะ""..."วันนี้ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมาฉันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกผิดปกติ ท่าทางดูอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษของเขาที่รีบตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำแต่งตัว จัดทรงผมให้ดูหล่อเป็นพิเศษ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแบรนด์ดังคู่กับกางเกงสแล็คสีน้ำเงินเข้มราคาแพง ฉีดน้ำหอมกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วห้อง และพอฉันอาบน้ำเสร็จก็มาจัดแจงเตรียมชุดสวยๆ ให้ จนฉันแปลกใจว่าเขาไปแอบสั่งตัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วก็ท่าทางพูดผิดผิดถูกถูก ไม่รู้จะเอามือใหญ่ๆ ไปวางไว้ตรงไหนนั่นอีก ฉันเลยเออออตามน้ำปล่อยให้เขาพามาขับรถเล่นอย่างที่พยายามบอกกันทันทีที่รถสปอร์ตสีดำหรูแล่นเข้ามาในสวนขนาดใหญ่ มีทั้งต้นไม้สีเขียวและดอกไม้หลากสีเสียงเปียโนเล่นคลอเบาเบา มีเขาที่ไม่รู้ว่าไปใส่เสื้อสูทตอนไหนเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้เหมือนเช่นทุกครั้ง ถ้าเซ้นส์ของฉันไม่ผิด ฉันว่าสิ่งที่ฉันคิดเป็นจริง"สวยมั้ย""สวย""ชอบมั้ย""ชอบ""แต่งงานกันมั้ย""แต... ห๊ะ" "แต่งงานกัน งานแต่งของเรา"เพี๊ยะ!"ได้ไง พีชยังไม่ได้ตกลงเลย""วันนี้พีชไม่สวยด้วย""สวยแล้ว วันนี้พีชสวยมาก""สรุปแต่งนะ" "สถานที่พร้อม แขกพร้อม เจ้าบ่าวพร้
K.NAI : @KKAY ใช้กูฉ่ำTutor.T : 👍KKAY : แค่นี้บ่นKKAY : กูโดนพวกมึงใช้มาเยอะละKKAY : กูไม่รับขวัญหลานซะดีมั้งK.NAI : กูพิมพ์นิดเดียว😭Tutor.T : กูไม่เกี่ยว ไอ้นายคนเดียวนั่งอ่านข้อความโอดโอยของไอ้สองคนนั้นด้วยความเบื่อหน่าย ผมแค่ให้ช่วยเตรียมอะไรบางอย่างให้ทันวันที่ผมเดินทางกลับแค่นิดหน่อย ทีตอนพวกมันสองคนแต่งงานผมก็จัดการให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนที่มายกับมินนี่คลอดเจ้าแฝดผมก็เป็นธุระจัดการเรื่องห้องพักที่โรงพยาบาลให้ ดีที่ช่วงนั้นผมกลับไปงานเลี้ยงสำคัญของบริษัทพอดี ไม่อย่างนั้นคงพลาดโมเมนต์น้ำตาซึมของไอ้เตอร์ไอ้นาย น่าเสียดายแย่...และเพราะทั้งสองคู่มีลูกแฝด ผมก็ต้องรับขวัญหลานคูณสองเท่า เล่นเอาเงินในบัญชีผมสั่น เลยตัดสินใจว่ากลับไปคราวนี้จะยกบ้านพักตากอากาศติดทะเลทางภาคใต้ให้คนละหลังแทน แต่ผมก็ไม่ได้ใจดีถึงขนาดที่จะไม่เอาคืนไอ้เตอร์ไอ้นายเลย เพราะทุกอย่างที่ผมไหว้วานให้เพื่อนรักทั้งสองช่วยเตรียมการให้ ผมไม่ได้ควักกระเป๋าจ่ายเงินให้พวกมันสักบาท ตีมึนใส่แบบเนียนๆ พวกมันก็ไม่กล้าทวง 'หึ' "ทำไรอะ" "ปะ ป่าว""พิรุธนะ คุยกับสาวหรอ""ไม่ได้คุย" "...""กายไม่ได้คุยกับสาวคับ"
"พีช""หืม""กายโกรธพีช""พีชทำอะไรให้""ก็ดูสิ ไอ้สองคนนั้นแชทมาอวดว่าสาวๆ ท้อง""แล้วก็ว่ากายไม่มีน้ำยา""ก็จริง""อยากโดน?""..."เป็นไปตามที่ผมคิด หลังจากงานแต่งพวกมันเพียงไปนานผมก็ได้รูปแผ่นฟิล์มอัลตราซาวด์ ที่มีภาพสีขาวๆ คล้ายกันพร้อมกับข้อความโอ้อวดของไอ้เพื่อนขี้คุยนั่นทุกวัน แล้วก็ขยันส่งกันซะด้วย ไปหาหมอทีก็ส่งมาอวดที จนผมรู้สึกอินตามไปด้วย และถ้าวันไหนที่ผมเบื่อหรือรำคาญไม่อ่านแชทพวกมันก็จะรอผมตื่นแล้ววิดีโอคอลมาหา ถ้าไม่รับก็จะโทรกันมาอยู่อย่างนั้นจนต้องกดรับและด่ากลับไปหนึ่งชุดถึงจะหยุดกวนกัน นี่ผมยังนึกภาพบทปะป๊าของไอ้นายไม่ออกนะ คิดแล้วก็แอบสงสารเด็กเด็กอยู่เหมือนกัน"ทำอะไรอะ""นับวัน""นับวันอะไร""ผลิตลูก""..."แล้วพอมาเล่าให้คนตัวเล็กที่กำลังนอนพิงอกแกร่งอ่านเทคบุ๊คอยู่ เธอก็เห็นดีเห็นงามตามพวกนั้นจนผมหมันไส้ก้มไปงับเข้าที่ต้นแขนขาวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอตาขวาง ถ้าไม่ติดว่าคนท้องไม่ควรนั่งเครื่องบินนะ ผมจะเอาน้องอังกฤษกลับไปฝากทุกคนตอนนี้คงทำได้แค่หยิบปฏิทินมากากบาทนับวันถอยหลังบินกลับและเริ่มขบวนการผลิตแค่นั้น แต่จะว่าไปซ้อมสักยกสองยกซ้อมท่าทางหน่อยท่าจะดีวัน
"ลูกพีช ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แกไปด้วยกันมั้ย""ไปสิ แต่โต๊ะจะไม่หายใช่มั้ย""ไม่หรอก รีบไปรีบมา""อ้าว หวัดดีคับพี่พี่""น้องนาย มาดื่มเหมือนกันหรอ""คับพี่ติม พี่พี่นั่งตรงไหน ไปนั่งกับพวกผมมั้ย""มะ ไม่ดีกว่าจ๊ะ พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ""ไปเร็วไอติม""..."ฉันลืมไปเลยว่าไม่ได้บอกเด็กยักษ์ว่าตอนนี้อยู่ร้านเดียวกัน แล้วโลกก็กลมเกินไปดันมาเจอน้องนายเพื่อนสนิทของเขาตรงทางเดินพอดี เฮ้อ... ความลับแตกแน่ๆ ตั้งใจจะมาแอบดูแท้ๆ เลย แต่ไม่เป็นไรโต๊ะฉันหลบมุมอยู่ด้านในไม่มีทางเดินมาเจอกันง่ายๆ หรอก พอเข้าห้องน้ำเสร็จก็รีบจูงมือไอติมเดินแหวกฝูงชนกลับมาที่โต๊ะทันที ชั่วโมงนี้หลบมุมก่อนดีที่สุด"ไอ้กาย ทายสิกูเจอใคร""ผี""ผิด กูเจอนางฟ้า""กูโทรหามายแป็บ""มึงหยุด เดี๋ยวกูไม่ได้เข้าห้อง""หึ" "แล้วสรุปมึงเจอใคร""พี่คนสวย""ใครวะ""..."พี่คนสวยของไอ้นายมีอยู่ไม่กี่คนหรอก และหนึ่งในนั้นก็คือ 'ลูกพีช' อยู่ๆ ก็รู้สึกเท้ากระตุกอยากจะถีบไอ้เพื่อนเวรนี่สักทีมาก็ช้าแล้วยังจะพูดมากอีกลึกลึกก็เริ่มรู้สึกตะหงิดใจแปลกๆ อยู่เหมือนกัน แต่ผมเห็นเธอขับรถออกไปแล้วนี่หรือถ้าจะมาก็น่าจะบอกกันตั้งแต่แรกหรือแ