เธอจะใช้หนี้ฉันยังไงพ่อของเธอหนีไปแล้ว?อยู่ดีๆก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่มา และถามอันนาด้วยคำถามว่าจะใช้หนี้แทนผู้มีพระคุณอย่างไร "จะหาเงินใช้หนี้หรือจะไปอยู่กับฉันที่คฤหาสน์ทำงานใช้หนี้จนกว่าฉันจะพอใจ..!"
Voir plusมาร์คัส คอร์วิโน่ ในวัยสี่สิบปี เป็นชื่อที่สั่นสะเทือนไปทั่ววงการใต้ดิน เขาคือเจ้าพ่อมาเฟียที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในทุกตารางนิ้วของเมืองแห่งนี้
ใบหน้าคมเข้มกร้าวแกร่ง นัยน์ตาคมกริบที่สามารถสะกดทุกสิ่งให้อยู่ภายใต้คำสั่ง ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยสักบ่งบอกเรื่องราวชีวิตอันโชกโชน และความดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อสูทสั่งตัดจากอิตาลี ทำให้ผู้หญิงทุกคนแทบจะคลานขึ้นเตียงกับเขา เพียงเพื่อสัมผัสกับความเร่าร้อนที่เลื่องลือ เสียงเพลงจังหวะเร้าใจจากคลับหรูยามราตรีดังอื้ออึงไปทั่ว มาร์คัส คอร์วิโน่ นั่งเท้าแขนอยู่บนโซฟาหนังสีดำสนิท สายตาคมกริบกวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะหยุดลงที่ร่างอรชรของ คลอเดีย เธอเดินเข้ามาหาเขาด้วยท่วงท่าเย้ายวน รอยยิ้มพราวเสน่ห์ประดับอยู่บนริมฝีปากอวบอิ่ม ชุดราตรีผ่าสูงเผยให้เห็นเรียวขายาวสวยงามทุกย่างก้าว "รอนานไหมคะที่รัก?" คลอเดียทรุดตัวลงนั่งข้างๆ มือเรียวเลื่อนไปสัมผัสต้นขาของเขาอย่างแผ่วเบา มาร์คัสยกยิ้มมุมปาก เขาไม่เคยเรียกเธอว่า "ที่รัก" และเขาก็รู้ดีว่าคำนี้เป็นเพียงแค่ฉากหน้าสำหรับค่ำคืนที่กำลังจะมาถึง "ไม่นานหรอก" เสียงทุ้มต่ำของเขาตอบกลับ ความหยาบกร้านเล็กน้อยในน้ำเสียงบ่งบอกถึงความต้องการที่ซ่อนอยู่ คลอเดียโน้มตัวลงกระซิบข้างหู "ไปที่อื่นกันดีกว่าไหมคะ? ที่นี่เสียงดังไปหน่อย" มาร์คัสพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ต้องมีคำพูดอะไรมากไปกว่านั้น ทั้งสองลุกขึ้นเดินออกจากคลับ ท่ามกลางสายตาอิจฉาของชายหญิงมากมายที่จับจ้องมาที่พวกเขา ไม่นานนัก รถหรูสีดำก็แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าเพนต์เฮาส์สุดหรูใจกลางเมือง ที่นี่คืออาณาจักรส่วนตัวของมาร์คัส ที่ที่เขาใช้ปลดปล่อยความต้องการทางกายกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา และคลอเดียคือหนึ่งในผู้หญิงที่เข้าใจเกมนี้ดีที่สุด เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เผยให้เห็นห้องพักที่ตกแต่งอย่างหรูหรา กลิ่นอายของความหรูหราและอำนาจคละคลุ้งไปทั่ว คลอเดียเดินนำเข้าไปอย่างมั่นใจ ก่อนจะหันมามองมาร์คัสด้วยสายตายั่วยวน "อยากให้คลอเดียทำอะไรให้คุณคะคืนนี้?" เธอถามเสียงหวาน หยาดเยิ้ม มาร์คัสก้าวเข้ามาประชิดร่างเธอ ใบหน้าคมเข้มโน้มลงใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนรินรดกัน "ก็อย่างที่เธอรู้ดี..." เสียงทุ้มกระซิบข้างหู คลอเดียสัมผัสได้ถึงความร้อนแรงที่แผ่ออกมาจากตัวเขา เขาไม่ได้ต้องการความโรแมนติก ไม่ต้องการคำหวาน ไม่ต้องการความผูกพัน สิ่งที่มาร์คัสต้องการมีเพียงแค่การปลดปล่อย การตอบสนองสัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ภายใน และคลอเดียก็พร้อมที่จะเป็นเครื่องมือตอบสนองความต้องการนั้นอย่างเต็มใจ เพราะเธอก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้เช่นกัน เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องออกอย่างรวดเร็ว กองรวมกันอยู่บนพื้นห้อง ร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองแนบชิดกัน ความร้อนแรงจากไฟราคะที่จุดติดขึ้นทำให้บรรยากาศภายในห้องร้อนระอุ ราวกับไฟที่โหมกระหน่ำในพายุทะเลทราย ไร้ซึ่งคำหวาน ไร้ซึ่งความอ่อนโยน มีเพียงความดิบเถื่อนและเสียงครางที่หลุดรอดออกมาจากลำคอของทั้งคู่ มาร์คัสจูบซับซอกคอขาวเนียนของคลอเดียอย่างหนักหน่วง มือของเขาไล้ลงไปตามแผ่นหลังเนียนลื่น ก่อนจะกระชับเอวบางเข้ามาใกล้ ร่างกายทั้งสองหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้แสงสลัวของห้องนอน "อ้าส์ ...ใจเย็นซิค่ะ.." เมื่อมาร์คัสแทงแท่งเอ็นเข้าไปจนมิดด้ามในครั้งเดียวโดยไม่สนใจคนใต้ร่างอย่างคลอเดียว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร "อย่าพูดมาก..!" มาร์คัสพูดเสียงเรียบแล้วก็กระหน่ำแทงเข้าไปตามแรงอารมณ์ของเขาในขณะนั้น "อะ อะ อ้าส์ ไม่ไหว เบามือหน่อยค่ะมาร์คัส.." คลอเดียครางกระเส่าด้วยความทรมานเจ็บบนเสียว บทเพลงแห่งราคะบรรเลงไปอย่างเร่าร้อนและดุดัน ไม่มีความรัก ไม่มีความผูกพัน มีเพียงความต้องการทางกายที่เข้าครอบงำ ความดิบเถื่อนและความหิวกระหายถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังล่าเหยื่อคลอเดียใช้ปากสวมถุงยางอนามัยให้กับมาร์คัสอย่างช่ำชอง "ใหญ่จังค่ะ...อ้าส์ มาร์คัส แทงลงมาอีก ซี๊ด...เสียว เอาคลอเดียให้แหกเลยค่ะอ้าส์" คลอเดียเริ่มครางไม่เป็นศัพท์เมื่อถูกกระหน่ำกระแทกจากแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ของมาร์คัส คลอเดียตอบสนองทุกสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหวของเขาอย่างรู้ใจ เธอไม่ใช่ผู้หญิงไร้เดียงสา เธอรู้ดีว่าต้องทำอย่างไรให้เขาพอใจที่สุด และเขาก็คือคนที่สามารถมอบความเร่าร้อนชนิดที่ผู้ชายคนอื่นไม่มีให้ได้ "ไม่ไหวแล้ว"..อะ อะ อะ....! คลอเดียที่เสร็จคาแท่งเอ็นร้อนของมาร์คัส ส่วนเขาเองก็เกร็งกระตุกตามหลังมาติด ๆ น้ำรักสีขาวขุ่นแตกเต็มถุงยางอนามัยและถูกถอดออกเอาไว้ที่พื้นยังไม่ใยดี บทรักดำเนินไปอย่างยาวนานและถึงจุดสูงสุดหลายครั้ง จนกระทั่งทุกอย่างจบลง ร่างกายของทั้งสองเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ความเหนื่อยล้าเข้าแทนที่ความเร่าร้อน มาร์คัสผละออกจากร่างของคลอเดียอย่างรวดเร็ว เขากลิ้งตัวไปนอนอีกฝั่งของเตียง ไม่มีการกอดรัด ไม่มีการจูบลา ไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆ "ออกไปเอาเช็คกับบอดี้การ์ดฉันที่หน้าห้อง"มาร์คัสพูดจบก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำแล้วล้างตัวโดยไม่ได้หันกลับมาแยแสผู้หญิงตรงหน้า "ค่ะ ขอบคุณค่ะ" คลอเดียทำตามมาร์คัสอย่างว่าง่ายที่เธอยอมทุกอย่างเพราะเธอเสียมาคัดไปไม่ได้มาร์คัสเป็นบ่อเงินบ่อทองของเธอ คลอเดียลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ จัดการเสื้อผ้าของเธอให้เข้าที่ ก่อนจะเดินไปยังประตู มาร์คัสไม่ได้หันไปมองเธอแม้แต่น้อย เขารู้ว่าเธอจะจากไป และจะกลับมาอีกเมื่อเขาต้องการ เมื่อประตูห้องปิดลง เสียงคลิกดังแผ่วเบา บ่งบอกว่าภารกิจสิ้นสุดลงแล้ว มาร์คัสเหลือเพียงความว่างเปล่าภายในใจ เช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา เขาไม่เคยผูกมัดกับใคร ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตล้วนเป็นเพียงเครื่องบำเรอทางกาย ไม่มีความรัก ความผูกพัน มีเพียงความต้องการที่ถูกสนองตอบอย่างดิบเถื่อนและเร่าร้อน ...แม่บ้านป้าสมศรีพาอันนามาที่ห้องพัก ใบหน้าขอป้าสมศรีเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจแต่ก็ปะปนไปด้วยความไม่สบายใจ อันนารู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ป้าสมศรีมีต่อเธอ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไป เพราะกลัวว่าการพูดคุยมากเกินไปจะทำให้เธอต้องเจอเรื่องยุ่งยาก"คุณหนูอันนาคะ คุณมาร์คัสสั่งให้ดิฉันเตรียมชุดสำหรับมื้อค่ำให้ค่ะ" ป้าสมศรีพูดพลางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เธอดึงชุดเดรสผ้าไหมสีน้ำเงินเข้มตัวหนึ่งออกมา มันเป็นชุดที่เรียบหรู แต่เผยให้เห็นสัดส่วนของผู้สวมใส่ได้อย่างพอดิบพอดีอันนารับชุดมาถือไว้ในมืออย่างเลื่อนลอย ชุดนี้ดูเหมือนจะแพงกว่าเสื้อผ้าทั้งหมดที่เธอเคยมีรวมกันเสียอีก "ขอบคุณค่ะคุณป้าสมศรี" อันนาตอบเสียงแผ่วเบาเรากลับมีแต่กายหยาบแต่วิญญาณได้หลุดลอยออกไปจากร่างของเธอ"คุณหนูแต่งตัวเถอะค่ะ เดี๋ยวใกล้เวลาอาหารเย็นดิฉันจะกลับมาตาม" ป้าสมศรีบอก ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้อันนาอยู่กับความรู้สึกสับสนและหวาดกลัวอันนาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม พลางมองชุดเดรสในมือ เธอรู้ดีว่ามื้อค่ำนี้คงไม่ใช่แค่การทานอาหารธรรมดา แต่มันคือการเริ่มต้นของ "การทำงานใช้หนี้" ที่มาร์คัสพูดถึง อันนาสูดหายใจลึก พ
อันนาเงยหน้ามองมาร์คัส ใบหน้าคมเข้มของเขายังคงไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แต่แววตาคู่คมนั้นกลับจับจ้องเธอราวกับจะทะลุปรุโปร่ง อันนาเม้มริมฝีปากแน่น เธอกำถุงผ้าที่บรรจุเงินสามแสนบาทไว้แน่น ราวกับว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวเธอไว้จากความกลัว"คุณมาร์คัสคะ..." อันนาเริ่มพูดเสียงแผ่ว พยายามรวบรวมความกล้า "อันนามีเงินมาให้คุณสามแสนบาทค่ะ" เธอพยักหน้าไปที่ถุงผ้าในมือมาร์คัสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาของเขาดูเหมือนจะมีความประหลาดใจเจืออยู่จางๆ "สามแสน?" เขาทวนคำ ราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง แล้วเสียงหัวเราะในลำคอก็หลุดออกมาอย่างเย้ยหยัน "เธอคิดว่าเงินแค่นี้จะพอสำหรับหนี้ทั้งหมดที่พ่อเธอสร้างไว้เหรอ อันนา?"น้ำเสียงของเขานั้นเย็นชาและดูถูก ทำให้หัวใจของอันนาชาวาบ เธอรู้ดีว่ามันไม่พอ แต่เธอมีเพียงแค่นี้จริงๆ"อันนารู้ค่ะว่ามันไม่พอ... แต่นี่คือทั้งหมดที่อันนามีในตอนนี้ค่ะ อันนาทำงานหาเงินมาได้แค่นี้จริงๆ" อันนาพยายามอธิบาย น้ำเสียงสั่นเครือ "ส่วนที่เหลือ... อันนาจะทำงานใช้ให้คุณทุกอย่างค่ะขอเวลาให้อันนาสักนิดนะคะอันนาเหลืออีกแค่ 1 เทอม"" อันนาจะเรียนจบแล้วหาเงินมาใช้หนี้คุณมาร์คัสนะคะอันนาสัญญา"อันนาเง
อันนาหยิบเอกสารขึ้นมาดู มือของเธอสั่นเทาเมื่อเห็นลายเซ็นของพ่อ และจำนวนเงินมหาศาลที่ระบุอยู่ในนั้น หัวใจของเธอหล่นวูบ ไม่ใช่แค่หนี้สิน แต่ยังรวมถึงความจริงที่ว่าบ้านที่เธอรักกำลังจะถูกยึด"ไม่จริง...เป็นไปไม่ได้" อันนาพึมพำ น้ำตาคลอเบ้า "พ่อฉันไม่เคยบอกเรื่องนี้"คำพูดของเขาดังก้องอยู่ในหัวของอันนา ราวกับเสียงฟ้าร้องที่ผ่าลงมากลางใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตที่ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายของเธอจะต้องมาเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้ายเช่นนี้ หนี้ที่มองไม่เห็น กำลังจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างของเธอไปฝัน.."ฉันให้เวลาเธอ 1 สัปดาห์หาเงินทั้งหมดมาคืนฉันแต่ถ้าคืนไม่ได้...."มาร์คัสเวรคำพูดขาดช่วงไว้สักนิดใช้มือหนาจับไปที่คานเล็กๆแล้วเชยชมใบหน้าที่ดูธรรมดาแต่กลับมีแรงดึงดูดมหาศาลทำให้เขาอยากจะเล่นกับลูกหนี้ตรงหน้า"ไม่งั้นอะไรคะ.!" อันนาพยายามทำเสียงนิ่งเธอรู้ว่าเธอคงไม่มีทางหายเงินมากมายแบบนั้นมาได้แน่นอนแต่เธอก็จะยอมให้บ้านหลังสุดท้ายที่แม่ทิ้งเอาไว้ให้ตกไปเป็นของเจ้านี่น่าเลือดอย่างคนตรงหน้าแน่นอน"ไม่งั้นเธอต้องทำงานใช้หนี้ให้กับฉัน ฉันมีตัวเลือกให้เธอไม่เยอะหรอกนะแล้วอีก 1 อาทิตย์ฉันจะส่งคนรับเธอ""เ
จนกระทั่งเธอปรากฏตัว...หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นไปกว่าผู้หญิงคนไหนๆ แต่กลับทำให้หัวใจที่เย็นชาของมาร์คัสสั่นคลอนอย่างไม่น่าเชื่อเธอชื่อ อันนา หญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ ที่ต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนโตจากพ่อที่ติดการพนันอย่างหนัก หนี้ที่ทำให้เธอต้องมาอยู่ตรงหน้าของมาร์คัส คอร์วิโน่ ผู้ชายที่ทั้งน่าเกรงขามและอันตรายที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอวันนั้น อันนายืนตัวสั่นอยู่ในห้องทำงานสุดหรูของมาร์คัส แอร์คอนดิชันที่เย็นเฉียบไม่ได้ช่วยลดความประหม่าของเธอลงได้เลย สายตาคมกริบของเขากวาดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เหมือนกำลังประเมินสินค้าชิ้นหนึ่ง หัวใจของลัลนาเต้นรัวจนแทบทะลุออกมานอกอก"พ่อของเธอติดหนี้ฉันเท่าไร เธอรู้ใช่ไหม?" เสียงทุ้มต่ำของมาร์คัสเอ่ยขึ้น ทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดอันนาพยักหน้าช้าๆ "ค่ะ...หนึ่งล้านบาท" เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินมาร์คัสยกยิ้มมุมปาก เผยให้เห็นเขี้ยวที่ซ่อนอยู่ "แล้วเธอจะเอาอะไรมาใช้หนี้ให้ฉัน ในเมื่อพ่อของเธอหนีหายไปแล้ว..?"อันเม้มปากแน่น ความสิ้นหวังเข้าครอบงำ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้ายนี้ "ฉัน...ฉันจะทำงานใช้ห
มาร์คัส คอร์วิโน่ ในวัยสี่สิบปี เป็นชื่อที่สั่นสะเทือนไปทั่ววงการใต้ดิน เขาคือเจ้าพ่อมาเฟียที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในทุกตารางนิ้วของเมืองแห่งนี้ ใบหน้าคมเข้มกร้าวแกร่ง นัยน์ตาคมกริบที่สามารถสะกดทุกสิ่งให้อยู่ภายใต้คำสั่ง ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยสักบ่งบอกเรื่องราวชีวิตอันโชกโชน และความดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อสูทสั่งตัดจากอิตาลี ทำให้ผู้หญิงทุกคนแทบจะคลานขึ้นเตียงกับเขา เพียงเพื่อสัมผัสกับความเร่าร้อนที่เลื่องลือเสียงเพลงจังหวะเร้าใจจากคลับหรูยามราตรีดังอื้ออึงไปทั่ว มาร์คัส คอร์วิโน่ นั่งเท้าแขนอยู่บนโซฟาหนังสีดำสนิท สายตาคมกริบกวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะหยุดลงที่ร่างอรชรของ คลอเดีย เธอเดินเข้ามาหาเขาด้วยท่วงท่าเย้ายวน รอยยิ้มพราวเสน่ห์ประดับอยู่บนริมฝีปากอวบอิ่ม ชุดราตรีผ่าสูงเผยให้เห็นเรียวขายาวสวยงามทุกย่างก้าว"รอนานไหมคะที่รัก?" คลอเดียทรุดตัวลงนั่งข้างๆ มือเรียวเลื่อนไปสัมผัสต้นขาของเขาอย่างแผ่วเบามาร์คัสยกยิ้มมุมปาก เขาไม่เคยเรียกเธอว่า "ที่รัก" และเขาก็รู้ดีว่าคำนี้เป็นเพียงแค่ฉากหน้าสำหรับค่ำคืนที่กำลังจะมาถึง "ไม่นานหรอก" เสียงทุ้มต่ำของเขาตอบกลับ ความหยาบกร้านเล็กน้อ
Commentaires