มาร์คัสจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานของอันนาที่นอนอยู่บนเตียง แล้วทวนคำว่าเธออยากกินช็อกโกแลต ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอมีสีเลือดฝาดแดงระเรื่อเพราะพิษไข้
"คุณมาร์คัสขา อันนาขอกินช็อกโกแลตได้ไหม" อันนาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อย เพราะเวลาป่วยเธอจะอยากกินของหวานโดยเฉพาะช็อกโกแลต และไม่อยากทานข้าวเลย มาร์คัสจ้องมองอันนาตาไม่กะพริบ เขากำลังหลงผู้หญิงตรงหน้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น นี่เป็นรอยยิ้มแรกที่อันนายิ้มให้เขา เพียงเพราะอยากกินช็อกโกแลตแค่นั้นหรือ แต่เขาก็ไม่ได้อนุญาตหรือปฏิเสธ “กินข้าวก่อน แล้วฉันจะพาไปซื้อช็อกโกแลต ตกลงไหม” มาร์คัสใช้กลยุทธ์เหมือนพ่อที่หลอกให้ลูกสาวกินข้าว “สัญญานะคะว่าถ้าอันนาทานข้าวหมดจะพาไปซื้อช็อกโกแลต” เธอดีใจจนยิ้มหวานในรอบสองสามวันที่ผ่านมา นี่เป็นรอยยิ้มที่ดูสดใสที่สุด “อืม” เสียงทุ้มต่ำในลำคอเป็นเชิงว่ารับปาก ถ้าอันนาเป็นเด็กดี เขาสัญญาว่าจะดีกับเธอให้มากขึ้นกว่าเดิม อันนาดีใจจนลุกพรวด แต่ไม่ได้ดูร่างกายที่อ่อนแอของตัวเอง เธอจึงล้มพับนั่งลงข้างเตียง “โอ๊ย!” กลางลำตัวของเธอรู้สึกเจ็บแปลบ เพราะการระบมและอักเสบจากการเสียดสีที่รุนแรง เธอจึงต้องเงยหน้าขึ้นเหมือนร้องขอความช่วยเหลือจากมาร์คัส มาร์คัสที่เห็นก็อดหัวเราะไม่ได้ เขาหัวเราะพรืดออกมาเบาๆ แล้วหันมามองหน้าเด็กขี้อ้อน เขาเริ่มไม่เข้าใจว่าอันนาเป็นคนแบบไหน บางครั้งก็ดื้อเงียบ บางครั้งก็น่ารักเหมือนลูกแมว มาร์คัสรีบลุกขึ้นแล้วดึงร่างเล็กของอันนาให้ยืนได้ แล้วประคองให้นั่งลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา “ใครใช้ให้เธอลุกขึ้นแบบนั้น” มาร์คัสเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบนิ่งเย็นชาอีกครั้ง “เจ็บ” คำพูดสั้นๆ คำเดียว แต่อันนาบอกความหมายทุกอย่างออกมาหมด เธอหันมามองหน้ามาร์คัสแล้วเหมือนจะร้องไห้ “เป็นอะไรอีก” มาร์คัสถามเสียงเรียบ “เจ็บค่ะ” อันนาก้มหน้างุด ไม่พูดอะไรนอกจากคำว่าเจ็บ มาร์คัสแอบยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาพึงพอใจ แต่ก็ไม่ได้อยากให้อันนารู้ว่าเขารู้สึกดีใจ จึงยังคงเก็บสีหน้าเคร่งขรึมเอาไว้ “เจ็บก็กินข้าว จะได้ทายาแล้วก็กินยา เสร็จแล้วฉันจะพาไปซื้อช็อกโกแลต” มาร์คัสเหมือนเป็นคุณพ่อลูกอ่อนในเวลานี้เลย อันนาทำตามทุกอย่างอย่างว่าง่าย ทั้งทานยา แต่เมื่อถึงเวลาต้องทายาเธอกลับงอแง เพราะมาร์คัสจะเป็นคนทายาให้เธอเอง แต่เธอไม่ยอม “อ้าขาออกเร็วๆ ฉันจะทายาให้” มาร์คัสพูดเสียงเคร่งขรึม เพราะเด็กตรงหน้ากำลังดื้อดึงใส่เขาอีกแล้ว อันนาส่ายหัวไปมาเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธ เพราะเธอไม่อยากให้มาร์คัสต้องเห็นกลีบกุหลาบของเธอที่บวมช้ำ มันดูน่าเกลียด “อันนา ฉันเป็นผัวเธอลืมแล้วหรือไง?” มาร์คัสใช้สิทธิ์ความเป็นสามีอย่างไม่ลังเล “ไม่ได้ลืมค่ะ แต่ให้อันนาทำเองได้ไหมคะ” อันนามองหน้าของมาร์คัสจนเธออยากจะมุดดินหนี เพราะมาร์คัสเอาแต่จ้องเธอไปมาสลับกับหว่างขาที่ต้องทายา “อย่าดื้อกับฉันอันนา เธอรู้ว่าถ้าเธอดื้อกับฉันเธอจะเจออะไร” มาร์คัสเริ่มส่งคำขู่ “ก็ได้ค่ะ” อันนาอ้าขาออกเล็กน้อยอย่างกึ่งๆ ด้วยความเขินอาย กว่าจะผ่านการทายามาได้ก็ทุลักทุเล เพราะมาร์คัสเอาแต่จ้องอยู่อย่างนั้น “เสร็จแล้ว เลิกอายฉันได้แล้ว” มาร์คัสเรียกแม่บ้านเข้ามาเก็บจานอาหารออกไปจากห้องของอันนา หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นภารกิจ อันนาจึงทวงถามเรื่องที่อยากกินช็อกโกแลต “คุณมาร์คัสคะ สรุปอันนาจะได้กินช็อกโกแลตไหม” อาการที่อยากกินช็อกโกแลตของอันนาไม่ใช่เพียงเพราะความอยากอย่างเดียว แต่เพราะเธอรู้สึกว่ากำลังจะเป็นวันนั้นของเดือน “ได้กิน แต่รอให้ฉันทำงานเสร็จก่อนได้ไหม” อยู่ดีๆ อันนาก็เบะปากร้องไห้ออกมาเสียอย่างนั้น มาร์คัสถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก “ก็คุณสัญญากับอันนาว่าจะพาไปกินช็อกโกแลตไงคะ แต่คุณไม่พาไป” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยนที่นอนอยู่บนเตียง งอแงเพียงเพราะว่าอยากกินช็อกโกแลต มาร์คัสรีบวางงานทุกอย่างลง แล้วหันมาปลอบใจคนตรงหน้าด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ เพราะเขาไม่เคยต้องง้อผู้หญิงคนไหนหรือปลอบใจใคร อันนากำลังทำลายกำแพงทุกอย่าง และทำให้เขาแหกกฎทุกข้อที่เคยตั้งเอาไว้ “เธอเดินไหวเหรอ เธอจะไปกินช็อกโกแลต” มาร์คัสหันมาถามอันนาด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ปนไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย อันนาส่ายหัวไปมาแล้วตอบกลับไปว่า “เดินไม่ไหวค่ะ แต่คุณมาร์คัสไปซื้อให้อันนาหน่อยได้ไหมคะ” ด้วยความที่อยากของหวานมากๆ เธอถึงกับงอแง “ได้ เดี๋ยวฉันจะไปซื้อให้ เธออยากกินช็อกโกแลตยี่ห้อไหนล่ะ” มาร์คัสหันมาถาม “ยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ ขอให้เป็นช็อกโกแลต” อันนาพูดจบเธองอนมาร์คัสก็พลิกตัวหันหลังหนี แล้วเอาผ้าห่มคลุมโปง ไม่พูดคุยกับเขาเลยสักคำ มาร์คัสจึงถอนหายใจแล้วยกหูหาราเชน บอกให้ราเชนเหมาช็อกโกแลตแล้วเอามาส่งให้ที่บ้านของเขาเดี๋ยวนี้ ราเชนทร์ที่ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายก็ทำหน้าตกใจ เพราะปกติเจ้านายเขาไม่ชอบทานของหวานเลยสักนิด “ช็อกโกแลตเนี่ยนะ” ราเชนทร์ทวนคำสั่ง แต่เขาก็ยังคงไปกว้านซื้อช็อกโกแลตนับร้อยชิ้น แล้วให้ลูกน้องบอดี้การ์ดคนอื่นรีบนำมาส่งให้ที่บ้านของมาร์คัส ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที ช็อกโกแลตที่อันนาอยากได้ถูกจัดใส่ตะกร้าวางมานับร้อยชิ้นละลานตา แม่บ้านถือช็อกโกแลตขึ้นมาวางข้างหัวเตียง มาร์คัสที่นั่งทำงานอยู่ก็เฝ้าไข้คนป่วยที่งอแงเอาแต่ใจไม่ห่าง “อันนา ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้หลับ ช็อกโกแลตที่เธออยากกินฉันเอามาให้แล้ว หันหน้ามา” คนบ้าอำนาจอย่างมาร์คัสออกคำสั่ง อันนาลดผ้าคลุมโปงลง เธอกลั้นใจอยู่ตั้งนานกว่าจะได้ช็อกโกแลตที่เธออยากกิน พอเห็นตะกร้าช็อกโกแลต เธอก็ถึงกับตาลุกวาวเป็นประกายเหมือนเด็กได้ของเล่น อันนาลุกขึ้นนั่งครึ่งตัวแล้วโผเข้ากอดร่างสูงของมาร์คัสด้วยความดีใจและลืมตัว “ขอบคุณนะคะคุณมาร์คัส คุณใจดีกับหนูที่สุดเลย” อันนาหลุดใช้คำว่าหนู ซึ่งปกติเธอจะแทนตัวเองแค่เพียงกับพ่อและแม่เท่านั้น หัวใจของมาร์คัสเต้นผิดจังหวะขณะที่อันนากอดรั้งเขาเอาไว้แน่น มาร์คัสเห็นทุกอย่างเหมือนโลกหยุดหมุน เขากำลังถูกความอบอุ่นและความใจดีของอันนาทำให้ไขว้เขว “ปล่อยฉันได้แล้วอันนา” มาร์คัสพยายามสงบสติอารมณ์และไล่อันนาให้กลับเข้าที่ “อุ๊ย อันนาขอโทษค่ะ อันนาดีใจไปหน่อย” เธอเกาหัวกุกกักแก้เขิน แล้วหยิบเลือกช็อกโกแลตที่เธออยากกินชิ้นแล้วชิ้นเล่า อันนาตัวเล็กนิดเดียวแต่กินเข้าไปถึงห้าชิ้นจนมาร์คัสต้องดุเธอ “อันนา เธอห้ามแตะชิ้นที่หกเป็นอันขาดนะ เธอกินเข้าไปเยอะมากแล้ว” มาร์คัสสั่งเบรกคนตรงหน้า เพราะเขากลัวว่าเธอจะปวดท้อง อันนาหันมามองมาร์คัสแล้วทำสายตาละห้อย เพราะเธอรู้ว่าเขาจะต้องดุเธออีกแน่ถ้าเธอขอ แต่ด้วยอารมณ์ของคนที่จะเป็นประจำเดือน อันนาก็เบะปากน้ำตาไหลร้องไห้อีก “อันนาอย่าร้อง อ่ะๆ ถ้าเธอจะกินก็กิน แต่ถ้าปวดท้องเธอโดนดีแน่” มาร์คัสอนุญาต แต่กขึ้นบัญชีดำไว้ อันนากินช็อกโกแลตจนจุใจ และเรื่องที่เธอคาดการณ์เอาไว้ก็เหมือนจะเป็นจริง เพราะอยู่ๆ วันนั้นของเดือนของเธอก็ไหลเลอะเต็มที่นอนในขณะที่เธอนั่งกินช็อกโกแลตอยู่ อันนาถึงกับตาเบิกกว้าง...อันนาถึงกับตาเบิกกว้าง ร่างกายแข็งทื่อเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ก้นกบ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ แล้วมองลงไปบนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา ปรากฏคราบสีแดงเข้มเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง หัวใจของอันนาหล่นวูบด้วยความอับอาย เธอไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในห้องของมาร์คัส โดยเฉพาะต่อหน้าเขา"คุณมาร์คัส..." เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตาเพราะความรู้สึกผิดปนกับความกลัว เธอรู้ว่ามาร์คัสเป็นคนรักความสะอาดมากแค่ไหนมาร์คัสที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกแลตชิ้นต่อไปถึงกับชะงัก เขามองตามสายตาของอันนา ก่อนที่ดวงตาคมกริบจะหยุดอยู่ที่คราบแดงบนผ้าปูที่นอน ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง แต่แววตากลับฉายแววประหลาดใจระคนกับความไม่เข้าใจ"นี่มันอะไร?" มาร์คัสถามเสียงเรียบ แต่ความเย็นเยือกในน้ำเสียงนั้นทำให้อันนาตัวสั่น"อันนา...อันนาขอโทษค่ะ" อันนารีบพูดเสียงตะกุกตะกัก น้ำตาเริ่มไหลริน "อันนาไม่รู้ว่า...ไม่คิดว่ามันจะมาวันนี้..."อันนาพูดด้วยความรู้สึกผิดเพราะเธอกลัวว่าจะทำให้มาร์คัสรังเกียจมาร์คัสขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ได้โกรธอย่างที่อันนาคิด แต่เขากลับลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้เตียง มองคราบเลื
มาร์คัสจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานของอันนาที่นอนอยู่บนเตียง แล้วทวนคำว่าเธออยากกินช็อกโกแลต ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอมีสีเลือดฝาดแดงระเรื่อเพราะพิษไข้"คุณมาร์คัสขา อันนาขอกินช็อกโกแลตได้ไหม" อันนาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อย เพราะเวลาป่วยเธอจะอยากกินของหวานโดยเฉพาะช็อกโกแลต และไม่อยากทานข้าวเลยมาร์คัสจ้องมองอันนาตาไม่กะพริบ เขากำลังหลงผู้หญิงตรงหน้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น นี่เป็นรอยยิ้มแรกที่อันนายิ้มให้เขา เพียงเพราะอยากกินช็อกโกแลตแค่นั้นหรือ แต่เขาก็ไม่ได้อนุญาตหรือปฏิเสธ“กินข้าวก่อน แล้วฉันจะพาไปซื้อช็อกโกแลต ตกลงไหม” มาร์คัสใช้กลยุทธ์เหมือนพ่อที่หลอกให้ลูกสาวกินข้าว“สัญญานะคะว่าถ้าอันนาทานข้าวหมดจะพาไปซื้อช็อกโกแลต” เธอดีใจจนยิ้มหวานในรอบสองสามวันที่ผ่านมา นี่เป็นรอยยิ้มที่ดูสดใสที่สุด“อืม” เสียงทุ้มต่ำในลำคอเป็นเชิงว่ารับปาก ถ้าอันนาเป็นเด็กดี เขาสัญญาว่าจะดีกับเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมอันนาดีใจจนลุกพรวด แต่ไม่ได้ดูร่างกายที่อ่อนแอของตัวเอง เธอจึงล้มพับนั่งลงข้างเตียง“โอ๊ย!” กลางลำตัวของเธอรู้สึกเจ็บแปลบ เพราะการระบมและอักเสบจากการเสียดสีที่รุนแรง เธอจึงต้องเงยหน้าขึ้นเหมื
หลังจากเสร็จภารกิจและกิจกรรมช่วงนั้นตลอดทั้งวัน อันนาเอาแต่นอนหลับเพราะเธอรู้สึกเจ็บระบม และเหมือนว่าความซวยของเธอจะไม่หมดแค่นั้น เพราะอยู่ดีๆ อันนาก็ไข้ขึ้นสูงและตัวร้อน"คุณหนูอันนาทานข้าวหน่อยนะคะ" ป้าสมศรีที่เดินขึ้นเอาข้าวมาให้อันนาบนห้อง แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน ป้าสมศรีจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเอง ทำให้เห็นอันนานอนซม เหงื่อโทรมใบหน้า ป้าสมศรีเห็นสภาพใบหน้าที่ซีดเซียวจึงรีบเดินเข้าไปปลุกอันนา"คุณหนูอันนาคะ ป้าเอาข้าวมาให้" จังหวะที่เอื้อมมือไปแตะตัวของอันนา ทำให้ป้าสมศรีรู้ว่าอันนาตัวร้อนผ่าว เธอจึงตกใจและรีบไปแจ้งรายงานให้กับนายท่าน ของเธอ คือ มาร์คัส อย่างรวดเร็วมาร์คัสที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวในคฤหาสน์ หลังจากเสร็จกิจกรรมกับอันนาตลอดช่วงเช้า ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่าย กว่าๆ เมื่อเขารู้ว่าอันนาอยู่ๆ เกิดอาการไข้ขึ้นตัวร้อนอย่างไม่ทราบสาเหตุซึ่งใจจริงเขารู้สาเหตุอยู่แล้วว่านั่นน่าจะเกิดจากตัวเขา เขาจึงได้เชิญหมอประจำตระกูลมาที่บ้าน"ป้าสมศรี หมอมาหรือยังครับ" มาร์คัสหันมาถามป้าสมศรีที่ยืนอยู่ข้างๆ"คุณหมอกำลังมาค่ะคุณมาร์คัส" ป้าสมศรีหันมาตอบแล้วยืนโค
มาร์คัสยังคงไม่หยุด เขาก้มหน้าลงดูดดุนติ่งเสียวของเธออย่างไม่ลดละ ราวกับกำลังลิ้มรสของหวานที่ถูกใจ ร่างกายของอันนาบิดเร่าไปมาด้วยความทรมานปนสุข เธอเกร็งไปทั้งตัว มือทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนแน่นในที่สุด เมื่อความเสียวซ่านมาถึงขีดสุด ร่างกายของอันนาก็กระตุกเกร็งเกร็งไปทั้งตัวก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำหวานออกมาเลอะหน้าของมาร์คัส ราวกับเป็นการบ่งบอกถึงจุดสูงสุดของความต้องการมาร์คัสเงยหน้าขึ้นจากกลีบกุหลาบที่บอบช้ำ ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยธารน้ำหวานนั้น เขายกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองอันนาที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ยังไม่มอดดับ"หวาน..." มาร์คัสเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาลุกโชนกว่าที่เคย "เธอทำให้ฉัคลั่ง อันนา"มาร์คัสไม่รอให้อันนาได้พักหายใจ เขาประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ดูดกลืนทุกเสียงครวญครางและหอบหายใจของเธอ ความดิบเถื่อนและความเร่าร้อนของเขาไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย มือหนาข้างหนึ่งรวบร่างบอบบางของเธอให้แนบชิดกับกายแกร่ง อีกข้างหนึ่งจับเรียวขาของเธอให้ยกพาดบ่าอย่างไม่รีบร้อน"อื้อออ...!" อันนา
ผ้าถูกถอดทิ้งกรองลงบนพื้นเหลือเพียงกางเกงที่สวมใส่หน้าอกอวบอิ่มดูเย้ายวนเหมือนเชื้อเชิญให้มาร์คัสมาสัมผัสและเชยชมแอร์ที่ทำงานเย็นเฉียบกระทบกายของอันนา แต่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเย็นตามอุณหภูมิห้องเลยความเร่าร้อนที่ได้รับมาจากผู้ชายตรงหน้าทำให้อันนาล่องลอยเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัววนอยู่ในท้องมันทั้งสุขและเสียวในเวลาเดียวกันเหมือนมีไฟฟ้าโลดแล่นช็อตแปล๊บ ๆ ภายในร่างกายที่ร้อนระอุ อันนาทั้งกลัวและอยากจะหนีไปแต่แรงอารมณ์ของอันนาที่ถูกถ่ายทอดมานั้นมันทำให้เธอตกเป็นทาสของมาร์คัสในเวลานี้"ฮืม ...เด็กดี ..หวาน" มาร์คัสพูดเสียงเบาๆเอยชมอันนามันทำให้อันนารู้สึกเขินจนหน้าร้อนผ่าว"พอแล้วได้ไหมคะ..อ้าส์" อันนาที่เสียวกระสันจนครางส่งเสียงเย้ายวนออกมา ปากบอกให้พอ แต่พอโดนมาร์คัสหยอกเย้ายอดประทุมเธอก็แอ่นอกให้เขาอย่างเต็มใจร่างกายกับปากของเธอมันช่างตรงข้ามกันทุกระเบียบนิ้ว"หึ!" มาร์คัสเปล่งเสียงเย้ยหยันในลำคอออกมา เขาถูกอกถูกใจที่อันนาผู้หญิงที่เขาเลือกตอบสนองไวต่อความต้องการของเขา"เธอนี่มันร่าน! ฮืม..." สองมือหนาลูบไล้ผิวขาวเนียน จากสันหลังลงมาที่เอวคอดแล้วเลื่อนมาที่สะโพกงอน มาร์คัสบีบเค้นจนขึ้นเ
หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยมาคัสก็บอกให้อันนาเดินตามเขาไปที่ห้องทำงานคำพูดที่แสนเย็นชาการกระทำที่หยาบกระด้างเหมือนกับหินทุบลงพื้นมันทำให้อันนารู้สึกเกรงกลัวมาขัดขึ้นทุกวัน"ค่ะคุณมาร์คัส มีอะไรหรือเปล่าคะ" อันนารวบรวมความกล้าหลังจากเดินเข้ามาในห้องแล้วก็ถามมาคัดออกไปตรงๆ"เซ็นซะ เอกสารที่เธอควรต้องเซ็น"มาร์คัสไม่อธิบายอะไรให้กับอันนาฟันแต่บอกให้อันนาเซ็นเอกสารที่อยู่ตรงหน้าของเธออันนาหยิบเอกสารขึ้นมาตั้งใจจะอ่านให้จบแต่มาร์คัสก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า "ไม่ต้องอ่านหรอก เอกสารเซ็นหนังสือสมรสของเราสองคน..!" มาร์คัสที่พูดจาเย็นชาไม่ได้สนใจอาการสีหน้าตกใจของอันนาเลย"แต่ว่าอันนายังไม่ได้ตกลงนะคะ" อันนาหันมาพูดกับมาร์คัสเพราะเธอรู้สึกไม่เป็นธรรมเหมือนโดนมัดมือชก"ไม่จำเป็นต้องตกลง เพราะชีวิตของเธอเป็นของฉัน ทุกตารางนิ้วในร่างกายเธอตอนนี้เป็นของฉัน!" อันนาเธอรู้สึกมือเหงื่อออกจนชุ่มทั้งตื่นเต้นทั้งโมโหอยากจะเอามือไปข่วนหน้าคนที่เย็นชายังมาร์คัดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"ลงชื่อของเธอลงในหนังสือสัญญาสมรสนี้ให้เรียบร้อยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น"มาร์คัสไม่ได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น คำว่าดีขึ้นดี