Share

พรหมจรรย์ดอกหญ้า
พรหมจรรย์ดอกหญ้า
Author: วรนิษฐา / Miss sexy

บทที่ 1

last update Last Updated: 2024-11-05 12:58:34

“ยื้อมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะครับคุณเกี๊ยว ถ้าเลื่อนการผ่าตัดออกไปอีก คราวนี้หมอว่าจะยิ่งอันตราย ดีไม่ดีโอกาสที่จะผ่าตัดสำเร็จแทบจะไม่มี”

นั่นคือประโยคที่ทำให้ขวัญชีวาแทบหยุดหายใจ เธอพยายามตั้งสติแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องคุณหมอหลังจากคุยเรื่องอาการป่วยเสร็จ เวลานี้ทุกอย่างมันหนักอึ้งมองไปทางไหนก็ยังไร้ซึ่งทางออก ขวัญชีวาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ใกล้สุดพร้อมกับบีบมือทั้งสองข้างจนเลือดแทบไหลผ่านไม่ได้ 

เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกชาววัยเจ็ดขวบมาตามลำพัง ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ก้าวผ่านมาได้โดยมีรอยยิ้มจากเด็กชายเยียวยา กระทั่งเมื่อปีก่อนจู่ๆ เธอก็พบความผิดปกติของกวินท์จึงรีบพามาตรวจร่างกาย ก่อนจะได้รับข่าวร้ายว่าลูกชายเธอมีเนื้องอกในสมอง

มีหลายปัจจัยที่การผ่าตัดไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในทันทีที่ตรวจพบ ทั้งเรื่องอายุ เรื่องสุขภาพ เรื่องจุดที่เนื้องอกฝังตัวอยู่รวมไปถึงเรื่องเงินค่ารักษา ทุกๆ อย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปแต่ยิ่งนานวันค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็มากขึ้นตามไปด้วย เพราะตั้งแต่รู้ว่าป่วยกวินท์ก็เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลเป็นว่าเล่น

นั่นทำให้ขวัญชีวาทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตเช่นเดียวกัน จันทร์ถึงศุกร์เธอทำงานที่บริษัทนอกเวลางานก็ยังไปขายของเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุดพักผ่อน ชีวิตของเธอทุ่มเทให้ลูกและงานเพื่อหาเงินจนแทบไม่มีเวลาให้ตัวเอง กระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นนั่นช่วยดึงสติของ     ขวัญชีวาให้กลับมา

“สวัสดีค่ะ” เมื่อกดรับสายขวัญชีวาก็เอ่ยทักออกไป

“สวัสดีค่ะคุณขวัญชีวา ดิฉันเจ้าหน้าที่รีคูสจากบริษัท…ค่ะ” ปลายสายแนะนำตัวซึ่งขวัญชีวารู้จักบริษัทแห่งนี้ เพราะเป็นบริษัทตัวกลางจัดหาพนักงานที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของประเทศก็ว่าได้ 

“ค่ะ”

“คุณขวัญชีวาพอจะมีเวลาสักครึ่งชั่วโมงไหมคะ ดิฉันอยากแนะนำตัวแล้วก็แนะนำบริษัทที่สนใจอยากดึงตัวคุณขวัญชีวาไปร่วมงานด้วยนะคะ” 

“สะดวกค่ะ” ขวัญชีวาเอ่ยรับทันทีนั่นเพราะการเปลี่ยนงานจะทำให้ได้รับเงินเดือนมากขึ้นตามไปด้วย แม้จะมีความเสี่ยงก็ตามทีแต่เธอก็อยากลองเสี่ยงดูสักครั้ง 

 

“นี่อะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น ก่อนที่รอยส์จะเงยหน้ามองคนตรงหน้า เธอคือขวัญชีวาหัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจซึ่งสายงานนั้นขึ้นตรงกับเขาเพียงคนเดียวเพราะแบบนั้นซีอีโอหนุ่มจึงมีหน้าที่เซ็นเอกสารทุกอย่างรวมถึงใบลาออกที่กำลังอยู่ในมือขณะนี้ด้วย 

“ใบลาออกค่ะ”

“ทำไมถึงอยากลาออก ทั้งๆ ที่คุณก็อยู่ในแผนโปรโมตเลื่อนตำแหน่งหรือที่ใหม่ซื้อตัวคุณไป” สีหน้าของรอยส์บ่งบอกว่ากังวลเล็กน้อยนั่นเพราะไม่คิดว่าจู่ๆ     ขวัญชีวาจะลาออก เขาจึงต้องพูดเรื่องเลื่อนตำแหน่งของเธอทั้งๆ ที่ยังต้องเก็บเป็นความลับเพราะยังไม่เรียบร้อย  

“เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากทำงานที่ได้ประสบการณ์มากกว่านี้” ขวัญชีวาไม่อาจบอกเหตุผลแท้จริงได้ว่าเธอเปลี่ยนงานเพราะได้เงินเดือนมากกว่าปัจจุบันเท่าตัวรวมไปถึงสวัสดิการพิเศษที่สามารถเบิกค่ารักษาคนในครอบครัวได้ 

แม้จะไม่มากแต่มันก็ช่วยแบ่งเบาภาระของเธอได้ส่วนหนึ่ง หรือจะต้องแลกกับงานที่หนักรวมถึงบางครั้งยังต้องบินไปทำงานที่ต่างประเทศก็ตาม นั่นเพราะสิ่งสำคัญที่เธอต้องการเวลานี้คือเงิน เงินที่สามารถยื้อลมหายใจของลูกชายให้อยู่กับเธอ

“อยู่ที่นี่คุณก็ได้ประสบการณ์ ลืมไปแล้วหรือไงว่าคุณพึ่งคิดโปรเจกต์ใหม่ จู่ๆ จะทิ้งไปกลางคันแบบนี้ใครจะสานต่อ” รอยส์พยายามรั้งขวัญชีวาไว้ นั่นเพราะถ้าขาดหัวใจสำคัญอย่างเธอไปจริงๆ โปรเจกต์ที่เธอเป็นคนริเริ่มคงได้ล่มไม่เป็นท่าแน่

เพราะเขาตั้งใจเปิดโอกาสให้เธอได้งัดศักยภาพในตัวออกมาโชว์นั่นก็เพื่อตำแหน่งงานที่สูงขึ้น ซึ่งเขารู้และมั่นใจด้วยว่าเธอทำได้แน่

“ค่ะ ฉันขอโทษจริงๆ” แม้จะรู้ว่าเธอกำลังเสียโอกาสทว่าเวลานี้ขวัญชีวาพร้อมจะเสีย

“ผมอยากให้คุณกลับไปคิดทบทวนอีกสักครั้ง”

“ฉันคิดแล้วก็ทบทวนมาเป็นอย่างดีแล้วค่ะ”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เอาเป็นว่าผมจะยังไม่เซ็นใบลาออก วันจันทร์เราค่อยกลับมาคุยเรื่องนี้กันอีกครั้ง” คำพูดของซีอีโอหนุ่มทำให้ขวัญชีวานิ่งงันไปนั่นเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะเซ็นใบลาออกให้เธอโดยง่ายเสียอีก แต่เขากลับยื้อเธอไว้ซึ่งจะด้วยเหตุผลอะไรขวัญชีวาก็ไม่อาจเดาได้

เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง รอยส์ที่แกล้งทำงานเพื่อให้ขวัญชีวาออกไปก็ถึงกับวางปากกาในมือทันที หัวคิ้วหนาขมวดเข้าหากันสีหน้าบ่งบอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดีว่าซีอีโอหนุ่มค่อนข้างไม่พอใจกับเรื่องนี้ เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อดึงขวัญชีวาให้มาทำงานข้างตัว

สนับสนุนและผลักดันกระทั่งเธอฉายแววจนได้เลื่อนตำแหน่งและอย่างที่เขาบอกเธอไปว่าอีกไม่นาน  ขวัญชีวาจะได้รับการโปรโมตให้นั่งในตำแหน่งที่สูงกว่าปัจจุบัน แต่แล้วทำไมเธอถึงต้องลาออกหนำซ้ำไม่ว่าเขาจะโน้มน้าวยังไงเธอก็เหมือนจะไม่เปลี่ยนใจ

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 27- จบ

    “อ้อค่ะ” ขวัญชีวาเอ่ยรับ นั่งรถมาได้ครู่ใหญ่รอยส์ก็เลี้ยวรถไปยังคอมมูนิตี้มอล์แห่งหนึ่ง หลังจอดรถเสร็จเขาก็พาเธอเดินตรงไปยังร้านแห่งหนึ่งที่ด้านหน้ามีชุดเจ้าสาวตั้งโชว์อยู่ นั่นทำให้ขวัญชีวาหยุดกึกทันที“ไม่รู้ว่าที่นี่จะมีชุดเจ้าสาวที่คุณชอบบ้างไหม”“อะไรนะคะ”“ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่รู้เซอร์ไพรส์แบบไหนหรือจะใช้คำไหนบอกก็เลยพาเกี๊ยวมาที่นี่แทน” ความซื่อในเรื่องพวกนี้ของรอยส์ทำให้ขวัญชีวายิ้มเขินออกมา“พูดคำง่ายๆ ว่าเราแต่งงานกันไหม แค่นี้ก็ได้ค่ะ”“เราแต่งงานกันไหมครับ” รอยส์พูดตามที่ขวัญชีวาแนะนำทันที เขาคิดเรื่องแต่งงานกับเธอมานานแล้วจึงไม่แปลกหากอยากแต่งงานทันที “ผมรักคุณ”“เกี๊ยวก็รักคุณ”“เราแต่งงานกันนะ”“นี่คุณยังไม่ล้มเลิกเรื่องขอฉันแต่งงานอีกเหรอ”“ยังครับ ถ้าวันนี้คุณไม่ตอบวันต่อๆ ไปผมก็จะพูดแบ

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 26

    เพราะคิดถึงและโหยหาส่งผลให้สัมผัสของรอยส์นั้นเต็มไปด้วยความร้อนแรง ชายหนุ่มอุ้มขวัญชีวาจนตัวเธอลอยขึ้นจากพื้นแล้วก้าวยาวๆ ไปยังห้องพักผ่อนที่อยู่ทางปีกซ้ายของตัวบ้าน ทันทีที่มาถึงเขาก็วางเธอลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่อยู่ริมหน้าต่างแล้วโน้มตัวลงไปเล้าโลมอย่างคิดถึงพร้อมกระซิบถาม“คิดถึงผมหรือเปล่า”“คิดถึงค่ะ คิดถึงมากจนฝันถึงทุกคืน” คำตอบจากขวัญชีวาทำให้ซีอีโอหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะมอบจูบให้เธอ นั่นทำให้คนในอ้อมกอดครางกระเส่าออกมาอย่างต่อเนื่อง ความเสียวซ่านวาบหวามที่แสนคิดถึงทำให้เธอร้อนรุ่มไปทั้งตัวเพราะคิดถึงจังหวะรักของทั้งคู่จึงร้อนแรงและโหยหา เวลานี้ต่างช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้หลุดพ้นไปจากร่างกายโดยเฉพาะส่วนสำคัญที่ต้องไร้การขวางกั้น การเล้าโลมเกิดขึ้นเพียงครู่เดียวทั้งสองก็อดใจไม่ไหวนั่นทำให้การสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงในขณะที่สะโพกสอบของรอยส์กำลังเคลื่อนไหวในจังหวะเข้าและออกหนักๆ เม็ดยอดสีชมพูบนหน้าอกอวบที่เวลานี้เปลือยเปล่าของขวัญชีวาช่างท้าทายสายตาเขาเ

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 25

    แม้จะมั่นใจว่ารอยส์นั้นรักขวัญชีวาถึงขั้นวางแผนจะแต่งงานใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกัน แต่ภูริชก็ไม่วายบอกข่าวผิดๆ แก่รอยส์ นั่นทำเอาซีอีโอหนุ่มถึงกับหัวร้อนแล้วรีบบึ่งรถไปหาขวัญชีวาที่บ้านทันที“คุณจะทิ้งผมจริงๆ เหรอ”“ทิ้งคุณ!” สีหน้าและแววตาของขวัญชีวางุนงงอย่างเห็นได้ชัด นั่นเพราะเธอไม่เคยคิดจะทิ้งรอยส์เลยแม้แต่ครั้งเดียวแล้วเขาโวยวายเรื่องนั้นขึ้นมาทำไม“ใช่ คุณหนึ่งบอกว่าคุณจะไปอยู่ที่ฟินแลนด์ด้วย แล้วผมละครับ คุณจะเอาผมไปวางไว้ตรงไหน” นอกจากโวยวายแล้วรอยส์ยังร้อนใจจนเก็บอาการไม่อยู่“วางไว้ที่เดิมค่ะ”“คุณเกี๊ยว”“ดื่มน้ำดับอารมณ์ร้อนก่อนดีไหมคะ” ขวัญชีวายังคงแสดงท่าทางสบายๆ ไม่ได้ร้อนรนอะไร“ไม่ครับ” น้ำเสียงห้วนๆ ของรอยส์เอ่ยรับขึ้น“ถ้างั้นก็ตั้งใจฟังให้ดีๆ ฉันจะตามน้องกวินท์ไปที่ฟินแลนด์จริงๆ แต่แค่ไปส่งแล้วกลับค่ะไม่ได้ไปอยู่ถาวร”

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 24

    อาการป่วยของกวินท์ดีวันดีคืน หมอจึงอนุญาตให้เด็กชายกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้แต่ข่าวดีนี้ก็ถูกกลบด้วยบรรยากาศที่อึมครึมเมื่อพลอยใสเดินทางมาถึงเมืองไทยเพื่อคุยเรื่องหย่ากับภูริชเธอยังคงยืนกรานที่จะไม่หย่าในขณะที่ภูริชก็ยืนกรานที่จะหย่าเช่นกัน สุดท้ายภูริชก็ฟ้องหย่าและเพราะไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โตจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ทางครอบบครัวของพลอยใสจึงกดดันให้ลูกสาวคนโตยอมเซ็นใบหย่าเงียบๆต่อให้พลอยใสอยากเอาชนะภูริชมากขนาดไหนสุดท้ายก็ทนแรงกดดันจากคนในครอบครัวที่ไม่มีใครเข้าข้างเธอเลยสักคนไม่ได้ เมื่อหย่าเสร็จเธอก็บินกลับไปใช้ชีวิตที่บอสตันส่วนภูริชก็มีคำสั่งจากบริษัทให้ย้ายไปทำงานที่ฟินแลนด์เช่นกัน เพราะแบบนั้นเขาจึงอยากพากวินท์ไปด้วยทันทีที่ได้รู้ขวัญชีวาก็ถึงกับซึมนั่นเพราะไม่คิดว่าเธอจะต้องอยู่ห่างกับกวินท์ไกลถึงขนาดนั้น แต่ก็ยอมรับว่าที่นั่นดีต่อการดำเนินชีวิตของกวินท์ อีกอย่างเธอเป็นแค่ป้าคงไม่มีสิทธิ์เท่าพ่อแท้ๆ“ทำไมพี่หนึ่งใจร้ายกับแกแบบนั้น” ปิยะดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจที่จู่ๆ

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 23

    “ขอบคุณมากนะครับที่คอยช่วยเหลือลูกชายผมกับเกี๊ยว” เมื่อมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ภูริชก็เอ่ยกับรอยส์ขึ้น“ผมยินดีและเต็มใจที่ได้ช่วยครับ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร”“เกี๊ยวบอกว่าคุณเป็นเจ้านายเธอที่บริษัท”“ใช่ครับ เราทำงานด้วยกันมาหลายปีแล้ว แต่จู่ๆ คุณเกี๊ยวก็ขอลาออกผมเลยรู้ว่าเธอกำลังมีปัญหา” หากไม่มีใบลาออกใบนั้นรอยส์ก็คงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ขวัญชีวาบ้าง“ผมเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเลยจริงๆ” ยิ่งคิดภูริชก็ยิ่งรู้สึกผิด ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถูกลูกชายเกลียดเอา“อย่าโทษตัวเองเลยครับเพราะอย่างน้อยตอนนี้คุณก็รู้ทุกอย่างแล้ว รู้ก่อนที่มันจะสายไป”“ผมเคยทำผิดแล้วครั้งหนึ่งที่เลิกรากับกุ้งโดยไม่รู้ว่าเธอกำลังตั้งท้องมารู้อีกทีคือวันที่ผมบินกลับร่วมงานศพของเธอ แต่แล้วก็ยังปล่อยปะละเลยชีวิตของกวินท์กับเกี๊ยวจนทำให้ทั้งคู่ลำบาก” ยิ่งคิดภูริชก็ยิ่งรู้สึกผิดหลังจากนี้เ

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 22

    “เรากลับมาคุยกันก่อนนะคะคุณหนึ่ง” แม้จะไม่พอใจที่สามีบินกลับเมืองไทยโดยไม่บอกเธอ แต่สถานการณ์ในตอนนี้พลอยใสก็ต้องหว่านล้อมสามีให้กลับมาหาเธอให้ได้เสียก่อน “ต่อจากนี้เราคงไม่ต้องคุยอะไรกันอีก”“ไม่นะคะไม่ ถ้าคุณไม่สะดวกบินมาฉันจะบินไปหาคุณเพื่ออธิบายทุกอย่างเอง นะคะ”“อย่าเสียเวลาเลย”“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงหรือคุณจะหย่ากับฉันอย่างนั้นเหรอ”“ใช่”“คุณหนึ่ง!”“ผมคงใช้ชีวิตกับคุณต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เราหย่ากันน่าจะดีที่สุด” เรื่องหย่าอยู่ในหัวของภูริชมานานแล้ว น่าจะตั้งแต่แต่งงานกับพลอยใสด้วยซ้ำ เพียงแค่ที่ผ่านมาเขาพยายามไม่คิดถึงเรื่องหย่าและคิดว่าทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเพราะหลังจากเลิกรากับปานชีวาน้องสาวของ ขวัญชีวาไม่นานเขาก็แต่งงานสายฟ้าแลบกับเธอ ที่ตัดสินใจแต่งงานทันทีเพราะผู้ใหญ่บีบบังคับบวกกับเขาต้องการใครสักคนเพื่อให้ลืมปานชีวา จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่บอสตันโดยเขาไปทำงานในขณะที่พลอยใสก็ตามไปดูแลแต่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status