공유

บทที่ 2

last update 최신 업데이트: 2024-11-05 12:58:46

“เบาๆ เดี๋ยวเมา” เสียงห้ามดังมาจากธยศเพื่อนสนิทที่คบหากันมาหลายปี ธยศเป็นเจ้าของโรงแรมระดับไฮเอนที่ภาคใต้รวมถึงต่างประเทศอีกด้วย  

“แค่เหล้า ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” รอยส์ยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะวาดปลายนิ้ววนไปมาบนปากแก้ว ในขณะที่สมองคิดถึงแต่ขวัญชีวา

“เครียดเรื่องอะไร ตั้งแต่มาถึงก็เห็นดื่มเอาๆ”

“ลูกน้องจะลาออก”

“กี่คน” 

“คนเดียว”

“ผู้หญิงผู้ชาย” ธยศเอ่ยถามต่อนั่นเพราะอยากรู้ต้นตอที่ทำให้รอยส์อารมณ์ไม่ดีอย่างที่เป็นอยู่ 

“ผู้หญิง”

“โสด สวย”

“ไม่โสดเพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ถามว่าสวยไหมก็…สวย” สำหรับนิยามความสวยผู้ชายที่มองผู้หญิงอาจไม่เหมือนกัน แต่ทว่าในความคิดของเขานั้นขวัญชีวาสวย สวยทั้งรูปร่างหน้าตารวมไปถึงความคิด ที่สำคัญคือเธอทำงานเก่งชนิดหาตัวจับยากจึงไม่แปลกหากจะมีบริษัทไหนสักที่ซื้อตัวเธอไปให้ทำงานด้วย 

และด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้เขาสนใจเธอ เขาไม่เคยรู้สึกตกหลุมรักใครมานานแล้ว ชีวิตหนุ่มโสดตอนนี้ทุกอย่างก็ลงตัวดีกระทั่งได้เจอเธอคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทำให้เขาว้าวุ่นใจ ที่เขารู้ว่าเธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเพราะในใบสมัครงานเธอระบุไว้แบบนั้นรวมทั้งงานเลี้ยงบริษัทเมื่อปีก่อนเธอก็ยังได้พาลูกชายวัยน่ารักมาร่วมด้วย 

“ลูกน้องจะลาออกแค่คนเดียวแถมยังเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแต่ทำให้นายเป็นได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ถามจริง คิดอะไรกับลูกน้องคนนั้นหรือเปล่า”

“เปล่า” แม้จะคิดแต่รอยส์ก็เลือกที่จะปฏิเสธนั่นเพราะต่อให้สนิทกับธยศทว่าเรื่องบางเรื่องเขาก็ยังไม่พร้อมจะลงลึกถึงรายละเอียดที่ซับซ้อน แต่ท่าทางของรอยส์มีหรือที่อีกคนจะเชื่อ 

“เชื่อก็บ้าแล้ว ซีอีโอหนุ่มหล่อสุดเพอเฟคที่มีสาวสวยให้ควงไม่ขาดอย่างนายแต่กลับมานั่งเครียดกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ มองยังไงมันก็ไม่ปกติ” 

“ฉันกลับก่อนแล้วกัน” นั่นเพราะไม่มีอารมณ์ร่วมและไม่สนุกอย่างที่คิดรอยส์จึงเอ่ยขึ้น 

“เดี๋ยวสิ น้องๆ กำลังมาไม่รอหน่อยเหรอ” น้องๆ ที่อีกฝ่ายเอ่ยถึงคือบรรดาสาวๆ นั่นเอง 

“ไม่ วันนี้เบื่อไม่อยากทำอะไร”

“โอเคๆ แต่เปลี่ยนใจเมื่อไหร่บอกนะครับ ผมจะพาน้องๆ ไปส่งให้ถึงห้อง” 

“อืม” รอยส์เอ่ยรับแต่ไม่คิดจะทำจริง นั่นเพราะคืนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะทำอะไรจริงๆ พอกลับมาถึงบ้านก็สั่งให้แม่บ้านเตรียมเหล้าและกับแกล้มให้จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งไขว่ข้างบนเก้าอี้หนังตัวโปรด ชงเหล้าด้วยความชำนาญแล้วหยิบแก้วเหล้าใบนั้นขึ้นมาจิบพร้อมกับคิดเรื่องขวัญชีวาไปด้วย

“หวังว่าคุณจะให้คำตอบที่ตรงกับใจผม” 

“คุยอะไรกันอยู่ครับ หน้าตาซีเรียสเชียว” เสียงทุ้มของซีอีโอหนุ่มเอ่ยถาม เพราะทันทีที่มาถึงห้องทำงานก็มองเห็นเลขาส่วนตัวยืนคุยอยู่กับผู้จัดการฝ่ายบุคคล 

“เอ่อคือว่า…” เลขาส่วนตัวของซีอีโอหนุ่มอึกอักทันที 

“ผมไม่มีสิทธิ์รู้เหรอ”

“เปล่าๆ ค่ะ คือดิฉันกำลังคุยถึงเรื่องของน้องเกี๊ยว” 

“เรื่องของคุณขวัญชีวา เรื่องอะไร”

“ดูเหมือนลูกชายน้องเกี๊ยวจะป่วยหนักค่ะ ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งให้รีบเข้าไปด่วน น้องเกี๊ยวรีบมากจนเกือบเดินตกบันไดดีที่ดิฉันคว้าแขนเอาไว้ได้ทัน พอถามไถ่ถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” เลขาสาวค่อยๆ เรียบเรียงเรื่องราวแล้วเล่าให้เจ้านายหนุ่มได้ฟัง 

“ฝากคุณเป็นธุระแทนผมส่งของเยี่ยมไปให้ลูกชายของเธอด้วย”

“ได้ค่ะคุณรอยส์” เลขาส่วนตัวเอ่ยรับปากทันที ได้ยินแบบนั้นรอยส์จึงเดินเข้าห้องทำงานไป ทันทีที่ประตูห้องทำงานของซีอีโอหนุ่มปิดลง เสียงพูดคุยของเลขาและผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง นั่นเพราะต่างเป็นห่วงลูกชายของขวัญชีวากระทั่งได้เวลาทำงานจึงแยกย้าย

ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเลขาส่วนตัวก็เข้ามาแจ้งว่าได้จัดการส่งกระเช้าไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมลูกชายของขวัญชีวาเรียบร้อยแล้ว เพราะแบบนั้นรอยส์จึงได้รู้ว่าขณะนี้ลูกชายของขวัญชีวารักษาตัวอยู่ที่ไหน ชายหนุ่มอาศัยจังหวะออกไปประชุมกับลูกค้าแวะไปหาเธอที่นั่น

เขาถึงได้รู้ว่าอาการของลูกชายเธอแย่มากหนทางเดียวที่จะยื้อชีวิตไว้ได้คือการผ่าตัดที่ควรเกิดขึ้นในทันที หรือว่านั่นจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ขวัญชีวาขอลาออก เธอกำลังต้องใช้เงินและเป็นเงินที่มากทีเดียว แต่เพราะเขาไม่ใช่เทพบุตรที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้คนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแม้กระทั่งกับขวัญชีวาเองก็ตาม

ในขณะที่เวลานั้นขวัญชีวานั่งอับจนหนทางอยู่หน้าห้องปลอดเชื้อที่ลูกชายอยู่ข้างใน คิวผ่าตัดที่เร็วที่สุดเป็นวันพรุ่งนี้ซึ่งเธอได้เซ็นเอกสารอนุญาตให้ทำการผ่าตัดได้ไปแล้วเช่นกัน หลังผ่าตัดเสร็จเธอจะหาเงินจากไหนมาจ่าย ญาติพี่น้องก็ไม่มีให้ไปหยิบยืม เพื่อนสนิทที่มีก็รู้ๆ กันอยู่ว่ามีเงินหรือไม่มี

“เกี๊ยว”

“เบล”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 27- จบ

    “อ้อค่ะ” ขวัญชีวาเอ่ยรับ นั่งรถมาได้ครู่ใหญ่รอยส์ก็เลี้ยวรถไปยังคอมมูนิตี้มอล์แห่งหนึ่ง หลังจอดรถเสร็จเขาก็พาเธอเดินตรงไปยังร้านแห่งหนึ่งที่ด้านหน้ามีชุดเจ้าสาวตั้งโชว์อยู่ นั่นทำให้ขวัญชีวาหยุดกึกทันที“ไม่รู้ว่าที่นี่จะมีชุดเจ้าสาวที่คุณชอบบ้างไหม”“อะไรนะคะ”“ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่รู้เซอร์ไพรส์แบบไหนหรือจะใช้คำไหนบอกก็เลยพาเกี๊ยวมาที่นี่แทน” ความซื่อในเรื่องพวกนี้ของรอยส์ทำให้ขวัญชีวายิ้มเขินออกมา“พูดคำง่ายๆ ว่าเราแต่งงานกันไหม แค่นี้ก็ได้ค่ะ”“เราแต่งงานกันไหมครับ” รอยส์พูดตามที่ขวัญชีวาแนะนำทันที เขาคิดเรื่องแต่งงานกับเธอมานานแล้วจึงไม่แปลกหากอยากแต่งงานทันที “ผมรักคุณ”“เกี๊ยวก็รักคุณ”“เราแต่งงานกันนะ”“นี่คุณยังไม่ล้มเลิกเรื่องขอฉันแต่งงานอีกเหรอ”“ยังครับ ถ้าวันนี้คุณไม่ตอบวันต่อๆ ไปผมก็จะพูดแบ

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 26

    เพราะคิดถึงและโหยหาส่งผลให้สัมผัสของรอยส์นั้นเต็มไปด้วยความร้อนแรง ชายหนุ่มอุ้มขวัญชีวาจนตัวเธอลอยขึ้นจากพื้นแล้วก้าวยาวๆ ไปยังห้องพักผ่อนที่อยู่ทางปีกซ้ายของตัวบ้าน ทันทีที่มาถึงเขาก็วางเธอลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่อยู่ริมหน้าต่างแล้วโน้มตัวลงไปเล้าโลมอย่างคิดถึงพร้อมกระซิบถาม“คิดถึงผมหรือเปล่า”“คิดถึงค่ะ คิดถึงมากจนฝันถึงทุกคืน” คำตอบจากขวัญชีวาทำให้ซีอีโอหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะมอบจูบให้เธอ นั่นทำให้คนในอ้อมกอดครางกระเส่าออกมาอย่างต่อเนื่อง ความเสียวซ่านวาบหวามที่แสนคิดถึงทำให้เธอร้อนรุ่มไปทั้งตัวเพราะคิดถึงจังหวะรักของทั้งคู่จึงร้อนแรงและโหยหา เวลานี้ต่างช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้หลุดพ้นไปจากร่างกายโดยเฉพาะส่วนสำคัญที่ต้องไร้การขวางกั้น การเล้าโลมเกิดขึ้นเพียงครู่เดียวทั้งสองก็อดใจไม่ไหวนั่นทำให้การสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงในขณะที่สะโพกสอบของรอยส์กำลังเคลื่อนไหวในจังหวะเข้าและออกหนักๆ เม็ดยอดสีชมพูบนหน้าอกอวบที่เวลานี้เปลือยเปล่าของขวัญชีวาช่างท้าทายสายตาเขาเ

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 25

    แม้จะมั่นใจว่ารอยส์นั้นรักขวัญชีวาถึงขั้นวางแผนจะแต่งงานใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกัน แต่ภูริชก็ไม่วายบอกข่าวผิดๆ แก่รอยส์ นั่นทำเอาซีอีโอหนุ่มถึงกับหัวร้อนแล้วรีบบึ่งรถไปหาขวัญชีวาที่บ้านทันที“คุณจะทิ้งผมจริงๆ เหรอ”“ทิ้งคุณ!” สีหน้าและแววตาของขวัญชีวางุนงงอย่างเห็นได้ชัด นั่นเพราะเธอไม่เคยคิดจะทิ้งรอยส์เลยแม้แต่ครั้งเดียวแล้วเขาโวยวายเรื่องนั้นขึ้นมาทำไม“ใช่ คุณหนึ่งบอกว่าคุณจะไปอยู่ที่ฟินแลนด์ด้วย แล้วผมละครับ คุณจะเอาผมไปวางไว้ตรงไหน” นอกจากโวยวายแล้วรอยส์ยังร้อนใจจนเก็บอาการไม่อยู่“วางไว้ที่เดิมค่ะ”“คุณเกี๊ยว”“ดื่มน้ำดับอารมณ์ร้อนก่อนดีไหมคะ” ขวัญชีวายังคงแสดงท่าทางสบายๆ ไม่ได้ร้อนรนอะไร“ไม่ครับ” น้ำเสียงห้วนๆ ของรอยส์เอ่ยรับขึ้น“ถ้างั้นก็ตั้งใจฟังให้ดีๆ ฉันจะตามน้องกวินท์ไปที่ฟินแลนด์จริงๆ แต่แค่ไปส่งแล้วกลับค่ะไม่ได้ไปอยู่ถาวร”

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 24

    อาการป่วยของกวินท์ดีวันดีคืน หมอจึงอนุญาตให้เด็กชายกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้แต่ข่าวดีนี้ก็ถูกกลบด้วยบรรยากาศที่อึมครึมเมื่อพลอยใสเดินทางมาถึงเมืองไทยเพื่อคุยเรื่องหย่ากับภูริชเธอยังคงยืนกรานที่จะไม่หย่าในขณะที่ภูริชก็ยืนกรานที่จะหย่าเช่นกัน สุดท้ายภูริชก็ฟ้องหย่าและเพราะไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โตจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ทางครอบบครัวของพลอยใสจึงกดดันให้ลูกสาวคนโตยอมเซ็นใบหย่าเงียบๆต่อให้พลอยใสอยากเอาชนะภูริชมากขนาดไหนสุดท้ายก็ทนแรงกดดันจากคนในครอบครัวที่ไม่มีใครเข้าข้างเธอเลยสักคนไม่ได้ เมื่อหย่าเสร็จเธอก็บินกลับไปใช้ชีวิตที่บอสตันส่วนภูริชก็มีคำสั่งจากบริษัทให้ย้ายไปทำงานที่ฟินแลนด์เช่นกัน เพราะแบบนั้นเขาจึงอยากพากวินท์ไปด้วยทันทีที่ได้รู้ขวัญชีวาก็ถึงกับซึมนั่นเพราะไม่คิดว่าเธอจะต้องอยู่ห่างกับกวินท์ไกลถึงขนาดนั้น แต่ก็ยอมรับว่าที่นั่นดีต่อการดำเนินชีวิตของกวินท์ อีกอย่างเธอเป็นแค่ป้าคงไม่มีสิทธิ์เท่าพ่อแท้ๆ“ทำไมพี่หนึ่งใจร้ายกับแกแบบนั้น” ปิยะดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจที่จู่ๆ

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 23

    “ขอบคุณมากนะครับที่คอยช่วยเหลือลูกชายผมกับเกี๊ยว” เมื่อมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ภูริชก็เอ่ยกับรอยส์ขึ้น“ผมยินดีและเต็มใจที่ได้ช่วยครับ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร”“เกี๊ยวบอกว่าคุณเป็นเจ้านายเธอที่บริษัท”“ใช่ครับ เราทำงานด้วยกันมาหลายปีแล้ว แต่จู่ๆ คุณเกี๊ยวก็ขอลาออกผมเลยรู้ว่าเธอกำลังมีปัญหา” หากไม่มีใบลาออกใบนั้นรอยส์ก็คงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ขวัญชีวาบ้าง“ผมเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเลยจริงๆ” ยิ่งคิดภูริชก็ยิ่งรู้สึกผิด ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถูกลูกชายเกลียดเอา“อย่าโทษตัวเองเลยครับเพราะอย่างน้อยตอนนี้คุณก็รู้ทุกอย่างแล้ว รู้ก่อนที่มันจะสายไป”“ผมเคยทำผิดแล้วครั้งหนึ่งที่เลิกรากับกุ้งโดยไม่รู้ว่าเธอกำลังตั้งท้องมารู้อีกทีคือวันที่ผมบินกลับร่วมงานศพของเธอ แต่แล้วก็ยังปล่อยปะละเลยชีวิตของกวินท์กับเกี๊ยวจนทำให้ทั้งคู่ลำบาก” ยิ่งคิดภูริชก็ยิ่งรู้สึกผิดหลังจากนี้เ

  • พรหมจรรย์ดอกหญ้า   บทที่ 22

    “เรากลับมาคุยกันก่อนนะคะคุณหนึ่ง” แม้จะไม่พอใจที่สามีบินกลับเมืองไทยโดยไม่บอกเธอ แต่สถานการณ์ในตอนนี้พลอยใสก็ต้องหว่านล้อมสามีให้กลับมาหาเธอให้ได้เสียก่อน “ต่อจากนี้เราคงไม่ต้องคุยอะไรกันอีก”“ไม่นะคะไม่ ถ้าคุณไม่สะดวกบินมาฉันจะบินไปหาคุณเพื่ออธิบายทุกอย่างเอง นะคะ”“อย่าเสียเวลาเลย”“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงหรือคุณจะหย่ากับฉันอย่างนั้นเหรอ”“ใช่”“คุณหนึ่ง!”“ผมคงใช้ชีวิตกับคุณต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เราหย่ากันน่าจะดีที่สุด” เรื่องหย่าอยู่ในหัวของภูริชมานานแล้ว น่าจะตั้งแต่แต่งงานกับพลอยใสด้วยซ้ำ เพียงแค่ที่ผ่านมาเขาพยายามไม่คิดถึงเรื่องหย่าและคิดว่าทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเพราะหลังจากเลิกรากับปานชีวาน้องสาวของ ขวัญชีวาไม่นานเขาก็แต่งงานสายฟ้าแลบกับเธอ ที่ตัดสินใจแต่งงานทันทีเพราะผู้ใหญ่บีบบังคับบวกกับเขาต้องการใครสักคนเพื่อให้ลืมปานชีวา จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่บอสตันโดยเขาไปทำงานในขณะที่พลอยใสก็ตามไปดูแลแต่ไ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status