เฉียวเนี่ยนกวาดตามองพวกเขา ก่อนจะเอื้อยเอ่ย "คุณหนูหลินจะไม่อธิบายตัวเองสักหน่อยหรือ"คำพูดนั้นกำลังเตือนหลินยวนอย่างชัดเจนนางรีบลงจากเตียง ถลาตัวไปคุกเข่าลงตรงหน้าท่านโหวหลินและหลินเย่ว์ ร้องไห้คร่ำครวญ "ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ"ครั้งได้ยินเสียงนาง หลินเย่ว์กลับไม่เห็นใจแม้แต่นิดกลับกันยังมองนางอย่างเหลือเชื่อ กดเสียงต่ำเอ่ยถาม "เจ้าก็เลยปล่อยให้ข้าฆ่าพวกเขาเช่นนั้นหรือ?"ทั้งๆ ที่นางจ่ายเงินจ้างเหล่าขอทานพวกนั้น แต่เมื่อเห็นเขาชักกระบี่ออกมา นางกลับไม่เอ่ยปากห้ามแม้สักคำ!หากขอทานพวกนั้นมิได้คิดร้ายอันใดกับนาง เช่นนั้นแล้วการที่เขาฆ่าคนนั้น เรียกว่าอะไรเขารู้ว่าเขาผลีผลามมาแต่ไหนแต่ไหร แต่ไม่เคยฆ่าคนเป็นผักเป็นปลายามนี้เขาต้องมือเปื้อนเลือดเพราะหลินยวน...หลินยวนรนราน นางส่ายหน้าสุดชีวิต "ไม่ใช่นะเจ้าคะ ไม่ใช่เช่นนั้น ข้า ข้าจ้างก็จริง แต่ขอทานพวกนั้นคิดมิดีมิร้ายกับข้าจริงๆ! พี่ใหญ่ก็เห็นกับตามิใช่หรือ? หากไม่ใช่เพราะท่านมาช่วยไว้ทันเวลา ข้าคงต้องแปดเปื้อนเพราะพวกเขาแล้วจริงๆ!"วินาทีนี้หลินเย่ว์แทบจะแยกแยะไม่ออกแล้วเขาแยกแยะไม่ออกแล้วว่า
ภาพที่เห็นคือท่านโหวหลินใบหน้าเขียวคล้ำ หันไปมองจิ่งเหยียนที่กำลังยกมือคำนับ "จวนโหวยังมีเรื่องต้องจัดการ ท่านรองแม่ทัพจิ่งกลับไปก่อนเถิด!"นี่มันไล่กันชัดๆแต่จิ่งเหยียนกลับไม่รู้สึกเสียใจ เขารู้ดีว่าตัวเองชาติกำเนิดต่ำต้อย หากจะคบหากับเฉียวเนี่ยน ย่อมต้องเจออุปสรรคมากมายเขาเตรียมพร้อมเผชิญกับทุกสิ่งแล้วแต่เขานั้นเป็นห่วงเฉียวเนี่ยนเขากังวลว่าหากตัวเองไปแล้วทิ้งให้เฉียวเนี่ยนต้องต่อสู้กับจวนโหวเพียงลำพังวินาทีนั้นแววตาที่หันไปมองเฉียวเนี่ยน แฝงไปด้วยความห่วงใยอย่างเหลือล้นแต่เฉียวเนี่ยนกลับส่งยิ้มบางให้เขา ก่อนจะพยักหน้าบอกให้วางใจนางกลับจวนมาก็นานแล้ว มีเรื่องหนักหนาอันใดที่นางยังไม่เคยพบเจอบ้าง นางฝึกฝนวิธีรับมือเหตุการณ์เลวร้ายเหล่านี้ไว้แล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอนแต่จิ่งเหยียนยังคงกังวล เพียงแต่อย่างไรเสียตอนนี้เขาก็เป็นคนนอกอยู่ดีเจ้าของบ้านเอ่ยปากไล่เขาแล้ว หากเขายังดึงดันจะอยู่ต่อ คงรังแต่จะสร้างปัญญาให้เฉียวเนี่ยนเมื่อชั่งน้ำหนักแล้วสุดท้ายเขาก็คำนับแล้วจากไปแต่จิ่งเหยียนยังไม่ทันเดินออกไปไกล ท่านโหวหลินก็ถามเฉียวเนี่ยนเสียงขุ่นเคือง "เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ? ด้า
คำพูดนั้นของเฉียวเนี่ยนเหมือนมีดเล่มหนึ่งที่แทงกลางใจท่านโหวหลินท่านโหวหลินทำทีแก้ต่าง "ไม่ ไม่ใช่ว่าพ่อตั้งใจทอดทิ้งเจ้าไว้ที่กรมซักล้าง แต่ฮองเฮารับสั่ง พ่อเองก็ไม่อาจขัดขืน"เมื่อพูดถึงเท่านั้น ท่านโหวหลินก็รู้สึกปวดใจ แม้แต่ใจหายยังแสนยากลำบาก เขาสูดลมหายใจอยู่หลายครั้งกว่ามีแรงพูดต่อ "พ่อ พ่อไม่ได้ไม่ใยดีเจ้า แต่ฮ่องเต้จับตาดูจวนโหวอยู่ตลอด พ่อกลัวว่าหากเดินหมากผิดไปสักครึ่งก้าว กลัวว่าฮ่องเต้จะรู้จัดอ่อน! พ่อกลัวว่าจวนโหวจะล่มสลายเพราะน้ำมือพ่อ พ่อจึงจำต้อ...""จำต้องทอดทิ้งข้า"เฉียวเนี่ยนจบประโยคนั้นแทนท่านโหวหลิน น้ำเสียงแสนเรียบเฉยนางเข้าใจดี ท่านโหวหลินในฐานะประมุขของตระกูล ย่อมคิดถึงชีวิตนับร้อยของทั้งนายทั้งบ่าวในจวนโหวนางเขาใจว่าท่านโหวหลินนั้นลำบากใจและต้องเสียสละแต่นางไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดเมื่อสามปีก่อน ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าหลินยวนเป็นคนทำถ้วยแก้วแตก แต่กลับไม่ปริปากสักคำยามนางถูกกล่าวหานางไม่อาจเข้าใจเลยว่าเหตุใดเมื่อสามปีก่อน เพียงแค่คำถามง่ายๆ ถึงได้สะเทือนถึงความเป็นความตายของจวนโหวปานนั้นเขาจะส่งใครสักคนไปถามสารทุกข์สุขดิบนางไม่ได้เชียวหรือ?เพียงแค่ปร
ภาพที่เห็นมีเพียงใบหน้าเคร่งเครียดของเขา น้ำเสียงนั้นเศร้าโศกเหลือเกิน "ข้ารู้ว่าข้าจัดการเรื่องวันนี้ได้ไม่ดีนัก แต่ในเมื่อข้ารับปากแล้วว่าจะช่วยหาคู่ที่เหมาะสมให้เจ้า ก็ต้องทำให้ได้อย่างนี้พูด เจ้าไม่เห็นข้าเป็นพี่ใหญ่ แต่ข้าเห็นเจ้าเป็นน้องสาวเสมอมา ข้าไม่มีวันให้ยอมให้เจ้าแต่งงานกับคนไร้อำนาจไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ ผู้ชายที่ไม่มีวันปกป้องเจ้าได้"เมื่อหลินเย่ว์พูดคำนั้น เฉียวเนี่ยนเกือบจะเผลอหัวเราออกมาเขาเห็นนางเป็นน้องสาวเสมอมา?ทว่าแต่ละเรื่องที่เขาทำ มีพี่ใหญ่ที่ไหนทำกับน้องสาวเช่นนี้?เพียงแต่คำพูดเหล่านั้นเฉียวเนี่ยนพูดมาหลายต่อหลายหน ยามนี้จึงไม่อยากเอ่ยถึงอีกต่อไปแม้จะพูดออกไป ด้วยนิสัยอย่างหลินเย่ว์ก็คงจำไม่ได้อยู่ดีนางจึงเอ่ยเสียงเย็นเพียงว่า "แต่เขาคือคนที่ปกป้องข้าในวันนี้ หากไม่มีเขา วันนี้ข้าคงนอนอยู่ในโลงศพไปแล้ว"หากไม่ใช่เพราะจิ่งเหยียนเข้ามารับแทนนางจนปางตาง นางจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร?หลินเย่ว์กลับไม่รู้สึกว่าสิ่งที่จิ่งเหยียนทำนั้นดีเด่อะไร"เซียวเหิงกับข้าลงไปชั้นสองอยู่แล้ว! ต่อให้วันนี้จิ่งเหยียนไม่อยู่ที่นั่น เจ้าสารเลวแซ่วสวีนั่นก็ไม่มีทางทำอะไรเ
แต่นางเองก็รู้ดี ว่าพวกเขาไม่มีทางเข้าใจคนไร้หัวใจ จะรับรู้ถึงความจริงใจได้อย่างไร?เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนไม่พูด ฮูหยินหลินที่อยู่ข้างกันก็เอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ "เนี่ยนเนี่ยน แม่รู้ว่าเจ้ายังพอใจพวกเราเพราะเรื่องราวในอดีต แต่ว่าเรื่องนี้ท่านพ่อกับพี่ใหญ่ของเจ้าล้วนแต่หวังดีกับเจ้าทั้งนั้น! รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนดี สำหรับคนธรรมดา เขาคือคนดีที่หาได้ยากคนหนึ่ง แต่สำหรับเจ้าแล้ว เขาไม่อาจให้ในสิ่งที่เจ้า...""เขาไม่อาจให้ในสิ่งที่ข้าต้องการได้ หรือว่ามอบสิ่งที่จวนโหวต้องการไม่ได้กันแน่?" ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็อดทนไม่ไหว เอ่ยแทรกคำพูดของฮูหยินหลินหลินเย่ว์เหมือนถูกแทงใจดำ โวยวายเสียงทุ้มต่ำ "เฉียวเนี่ยน พ่อแม่แค่เป็นห่วงเจ้า เจ้าอย่าเนรคุณนัก!"เป็นห่วง?เฉียวเนี่ยนแค่นหัวเราะ "ข้าพูดผิดไปหรือไร? สิ่งที่ข้าต้องการ เขามีมากมาย ทั้งยังมอบมันทั้งหมดให้ข้าได้"พูดถึงเพียงเท่านั้น สายตาของนางก็กวาดมองใบหน้าคนตระกูลหลินทีละคน มุมปากยกยิ้มเย้ยหยัน "แต่สิ่งที่พวกท่านต้อง เขานั้นไม่มีจริงๆ"สิ่งที่พวกเขาต้องการ จะมีอะไรนอกเสียงจากคำสองพยางค์ว่าอำนาจพวกเขาอยากให่นางแต่งงานกับคนที่สามารถอุ้มชูคน
หลินยวนร้องไห้คร่ำครวญไม่หยุด อาจเป็นเพราะท่าทางน่าสงสารจับใจ ฮูหยินหลินถึงได้ใจอ่อนลงบ้าง เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ "บนโลกนี้ ไม่มีหญิงใจคิดจะอยากให้ตัวเองแปดเปื้อน ไม่แน่ว่า ยวนเอ๋อร์อาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะเจ้าคะ"แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะแค่นหัวเราะออกมา "แต่เมื่อครู่คุณหนูพูดเองมิใช่หรือ นางกลัวว่าพวกท่านจะไม่ต้องการนาง หากวันนี้นางเสียบริสุทธิ? พวกท่านคงปวดในเหลือคณานับ คงโทษว่าเป็นความผิดของข้าทั้งหมด แล้วก็จะยิ่งรักนาง ปกป้องนาง แม่ทัพเซียวก็จะรู้สึกผิด จากนั้นก็แต่งงานเร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทุกอย่างก็สมดั่งใจนาง"ยามเฉียวเนี่ยนพูด สายตานั้นหยุดอยู่บนร่างของหลินยวนหลินยวนส่ายหน้าสุดชีวิต "ไม่ ไม่ใช่นะเจ้าคะ ไม่ใช่เช่นนั้น..."แต่เฉียวเนี่ยนกลับหัวเราะออกมา น้ำเสียงมีความเย้ยหยัน "ยิ่งไปกว่านั้น นายังส่งคนมาบอกข่าวท่านโหวน้อยอีก นางรู้ว่าไม่นานท่านโหวน้อยต้องตามมาแน่นอน นางรู้ว่าตัวเองไม่มีทางเสียบริสุทธิ์""ไม่ใช่เช่นนั้น!" ในที่สุดหลินยวนก็ตะโกนลั่นออกมา ราวกับอยากจะใช้เสียงดังนั้นกลบเสียงของเฉียวเนี่ยนให้สิ้นแต่จะกลบได้อย่างไร?นางเห็นแววตาของพ่อแม่และพี่ใหญ่ที่ค่อยๆ
ประโยคนั้นหมายความว่า นางจะพยายามเพื่อเขาตลอดไปความซาบซึ้งเอ่อล้นในใจจิ่งเหยียน แต่เขากลับรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ "ข้าน้อยจิ่งจะคู่ควรได้อย่างไร..."แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเรียกเขาเสียงจริงจัง "จิ่งเหยียน"จิ่งเหยียนช้อนตาขึ้นมองตามเสียง ก็เห็นเฉียวเนี่ยนกำลังขมวดคิ้ว จ้องมองเขาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด "จากนี้ไปห้ามพูดจาด้อยค่าตัวเองเช่นนี้อีก ชีวิตที่เหลือของข้ามอบให้เจ้าแล้ว เจ้าต้องปกป้องตัวเองให้ดี ถึงจะปกป้องข้าได้"จิ่งเหยียนชะงักไปประโยคที่ว่า 'ชีวิตที่เหลือของข้ามอบให้เจ้าแล้ว' กดทับหัวใจเขาราวกับหนักเป็นตันเขาไม่รู้ว่าเพราะหัวได้รับบาดจเจ็บหรือไร ตั้งแต่ที่เฉียวเนี่ยนถามตัวเองว่าจะมาสู่ขอนางหรือไม่ เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองลอยละล่อง ราวกับอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ ไม่ใช่เรื่องจริงจนกระทั่งวินาทีนี้ เขามอบภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้แก่เขา เขาถึงได้รู้ตัวว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องจริงจากนั้นก็ได้ยินเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงข้าถึงได้รีบออกมาตามหาเจ้าขอทานน้อย แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ ว่าเข้าเองก็เป็นห่วงเจ้าเช่นกัน เจ้าบาดเจ็บเพราะข้า หากเกิดเรื่องระหว่างเจ้
แต่สองตาที่เฉียวเนี่ยนมองเซียวเหิงนั้นกลับแสนว่างเปล่า "มีอะไรน่าสงสัยกัน ข้าตกลงปลงใจกับเขา หากแม่ทัพเซียวถามเช่นนั้น ก็คงต้องตอบว่า ไม่รู้ว่าเริ่มต้นเมื่อใด แต่ยามนี้แสนลึกซึ้งกระมัง!"เมื่อได้ยินดังนั้นบรรยากาศรอบกายของเซียวเหิงก็พลันเย็นยะเยือก แม้แต่ดวงตาคู่นั้นของเขาก็เหมือนกลายเป็นน้ำแข็งในพริบตายามนี้แสนลึกซึ้ง?ลึกซึ้งอย่างนั้นหรือ?หากนางลึกซึ้งกันแล้ว ยามนี้คงไม่ได้เรียกว่าจู่ๆ ก็ชอบจิ่งเหยียน!ทันใดนั้นเซียวเหิงก็หัวเราะเสียงเย็น "ความลึกซึ้งของคุณหนูเฉียว จากเปลี่ยนเร็วยิ่งนัก"น้ำเสียงนั้นประชดประชันอย่างเห็นได้ชัดเฉียวเนี่ยนเข้าใจว่าความโดยนันของเขา ทันใดนั้นสีหน้าก็เย็นชา "ความรู้สึกที่ข้ามีต่อแม่ทัพเซียว เหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสา แต่ก่อนแม่ทัพเซียวก็ไม่เคยเห็นข้าในสายตาอยู่แล้ว? เหตุใดยามนี้ทำเหมือนกับใส่ใจนัก?"เฉียวเนี่ยนพูดเพียงเท่านั้น แต่เซียวเหิงมีหรือจะยอมรับว่าตัวเองใส่ใจ?เขากัดฟันกรอด ใบหน้าเย็นชาแค่นยิ้มเย้ย "คุณหนูเฉียวพูดเป็นเล่นไป ข้าเพียงแค่ถามคุณหนูเฉียวด้วยความหวังดี เรื่องนี้ทางที่ดีควรฟังพ่อแม่"แววตาของเฉียวเนี่ยนเรียบเฉย "เรื่องนี้แม่ทัพ
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด