LOGINสถานะชั่วคราวที่ถูกยัดเยียดอย่างไม่เต็มใจ ทำให้เธอต้องอยู่พันธะของเจ้านายหนุ่มที่รู้จักและทำงานด้วยกันมานานเกือบสามปี ในที่ทำงานเธอเป็นเพียงพนักงานบริษัทตัวเล็กๆ แต่อยู่ที่บ้านเธอคือนางบำเรอของเขา
View Moreสวัสดีค่ะนักอ่านที่น่ารักทุกท่านกลับมาพบกันอีกครั้งกับความโบ้
จากเรื่อง “พันธะร้ายท่านประธาน”(กษิดิฐ × เขมจิรา)
คำโปรยสถานะชั่วคราวที่ถูกยัดเยียดอย่างไม่เต็มใจ ทำให้เธอต้องอยู่พันธะของเจ้านายหนุ่มที่รู้จักและทำงานด้วยกันมานานเกือบสามปี ในที่ทำงานเธอเป็นเพียงพนักงานบริษัทตัวเล็ก ๆ แต่อยู่ที่บ้านเธอคือนางบำเรอของเขา
สปอยล์
เขมจิรา พนักงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ที่ใครก็รู้จัก เธอเข้ามาทำงานที่นี่ได้เกือบสามปี แต่เพราะความผิดพลาดทำให้เธอได้เสียกับท่านประธานหนุ่ม หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้นเธอคิดว่าทุกอย่างจะจบแต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย กษิดิฐสืบจนรู้ว่าผู้หญิงที่เขาหลับนอนด้วยคือพนักงานในบริษัทของตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงที่เลขาหามาให้อย่างที่เข้าใจ เพราะหยดเลือดบริสุทธิ์บนเตียงตอกย้ำให้เขามั่นใจว่าคนที่หลับนอนกับเขาไม่ใช่ผู้หญิงที่เลขาถามให้แน่นอน หลังจากสืบจนรู้ชายหนุ่มก็เริ่มเข้าหาหญิงสาวแต่ทว่าเธอก็พยายามหลบหน้าเขาตลอด เพราะติดใจและต้องการอยากได้ชายหนุ่มจึงยื่นข้อเสนอให้เธอมาเป็นผู้หญิงลับๆ ของเขา แต่คนตัวเล็กกลับปฏิเสธและไม่คิดข้องเกี่ยวกับเขาอีก ใครจะคิดว่าโชคชะตามักเล่นตลกกับเราเสมอ เขมจิราจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากและนั่นคือเหตุผลให้เธอยอมในสถานะที่เธอไม่ต้องการ
แวะมาทำความรู้จักกับพระเอกและนางเอกของเราก่อนนะคะ
ดิฐ กษิดิฐ บวรไพโรจน์ ชายหนุ่มวัย 30 ปี
ลูกชายคนเดียวของตระกูล เขาขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทต่อจากบิดาตั้งแต่อายุยี่สิบห้า ด้วยความฉลาดหลักแหลมทำให้เขาเป็นที่ยอมรับของบอร์ดบริหารทุกคน
เขม เขมจิรา เกิดบุญมี หญิงสาววัย 25 ปี
เธอเป็นลูกคนโตของบ้านมีน้องสาวที่อายุห่างกันเกือบสิบปีหนึ่งคน ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร การที่ได้มาทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่แบบนี้มันคือความฝันของเธอ
©สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และฉบับเพิ่มเติม
ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ เลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยาย ไปเผยแพร่ต่อไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน โดยมีลายลักษณ์อักษร การกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ จะถูกดำเนินคดีความตามกฎหมาย
********************************************
**พบกันทุกวันนะคะ**1 คอมเมนต์ = กำลังใจ
ฝากกด กดเพิ่มเข้าชั้น เป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ
ฝากติดตามผลงาน "เธียรนรา" นักเขียนพาร์ตไทม์ด้วยนะคะสี่ปีผ่านไป เสียงเด็กชายตัวน้อยดังขึ้นในขณะที่กำลังหยอกล้อกับผู้เป็นน้าสาวอยู่สนามหญ้าหน้าบ้านโดยมีปู่กับย่าและยายต่างนั่งอมยิ้มมองดูการเติบโตของเด็กชายตัวน้อยคนนี้อยู่ เอมอรนั่งอยู่ในรถเข็นที่มีพยาบาลคอยดูแลไม่ห่างในตอนนี้ร่างกายของเธอทรุดลงมากแต่ทว่าใบหน้าของเธอก็มีแต่รอยยิ้มของความสุขถ้าหากเธอตายไปเธอก็ไม่มีอะไรต้องให้เสียดายอีกแล้วเพราะในตอนนี้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงทุกอย่าง จะเหลือก็แต่ลูกสาวคนเล็กแต่เธอก็เชื่อว่าเขมจิราจะดูแลเอมมิกาได้เป็นอย่างดีแน่นอน “น้าเอมครับ”น้องกร หรือเด็กชายกิตติวุฒิเอ่ยเรียกน้าสาวของตัวเองด้วยน้ำเสียงสดใส “เตรียมรับนะครับ”เขาบอกก่อนจะเตะลูกบอลไปทางด้านผู้เป็นน้าสาวซึ่งเอมมิกาก็เตรียมตั้งท่าที่จะรับลูกบอลของหลานชายตัวน้อยอย่างจริงจังแต่เธอก็แกล้งทำเป็นพลาดปล่อยให้ลูกบอลเข้าโกเพื่อที่จะทำให้หลานชายดีใจที่เตะบอลเข้าโกได้ “เย่ ๆ น้องกรเก่งไหมครับ” “ว้าว หลานใครเนี่ยเก่งจังเลย”เอมมิกาในวัยสวยสมวัยย่อตัวอุ้มหลานชายตัวน้อยก่อนจะพาเดินกลับไปหาผู้เ
หนึ่งเดือนผ่านไป บรรยากาศในโรงแรมสุดหรูที่ถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานระหว่างกษิดิฐและเขมจิรา งานในวันนี้ดูอบอุ่นมากๆ จริงๆ แถมยังเป็นเรื่องใหญ่ในแวดวงของนักธุรกิจด้วยที่ทายาทคนสำคัญอย่างกษิดิฐสละโสดแล้ว ภาพความยินดีที่เกิดขึ้นทำให้คนตัวเล็กในชุดเจ้าสาวมองอย่างมีความสุข มีทั้งเพื่อนร่วมงานที่มายินดีให้กับเธอกับคนรักในจะนักธุรกิจมากมายที่มาร่วมงานในวันนี้อีกด้วย สำคัญที่สุดก็คือมารดาของเธอที่มองเธอด้วยความสุขที่เห็นว่าเธอกำลังแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักรักเขาก็รักเธออย่างนี้ “พ่อขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขกันมากๆนะ อยู่กันด้วยเหตุและผลหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันรู้ไหม” “ขอบคุณครับพ่อ/ขอบคุณนะคะ” “แม่ก็ขอให้ลูกชายของแม่มีความสุขมากๆ มีครอบครัวแล้วก็คิดหน้าคิดหลังดีๆแต่แม่เชื่อว่าลูกของแม่ไม่เคยทำอะไรโดยไม่คิดไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนหนูเขมแม่ดีใจนะที่ได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ ในตอนแรกแม่ก็คิดสงสัยว่าอะไรในตัวหนูถึงทำให้ลูกชายของแม่ตกหลุมรักให้มากขนาดนี้พอแม่ได้รู้จักหนูมากขึ้นแม่ก็ไม่คิดสงสัยอะไรอีก เพราะความดีของหนูที่ทำให้ลูก
พอจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มก็พาแม่ยายของตนเองกลับมาที่บ้าน เขาตั้งใจว่าจะต่อเติมที่นี่ไหมในเมื่อหญิงสาวยังใช้เวลาอยู่กับผู้เป็นแม่เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่เขาจะย้ายมาอยู่ที่นี่เอง ในตอนแรกว่าจะซื้อบ้านหลังใหม่แล้วพาครอบครัวของเขมจิราไปอยู่ด้วย แต่พอมารู้ว่าแม่ยายของเขานั้นเป็นคนรักบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านที่พ่อของเธอซื้อเอาไว้ให้ เขาจึงยอมที่จะเป็นฝ่ายย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วก็ให้ช่างว่ารีโนเวทบ้านใหม่ “ช่วงนี้อาจจะมีช่างก่อสร้างเข้ามาทำให้เสียงดังหน่อยนะครับคุณแม่” “ไม่เป็นไรจ๊ะพ่อหนุ่ม”นางเอมอรได้ยินสรรพนามใหม่ที่ลูกเขยของเธอเอ่ยเรียกเธอก็ยิ้มพอใจออกมา “นี่เอมมีพี่เขยรวยขนาดนี้เลยหรอคะ”เอมมิกาที่กลับมาจากค่ายภาษาอังกฤษพอที่รู้เรื่องราวทุกอย่างก็ทั้งตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน “เรานี่”เป็นนางเอมอรที่อื่นดุลูกสาวที่พูดออกมาอย่างนี้ “ไม่เป็นไรครับคุณแม่อีกอย่างมันเป็นเรื่องจริงต่อไปนี้น้องเอมอยากได้อะไรก็บอกพี่ได้เลยนะ อยากเรียนต่อต่างประเทศก็บอกพี่ได้เหมือนกันพี่จะส่งเอง” “หูย จริงนะค
ณ บ้านหลังใหญ่ ทันทีที่รถจอดนิ่งเขมจิราก็ยิ่งเผยความประหม่าออกมาให้เห็น ชายหนุ่มหันไปมองอย่างนึกเอ็นดูก่อนที่เขาจะจับกุมมือเล็กของเธอเอาไว้บอกเป็นนัยๆ ว่าไม่ต้องกลัว ก่อนเขาจะบอกให้เธอลงจากรถเข้าไปในบ้าน การมาของลูกชายแน่นอนทำให้สองสามีภรรยาสงสัยอยู่มาก เพราะก่อนหน้านี้กษิดิฐถามแค่ว่าอยู่บ้านรึเปล่าพอบอกว่าอยู่เขาก็บอกแค่ว่ากำลังจะมาหา ท่าทางนี้มีหรือจะไม่สงสัยกัน “ดิฐ แม่หนูคนนี้คือใครเป็นลูก”หลังจากที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวอีกคนเข้ามาในบ้าน คุณหญิงกัลยาก็เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัยทันที “นี่เขมจิราครับแม่ คนรักของผม”หญิงสาวตกใจกับการแนะนำของอีกฝ่ายแต่เธอก็ยกมือไหว้พวกท่านทั้งสองอย่างท่าที่มีมารยาท “คนรัก” “ครับ ที่ผมมาในวันนี้ผมต้องการบอกพ่อกับแม่ว่าผมกับเขมเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วนะครับ” “หา!”เป็นเสียงของชายวัยกลางคนที่เอ่ยดังขึ้นยังตกใจเมื่อได้ยินว่าลูกชายของเขานั้นจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนี้แล้ว “เขมเป็นพนักงานบริษัทของเราครับผมกับเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ครั้งแรกเป็นความ





