เอ่ยจบ เฉียวเนี่ยนก็เห็นความหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินเย่ว์ชัดเจนช่างน่าขันนัก!ระหว่างที่ต้องการทำลายนาง เขากลับพูดจาหนักแน่นและมีเหตุผลบัดนี้พอเรื่องมาถึงตัวเขา กลับร้อนรนเสียอย่างนั้น!ไม่ใช่เพียงหลินเย่ว์ แต่คนในตระกูลหลินเแทบทุกคนก็ร้อนรนเช่นกันแต่ขณะนี้เอง หลินยวนที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตลอดเวลาก็ลุกขึ้นยืน แล้วหันไปพูดกับเฉียวเนี่ยนว่า "พี่สาว วันนี้พี่สาวลำบากมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถิด! ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว มีเรื่องอะไรค่อยว่ากันพรุ่งนี้ดีหรือไม่?"พอได้ยินเช่นนั้น ฮูหยินหลินก็รีบพูดขึ้นมาว่า "ใช่ๆ เนี่ยนเนี่ยน ดูสิว่าดึกมากแล้ว แถมยังทำให้แม่ทัพเซียวต้องอยู่ดึกดื่นอีกต่างหาก พรุ่งนี้เช้าค่อยมาพูดคุยกันเรื่องนี้ใหม่ดีหรือไม่?"เฉียวเนี่ยนราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในห้องโถงยังมีเซียวเหิงยืนอยู่ด้วยนางจึงหันไปมองเขาแสงเทียนในห้องโถงส่องกระทบใบหน้าเรียบเฉยของเซียวเหิง แต่ใบหน้าอันคมชัดนั้นดูเย็นชากว่าทุกวันเขามองนางอยู่เช่นกัน ดวงตามืดมนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่นางอ่านไม่ออกแต่กลับทำให้หัวใจของนางเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกนางสูดหายใจเข้าลึกๆวันนี้ผ่านเหตุการณ์อันเลวร้าย
“ใช่ๆ ๆ หลีกทางกันหน่อย!”เหล่าสาวใช้ต่างพากันพูดจาเจื้อยแจ้วกันอย่างวุ่นวายแต่ในขณะนี้เอง เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกนางมักรู้สึกว่าจวนโหวแห่งนี้เย็นชานักหนาวราวกับถ้ำน้ำแข็ง มีเพียงท่านย่าเท่านั้นที่ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นใจได้แต่ท่านย่าร่างกายไม่แข็งแรง ความทุกข์และความเจ็บปวดของนางจึงไม่อาจบอกให้ท่านย่าได้รู้นางคิดว่าค่ำคืนนี้นางคงต้องอยู่คนเดียวเพื่อทำใจให้เข้มแข็งแต่ไม่คิดว่าเพียงก้าวเข้ามาในเรือนฟางเหอ หัวใจของนางก็ไม่หนาวเย็นอย่างเคยอีกแล้วแม้มือจะบาดเจ็บ แต่หนิงซวงก็ยังคงพยุงนางกลับห้องทันทีที่นั่งลงก็มีสาวใช้นำชาอุ่นมาให้ “คุณหนูคงตกใจมากแน่ๆ นี่เป็นชาสำหรับผ่อนคลายที่ข้าเพิ่งต้มเอง คุณหนูลองดื่มดู หลับพักผ่อนให้สบายพรุ่งนี้ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองเจ้าค่ะ”“บ่าวจะไปตักน้ำอุ่นมาให้คุณหนูอาบนะเจ้าคะ”“คุณหนู ผ้าห่มก็อุ่นพร้อมแล้ว พอดื่มชาเสร็จก็ไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนให้สบายนะเจ้าคะ”งานเหล่านี้เดิมทีเป็นหน้าที่ของหนิงซวง แต่เนื่องจากวันนี้เหิงซวงก็ได้รับบาดเจ็บไปด้วย เหล่าสาวใช้คนอื่นๆ จึงอาสาทำแทนอาจเป็นเพราะเหล่าสาวใช้เอาใจใส่เกินไป เฉียวเนี่ยนรู้
เฉียวเนี่ยนมีความเร็วที่รวดเร็วมาก ท่าทางที่นางกระโจนเข้าใส่หลินยวนนั้น ราวกับยามที่นางเคยกระโจนเข้าใส่เหล่านางบ่าวที่รังแกนางในอดีต ทั้งรวดเร็วและกล้าหาญ จนฮูหยินหลินรู้สึกแค่ว่ามีอะไรบางอย่างพรวดพราดผ่านไปต่อหน้า เมื่อตั้งสติได้ หลินยวนก็ถูกเฉียวเนี่ยนกดร่างไว้ข้างใต้แล้ว“อ้าก!” หลินยวนร้องเสียงดังออกมา แต่ในทันใดนั้นก็ถูกเฉียวเนี่ยนอุดปากไว้ท่านย่าอยู่ข้างในกำลังพักผ่อน นางไม่สามารถปล่อยให้หลินยวนไปรบกวนท่านย่าได้แต่ไฟในใจของนางก็ต้องระบายออกไป!เฉียวเนี่ยนใช้มือข้างหนึ่งอุดปากหลินยวนไปพร้อมกับควบคุมร่างของหลินยวนไว้ไม่ให้ขัดขืนมืออีกข้างหนึ่งก็ตบลงไปอย่างไม่ปรานีนางอยากตีหลินยวนมานานแล้วแต่ก่อนหน้านี้ นางอดทนไว้อยู่นางคิดว่าแม้หลินยวนจะน่ารังเกียจและน่าเกลียดเพียงใด แต่อาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวหลินยวนและคนในตระกูลหลินเป็นเลือดสายเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงปกป้องหลินยวนมากเพียงนี้ และหลินยวนก็ทำทุกอย่างเพื่อคนในตระกูลหลินก่อนเสมอแม้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำจะทำร้ายนางอย่างรุนแรง แต่เฉียวเนี่ยนก็พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ทำร้ายหลินยวนครั้งแล้วครัั้งเล่าทว่าในวันนี้ นางอดทนไม
ซูมามามองดูด้วยสายตาเย็นชา พลันเห็นฮูหยินหลินวิ่งหนีไปนี่จะไปตามคนมาช่วยหรือ?กำลังครุ่นคิด จู่ๆ ฮูหยินหลินก็วิ่งกลับมาอีกครั้งเพียงแต่ครานี้ ในมือของนางถือก้อนหินก้อนโตซูมามาตกใจ ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ได้ยินเสียงท่านโหวหลินตะโกนว่า “ฮูหยินอย่า!”แต่ก็สายไปเสียแล้วก้อนหินก้อนโตตกลงไปกระแทกศีรษะของเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนรู้สึกว่าสมองของตนเองมึนงง ในหูไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มีเพียงเสียงอื้ออึงดังก้องจนกระทั่งหยดเลือดไหลออกมาจากมุมตา ตามมาด้วยหยดที่สอง หยดที่สาม...นางจึงได้สติ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองฮูหยินหลินที่อยู่ด้านข้างฮูหยินหลินก็ตกใจ เมื่อสบเข้ากับดวงตาของเฉียวเนี่ยนที่เปื้อนเลือด นางเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง รีบโยนก้อนหินในมือทิ้ง“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น เนี่ยนเนี่ยน เจ้าฟังแม่อธิบายก่อน” เสียงของฮูหยินหลินสั่นเครืออย่างหนัก “แม่ แม่แค่อยากให้เจ้าหยุด แม่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย...”"ปัง!"ด้านหน้าเฉียวเนี่ยนมืดสนิท ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรงท่านโหวหลินเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ “พวกเจ้ายังยืนบื่ออยู่ทำไม! ไปตามหมอประจำจวนมาเดี๋ยวนี้! รีบพาคุณหนูเข้าไปในห้องเร็ว!
เพียงประโยคเดียวราวกับกับแทงใจดำของฮูหยินหลินเข้าไปอย่างจัง นางลืมตาโพลงขึ้นมาทันที และน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุดนางชี้ไปที่หลินเย่ว์ เสียงสั่นเครือ “ข้า...ข้าจะคิดทำร้ายเนี่ยนเนี่ยนได้อย่างไร ข้าเลี้ยงนางมาเองกับมือเลยนะ!”พูดจบก็ร้องไห้ฟูมฟายเห็นฮูหยินหลินเป็นเช่นนั้น หลินเย่ว์ก็ตกใจ รีบขอโทษทันที “ข้าพูดผิดไป ท่านแม่อย่าโกรธเลย! เป็นความผิดของข้าเอง!”เมื่อเผชิญกับคำขอโทษของหลินเย่ว์ ฮูหยินหลินเพียงหันหลังหนี ราวกับไม่อยากฟังคำพูดของเขาเมื่อเห็นเช่นนั้น หลินเย่ว์ก็คิ้วขมวดเขาเหลือบมองใบหน้าของหลินยวน แล้วเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ที่จริงแล้วก็ต้องโทษเนี่ยนเนี่ยนเองที่ใจร้ายทำร้ายยวนเอ๋อร์ได้ลงคอเช่นนี้!”ใบหน้าอันงดงามกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร!แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากห้องข้างๆ“หากมิใช่คุณหนูรองพูดไม่คิด ฮูหยินเฒ่าก็คงไม่เป็นหนักเพียงนี้ คุณหนูใหญ่เพียงแค่ลงโทษคุณหนูรองแทนฮูหยินเฒ่าเท่านั้น เชื่อเถอะว่าเมื่อฮูหยินเฒ่าฟื้น ก็ต้องชื่นชมคุณหนูใหญ่แน่นอน”คนที่พูดคือซูมามานางพูดพลางเดินออกมาหาทุกคน แล้วโค้งคำนับท่านโหวหลินซูมามาคือคนเก่าแก่ของจวนโหวยามนั้น นางติด
ฮูหยินหลินที่อยู่ด้านข้างก็รีบออกมาห้ามปรามว่า “นายท่าน ยวนเอ๋อร์แค่ประสงค์ดีแต่กลับกลายเป็นร้าย ท่านดูเนี่ยนเนี่ยนตีนางจนหน้าบวมขนาดนี้ ท่านจะลงโทษนางลงได้อย่างไร”ท่านโหวหลินมองไปยังครึ่งหน้าที่บวมแดงของหลินยวน แล้วนึกถึงยามที่หลินยวนกลับมาเมื่อสามปีก่อน ผอมแห้งจนน่าตกใจแทบจะเป็นหนังหุ้มกระดูกเลยทีเดียวนางเป็นลูกสาวที่พวกเขาพลัดพรากกันมาสิบห้าปี ในช่วงสิบห้าปีนั้น นางต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย!ถูกแล้ว เขาจะใจแข็งลงโทษนางได้อย่างไรกัน?หายใจเข้าลึกๆ ท่านโหวหลินจึงหันไปมองที่หลินเย่ว์ทันใดนั้นก็ไม่รอช้า เตะไปที่หลินเย่ว์ทันที “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าลูกชายตัวดีที่ก่อเรื่องวุ่นวาย!”แต่ครานี้ หลินเย่ว์ราวกับเตรียมตัวมาล่วงหน้า หลบได้อย่างว่องไวท่านโหวหลินเตะไม่โดน ยังจะเตะต่อ แต่หลินเย่ว์ก็รีบหลบไปหลังฮูหยินหลินทันที “ท่านแม่! เมื่อวานข้าโดนท่านพ่อเตะ ยามนี้หน้าอกยังเจ็บอยู่เลย หากโดนเตะอีก ต้องตายแน่!”ถูกฮูหยินหลินบังไว้ ท่านโหวหลินจึงต้องชักเท้ากลับมองฮูหยินหลินที่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็พูดไม่ออก เขารู้ดีว่าฮูหยินหลินจะขอร้องให้ช่วยหลินเย่ว์ท่านโหวหลินจึงทำหน้า
เฉียวเนี่ยนไม่ได้สลบไปนาน เพียงเวลาหนึ่งก้านธูป นางก็ลืมตาขึ้นมามีสติมากมีสติรู้ว่ายามนี้อยู่ที่ใด และจดจำได้ชัดเจนว่าเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่ท่าทางของฮูหยินหลินที่ถือหินมาทุบศีรษะของนางอย่างแรงนั้น นางจดจำได้ขึ้นใจ!จนถึงบัดนี้เพียงนึกถึงท่าทางของฮูหยินหลิน หัวใจของนางก็เจ็บปวดอย่างยิ่งเจ็บปวดจนหายใจลำบากทว่าบางเรื่องนางคิดทะลุปรุโปร่งมานานแล้วมิใช่หรือ?ในใจของคนตระกูลหลิน นางไม่มีวันเทียบได้กับหลินยวนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน พวกเขาพูดเต็มปากว่านางคือลูกสาวของพวกเขาเสมอ แต่นับตั้งแต่วันที่หลินยวนกลับมาจวนโหว พวกเขาก็ได้โยนนางออกจากใจของพวกเขาไปแล้ว!นางถูกทอดทิ้งนานแล้ว ในค่ำคืนวันอันยาวนานนับไม่ถ้วนในกรมซักล้าง ความจริงอันนี้ได้รุกล้ำเข้ามาในตัวนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ร่างกายของนางเย็นเยือก เจ็บปวดมาก จนกระทั่งค่อยๆ ชินชา...นางเข้าใจดีแล้วชินชามาตั้งนานแล้ว!ทว่า...ทำไมหัวใจถึงเจ็บปวดเช่นนนี้?ท่านแม่ที่เคยรักและเอ็นดูนาง เคยดูแลนางไม่ห่างกายแม้แต่ในยามเจ็บป่วย เคยร้องไห้เสียใจมากกว่านางเสียอีก และเมื่อเห็นเลือดไหลก็อยากจะเจ็บแทนนาง...กลับลงมือขว้างก้อนหิน
ยามนี้ทั้งคู่ต่างพันผ้าพันศีรษะอยู่ ดูแล้วแปลกตาจริงๆหนิงซวงกลั้นหัวเราะไม่ได้ แต่ก็ตำหนิไปด้วยว่า "ยามนี้คุณหนูยังจะพูดเล่นอีก"เฉียวเนี่ยนเลิกไหล่ "ข้าในสภาพนี้คงไม่เหมาะที่จะไปพบท่านย่า วันนี้ขอกลับเรือนฟางเหอก่อน อีกสองวันค่อยมาใหม่!"แท้จริงแล้วนางก็ไม่รู้ว่าฮูหยินหลินทุบโดนส่วนไหนของศีรษะนาง เพียงแต่ยามนี้ยังพันผ้าพันศีรษะอยู่ หากไปพบท่านย่าในสภาพนี้ ฮูหยินเฒ่าคงจะยิ่งเป็นห่วงและเป็นทุกข์นางจึงภาวนะให้ฮูหยินหลินไม่ได้ทุบตรงหน้าผากของนาง เพราะอย่างน้อยพรุ่งนี้เมื่อแกะผ้าพันศีรษะออก ฮูหยินเฒ่าจะไม่เห็นแผลทบนศีรษะของนาง แล้วพรุ่งนี้นางจะไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่าได้แล้วเฉียวเนี่ยนกำลังจะเดินออกไป แต่หนิงซวงก็รีบมาขวางไว้ "คุณหนู! ฮูหยินหลินยังอยู่ข้างนอก"เฉียวเนี่ยนตกตะลึง หัวใจของนางพลันเจ็บปวดขึ้นมา แต่นางก็พยายามจะไม่สนใจหนิงซวงจึงพูดต่อ "ฮูหยินคงรู้สึกผิดกับคุณหนู จึงยืนรออยู่ข้างนอก กลัววันนี้จะไม่ได้พบกับคุณหนู"เฉียวเนี่ยนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ค่อยๆ เดินไปนั่งลงที่ข้างโต๊ะหนิงซวงไม่รู้ว่าเฉียวเนี่ยนกำลังคิดอะไรอยู่ จึงลังเลครู่หนึ่งแล้วเอ่ยต่อ "คุณหนู ห้องของเราเป็นห้อ
ทำไมถึงแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแบบนี้...ดวงตาของเฉียวเนี่ยนเปียกชื้นในทันทีกำไลนี้เป็นตัวแทนการยอมรับของตระกูลจิ่งที่มีต่อนาง เป็นเครื่องยืนยันความสัมพันธ์ของนางกับจิ่งเหยียน นางทะนุถนอมมันมาโดยตลอด แต่ในที่สุดก็แตกสลายอยู่ดีความรู้สึกเจ็บปวดในอกแผ่ซ่าน เฉียวเนี่ยนก้มหน้าลง ไม่ต้องการให้ไป๋อวี่เห็นความผิดปกติของนาง จึงเอ่ยเพียงเสียงทุ้มต่ำว่า "ขอบคุณพี่ไป๋มาก"เอ่ยจบก็หันหลังเดินกลับบ้าน กระโดดไปข้างหน้าและข้างหลังโดยจับผนังไว้ทว่าไป๋อวี่เห็นน้ำตาหยดนั้นที่หยดลงบนกำไลหยกในเวลานี้ เมืองหลวงที่อยู่ห่างออกไปสามร้อยลี้ข่าวการค้นพบเฉียวเนี่ยนแพร่กระจายออกไป ทำให้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินรีบเร่งออกจากเมืองหลวงตลอดทางฮูหยินหลินรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก แม้ว่าท่านโหวหลินจะจับมือนางไว้ตลอดเวลา มือของนางก็ยังคงเย็นเฉียบเมื่อพวกเขาลงจากรถม้าที่ชานเมืองหลวงและเห็นโลงศพขนาดใหญ่ ขาของฮูหยินหลินก็อ่อนแรงทันที แทบล้มลงกับพื้นไม่ใช่ว่าพวกเขาพบคนแล้วหรือ?ทำไมถึงเป็นโลงศพ?ดวงตาของหลินเย่ว์เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เมื่อเห็นท่านโหวหลินและฮูหยินหลินเดินเข้ามา เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค
ฝ่ามือหยาบกร้านเต็มไปด้วยรอยแผลหนาแข็งแต่ความอบอุ่นนั้นกลับไม่ได้ถูกขัดขวางแม้แต่น้อย ค่อยๆ ส่งผ่านเข้าไปในใจของเฉียวเนี่ยนทีละนิด "เด็กน้อย ลำบากมามากแล้ว"เสียงถอนหายใจแผ่วเบา อาชุนเองก็ไม่คาดคิดว่าน้ำตาจะไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวแต่ก็โทษนางไม่ได้จริงๆ เพราะรอยแผลเป็นบนตัวเด็กสาวน่าตกใจเหลือเกินไป๋อวี่บอกว่าเสื้อผ้าที่นางใส่วันนั้นเหมือนสาวใช้ของตระกูลร่ำรวยแต่ตระกูลร่ำรวยก็เกินไปจริงๆ ทำไมถึงตีสาวใช้ขนาดนี้?ชีวิตของสาวใช้ ไม่ใช่ชีวิตหรืออย่างไร?หากพ่อแม่ของเด็กคนนี้มาเห็นเข้า คงจะเสียใจมากเพียงใด!คำพูดเหล่านี้ อาชุนไม่ได้พูดออกไป กลัวว่าจะทำให้เฉียวเนี่ยนเสียใจแต่พอมองน้ำตาของอาชุน เฉียวเนี่ยนก็อดน้ำตาคลอเบ้าไม่ได้ "อาชุนอย่าร้องเลย ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว"ยามนี้นางได้หนีห่างจากเมืองหลวง หนีห่างจากคนพวกนั้นทุกอย่างได้ผ่านไปแล้วคนพวกนั้นในเมืองหลวง หากหานางไม่เจอภายในสองสามวัน คงคิดว่านางตายไปแล้วแน่นอนว่าเด็กสาวหนิงซวงต้องเสียใจมากแน่ๆทว่ามีจี้เยว่คอยดูแลอยู่ หนิงซวงไม่น่าจะเป็นอะไรเซียวเหอก็จะคอยดูแลหนิงซวงให้นางอย่างแน่นอนฉะนั้นนางจึงไม่ต้องกังวลและเป็นห่วงอะไ
ฉู่จืออี้ไม่เคยคาดคิดเลยว่า ของที่เขาแกะสลักด้วยมือเมื่อหลายปีก่อน จะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาอีกครั้งในวันนี้หยกผิงอันขนาดเล็กราวกับกุญแจที่เปิดความทรงจำที่ถูกฝังไว้เมื่อหลายปีก่อนของเขาสงครามนองเลือด ซากศพเกลื่อนกลาด...ล้วนทำให้เขาตกใจยิ่ง"ขอบคุณพี่ไป๋มาก"เสียงหวานใสที่ดังขึ้น เรียกสติของฉู่จืออี้กลับคืนมาสายตาของเขาจึงละจากหยกผิงอัน มองไปที่เฉียวเนี่ยน พยักหน้านิดๆ แล้วหันหลังเดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำหญิงวัยกลางคนคุ้นเคยกับนิสัยของเขาดี จึงยิ้มให้เฉียวเนี่ยน "ไม่ต้องกลัว เขาเป็นคนแบบนี้ ไม่ชอบพูด แต่เป็นคนดีมาก! ยามนั้นหากไม่ได้เขา หมู่บ้านของเราคงถูกหมาป่าบนเขาทำลายไปแล้ว!"หญิงผู้นั้นพูดราวกับเปิดกล่องความทรงจำ กำลังจะเล่าเรื่องราวในอดีตให้เฉียวเนี่ยนฟังแต่เฉียวเนี่ยนมีเรื่องอื่นในใจ จึงอดขัดจังหวะหญิงผู้นั้นไม่ได้ แล้วถามว่า "ขอถามท่านอาสะใภ้สักหน่อย ที่นี่ห่างจากเมืองหลวงไกลแค่ไหนหรือ?""เมืองหลวง?!" หญิงผู้นั้นอุทาน ทำให้ฉู่จืออี้ที่กำลังผ่าฟืนอยู่ในลานบ้านถึงกับชะงักพอได้ยินเช่นนี้ หญิงผู้นั้นก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ "แม่นาง เจ้ามาจากเมืองหลวงหรือ? ลอย
“เจ้าค่ะ!” สาวใช้รีบตอบรับ จากนั้นก็เข้าไปลากตัวหลินยวนออกไปด้านนอกหลินยวนยังคงร้องขอความเห็นใจ “ท่านพ่อ ข้าเป็นลูกสาวของท่านจริงๆ ท่านพ่อ! ท่านอย่าไปเชื่อคำพูดโกหกของคนอื่น!”ทว่าท่านโหวหลินไม่ได้มองนางอีกเลยครึ่งเดือนต่อมาเฉียวเนี่ยนค่อยๆ ลืมตาขึ้น สิ่งที่เห็นคือคานบ้านเก่าๆนางอยู่ที่ไหนกัน?ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในสมองเฉียวเนี่ยนจำได้ว่าตัวเองตกลงไปในแม่น้ำฉางหยาง หัวใจของนางก็เต้นแรงขึ้นด้วยความหวาดผวานางคิดว่าแม่น้ำฉางหยางไหลเอื่อย แม้จะตกน้ำก็คงปีนขึ้นมาได้ไม่ยากกลับนึกไม่ถึงว่าใต้น้ำจะไหลเชี่ยวเพียงนี้นางถูกกระแสน้ำพัดลงไปก้นแม่น้ำในทันที พยายามดิ้นรนหลายครั้ง แต่ด้วยพลังมหาศาลนั้น นางก็เหมือนใบไม้ ไร้ซึ่งพลังต้านทาน สติสัมปชัญญะของนางก็ดับวูบไปอย่างรวดเร็วแล้วยามนี้ นางอยู่ที่ไหนกัน?เฉียวเนี่ยนพยายามพยุงตัวลุกขึ้น แต่ขาซ้ายของนางก็เจ็บปวดอย่างรุนแรงนางสูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นเยียบ จากนั้นก็เปิดผ้าห่มออก และเห็นว่าขาซ้ายของนางถูกตรึงด้วยไม้กระดานหลายแผ่นหักแล้วหรือ?ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ประตูก็เปิดออก หญิงวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าธรรมดา ถือชาม
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ