Share

บทที่ 664

Penulis: โม่เสียวชี่
หลินเย่ว์ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเฉียวเนี่ยนจะพูดถึงขนาดนี้

เขาข่มความโกรธในใจลง พยายามควบคุมระดับเสียงของตนเอง “ที่แท้วันนี้มาหาข้า ก็เพื่อเรื่องนี้สินะ”

พูดจบ เขามองไปที่เฉียวเนี่ยน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความผิดหวัง “เจ้ารู้ใช่ไหมว่าท่านแม่ป่วย ตั้งแต่ข้าเข้ามาจนถึงตอนนี้ เจ้าถามถึงสักคำไหม? ข้ารู้ เจ้าเกลียดข้า เกลียดจวนโหว แล้วก็เกลียดที่ท่านแม่เคยเป็นคนแนะนำเจ้ากับหมิงอ๋อง แต่เนี่ยนเนี่ยน นางก็ยังเป็นแม่ของเจ้า เป็นคนที่ตั้งท้องสิบเดือน สูญเสียแทบครึ่งชีวิตเพื่อคลอดเจ้าออกมานะ! เจ้าใจดำถึงเพียงนี้ ไม่แยแสนางแม้แต่น้อยเลยหรือ?”

พูดมาถึงตรงนี้ หลินเย่ว์ก็ยกจอกสุราขึ้นดื่มหมดรวดเดียว จากนั้นราวกับว่ายังไม่พอ ก็หยิบไหสุราขึ้นมาดื่มอึกใหญ่อีกคำ จึงพูดต่อ “หลินยวนกลับมาด้วยตัวเอง วันนั้นข้าเห็นนางก็ตกใจมาก นางแต่งตัวเหมือนขอทาน ตัวสกปรกมอมแมมไปหมด ยิ่งกว่าตอนที่เจ้า...”

หลินเย่ว์เผลอจะพูดว่า เทียบกับตอนที่เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง ยังน่าสงสารยิ่งกว่า

แต่ยังไม่ทันพูด ก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม

ตอนนั้นเฉียวเนี่ยนดูดีกว่าหลินยวนที่แต่งตัวเป็นขอทานก็จริง

แต่ก็เป็นเพราะนางใส่ชุดนางกำนัล แต่งต
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (2)
goodnovel comment avatar
LiYi Tk
ยังจะเข้าไงหลินยวนอีก สมควรเนรเทศให้หมด
goodnovel comment avatar
Piyaradchanee
เทค่ะ นางเอก ก็เถอะ ใจดำพอๆกันนั่นแหละ แม่ตัวเองแท้ๆ ใจดำเกิน เลี้ยงมา 15 ปี จวนโหโง่เกือบทั้งหมด แล้ว เนี่ยนเนี่ยน ฉลาดคนเดียวได้ไง เขียนซะเวอร์วัง ตัวละครมากมายวุ่นวายไปหมด หายไปแล้วกลับอีก ท่านอ๋องก็เพิ่งมาโผล่จะกลายเป็นพระเอกซะงั้น จริงเหรอ? บทน้อยกว่า เซียวเหิง ตั้งเยอะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1420

    ทว่ามิทันที่มือนางจะได้สัมผัสถูกตัวอิ๋งฉี ก็ถูกมือขวาของเขาขวางเอาไว้เสียก่อน“ขอบใจแม่นางที่หวังดี” เขากล่าวเสียงต่ำ พลางใช้หลังมือเช็ดคราบยาที่มุมปากตนเองแต่แล้ว จู่ ๆ การเคลื่อนไหวนั้นกลับชะงักลงหน้ากากของเขาเล่า?!รูม่านตาของอิ๋งฉีหดเกร็งฉับพลัน ความตื่นตระหนกอันหนาวเหน็บเข้าเกาะกุมหัวใจในชั่วพริบตา!เขาตวัดสายตามองไปทางหนิงซวง แววตาคมกริบดุจคมมีด แฝงแววคาดคั้นและร่องรอยความลนลานที่ยากจะสังเกตเห็นหนิงซวงสะดุ้งโหยงกับสายตาที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขา “ทะ ท่านเป็นอะไรไป?”“นะ…หน้ากากของข้า…” น้ำเสียงของอิ๋งชีเริ่มตะกุกตะกัก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหน้ากากของตนจะหายไปเช่นนี้!หนิงซวงเข้าใจในทันที “อ้อ! หน้ากากนั่นน่ะหรือ... เมื่อครู่ท่านจับไข้ ตัวร้อนดั่งไฟเผา สวมของเย็นเฉียบแบบนั้นจะไปสบายตัวได้อย่างไร! อีกอย่าง มันเกะกะตอนเช็ดตัวลดไข้ให้ท่านด้วย!”นางพูดพลางชี้มือไปยังโต๊ะที่อยู่ไม่ไกล “โน่น วางไว้ตรงนั้น!”ใบหน้าของอิ๋งชีทะมึนลงถึงขีดสุด เขาขยับกายจะลุกไปหยิบมันทันทีแต่กลับถูกหนิงซวงใช้มือข้างหนึ่งกดให้นอนลงไปใหม่ “เอ๊ะ! บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าเพิ่งขยับ!”นางมองสีหน้าที่แข

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1419

    ความมึนงง ความร้อนรุ่ม และความเจ็บปวด... สติสัมปชัญญะดำผุดดำว่ายอยู่ในห้วงลึกแห่งความมืดมิดอิ๋งชีรู้สึกราวกับร่างของตนเป็นเหล็กนาบที่ถูกเผาจนร้อนฉ่า และเหมือนจมดิ่งอยู่ก้นบึ้งมหาสมุทรอันหนาวเหน็บในห้วงภวังค์อันเลือนราง คล้ายมีสัมผัสเย็นระรื่นแตะลงบนหน้าผากที่ร้อนผ่าวอย่างระมัดระวัง คอยเช็ดเหงื่อกาฬให้อย่างแผ่วเบาริมฝีปากที่แห้งผากแตกระแหง ได้รับหยาดน้ำทิพย์ชุ่มคอหยดลงมาเป็นครั้งคราวข้างหูแว่วเสียงเจื้อยแจ้วที่แฝงความห่วงใย ราวกับวิหคตัวน้อยที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คอยส่งเสียงจ้อกแจ้กอยู่ไม่ขาดสาย…อิ๋งชีค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ทว่าภาพเบื้องหน้ากลับพร่ามัวมองเห็นเพียงเงาร่างบอบบางร่างหนึ่งกำลังยุ่งอยู่มิใช่ท่านเจ้าสำนัก... แล้วเป็นผู้ใดกัน?เขาพยายามเพ่งมองให้ชัด ทว่าใบหน้าของคนผู้นั้นกลับเลือนรางสิ่งเดียวที่แจ่มชัด คือความรู้สึกที่ซุกซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ซึ่งผ่านพ้นมาเนิ่นนานเหลือเกิน…“ท่านแม่?”เขาเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว จนเงาร่างที่กำลังวุ่นวายอยู่นั้นชะงักไปเล็กน้อยหนิงซวงมองท่าทางสะลึมสะลือของอิ๋งชี แล้วเผลอขมวดคิ้วมุ่น“อย่าเรียกส่งเดช ข้าไม่มีลูกชายตัวโตปานนี้! แต่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1418

    “เจ้าถูกพิษหรือ?!”อิ๋งชีข่มกลั้นลมปราณและโลหิตที่ปั่นป่วนในอก ฝืนกายยืนให้มั่น น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยตอบ “ในสุสาน... ข้าพลาดท่าโดนอาวุธลับ...” มือขวากระชากแขนเสื้อข้างซ้ายที่ชุ่มเลือดจนแห้งกรังออกอย่างแรง!บาดแผลเหวอะหวะน่าสยดสยองปรากฏแก่สายตาของเฉียวเนี่ยน!เห็นเพียงปากแผลที่ควรจะเป็นเนื้อปริเปิดตามปกติ บัดนี้กลับกลายเป็นสีดำทมิฬดูอัปมงคล บวมเป่งราวกับเนื้อเน่าพอง ใต้ผิวหนังรอบปากแผลปรากฏไอสีดำเป็นเส้นสายราวกับมีชีวิต กำลังลุกลามคืบคลานขึ้นไปตามเส้นเลือด!มิหนำซ้ำ บริเวณบาดแผลยังแผ่กลิ่นเหม็นเน่าเจือกลิ่นคาวหวานเอียนจาง ๆ ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียนเมื่อเห็นภาพตรงหน้า อิ๋งชีขมวดคิ้วมุ่น “ขะ ข้ากินยาแก้พิษไปแล้วแท้ ๆ...”ยาแก้พิษของสำนักราชาโอสถ เป็นสิ่งที่เสิ่นม่อทุ่มเทแรงกายแรงใจปรุงขึ้น สรรพคุณแก้พิษได้ร้อยแปดพันประการยามที่ฉู่จืออี้และเหล่าองครักษ์พยัคฆ์ติดอยู่ในคุกน้ำเน่า ก็อาศัยยาขนานนี้ช่วยถอนพิษที่ทำให้อ่อนแรงจนรอดมาได้ทว่ายามนี้ แขนของเขากลับยังคงบวมเป่งและดำคล้ำ เห็นได้ชัดว่าพิษชนิดนี้ร้ายกาจและซับซ้อนเพียงใด!ปลายนิ้วของเฉียวเนี่ยนไล้ผ่านผิวแขนที่บวมร้อนของอิ๋งชี สัมผั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1417

    ณ ขอบฟ้าเพิ่งปรากฏแสงสีขาวนวลจาง เมืองถังจิงเปรียบประดุจสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ที่กำลังหลับใหล เงียบสงัดไร้สรรพเสียงเงาดำสายหนึ่งราวกับหลอมละลายไปในหมอกบางเบายามรุ่งสาง พลิกกายข้ามกำแพงสูงอย่างเงียบเชียบ หลบเลี่ยงกองทหารลาดตระเวน ลัดเลาะเข้าสู่ส่วนลึกของจวนองค์ชายรองอย่างชำนาญทาง จวบจนร่อนกายลงที่นอกหน้าต่างของเรือนอันเงียบสงบแห่งหนึ่งที่แห่งนี้คือที่พำนักชั่วคราวของเสิ่นเยว่ภายในจวนองค์ชายรองอิ๋งชีกลั้นหายใจเงี่ยหูฟังครู่หนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าไร้คนอื่น จึงผลักหน้าต่างให้เปิดออกเป็นช่องเล็ก ๆ อย่างแผ่วเบา แล้วพลิกกายวูบเข้าไปด้านในเสิ่นเยว่นั่งหันหลังให้เขา ภายใต้แสงตะเกียง เขากำลังจัดเรียงเข็มเงินที่ละเอียดบางราวยิ่งกว่าขนวัวเขาไม่ได้แปลกใจต่อการมาของอิ๋งชี ศีรษะมิได้หันกลับมา น้ำเสียงราบเรียบไร้ระลอกอารมณ์ “ได้ของมาแล้วหรือ?”“อืม” อิ๋งชีขานรับ สายตาทอดมองแผ่นหลังที่ผ่ายผอมแต่เหยียดตรงของเสิ่นเยว่ด้วยความรู้สึกซับซ้อนความเงียบงันแผ่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่คับแคบ มีเพียงเสียงไส้ตะเกียงปะทุเบา ๆ ดังขึ้นเป็นครั้งคราวในที่สุดเสิ่นเยว่ก็หันกลับมามองอิ๋งชี มุมปากอมยิ้มบาง ๆ “ทำไม มีอะไร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1416

    “ท่านหัวหน้า!” เสียงอุทานขององครักษ์เงาเจือแววตระหนก ร่างกายขยับจะพุ่งเข้าไปหาด้วยสัญชาตญาณ“อย่าขยับ!” อิ๋งชีตวาดห้ามเสียงเข้ม แม้น้ำเสียงจะแหบพร่าด้วยความเจ็บปวด ทว่ายังคงแฝงอำนาจเด็ดขาดที่ไม่อาจขัดขืน “แค่แผลภายนอก ไม่เป็นไร!”เขากัดฟันข่มความเจ็บปวดแสบร้อนที่ต้นแขน หลุบตาลงมองกล่องไม้จันทน์ม่วงในมือ ช่างโชคดีนัก ที่เขายังคว้ามันมาได้อิ๋งชีฝืนทนความเจ็บปวด ปลดกลอนทองแดงบนกล่องไม้อย่างระมัดระวัง แล้วค่อย ๆ เปิดฝากล่องออกชั่วพริบตานั้น แสงสีขาวนวลกระจ่างตาที่ดูอบอุ่นละมุนละไมก็สาดส่องออกมาจากภายในกล่อง!แสงอันนุ่มนวลทว่าบริสุทธิ์ยิ่งนักพลันขับไล่ความมืดมิดอันข้นคลั่กภายในห้องโถงสุสาน ผนังหินอันเย็นเยียบ โลงศพรูปลักษณ์น่าสะพรึง หรือแม้แต่แขนเสื้อที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดของอิ๋งชี ล้วนถูกส่องสว่างจนเห็นเด่นชัด!เป็นศิลาจันทราจริง ๆ ด้วย!แม้อิ๋งชีจะเคยฟังเรื่องความมหัศจรรย์ของศิลาวิเศษนี้มาบ้าง แต่ยามได้ประจักษ์แก่สายตา ลมหายใจก็ยังอดสะดุดมิได้!เหล่าองครักษ์เงาที่เหลือต่างตื่นตะลึง อดไม่ได้ที่จะอาศัยแสงสว่างประหลาดนี้กวาดตามองไปรอบ ๆทว่าจู่ ๆ น้ำเสียงขององครักษ์เงาผู้หนึ่งก็กลา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1415

    วายุราตรีคมกริบดุจมีดดาบ กรีดเฉือนสันเขาอันรกร้างและหนาวเหน็บนอกสุสานกุ้ยเฟยอิ๋งชีหมอบซุ่มอยู่หลังโขดหินระเกะระกะ ลมหายใจแผ่วเบากลมกลืนไปกับก้อนหินอันเย็นเยียบจนแทบเป็นหนึ่งเดียวกันเบื้องหลัง องครักษ์เงาหลายนายในชุดรัดกุมคล้ายคลึงกับเขา สงบนิ่งดั่งเสือดาวที่ซุ่มซ่อนในยามวิกาล เตรียมพร้อมรอคำสั่ง“ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ใต้ฐานรูปปั้นสัตว์หิน” สุ้มเสียงภายใต้หน้ากากกดต่ำจนแหบพร่า ก่อนจะถูกกระแสลมพัดกลบจนแตกซ่าน“รับทราบ!” เสียงขานรับทุ้มต่ำเลือนหายไปในสายลมอิ๋งชีไม่เอ่ยวาจา ร่างกายพริ้วไหวเลื่อนลงจากกองหินอย่างเงียบเชียบดุจนกเค้าแมวเหล่าองครักษ์เงาติดตามไป ท่วงท่าคล่องแคล่วกลมกลืนไปกับพงหญ้าสูงต่ำ เหลือเพียงเสียงสวบสาบแผ่วเบาที่ถูกลมภูเขาอันหวีดหวิวกลืนกินไปในชั่วพริบตาสัมผัสเย็นเยียบและหยาบกร้านของหินส่งผ่านมา พร้อมกลิ่นฝุ่นผงและความผุพังที่แทรกซึมเข้าสู่จมูกอิ๋งชีหลับตารวบรวมสมาธิ ปลายนิ้วไล่ไปตามลวดลายสลักอันซับซ้อนที่ฐานรูปปั้นสัตว์หินอย่างเชื่องช้า ออกแรงกดเป็นจังหวะ อาศัยเพียงสัมผัสเพื่อค้นหากลไกที่ซ่อนเร้นอยู่อย่างแนบเนียนเหล่าองครักษ์เงารายล้อมระวังภัย กล้ามเนื้อเกร็

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status