“เสร็จแล้วเราไปทานข้าวกันดีกว่า”แพรวารินทร์เอ่ยขึ้นหลังจากเธอกับพงศ์พยัคฆ์ได้รับไหว้วานให้ช่วยจัดเตรียมบางอย่างจากปัญจวัตร พงศ์พยัคฆ์ยิ้มให้ก่อนจะยกตะกร้าขนมและผลไม้ขึ้นเมื่องานเสร็จที่เหลือก็คงเป็นหน้าที่ของผู้ไหว้วานให้ช่วย ส่วนเขาก็ได้เวลาอ้อนแพรวารินทร์ซะที
“ป้อนพี่เสือหน่อยสิครับ เห็นใจคนป่วยนิดนึง”พงศ์พยัคฆ์ที่มีอาการเจ็บคอตั้งแต่เช้าเอ่ยบอกแพรวารินทร์อย่างออดอ้อน เพราะอาการเจ็บคอเล่นงานทำให้เสียงนุ่มแหบพร่าจนแทบฟังไม่เป็นคำพูด และนอกจากอาการเจ็บคอแล้วหมอหนุ่มยังมีอาการไข้หวัดด้วย งานเลี้ยงเมื่อคืนเลิกเกือบเที่ยงคืนหลังจากงานเลิกทั้งสองก็กลับมาที่เรือนกุหลาบเพราะอากาศที่เหน็บหนาวของภาคเหนือประกอบกับความเมื่อยล้าของร่างกายหลังการเดินทางและการทำงานที่ไม่ค่อยได้มีเวลาพักทำให้พงศ์พยัคฆ์มีอาการร้อนๆหนาวๆขึ้นมาตั้งแต่ช่วงดึกแต่หมอหนุ่มก็ทานยากันไว้แล้ว เช้าที่ผ่านมามีแค่อาการเจ็บคอจากการใช้เสียงเกินกว่าที่ใช้ประจำ แต่ดูเหมือนการเดินเท้ามายังน้ำตกที่อยู่ท้ายไร่ในช่วงเริ่มมีแดดทั้งยังต้องทำบางอย่างที่เพื่อนรักเกือบจะคุกเข่าอ้อนวอนทำให้อาการ
เพราะความขบเมื่อยตรงบริเวณต้นคอปลุกให้คนแกล้งลืมต้องรู้สึกตัวขึ้นบรรยากาศรอบข้างไม่ได้น่ามองกว่าเจ้านายปากเสียของเธอเลยเพราะไหล่ขวาถูกเธอครอบครองไว้ทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะเอาศีรษะพิงต้นไม้ใหญ่ข้างๆแทนเพื่อไม่ให้รบกวนเธอแม้จะหลับอยู่ชายตรงหน้าก็มีเสน่ห์อยู่มาก ปากนิดจมูกหน่อยน่ารักเวลายิ้มก็น่ารัก‘อีตาคุณพีร์ขี้เก๊ะหลงให้เข้าใจว่าชอบยัยแพรอยู่ได้ตั้งหลายปี หึถ้าอธิบายแต่แรกฉันคงรักคุณหัวปักหัวปำไปแล้วอีตาคนซื่อบื้อ’ พิมพ์พิชชาได้แต่คิดในใจอย่างหมั่นไส้ก่อนจะลุกขึ้นอย่างเบาๆก่อนจะย่องลงไปในน้ำอย่างระวังไม่ทำให้เจ้านายขี้เซาตื่น หญิงสาวมองคนหลับอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะวิดน้ำใสใส่เต็มแรงความเย็นจากของเหลวบางอย่างทำให้รณพีร์สะดุ้งตื่นพร้อมหาที่มาของสิ่งนั้น พลันสายตาปะทะเข้ากับร่างบางที่กำลังสะบัดน้ำใส่เขาอย่างสนุกสนาน“คุณพีร์คะมาเล่นน้ำกัน”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกแน่นอนว่าชายหนุ่มไม่มีทางสงสัยได้แน่นอนจากการพูดที่แสนจะสุภาพ“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ”รณพีร์เอ่ยถามอยากรู้ว่าพิมพ์พิชชาเวอร์ชั่นเสียความทรงจำจะทำอย่า
“หมอปัญจ์ ฉันอยากได้ดอกไม้ตรงนั้นเอาให้หน่อย” ฟ้ารดาเอ่ยบอกขณะเดินตามทางเพื่อกลับไปที่จุดรวมพลพร้อมชี้ไม้ชี้มือไปที่ดอกของไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่เกาะอยู่บนต้นไม้ ปัญจวัตรมองดอกไม้ที่อยู่สูงพอสมควรก่อนจะเอ่ยขึ้น“จัดไปตามคำขอครับ คุณผู้หญิง” เมื่อจบหมอหนุ่มก็ถอดรองเท้าก่อนจะปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้“ระวังนะหมอปัญจ์”“รับทราบครับผม” ปัญจวัตรเอ่ยบอกและในที่สุดหมอหนุ่มก็มาถึงจุดที่มีดอกไม้ที่ฟ้ารดาต้องการหมอหนุ่มเด็ดมันก่อนจะหันไปเห็นดอกไม้อีกชนิดที่สวยงามไม่แพ้กัน หมอหนุ่มดึงมาทั้งเถาก่อนจะทำเป็นมงกุฏดอกไม้ป่าพร้อมยิ้มสายตาพลันเหลือบไปเห็นน้องสาวที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านล่างหมอหนุ่มจับตามองก่อนจะพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ...คงไม่ได้คุยกับไอ้บอสดี้นั่นอีกนะ“ได้รึยังหมอปัญจ์”เสียงของฟ้ารดาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นหมอหนุ่มเงียบไปนาน ปัญจวัตรละสายตาจากน้องสาวกลับมาสนใจดอกไม้ในมือก่อนจะปีนป่ายหาทางลงไป“นี่ครับดอกไม้ของคุณ ส่
ในวันที่9ของการมาเยือนไร่พยัคฆ์ของพงศ์พยัคฆ์และครอบครัวเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสพระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจรัส โปรมแกรมการฟื้นฟูความทรงจำของพิมพ์พิชชาที่แพรวารินทร์วางไว้คือการไปปิ๊กนิคที่ทุ่งหญ้าพักใจแต่เมื่อถึงถึงวันจริงพงศ์พยัคฆ์กลับมีอาการตัวร้อนแพรวารินทร์จึงอยู่คอยดูแล มีเพียงปัญจวัตร ฟ้ารดา รณพีร์ และพิมพ์พิชชาเท่านั้นที่ไปตามโปรแกรมส่วนปรียาภัทรนั้นต้องอยู่เคลียร์งานเพื่อส่งให้เจ้านายที่โทรศัพท์มาทวงงานจึงไม่ได้ไป“หนูแพรครับ พี่เสืออยากไปนั่งชิงช้าริมน้ำจังไปด้วยกันหน่อยนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์กลับจากเรือนใหญ่เพราะผู้เป็นพ่อแม่สามีเรียกให้ไปพบด้วยสาเหตุบางอย่าง“แต่ไข้ยังไม่ลดเลยนะคะ” แพรวารินทร์เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง“ไม่มีไข้แล้วครับ แตะดูสิตัวไม่ร้อนแล้วเห็นไหม”หมอหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะจับมือขวาของหญิงสาวขึ้นสัมผัสหน้าผาก“จริงด้วย ก่อนแพรจะไปเรือนใหญ่ยังตัวร้อนจี๋อยู่เลย”แพรวารินทร์เอ่ยอย่างสงสัยหากแต่หมอหนุ่มไม่ยอมให้หญิงสาวได้สงสัยนานไม่หมอหนุ่มลดมือหญิงสาวลงก่อนจ
เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสวันนี้คือวันสุดท้ายที่พวกของพงศ์พยัคฆ์จะอยู่ที่ไร่พยัคฆารุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ทั้งหมดยกเว้นท่านสัตยะจะเดินทางกลับกรุงเทพฯความสัมพันธ์ของพงศ์พยัคฆ์กับแพรวารินทร์และปัญจวัตรกับฟ้ารดาดีขึ้นมากพอสมควรส่วนรณพีร์และพิมพ์พิชชาก็ถือว่าดีแต่เมื่อใกล้จะกลับพิมพ์พิชชายิ่งต้องหาวิธีบอกว่าความจำเธอกลับมาแล้ว พิมพ์พิชชายืนมองคนอื่น ๆอย่างคิดหนักโอกาสเล่นละครว่าความทรงจำเพิ่งกลับมามีแค่วันนี้เท่านั้นแล้วเธอจะทำอย่างไรดี‘เอาไงดีเนี่ย บอกไปตรง ๆไม่มีใครเชื่อแน่ บอกว่าจำได้ตั้งแต่สองวันแรกที่มาอีตาคุณพีร์คงโกรธแน่ เอาไงดีล่ะ ใช่แล้ว…ยัยแพร’ พิมพ์พิชชาครุ่นคิดในใจก่อนจะคิดอะไรได้หญิงสาวรีบเดินไปหาแพรวารินทร์“แพรมาทางนี้กับทรายหน่อยสิ”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกก่อนจะดึงเพื่อนรักไปในมุมลับตาคน“มีอะไรจ๊ะยัยคนความจำเสื่อม” แพรวารินทร์เอ่ยแกล้งเพื่อนรักที่ทำเป็นจำอะไรไม่ได้“แกรู้?” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างตกใจไม่คิดว่าเพื่อนรักจะล่วงรู้ว่าเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอแกล้งจำอะไรไม่ได้
รุ่งอรุณแห่งวันเริ่มต้นการทำงานได้เริ่มขึ้นอย่างอึมครึมแต่ที่อึมครึมหาใช่สภาพอากาศไม่แต่หากเป็นความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์หลังจากกลับจากไร่พยัคฆาเมื่อเช้าวานซืนรณพีร์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าทัศนะต้องการจะดูแบบและคุยรายละเอียดกับแพรวารินทร์เพียงแค่หมอหนุ่มทราบเท่านั้นแหละถึงกับหน้าบึ้งตึงไปเฉยๆ“ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ หนูแพร” คือถ้อยคำที่พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเมื่อช่วงเช้าวานที่ผ่านมาหากแต่แพรวารินทร์กลับบอกว่าเมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องทำจะปฏิเสธไม่ได้เพราะเคยรับปากรณพีร์ไว้แล้วแค่เพียงได้ยินเช่นนั้นหมอหนุ่มที่เคยยิ้มแย้มเอาอกเอาใจก็เงียบลงทันตาแถมพูดถามคำตอบคำจนแพรวารินทร์ได้แต่สงสัยพอเอ่ยถามหมอหนุ่มกลับบอกว่าไม่เป็นไรแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับจางหายไปตลอดหนึ่งวันมานี้ยิ่งรุ่งเช้าที่ผ่านมาหมอหนุ่มก็รีบออกไปทำงานแต่เช้าตรู่“พี่เสือหึงแกอยู่น่ะสิยัยแพร”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกขณะที่เดินมาส่งแพรวารินทร์ที่รถเพื่อไปทำงานเนื่องจากรณพีร์เกรงว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีกชายหนุ่มจึงให้พักอีกหนึ่งอาทิตย์พิมพ์พิชชาจึงได้พักยาวๆจนถึงสิ้นเดือนนี้“พูดไปนั่นยัยทร
ร่างสูงสมบูรณ์แบบของพงศ์พยัคฆ์หันมองไปยังโต๊ะที่มีคนคุ้นเคยในหัวใจของเขานั่งอยู่อย่างหงุดหงิดและพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ไม่เดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาต่อยเพราะรู้ดีว่าตนทำผิดไว้มากและถ้าเดินเข้าไปต่อยลูกค้าของเธออีกมีหวังโอกาสของเขาคงหมดลงเป็นแน่แม้ว่าคำว่าสามีจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นแต่เขาไม่ใช่สามีที่เธอรักและยังอยู่ในสถานะที่รอการพิจารณาว่าจะรักหรือไม่เท่านั้นหมอหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจกลุ่มเพื่อนร่วมงานตรงหน้าที่ชวนเขามาทานอาหารเที่ยงแทน ทีมแพทย์ที่สนิทของชายหนุ่มซึ่งนำทีมโดยรามินเอ่ยชวนเขามาทานอาหารเที่ยงที่นี่พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกขค.ของเพื่อนรักกับกุมารแพทย์สาวจึงไม่คิดปฏิเสธการร่วมโต๊ะในครั้งนี้แต่เมื่อมาถึงที่นั่งของเขาดันบังเอิญมองไปเห็นอีกมุมนึงของร้านซึ่งเป็นที่ที่เจ้าของหัวใจของเขานั่งอยู่นั้นเอง“พี่เสือเป็นไรเปล่า ผมว่าพี่ทำหน้าดูน่ากลัวไงไม่รู้”รามินเอ่ยถามหลังจากเห็นรุ่นพี่หนุ่มทำหร้าเหมือนจะหักคอคนได้“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ที่มากันครบทีมแบบนี้เนื่องในโอกาสอะไร” พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกอขอคอของเพื่อนรักเอ่ย
เดอะ ซัน คอนโดมิเนี่ยมคนที่ไม่ออกจากเรือนแสนรักมาโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางเลือกจะมายังคอนโดมิเนียมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและเป็นที่พักในช่วงที่เขาไปทำงานที่นิติเวชร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนแล้วทรุดลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เขาน้อยใจที่เธอว่าเขาไม่มีเหตุผลและมีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้นและเขาหึงที่เธออยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นและที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของแพรวารินทร์แต่เป็นเพราะเขารักเธอมากเกินไปแถมเธอยังไม่มีใจให้กันอีกด้วย พงศ์พยัคฆ์ล้มลงนอนก่อนจะฝืนหลับตาลงอย่างยากลำบาก“พี่เสือคิดถึงหนูแพรนะครับ ขอแค่คิดถึงแต่จะไม่ไปกวนใจอีกแล้ว”2วันผ่านไปเรือนแสนรักเป็นเวลาสองวันแล้วหลังจากพงศ์พยัคฆ์ขับรถออกไปและหมอหนุ่มก็ไม่ได้กลับมาอีกตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาช่างดูหดหู่ในความรู้สึกของแพรวารินทร์และทุกคนในบ้านที่ต่างเฝ้ารอการกลับมาของหมอหนุ่มโดยเฉพาะแพรวารินทร์ที่มีอาการเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องขอลางานอีกหนึ่งอาทิตย์“แพรจะไปตามพี่เสือกลับมา พี่เสือ
พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วแต่คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกงานซึ่งนั้นก็หมายความว่าผู้ติดตามอย่างแพรวารินทร์ก็ยังไม่เลิกงานด้วยหญิงสาวมองญาติคนไข้ฉุกเฉินของพงศ์พยัคฆ์อย่างหงุดหงิดเธอพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตกใจเสียใจที่ญาติเข้าโรงพยาบาลแต่มีสิทธิ์อะไรมากอดสามีเธอไว้แบบนั้นแถมยังเบียดหน้าอกหน้าใจเข้าหาเขาอีกนั้นสามีของเธอนะภรรยาเขานั่งอยู่นี่ไม่เห็นรึไง‘ชิ แกนั่งอยู่นี่ทั้งคน นางยังเบียดนมเข้าแนบอกพี่เสืออีกยัยนมแตงโม’ แพรวารินทร์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พร้อมก่นด่าในใจตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนหึงแล้วโวยวายไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงและพอเข้าใจความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์ในวันนั้นแล้วด้วย แพรวารินทร์ได้แต่หงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพงศ์พยัคฆ์เพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวอยากจะกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด“พิมพ์พิชชาส่งคุณมาใช่มั้ย” หมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อแพรวารินทร์กลับห้องทำงานไปแล้ว เขามั่นใจว่าผู้หญิงที่พยายามเอาหน้าอกมาเบียดเขาเนี่ยไม่ใช่ญาติของคนไข้แน่นอนและจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะส่งมาถ้าไม่ใช่น้องสาวเขา“รู้ด้วย ฉลาดจังหมอขา&r
“สวัสดีครับคุณพิชชา อาการเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทรงเสน่ห์เอ่ยทักทายไถ่ถามอาการทำให้คนไข้วัยทำงานถึงกับใจละลายความจริงเธอไม่ได้ป่วยแต่แค่อยากจะเห็นหน้าหมอหนุ่มเท่านั้นนายแพทย์อัคนี อัครวิทย์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อวัย25ปีขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในแถบนี้ยิ้มให้คนไข้อย่างเป็นมิตรแม้จะรู้ดีว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายแค่อยากมาเห็นหน้าเขาเท่านั้นบ้างก็เอาของมาเยี่ยมเป็นประจำจนเป็นที่ชินตาของบุคลากรคนอื่นในโรงพยาบาล“วันนี้พิชชาจะเป็นอะไรดีเอ๋ย” อัคนีเอ่ยถามพร้อมยิ้มเอาใจอย่างน่ารักในสายตาเพื่อนหลายคนเขาเป็นคนกระล่อนและกวนประสาทสุดๆแต่สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่มาปลาบปลื้มเขากลับเป็นคนปากหวานและเอาใจเก่งเป็นอย่างมาก“วันนี้พิชชี่ปวดหัว ตัวร้อน ใจเต้นแรงมั๊กมากเลยค่ะหมอไฟขา” คนไข้สาวเอ่ยบอกทำท่าให้สมจริงจนหมอหนุ่มแอบขำ“แบบนี้คุณพิชชี่คงต้องมาหาหมอบ่อย ๆแล้วล่ะครับ หมอไฟว่าคุณพิชชี่เป็นโรครักหมอไฟแน่เลย” หมอหนุ่มเอ่ยหยอดพร้อมยิ้มแพรวพราว คนไข้สาวได้แต่เขินม้วนกับคำหยอดของหมอหนุ่ม&n
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ
มือหนาของพงศ์พยัคฆ์ยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามใบหน้าเรียบของแพรวารินทร์ที่ยังหลับอยู่อย่างแสนรักก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิษที่หน้าผากมน แล้วเลื่อนลงมาที่หอมแก้มเนียนอย่างบางเบาเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่ยังหลับอยู่ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาเรียกร้องจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางเธอควรได้พักผ่อนเพราะถูกตอหนวดแหลมๆที่เพิ่งขึ้นของพงศ์พยัคฆ์ทิ่มลงที่แก้มทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น แพรวารินทร์ลืมตาขึ้นอย่างก่อนจะหลบสายตาอย่างขัดเขินกับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอีกระดับของเธอกับเขาเธอเป็นภรรยาของหมอหนุ่มทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยแล้ว“อรุณสวัสดิ์ครับน้องแพร”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปากบางก่อนจะถอนออกมายิ้มให้“อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่เสือ เริ่มมีหนวดขึ้นมาแล้วนะคะโกนออกดีกว่า เดี๋ยวน้องแพรโกนให้” แพรวารินทร์เอ่ยบอกหาเรื่องคุยแก้เขินจนมาสะดุดตรงไรหนวดเล็กๆบนใบหน้าของเขา“ก็ได้ครับ จริงสิคุณพีร์บอกว่าวันนี้นายนั้นต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปในแบบให้ไปพบสิบเอ็ดโมงนะครับ” พงศ์พ
ผ้าม่านหนาเปิดออกก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาแพรวารินทร์อยู่ในชุดราตรีความยาวคุมเข่าสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้ดูสวยงามใบหน้าถูกแต่งแต้มสวยงามเรือนผมถูกปล่อยปิดแผ่นหลังเนียนพงศ์พยัคฆ์ยืนมองภรรยาสาวดั่งต้องมนตร์หมอหนุ่มอยู่ในชุด เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทสีดำสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเทาดำ กางเกงสแลคทุกองค์ประกอบดูหล่อเท่ห์สมาร์ท“เริด คู่สร้างคู่สมของแท้” แชมมี่เอ่ยขึ้น หลังจากดูผลงานการเลือกชุดของตน หลังจากสองสามีภรรยาเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้ากันจนเที่ยงทั้งสองก็เดินทางกลับไปทานราดหน้าทะเลของพิมพ์พิชชาก่อนจะเดินทางมาที่ห้องเสื้อของแชมมี่เพื่อเตรียมชุดสำหรับงานเลี้ยงรุ่นในช่วงเย็น หลังจากเดินเข้ามาในห้องเสื้อแชมมี่ก็ลากทั้งสองลองชุดต่าง ๆราวกับตุ๊กตาจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบ17.00น.เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังก็ยังเลือกชุดให้ทั้งสองไม่ได้โดยที่เหตุผลของแชมมี่เอ่ยบอกคือเลือกไม่ถูกเพราะทั้งสองใส่ชุดไหนก็หล่อสวยไปหมด“ชุดนี้เริด เรียบสง่าและมีเสน่ห์ โอเคผ่านแล้ว” แชมมี่เอ่ยบอกพร้อมยิ้มปลื้มปริ่มกับความสง่าเหมาะสมของทั้งคู่“กว่าจะพอใจนายนะชัยจะห
“good morning ครับที่รักของพี่เสือ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์เดินออกมาจากห้องนอนหมอหนุ่มเดินเข้าไปกอดและจุ๊บแก้มเนียนเป็นอย่างแรก“ฉวยโอกาส ใครอนุญาตคะ” แพรวารินทร์แกล้งดุแต่พงศ์พยัคฆ์หาได้กลัวไม่“ไม่มีใครอนุญาตครับอนุญาตตัวเอง”“พอเลย ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะเราจะได้กลับเรือนแสนรักซะทีน้องแพรจะไปจัดการสถานหนักกับคนเจ้าแผนการ” แพรวารินทร์เอ่ยบอกแม้จะขะเขินกับคำว่าน้องแพรบ้างแต่เพราะหมอหนุ่มขอให้แทนแบบนี้เธอก็เลยขัดไม่ได้“หนูแพรครับ ยัยตัวแสบแค่อยากให้เราเข้าใจกันเท่านั้นแหละ”พงศ์พยัคฆ์แก้ตัวให้น้องสาวผู้แสนดี แต่ถูกแพรวารินทร์มองด้วยสายตาเอาเรื่องจนต้องหงอ“แล้วแต่หนูแพรจะจัดการเลยครับ พี่เสือไม่ยุ่ง” ‘ตัวใครตัวมันนะน้องรัก พี่เสือไม่ยุ่ง’ พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกหากแต่ประโยคท้ายเขากลับเอ่ยมันในใจส่งกระแสจิตไปบอกน้องสาว“ดีค่ะไม่ยุ่งน่ะดีแล้ว ไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวน้องแพรชงกาแฟกับปิ้งขนมปังไว้ให้”“K
“จากที่ไม่ชอบ ก็กลายเป็นใช่ กลายเป็นคำตอบของใจฉันความผูกพันเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไม่ลดเลย ฉันรักเธอจัง...”เมื่อเสียงเพลงจบลงแพรวารินทร์ได้แต่เขินอายจนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทั้งเขินทั้งเสียใจที่หมอหนุ่มยังคงนิ่งโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดว่านิ่งนั้นแอบยิ้มและร้องไชโยในใจอยู่ถ้าไม่ติดที่ต้องเก๊กนิ่งนะเขาจะกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเลยด้วยซ้ำ“สำเร็จ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยเบาๆอย่างดีใจเมื่อแพรวารินทร์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“สำเร็จแต่ยังไม่พอ ต้องบอกตรง ๆ” หมอหนุ่มเอ่ยบอกตัวเองและทำหน้านิ่งตัวตรงอีกครั้งด้านคนในห้องน้ำยืนมองตัวเองในกระจกอย่างเขินอายก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทางได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาที่ปรึกษาตัวแสบอย่างพิมพ์พิชชาพร้อมเล่าทุกอย่างให้ฟัง“แก ฉันร้องเพลงบอกรักไปแล้วแต่พี่เสือยังนิ่งอีกเอาไงดีล่ะ”ด้านพิมพ์พิชชาอมยิ้มและกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เธอไม่เชื่อว่าพี่ชายเธอยังนิ่งแค่ยัยเพื่อนรักไม่เห็นเท่านั้นแหละ“บอกรักผ่านเพลงอาจจะครุมเครือมั้งแก พี่เส
พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วแต่คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกงานซึ่งนั้นก็หมายความว่าผู้ติดตามอย่างแพรวารินทร์ก็ยังไม่เลิกงานด้วยหญิงสาวมองญาติคนไข้ฉุกเฉินของพงศ์พยัคฆ์อย่างหงุดหงิดเธอพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตกใจเสียใจที่ญาติเข้าโรงพยาบาลแต่มีสิทธิ์อะไรมากอดสามีเธอไว้แบบนั้นแถมยังเบียดหน้าอกหน้าใจเข้าหาเขาอีกนั้นสามีของเธอนะภรรยาเขานั่งอยู่นี่ไม่เห็นรึไง‘ชิ แกนั่งอยู่นี่ทั้งคน นางยังเบียดนมเข้าแนบอกพี่เสืออีกยัยนมแตงโม’ แพรวารินทร์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พร้อมก่นด่าในใจตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนหึงแล้วโวยวายไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงและพอเข้าใจความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์ในวันนั้นแล้วด้วย แพรวารินทร์ได้แต่หงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพงศ์พยัคฆ์เพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวอยากจะกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด“พิมพ์พิชชาส่งคุณมาใช่มั้ย” หมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อแพรวารินทร์กลับห้องทำงานไปแล้ว เขามั่นใจว่าผู้หญิงที่พยายามเอาหน้าอกมาเบียดเขาเนี่ยไม่ใช่ญาติของคนไข้แน่นอนและจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะส่งมาถ้าไม่ใช่น้องสาวเขา“รู้ด้วย ฉลาดจังหมอขา&r
เดอะ ซัน คอนโดมิเนี่ยมคนที่ไม่ออกจากเรือนแสนรักมาโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางเลือกจะมายังคอนโดมิเนียมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและเป็นที่พักในช่วงที่เขาไปทำงานที่นิติเวชร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนแล้วทรุดลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เขาน้อยใจที่เธอว่าเขาไม่มีเหตุผลและมีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้นและเขาหึงที่เธออยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นและที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของแพรวารินทร์แต่เป็นเพราะเขารักเธอมากเกินไปแถมเธอยังไม่มีใจให้กันอีกด้วย พงศ์พยัคฆ์ล้มลงนอนก่อนจะฝืนหลับตาลงอย่างยากลำบาก“พี่เสือคิดถึงหนูแพรนะครับ ขอแค่คิดถึงแต่จะไม่ไปกวนใจอีกแล้ว”2วันผ่านไปเรือนแสนรักเป็นเวลาสองวันแล้วหลังจากพงศ์พยัคฆ์ขับรถออกไปและหมอหนุ่มก็ไม่ได้กลับมาอีกตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาช่างดูหดหู่ในความรู้สึกของแพรวารินทร์และทุกคนในบ้านที่ต่างเฝ้ารอการกลับมาของหมอหนุ่มโดยเฉพาะแพรวารินทร์ที่มีอาการเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องขอลางานอีกหนึ่งอาทิตย์“แพรจะไปตามพี่เสือกลับมา พี่เสือ
ร่างสูงสมบูรณ์แบบของพงศ์พยัคฆ์หันมองไปยังโต๊ะที่มีคนคุ้นเคยในหัวใจของเขานั่งอยู่อย่างหงุดหงิดและพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ไม่เดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาต่อยเพราะรู้ดีว่าตนทำผิดไว้มากและถ้าเดินเข้าไปต่อยลูกค้าของเธออีกมีหวังโอกาสของเขาคงหมดลงเป็นแน่แม้ว่าคำว่าสามีจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นแต่เขาไม่ใช่สามีที่เธอรักและยังอยู่ในสถานะที่รอการพิจารณาว่าจะรักหรือไม่เท่านั้นหมอหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจกลุ่มเพื่อนร่วมงานตรงหน้าที่ชวนเขามาทานอาหารเที่ยงแทน ทีมแพทย์ที่สนิทของชายหนุ่มซึ่งนำทีมโดยรามินเอ่ยชวนเขามาทานอาหารเที่ยงที่นี่พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกขค.ของเพื่อนรักกับกุมารแพทย์สาวจึงไม่คิดปฏิเสธการร่วมโต๊ะในครั้งนี้แต่เมื่อมาถึงที่นั่งของเขาดันบังเอิญมองไปเห็นอีกมุมนึงของร้านซึ่งเป็นที่ที่เจ้าของหัวใจของเขานั่งอยู่นั้นเอง“พี่เสือเป็นไรเปล่า ผมว่าพี่ทำหน้าดูน่ากลัวไงไม่รู้”รามินเอ่ยถามหลังจากเห็นรุ่นพี่หนุ่มทำหร้าเหมือนจะหักคอคนได้“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ที่มากันครบทีมแบบนี้เนื่องในโอกาสอะไร” พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกอขอคอของเพื่อนรักเอ่ย