คุณประเสริฐนั่งมองร่างแบบบางที่หลับพริ้มอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเรียวรูปไข่นั้นสวยนวลเนียนไร้ที่ติ คิ้วเรียวราววาดด้วยพู่กันของจิตกรเอก ดวงตากลมโตที่เขาเคยได้เห็นนั้นดำสนิทเงาระยับประดับด้วยแพขนตางามงอนอ่อนช้อย หากแต่ดวงตางดงามนั้นแฝงไว้ด้วยความหม่นเศร้าไม่สมวัยสาวสดใสนั้นหลับพริ้ม จมูกเล็กๆ โด่งเป็นสันได้รูปงดงาม รับกับริมฝีปากรูปกระจับอิ่มระเรื่อแม้จะดูแห้งผาก เธอน่าสงสารและไร้ที่พึ่งพิงในยามนี้ ซ้ำยังต้องมารับเคราะห์แทนคนไร้สำนึกอย่างสองแม่ลูกนั่นอีก นั่นคือสิ่งที่คุณประเสริฐรับรู้และไม่คิดว่าทายาทของอรุณวลัยจะต้องทนอยู่เป็นผู้อาศัยในชายคาบ้านของตนเองมานานว่าสิบปี ซ้ำยังทนให้ผู้หญิงจิตใจหยาบกระด้างอย่างคุณพริ้งโขลกสับราวทาส รวมถึงเรื่องที่เธอเกือบถูกอานนท์ข่มเหงด้วย หนุ่มใหญ่ได้แต่ถอนหายใจอย่างนึกเวทนา แล้วพลันนึกถึงเรื่องที่เขาคุยกับนายหนุ่มเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
“ผมไม่เห็นว่าผมจะต้องสงสารเห็นใจคนพวกนั้น”
“คุณคริสครับ อย่าหาว่าผมก้าวก่ายเลยนะครับ แต่คุณหนูน้องมดเธอน่าสงสารจริงๆ”
คุณประเสริฐพยายามอย่างที่สุดที่จะเปลี่ยนใจชายหนุ่มให้ยอมรับรติมาแทนพริมรตาซึ่งหายหน้าหนีความรับผิดชอบไป
“มันเป็นเรื่องของคนพวกนั้นที่จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำอยู่แล้ว คุณจะเดือดร้อนแทนเขาทำไม”
“ผมไม่ได้เดือดร้อนแทนคุณพริ้งหรือคุณพริมรตาหรอกครับ แต่ผมสงสารคุณหนูน้องมด...”
แล้วคุณประเสริฐก็ตัดสินใจเล่าเรื่องราวของรติมาให้ชาคริตฟังอย่างละเอียด และขอร้องให้ชาคริตให้รติมาอยู่ที่นี่แทน พริมราตา โดยสัญญาจะจัดการเรื่องของสองแม่ลูกนั่นเอง และทำให้บริษัทและบ้านหลังนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของชาคริตโดยเร็ว
“หากคุณสัญญาว่าจะทำตามที่พูด ผมก็จะลองพิจารณาดูก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็อยู่กับคนของคุณประเสริฐเองหรอกนะว่าทนอยู่ได้นานแค่ไหน และผมไม่รับรองด้วยว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง”
“ครับ ผมขอแค่นี้ หวังว่าคุณคริสจะเมตตาเธอบ้าง...”
“ผมมีเมตตากับทุกคนอยู่แล้ว คุณก็รู้..”
ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงเย็นชาแล้วหันหลังให้คุณประเสริฐเป็นการตัดบท อย่างที่เขามักจะทำเสมอหากไม่ต้องการพูดอะไรต่อมันอาจจะดูเป็นการเสียมารยาท แต่คุณประเสริฐก็เข้าใจดี อย่างน้อยๆ ตอนนี้ ชายหนุ่มก็คงลดความเคร่งเครียดเจ็บปวดลงบ้างแล้ว..
“ขอบคุณนะคะคุณประเสริฐ”
เสียงแม่จิตเอ่ยเบาๆ ทำให้คุณประเสริฐหันไปมองหญิงสูงวัยที่กำลังลูบเรือนผมสวยนั้นอย่างรักใคร่
“ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเท่าที่ทำได้ แต่ความจริงแล้ว ผมเองก็ไม่อยากให้คุณหนูอยู่รับเคราะห์แทนคนอื่นหรอกครับ แต่คิดๆ ดูแล้วหากจะปล่อยให้เธอออกไปเผชิญชะตากรรมข้างนอกก็อดคิดไม่ได้ว่าเธออาจจะเจอคนที่ไม่ดีรังแก”
“แต่อยู่ที่นี่ก็คงจะเลวร้ายไม่แพ้กัน...”
“ก็คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ จริงๆ แล้วคุณคริสเธอจิตใจดี มีน้ำใจกับทุกๆ คน แต่ครึ่งปีหลังที่ผ่านมา เธอกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์นั่นก็เพราะเธอประสบอุบัติเหตุ... ตอนนั้นรถยนต์ของคุณคริสถูกคุณพริมรตาชนจนไถลลงไปในหุบเหวข้างทาง แต่โชคดีที่รถนั้นไม่ตกลงไปในเหว เพราะต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นหนาแน่นเป็นเสมือนกำแพงกั้นไม่ให้รถตกลงไปแม้ไม่ลึกมาก แต่หากรถตกลงไปก็นับว่ารอดยาก เมื่อคุณคริสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก็พบว่าศีรษะคุณคริสได้รับการกระทบอย่างรุนแรง และประสาทด้านการมองเห็นก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งหมอเองก็บอกว่าคุณคริสจะสามารถมองเห็นได้อีกครั้งอย่างแน่นอน... ซึ่งเรื่องร้ายๆ ทั้งหมดนี้มันก็จากผลของการเมาแล้วขับของคุณพริมรตานั่นล่ะครับ”
คุณประเสริฐเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชาคริตให้แม่จิตรับรู้ว่าเหตุใดชายหนุ่มจึงเป็นเช่นนี้ และแม่จิตเองก็ได้แต่ทอดถอนใจ
“ถือเสียว่ามันเป็นกรรมของคุณหนูของแม่จิตสินะ โถ แม่คุณ...”
“ไม่แน่ หากคุณคริสได้รับการดูแลที่ดีจากคุณหนูของแม่จิตก็อาจจะกลับมาเป็นคนเดิมก็ได้ และผมเชื่อว่าคุณหนูน้องมดน่าจะทำให้คุณคริสเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เราก็ได้แต่หวังเช่นนั้น เราทุกคนอยากเห็นเธอมีความสุข ไม่ต้องทนอยู่ในโลกมืดอย่างเจ็บปวดเดียวดายเช่นที่เป็นอยู่”
“แต่คุณคริสของคุณประเสริฐก็ร้ายกาจนัก เท่าที่แม่จิตได้ยินมาเขาอารมณ์ร้ายมากไม่ใช่เหรอคะ” แม่จิตยังกังขา
“นั่นก็เพราะคนพวกนั้นชอบทำให้คุณคริสเหมือนคนพิการ และมันก็ทำให้เธอไม่พอใจ ผมอยู่กับคุณคริสมานาน รู้ว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร และการที่คนดีๆ คนหนึ่งกลับต้องมาตกอยู่ในโลกมืด สิ่งเดียวที่จะทำให้เขาอยากจะอยู่บนโลกนี้ก็คือความรักและเอาใจใส่ด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์...”
คุณประเสริฐกล่าวด้วยแววตาที่หมองหม่นซึ่งแม่จิตเองก็เข้าใจดี คุณประเสริฐเองก็คงรักชาคริต ชายหนุ่มผู้เป็นนายเหมือนที่นางรักคุณหนูของนางเช่นกัน
“คุณคริสนั้นเปรียบเหมือนลูกชายของผม เธอกำพร้าพ่อแม่ตอนที่กำลังก้าวสู่วัยรุ่น ตอนนั้นเธอเพิ่งจะเรียนชั้น ม.ปลาย เท่านั้น ในขณะที่กิจการของพ่อแม่กำลังจะรุ่งเรือง เธอเองก็ต้องประคับประคองมันให้อยู่รอดปลอดภัย เพราะมีอีกหลายๆ ชีวิตที่ฝากไว้ในมือ เด็กหนุ่มซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียนต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตตนเองทั้งหมดเพื่อครอบครัว มันเป็นภาระที่หนักหนาเอาการอยู่ เธอฝ่าฟันอะไรๆ มาเยอะ จนบางทีเธอก็ดูกร้าวแข็งเย็นชา แต่ลึกๆ แล้วเธอเป็นคนจิตใจอ่อนโยนและรักงานศิลปะมาก คุณคริสกับน้องสาวเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ด้านศิลปะ”
คุณประเสริฐเล่าเรื่อยๆ และแม่จิตก็ฟังอย่างตั้งใจ
“ค่ะ อุ้ย คุณหนูของแม่จิตรู้สึกตัวแล้ว”
แม่จิตอุทานออกมาเมื่อร่างบางเริ่มขยับตัว แพขนตางามงอนกะพริบปริบๆ อยู่สองสามครั้งก่อนดวงตากลมโตจะลืมเต็มตาพร้อมกับยันกายลุกขึ้นนั่งด้วยความช่วยเหลือจากผู้สูงวัยทั้งสอง
“แม่จิตคะ เราอยู่ที่ไหนคะ” รติมาถามอย่างยังรู้สึกมึนงงอยู่เล็กน้อย
“เราอยู่ที่บ้านหลังเดิมล่ะค่ะ”
“อะไรนะคะ...แล้ว...” รติมาอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้านวลยังคงไร้สีสัน
“คุณคริสตกลงให้คุณหนูน้องมดอยู่ที่นี่คอยรับใช้เธอแทนคุณพริมรตาครับ ส่วนแม่จิตก็ให้อยู่ด้วย แต่ให้อยู่ช่วยงานในครัวเล็กๆ น้อยๆ แต่คุณคริสก็จะจ่ายค่าจ้างให้เหมือนกับคนอื่นๆ แต่คุณหนูน้องมดจะต้องเซ็นชื่อในเอกสารสัญญาฉบับนี้ก่อนนะครับ แล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาฉบับนี้ อ่านดูก่อนนะครับแต่ทั้งหมดนั้นก็อยู่ที่การตัดสินใจของคุณหนูเอง”
กล่าวจบคุณประเสริฐก็เดินออกไปเงียบๆ รติมามองซองสีน้ำตาลในมือที่คุณประเสริฐยื่นให้เมื่อครู่ แล้วอ่านอย่างถี่ถ้วน ใบหน้าหวานดูยุ่งยากเล็กน้อย
“คุณหนูไม่จำเป็นต้องทำก็ได้นะคะ” แม่จิตกล่าวเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของเธอ
“แต่ว่า...”
“คุณหนูคะ เรายังมีที่ไปนะคะ แต่ช่างเถอะค่ะ ไม่ว่าจะอย่างไรแม่จิตก็ยอมรับการตัดสินใจของคุณหนูอยู่ดี”
แม่จิตเอ่ยออกมาเบาๆ กุมมือบางแน่น เหมือนจะถ่ายทอดกำลังใจ หากแต่ลึกๆ แล้ว นางอยากให้รติมาปฏิเสธข้อตกลงในสัญญาฉบับนี้มากกว่า แม้นางจะไม่รู้ว่าในนั้นเขียนว่าอย่างไร แต่นางก็คิดว่าคุณหนูของนางต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่ๆ
ตอนที่84. บทส่งท้าย อวสาน รติมายิ้มกับโปสการ์ดที่ได้รับจากพริมรตา เธออ่านลายมือที่เขียนอย่างบรรจงของพี่สาวซ้ำไปซ้ำมาอย่างเป็นสุขจนสามีที่นอนรอภรรยามานอนแนบข้าง อดทนรอไม่ไหวเดินมารวบร่างอวบไปนอนเคียงข้างเสียเอง“อื้อ พี่คริสทำอะไรระวังหน่อยสิคะ แล้วนี่ดูลูกดีรึยังคะ น้องภูมิ หลับสบายรึเปล่า” หญิงสาวเอ็ดสามีเบาๆ แล้วถามถึงน้องภูมิหรือ เด็กชาย รติภูมิ บุตรชายที่เพิ่งกินนมแล้วหลับไปเมื่อสักครู่ ชาคริตหน้างอเมื่อคิดว่าตอนนี้ตนเริ่มหมดความสำคัญกับภรรยา แล้วยังอิจฉาเจ้าลูกชายตัวน้อยที่ได้ดื่มกินนมมารดาอย่างอิ่มหนำซ้ำเจ้าตัวแสบก็มักจะร้องแผดจ้าทุกครั้ง ยามที่เขาอยากจะชิดใกล้แล้วทำอะไรๆ อย่างที่ใจปรารถนากับคุณแม่คนสวย จนตอนนี้เขาอยากจะหึงหวงรติมากับลูกชายนัก“หลับแล้ว น้องมดไม่ต้องห่วงหรอก พี่คริสน่ะเป็นยิ่งกว่าทาสน้องภูมิอีก” ชายหนุ่มพูดงอนๆ พลางซุกหน้าลงกับอกอิ่มอย่างแสนจะคิดถึง อยู่ใกล้กันทุกวันแต่เหมือนห่างไกลเพราะรติมาทุ่มเทดูแลบุตรชายวัยเจ็ดเดือนด้วยตนเองจนไม่มีเวลาได้คลอเคลียกันเหมือนก่อน“อิจฉาลูกหรือคะ”“ก็มันน่าอิจฉาไหมล่ะ น้องมดดูแลสนใจแต่น้องภูมิปล่อยให้พี่คริสเหี่ยวเฉาเพราะ...”“
ตอนที่83.ชาครียามองหน้าคนที่เธอเคยตั้งแง่รังเกียจอย่างรักและชื่นชม และรู้สึกละอายนักที่ครั้งหนึ่งเคยทำร้ายหญิงสาวคนนี้ เพราะทิฐิและความหูเบาโง่เขลาของตนเอง“พอกันล่ะค่ะ พี่มด พี่รุจก็ชอบแหย่พี่คริส... พี่มดคะ น้องญายังไม่มีโอกาสขอโทษพี่มดตรงๆ เลยสักครั้ง... น้องญาขอโทษกับทุกๆ เรื่องที่ผ่านมานะคะ”“โธ่... น้องญา พี่มดไม่เคยโกรธน้องญาเลยนะคะ กลับกันก็ยังรู้สึกละอายใจด้วยซ้ำ พี่เองก็ต้องขอโทษน้องญาเหมือนกัน หากพี่เคยทำอะไรให้น้องญาไม่สบายใจ” สองสาวยิ้มให้กันอย่างเป็นสุขด้วยความรักและเข้าใจ รติมาเอื้มมือไปกุมมือของชาครียาไว้ด้วยความรัก เธอไม่เคยโกรธหรือเกลียดชาครียาเลยสักครั้ง และดีใจเหลือเกินที่วันนี้ทุกคนเข้าใจกันรักและห่วงหาอาทรกัน ครอบครัวของเธอสมบูรณ์แบบแล้ว...“คุยอะไรกันจ๊ะสาวๆ” เสียงสองหนุ่มดังแข่งกันมายังห้องนั่งเล่นซึ่งสองว่าที่คุณแม่กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับแม่และเด็กอยู่“นี่เลยครับ พวกเรามาพร้อมลูกตาลลอยแก้ว อร่อยเย็นชื่นใจ”“โอ้โห อย่าบอกนะคะว่าพี่คริสกับพี่รุจช่วยกันทำ”“ใช่แล้วจ้ะน้องรัก”“มันกินได้แน่นะคะ งั้น... น้องญาขอชิมก่อน” ชาครียามองลูกตาลลอยแก้วตรงหน้าอย่างสน
ตอนที่82.“เป็นสาวเป็นนาง ห้ามบอกรักผู้ชายก่อนรู้ไหม น้องมดมาบอกรักพี่คริสก่อนได้อย่างไร น้องมดต้องให้พี่พูดว่า พี่ คริสรักน้องมดก่อน ตัวเองค่อยมาบอกรักตอบพี่ เล่นบอกรักพี่คริสก่อนแบบนี้พี่ก็เสียเชิงชายแย่สิ” “พี่คริส...” รติมาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อหู ชาคริตบอกว่ารักเธอใช่ไหม พี่คริสรักน้องมด...“มาทำหน้าตาน่ารักแบบนี้ในวัดได้อย่างไรกัน มันบาปรู้ไหม”“คนบ้า คนเขาทำหน้าน่ารักมันบาปตรงไหนกัน” เมื่อความเข้าอกเข้าใจเริ่มแทรกซึมเข้าสู่ใจสองดวงหญิงสาวก็กล้าที่จะหยอกเย้ากับเขาบ้าง มือบางทุบเบาๆ กับอกแกร่งแล้วผละออกห่างร่างหนาอย่างขัดเขินใบหน้านวลแดงจัดจรดใบหูบาง ชาคริตมองภาพหญิงสาวที่รักด้วยหัวใจที่สุขล้น เรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้ว...“บาปสิ บาปที่ทำให้พี่คริสนึกอยากจูบน้องมด แต่ทำไม่ได้”“พี่คริส ไม่เสียใจแล้วใช่ไหมคะ ที่คุณอ้อมเธอจากไป” หญิงสาวถามเขาเมื่อนึกถึงว่าตนเองอยู่ที่ใด“เสียใจมั้ยที่อ้อมเสียไป พี่ก็เสียใจนะ แต่พี่เสียใจเพราะพี่ยังไม่ได้ตอบแทนน้ำใจของอ้อมเลยต่างหาก น้องมดเข้าใจใช่ไหม” เขาถามเธอเมื่อทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเขาได้บอกเล่าให้เธอรับรู้ หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข
ตอนที่ 81.ส่วนพริมรตาก็ถอนหายใจแรงๆ อย่างโล่งอกเมื่อสามารถจัดการไอรดาได้ แล้วเมื่อคิดว่าเธอช่างบ้าบิ่นวิ่งเข้าหาคนที่มีปืนอยู่ในมืออย่างไม่กลัวเกรงแล้วก็ต้องนึกทึ่งและขันตนเองไปพร้อมๆ กัน เพราะก่อนหน้านั้นเธอกำลังปฐมพยาบาลรติมาอยู่ เมื่อรติมาฟื้นได้สติแล้วรู้ว่าชาคริตกำลังเผชิญหน้ากับไอรดาตามลำพังรติมาก็ลุกพรวดพราดเข้ามาทำให้เธอต้องวิ่งตามมาด้วยและเมื่อเห็นว่าไอรดากำลังจะยิงชาคริตรติมาก็วิ่งเข้าไปเพื่อจะกันร่างชาคริตไว้โดยไม่คิดชีวิต ส่วนตัวเธอเองก็ห่วงน้องสาวและหลานจะเป็นอันตรายก็เลือกที่จะเข้าหาไอรดาโดยวิ่งพุ่งชนร่างไอรดาอย่างแรงจนวิถีกระสุนเบี่ยงเบนไป แล้วใช้สันมือฟาดลงบนมือของไอรดาอย่างแรงจนปืนในมือของไอรดากระเด็นไปไกล พอได้ทีก็จัดการกับไอรดาอย่างที่ทุกคนเห็น พริมรตาหอบหายใจเบาๆ มองไอรดาอย่างที่ยังไม่นึกไว้ใจ“กรี๊ดดด อีบ้า มึง กูจะฆ่ามึง...กรี๊ดดด ปล่อยกูนะ” ไอรดากรีดร้องอย่างเจ็บปวดใจที่ทำพลาดวันนี้เธอพลาด คนพวกนั้นกำลังมีความสุข ชาคริตกับรติมารักกันหวานชื่น ซึ่งเธอไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น สาวน้อยกรีดร้องโหยหวนอีกครั้งก่อนจะถูกตำรวจจับร่างเล็กเข้าไปในรถเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นท
ตอนที่80.“พี่รัก...”“รักใครคะ..” ไอรดาตื่นเต้น เมื่อชายหนุ่มที่ตนแอบหลงรักมานานกำลังจะเอ่ยความในใจกับเธอ สาวน้อยคิดเข้าข้างตัวเองอย่างช่วยไม่ได้“ปล่อยรติมาก่อนสิน้องไอ พี่คริสสัญญาว่าจะบอกน้องไอคนเดียว” ชายหนุ่มต่อรองไอรดามองเขาที มองรติมาทีอย่างชั่งใจ และค่อนข้างสะใจที่เห็นรติมาน้ำตานองหน้า“หึ ในที่สุดพี่คริสก็ไม่รักแกนังแม่มด..” ไอรดาผลักรติมาอย่างแรงด้วยความสะใจ รติมาเซถลาแล้วล้มกองที่พื้นอย่างอ่อนแรง แต่ความจริงเธอหมดแรงกับคำพูดของชาคริตต่างหาก ชาคริตปรายตามองและส่งสัญญาณให้พริมรตาที่แอบเข้ามาให้เข้ามาช่วยรติมาออกไป พริมรตาอ้อมไปทางด้านหลังห้องนั่งเล่นแล้วปีนหน้าต่างเข้ามาด้วยความช่วยเหลือจากพี่จอยและพี่จุ๊บแจง ส่วนพี่แสงก็อ้อมไปอีกด้าน ในขณะที่แม่จิตรอเปิดประตูให้ตำรวจที่หน้าบ้าน“มานี่สิน้องไอ” ชาคริตเรียกเธออีกครั้งแล้วยื่นมือไปข้างหน้า สาวน้อยยิ้มกว้างดีใจจนลืมหญิงสาวที่เธอปองร้าย รีบยื่นมือมาจับมือหนาทันที แต่แล้วสายตาของเธอก็พลันเหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ตรงหน้าต่าง ไอรดาปัดมือชายหนุ่มออกห่างแล้วหันกลับไปหารติมาอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของเธอเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ แล้
ตอนที่79.“รตาเห็นน้องมดบ้างไหม”“ไม่เห็นค่ะ นั่งอยู่ในออฟฟิศรึเปล่าคะ”“ไม่อยู่นะหรือว่าน้องมดเข้าบ้านไปแล้ว”“เอ ไม่แน่ใจนะคะวันนี้ลูกค้าเยอะด้วยรตาเองก็ไม่ได้สังเกตว่าน้องมดอยู่ในห้องรึเปล่า มีอะไรรึเปล่าคะ”“ตอนนี้รติมาไม่ปลอดภัย เราทุกๆ คนด้วยเอาเป็นว่ารีบปิดร้าน ผมจะไปตามหาน้องมดแล้วผมจะเล่าให้ฟัง”กรี๊ดดด...! เสียงกรีดร้องของรติมาดังมาจากบ้านหลังงาม ชาคริตกับพริมรตาหันไปยังทิศทางของบ้านด้วยความตกใจ ชายหนุ่มรีบวิ่งไปยังประตูที่เชื่อมระหว่างบ้านกับร้านอย่างรวดเร็ว หากแต่คีย์การ์ดที่เคยใช้กลับไม่สามารถเปิดประตูได้ ชายหนุ่มพยายามรูดบัตรอยู่หลายครั้งก็พบความผิดปรกติ ระบบการทำงานของเครื่องรูดบัตรเสียหายเนื่องจากมีคนทำอะไรสักอย่างกับมัน ชายหนุ่มหน้าซีดด้วยความเป็นห่วงคนที่อยู่ในบ้าน ร่างสูงมองรั้วสูงตรงหน้าด้วยความหวัง ส่วนพริมรตารีบไปบอกทุกคนให้รีบปิดร้านแล้วรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจก่อนจะวิ่งตามชาคริตไปในขณะเดียวกันรติมากำลังเผชิญหน้ากับสาวน้อยที่เธอเพิ่งรู้ว่าเป็นบุคคลอันตรายและร้ายกาจ ร่างอวบอิ่มเพราะอายุครรภ์มากขึ้นถอยหลังช้าๆ เมื่อร่างบอบบางทว่าดูแกร่งกระด้างของไอรดาเดินยังเธอพร้อมม