ตอนที่ 3
เป็นภรรยาผมเถอะ
อเรนโซเดินทางกลับจากเมืองไทยด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เขาเพิ่งสูญเสียภรรยาและนี่พ่อก็โทรศัพท์มาบอกว่าแม่ของเขากำลังป่วยหนักอีก ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังอยู่ในช่วงที่เจอปัญหามากมายรุมเข้ามาถ้าไม่มีลูก ๆ อีกสองคนที่เขาต้องดูแล อเรนโซคิดว่าตัวเองคงสติหลุดไปมากกว่านี้แน่ ๆ
“คุณพ่อ! คุณแม่! นี่มันอะไรกันครับ”
ภาพมาร์โกและอมราที่นั่งรอลูกชายอยู่ที่ห้องรับแขกพร้อมกับหญิงสาวที่มาในชุดรัดรูปสีแดงที่รีบลุกขึ้นเดินตรงมาเกาะแขนของชายหนุ่มที่กำลังยืนมองทุกคนด้วยความแปลกใจในสิ่งที่เห็น
ลอร่าใช้มือเล็กที่เกาะแขนอเรนโซพาตัวเขามานั่งลงข้าง ๆ เธอด้วยท่าทางที่ดูเหมือนคนกำลังมีความสุข
“มาถึงเหนื่อย ๆ นั่งพักก่อนนะคะพี่เรน”หญิงสาวในชุดแดงรัดทุกส่วนของร่างกายอ้อนเสียงหวาน
“ไหนคุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไม่สบายแล้วนี่มันอะไรกันครับ”
มาร์โกได้แต่หลบตาเมื่อถูกลูกชายถามด้วยน้ำเสียงและ แววตาที่ตำหนิและเสียใจกับการโกหกของผู้เป็นพ่อ
อมราหญิงวัยใกล้หกสิบขยับตัวเพื่อทำหน้าที่ตอบแทนเพราะทุกอย่างคือแผนที่เธอวางไว้
“แม่เป็นคนให้พ่อโทรศัพท์ไปหาลูกเอง ถ้าแม่ไม่ให้พ่อโกหกลูกคงไม่มีทางกลับมาและงานแต่งงานที่พ่อกับแม่เตรียมไว้ก็ต้องล่ม ลูกควรจะดีใจที่แม่สบายดีและเอาเวลาที่มาแสดงอารณ์เน่า ๆ ใส่แม่ไปเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวในอีกสองวันดีกว่า”
อเรนโซทำท่าจะลุกขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเรื่องราวจากปากของมารดาว่าเขากำลังจะต้องเป็นเจ้าบ่าวในอีกสองวันนี้
“พี่เรนคะ ลอร่าว่าพี่อย่าแสดงท่าทางให้ลอร่าคิดว่าพี่ไม่อยากแต่งงานเลยดีกว่าค่ะ เพราะธุรกิจของครอบครัวพี่คงต้องมีปัญหาแน่ ๆ ถ้าลอร่าต้องกลายเป็นเจ้าสาวที่ไม่มีเจ้าบ่าวในงานแต่งงาน”
คนพูดยิ้มอย่างอ้อนหวานแต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นมันคือ ความโหดเหี้ยมที่ไม่ธรรมดาของลูกสาวนักธุรกิจที่เกี่ยวกับ การท่องเที่ยวรายใหญ่ของอิตาลีและครอบครัวของอเรนโซก็พึ่งพาธุรกิจของครอบครัวนี้ในการทำธุรกิจมืดอยู่
ชายหนุ่มหลับตาพยายามตั้งสติเพราะตอนนี้เขารู้แค่เพียงว่าถ้าเขาแต่งงานกับลอร่าลูก ๆของเขาต้องไม่ปลอดภัยและความตั้งใจของเขาที่จะกลับไปอยู่เมืองไทยคงต้องไม่สำเร็จแน่นอน
ภาพและเสียงขอร้องครั้งสุดท้ายที่เบญญาได้ขอเขาไว้ทำให้ อเรนโซคิดหาทางออกขึ้นมาได้แบบที่เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะทำให้ งานแต่งถูกล้มเลิกไหม
“ผมแต่งงานแล้วและมีลูกอยู่ที่เมืองไทย ลอร่าคุณจะยอมเป็นเมียคนที่สองของผมไหมหรือจะพูดให้ชัด ๆ ถ้าคุณแต่งงาน กับผมคุณก็จะได้ตำแหน่งเมียน้อยทันที”
“ลอร่าไม่เชื่อ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครทำไมลอร่าไม่เคยรู้เลยว่าพี่เรนมีเมียมีลูกแล้ว”
“พ่อกับแม่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะหนูลอร่า”
อมรารีบลุกเดินมาหาสาวสวยในชุดสีแดงที่กำลังมองทุกคนด้วยแววตาที่ไม่ต่างจากเสือร้ายที่อยากจะฉีกทุกคนให้เป็นชิ้นด้วยความโกรธ
“แม่ไม่รับผู้หญิงขายตัวที่ไหนมาเป็นลูกสะใภ้เด็ดขาด”
อมราหันไปตะวาดใส่ลูกชายเพราะเธอรู้ว่าถ้าขืนอเรนโซไม่ยอมแต่งงานธุรกิจของเธอคงต้องมีปัญหาแน่ ๆ
“เธอไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวและเธอก็เป็นลูกสาวนักธุรกิจที่เมืองไทย ผมรักเธอและคงจะรักใครไม่ได้อีกแล้วแต่ถ้าลอร่ารับได้ที่จะเป็นเมียน้อยที่ผัวไม่ได้รักได้ ผมก็จะเป็นเจ้าบ่าวแก้อายให้ตามที่ทุกคนต้องการ”
กรี๊ด.....
ชายหนุ่มพูดจบก็เดินหนีขึ้นบ้านไปโดยมีเสียงกรี๊ดของลอร่าดังตามหลังแต่คนพูดก็ไม่คิดแม้แต่อยากจะหันมามอง
“หนูลอร่าฟังป้านะลูก ไม่มีทางที่อเรนโซจะมีเมียแล้วและถึงจะมีป้าจะเอาเงินฟาดหัวแม่นั่นจ้างให้มันออกไปจากชีวิตเรน รับรองมันต้องอยากได้เงินแน่ ใจเย็นก่อนนะแต่เราคงจะต้องเลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อน ป้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”
อมราพยายามที่จะทำให้หญิงสาวที่เธออยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ใจเย็นลงให้มากที่สุดเพราะเธอไม่อยากให้ครอบครัวของเธอและลอร่าต้องมีปัญหากัน
“หวังว่าคุณป้าจะจัดการทุกอย่างได้อย่าให้คุณพ่อของลอร่าต้องรู้ความจริงทั้งหมดนะคะ”
แขนเล็กสะบัดมือของอมราอย่างแรงคว้ากระเป๋าและเดินกระแทกเท้าออกไปอย่างคนที่หัวเสีย
มาร์โกขอเป็นคนขึ้นไปพูดกับลูกชายเองเพราะเขาอยากรู้ว่าสิ่งอเรนโซพูดคือเรื่องจริงไหมก่อนหน้านี้หลายปีมาแล้วเขารู้จากภรรยาแค่เพียงว่าลูกชายอยากแต่งงานกับสาวไทยที่เป็นเด็กกำพร้าและอมราไม่ยอมตั้งแต่นั้นมาลูกชายของเขาก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้อีกเลย
ก๊อก ๆ ๆ
“พ่อเข้าไปได้ไหมอเรนโซ”
ชายหนุ่มยอมเปิดประตูให้เพราะสำหรับอเรนโซแล้วพ่อมีเหตุผลมากกว่าแม่เสมอ
“คุณพ่ออยากจะมาถามว่าที่ผมพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริง หรือเปล่าใช่ไหมครับ”
คนเป็นลูกรู้ทันและอเรนโซก็ต้องการบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านบิดาเพื่อส่งผ่านไปหามารดาของเขาด้วย
อเรนโซเริ่มเล่าเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาทั้งหมดจะมีก็แต่เรื่องลูกทั้งสองคนที่เป็นความจริงเท่านั้น
“ตอนแรกพ่อคิดว่าลูกแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นลูกกำพร้าที่เคยเล่าให้แม่ฟังเสียอีก” คนเป็นพ่อถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ผมตั้งใจแบบนั้นครับแต่ทุกอย่างมันสายเกินไปเพราะเธอเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคร้ายและตอนนี้ผมก็พบรักครั้งใหม่แล้วจนเรามีลูกเป็นโซ่คล้องใจด้วยกันสองคน คุณพ่อคงไม่ใจร้ายกับหลานทั้งสองคนที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรด้วยเลยแต่กลับต้องมาถูกแย่งพ่อไปเพียงเพราะเหตุผลทางธุรกิจใช่ไหมครับ”
มาร์โกถึงเขาจะเป็นมาเฟียแต่ด้วยอายุและพื้นฐานจิตใจดั้งเดิม เขาไม่ใช่คนใจร้ายโหดเหี้ยมแต่ที่เขายังคงอยู่ในธุรกิจสีเทาได้เพราะมีภรรยาที่ทำหน้าที่ด้านบู๊แทนเสมอ
“พาเขามาหาพ่อกับแม่ให้เร็วที่สุดพร้อมหลาน ๆ พ่อเชื่อว่าถ้าแม่ของลูกเห็นหน้าสายเลือดของตัวเองคงไม่ใจไม่ไส้ระกำกับสายเลือดตัวเองได้ลงคอแน่ ๆ เข้าใจพ่อไหมคำว่าให้เร็วที่สุดมันคืออะไร”
อเรนโซเข้าใจได้ดีว่าบิดาของเขากำลังกังวลเรื่อง ความปลอดภัยของหลาน ๆ เพราะลอร่าอาจไม่ปล่อยทั้งแม่และลูกไว้แน่ ๆ ถ้าเธอรู้ว่าทุกคนคือใครและอยู่ที่ไหน
คนเดียวที่ชายหนุ่มคิดถึงตอนนี้คือขวัญข้าว เขาจึงนั่งคิดทบทวนคำพูดที่จะขอให้เจ้านายของภรรยาช่วยเล่นบทเป็นภรรยาและแม่ของลูกให้เขาหน่อย
“สวัสดีครับผมอเรนโซ ลูก ๆเป็นอย่างไรบ้าง”
ชายหนุ่มยังไม่กล้าเข้าเรื่องจึงเริ่มจากการถามถึงลูก ๆ ก่อนแต่ปลายสายจับเสียงได้ว่าคนที่โทรศัพท์มาจากอิตาลีไม่ได้ต้องการถามถึงลูกแค่นั้นแน่ ๆ
“คุณมีอะไรไหม พูดตรง ๆ เลยก็ได้นะ”
ขวัญข้าวเปิดทางแบบนี้มาเฟียหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะพูด เข้าเรื่องที่เขาต้องการให้เธอช่วยทันที
“บ้าหรือไง! อยู่ดี ๆ จะให้ฉันไปจดทะเบียนสมรสกับคุณ ถ้าไม่อยากแต่งงานคุณก็บอกพ่อแม่คุณไปตรง ๆ ทำไมต้องอ้าง ฉันด้วยแล้วเรื่องเด็ก ๆ ฉันเลี้ยงได้ คุณก็ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ”
ขวัญข้าวโวยวายเพราะเธอคิดว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่เจ้าตัวต้องสมัครใจถ้าอเรนโซไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่งไม่เห็นต้องหาเหตุผลอะไรไปอ้างเลย
“ลอร่าเธอโหดร้ายกว่าที่คุณคิด ไม่ว่าผมจะแต่งงานกับเธอหรือไม่ เธอต้องส่งคนมาจัดการเพชรกับทับทิมแน่ ๆ อิทธิพลมาเฟียของพ่อเธอมันมากกว่าที่ผมจะปกป้องลูกได้ ผมจึงคิดว่าถ้าผมได้ไปอยู่กับลูกที่เมืองไทย คงดีกว่าการที่ผมอยู่ที่นี่แล้วเอาอันตรายไปให้คุณกับลูกต้องสู้กันเพียงลำพัง”
อเรนโซพยายามอธิบายทุกอย่างต่อโดยละเอียดเพราะเขารู้ว่าถ้าขวัญข้าวได้รู้ความจริงเกี่ยวกับธุรกิจทุกอย่างที่ครอบครัวเขากับลอร่าทำและความโหดร้ายของมาเฟียที่อิตาลี เธออาจจะยอมร่วมมือช่วยเหลือรับบทเป็นภรรยาให้เขาแน่ ๆ
“เรื่องนี้ฉันคงตัดสินใจเองไม่ได้ ฉันขอปรึกษาคุณพ่อก่อนแล้วจะรีบโทรบอกคุณนะ”
ปลายสายวางหูไปแล้วอเรนโซหยิบรูปของเบญญาจากในกระเป๋าขึ้นมาดูเพื่อหวังให้เธอรับรู้ช่วยคุ้มครองลูก ๆ และดลใจให้ขวัญข้าวยอมตกลง
“เบญเอาใจช่วยผมด้วยนะ”
ตอนที่11วิวาห์วุ่น นอกจากงานแต่งงานที่ต้องเตรียมกันอย่างเร่งด่วนแล้ว รตีต้องแยกตัวเองไปเฝ้าสามี ส่วนอิศราก็ต้องไปจัดการงานที่บริษัท หน้าที่เป็นแม่งานจึงตกเป็นของวรรษมน น้องสาวที่แสนน่ารักที่เต็มใจและเต็มที่กับการเตรียมงานให้พี่ชาย ทุกเย็นอิศราจะพาเจ้าสาวของเขาออกแจกการ์ดแขกต่าง ๆ โดยเลือกเฉพาะที่ใกล้ชิดและสนิทจริง ๆ เพราะโรงแรมที่เช่าสถานที่ไว้ รองรับแขกได้ไม่เกินสองร้อยคนเท่านั้น “เอ้า! มาไงล่ะเพื่อนได้ข่าวว่ากลับจากอังกฤษมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมาแวะหากันบ้างเลย” โยธินเพื่อนสนิทที่สุดของอิศราเพราะทั้งคู่เรียนมัธยมด้วยกันและยังตามไปเรียนต่อที่อังกฤษด้วยกันอีก “ยุ่งหลายเรื่องว่ะ จริง ๆ มีเรื่องที่อยากจะคุยกับแกมากมายเลยไอ้โย” อิศราหยุดพูดทันที เมื่อภรรยาของโยธินเดินมาร่วมวงสนทนาด้วย พร้อมกับสาวใช้ที่นำขนมและเครื่องดื่มมาต้อนรับ “เพื่อนพี่โยคนนี้เข็มไม่ได้เจออีกเลยนะคะหลังจากงานแต่งงานของเรา” เข็มเธอเป็นลูกสาวผู้มีบารมีในบ้านเมืองที่พ่อของโยธินจับคลุมถุงชนให้ทันที หลังจากที่เขากลับมาจากอังกฤษ “พอกินเลี้ยงงาน
ตอนที่10คุณคือคนสำคัญ เช้าวันนี้รตีชวนลูกสาวออกไปเสริมสวยด้วย ทั้งที่ความจริงปกติแล้ว เธอก็ไปคนเดียวตลอด “ดูปล่อยเนื้อปล่อยตัว ที่คุณคงศักดิ์เขาไม่ให้ลูกไปทำงานแค่ไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อยกับการไปสู่รบกับผู้คนในสังคม เขาไม่ได้จะให้ลูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้นะ” รตีมองหน้าลูกสาวที่นั่งรถข้าง ๆ เธอเพื่อไปยังร้านเสริมสวยที่เธอทำประจำ สองคนแม่ลูกใช้เวลาอยู่ในร้านเสริมสวยเกือบทั้งวัน เพราะทางร้านสั่งอาหารมาให้ “คุณแม่เพลินทำจะหมดทั้งตัวแล้วนะคะ กลับกันได้หรือยัง” หญิงสาวเริ่มกังวลว่าจะกลับไปไม่ทันทำกับข้าวมื้อให้สามีของเธอ “แม่ขอทำเล็บอีกครึ่งชั่วโมง รับรองกลับทันแน่นอน” สองคนแม่ลูกเดินออกจากร้าน รตีหันมามองหน้าลูกสาวของเธอ พอได้บำรุงนิดบำรุงหน่อยก็ดูสวยขึ้นเป็นกองเลย “จำคำแม่ไว้นะ การที่เรามีสามีต้องดูแลตัวเองอย่าคิดว่าเขาเลือกเราแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะการที่เราปล่อยให้ตัวเองดูโทรมมันก็เท่ากับว่าเราดูแลตัวเองไม่เป็นแล้วเราจะไปดูแลคนอื่นได้อย่างไรกัน” รตีด้วยความเป็นแม่ เธออบรมสั่งสอนลูกสาวเรื่
ตอนที่9เมื่อเพื่อนไม่อยากเป็นเพื่อน ค่ำคืนที่แสนสับสนของชมเพลินและเป็นค่ำคืนที่แสนเจ็บปวดของอิศรา ชายหนุ่มนอนกอดหญิงสาวที่นอนนิ่งไม่พูดไม่จา เขาไม่คิดเลยว่าที่เขาคิดจะลองใจภรรยาจะทำให้เรื่องราวเลวร้ายไปแบบนี้ เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่เห็นจะมีอาการโกรธหรือไม่พอใจเขาเลย เช้านี้กับข้าวทุกอย่างถูกจัดวางไว้บนโต๊ะอาหารอย่างเรียบร้อย แต่ไร้เงาของชมเพลิน เธอออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า โดยที่ไม่ได้บอกใครแม้แต่รตีว่าเธอไปไหน “พ่อครับวันนี้ผมขอไม่ไปทำงานนะ ขออยู่บ้านง้อเมียหน่อยแต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าชมเพลินเขาออกไปไหน เขาบอกใครไว้มั่งหรือเปล่า” ชายหนุ่มเดินไปหาบิดาที่บ้านและพูดลอย ๆ เพื่อหวังให้ แม่เลี้ยงของเขาได้ยินและอาจจะบอกเขาว่าภรรยาของเขาไปไหน รตีเข้าใจว่าลูกเขยเธอต้องการอะไร แต่ในเมื่อเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จึงได้แต่เดินเข้าไปในครัว ไม่สนใจขายหนุ่มที่กำลังหันมองตาม “ผู้หญิงถ้าเขาไม่รัก เขาก็จะไม่หึง แล้วถ้าเขาหึงจนถึงจุดอิ่มตัว เขาก็จะไปจากแกแล้วไม่กลับมา” คงศักดิ์ไม่ใช่พ่อประเภทเข้าข้างลูก เขาจึงพูดให
ตอนที่8ลองใจ เรือนหอตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนย้ายเข้าไปอยู่พร้อมกับทำบุญบ้านอย่างเป็นทางการ ชมเพลินมองบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้มันกลายเป็นบ้านของเธอกับอิศราแล้วด้วยความรู้สึกดีใจ เธอกับเขาจดทะเบียนสมรสด้วยกันมาสามเดือนกว่าแล้ว ผ่านเรื่องวุ่นวาย ปวดหัวมาก็หลายเรื่อง ชมเพลินหวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรมาให้เธอต้องปวดหัวอีก “คืนนี้เราต้องฉลองห้องนอนใหม่กันสักหน่อย ผมคงต้องเอาจริงแล้ว สามเดือนกว่าแล้วยังไม่มีทีท่าว่าตัวน้อยจะมาเลย ป่านนี้คนเขาคงว่าผมไม่มีน้ำยาแน่ๆ” อิศราพูดจบก็ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป เขาจู่โจมบรรเลงบทรักเพื่อเพิ่มสมาชิกให้กับบ้านหลังใหญ่ทันที เช้านี้ชมเพลินต้องทำกับข้าวให้ตัวเองกับสามี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะปกติเธอก็ทำอยู่แล้ว ตอนที่อยู่บ้านหลังโน้น อิศราเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มเมื่อได้กลิ่นอาหารที่ภรรยาทำ “แค่กลิ่น ผมก็หิวแล้ว ใกล้เสร็จหรือยังครับแม่ครัว” “นั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ อุ่นต้มอีกหน่อยก็พร้อมกินค่ะ” อิศรารักและคิดถึงแม่ของเขามาก เรื่องการทำอาหารก็เป็นส่วนหนึ่ง
ตอนที่ 7เรือนหอสร้างเสร็จ ตลอดเวลาสามวันที่เมธาวีกับอังกอร์เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ หญิงสาวสร้างความปวดหัวให้กับอิศราและชมเพลินเป็นอย่างมาก ทั้งคู่จะต้องทะเลาะกันก่อนนอนทุกคืนด้วยเรื่องของแม่ลูกคู่นี้ และอิศราจะง้อภรรยาด้วยวิธีเดิมๆ ทุกที จนตอนนี้ชมเพลินเริ่มกลัวตัวเองจะพลาดท่าท้อง เพราะชายหนุ่มเล่นไม่หยุดเลยสักวัน อิศราตัดสินใจเข้าไปคุยกับเมธาวีที่สวนหน้าบ้าน ในวันที่สี่ของการมาอยู่ที่นี่ เพราะพรุ่งนี้ผมดีเอ็นเออาจจะออกแล้ว “เมย์พรุ่งนี้ผลอาจจะออกแล้ว ทั้งคุณทั้งผมต่างก็รู้ดี ว่าความจริงมันเป็นแบบไหน คุณยังจะฝืนอยู่ที่นี่เพื่ออะไร คุณพ่อของผมเขาฟ้องคุณจริง ๆ นะ” หญิงสาวเอื้อมมือมาจับมือของชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามแต่อิศรารีบดึงมือออกทันที เพราะรู้สึกทั้งกลัวและรังเกลียดเพื่อนคนนี้ไปแล้ว “เมย์รักอิศนะ อังกอร์ก็รักอิศเหมือนพ่อ พวกเราจะอยู่กันได้อย่างไรถ้าไม่มีอิศ” “คุณต้องอยู่ให้ได้ เพราะผมต้องมีชีวิตของผม อังกอร์ยังคงเป็นหลานของผมเช่นเดิม อย่าทำให้เรื่องแย่ไปกว่านี้เลย ถ้าคุณถูกฟ้อง ต้องใช้เงินสู้คดี พ่อแ
ตอนที่6การมาของใครสองคน เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสและมีความสุขสำหรับชมเพลิน เพราะเธอได้นอนกอดกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ถึงแม้ตอนเช้าเธอจะต้องรีบตื่นก่อนทุกคนในบ้านก็ตามเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น “วันนี้เข้าบริษัทแล้วเริ่มเรียนรู้งานเลยนะ ถึงพ่อจะยกหุ้นให้น้องแต่แกเป็นพี่อย่างไรก็ต้องช่วยน้องอยู่ดี” คงศักดิ์ไม่ได้ยกหุ้นในบริษัทให้กับอิศราก็จริง แต่เขาแต่งตั้งชายหนุ่มเป็นผู้จัดการบริษัท มีเงินเดือนเกือบสองแสนบาทและมีหน้าที่ดูแลบริษัทรองจากประธานที่ตอนนี้คงศักดิ์ดำรงตำแหน่งอยู่ “ผมขอช่วยจนน้องเรียนจบนะ เพราะผมคงต้องหาทำกิจการของตัวเองจากที่ดินที่ผมได้บ้าง แต่ก็คงยังช่วยน้องอยู่เพียงแต่ไม่เต็มตัว” คำพูดของอิศราทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายของเขาเริ่มโต และอยากจะยืนด้วยขาของตัวเอง “ก็ได้ แต่อย่าทิ้งน้องแล้วกัน ตอนนี้ก็คิดไปก่อนว่าจะทำอะไร คิดได้ค่อยมาปรึกษากันดู” คงศักดิ์อยากรู้ว่าลูกชายของเขาจะใช้ที่ดินที่ได้ทั้งที่เชียงใหม่ เชียงราย ปทุมธานี อยุธยา เพื่อใช้ทำกิจการอะไรบ้าง ชมเพลินนั่งฟังสองคนพ่อลูกคุยกันบนโต๊ะอ