เฌอแตมรู้ตัวดีว่าเวลานี้ถึงจะต่อต้านขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรและไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากเรื่องร้ายๆที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองเลยด้วยซ้ำ ใจจริงเธอก็ไม่อยากทำอะไรขัดใจแม็กเครย์แต่จะให้เธอยอมทำตามคำพูดของแม็กเครย์ทุกอย่างเหมือนหุ่นยนต์เธอก็ทำไม่ได้เหมือนกัน
สายตาคมมองดูร่องเล็กสีสวยที่เปียกแฉะด้วยน้ำหวานสีใส เขาจับแก่นกายที่แข็งขยายถูไถไปตามรอยแยกและดันมันเข้าไปแรงๆจนสุดลำ ความคับแน่นของมันบีบรัดท่อนเอ็นร้อนจนทำแม็กเครย์ครางออกมาเบาๆ สะโพกหนาเริ่มกระแทกกระทั้นรุนแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ขณะที่คนใต้ร่างทำได้แค่รองรับอารมณ์และความรุนแรงที่เขามอบให้ มือเล็กที่ถูกมัดไว้จิกเกร็งลงบนผ้าปูที่นอนอย่างแรงเพื่อระบายความเจ็บปนเสียวที่เขามอบให้ แรงกระแทกรุนแรงทำให้ร่องเล็กขึ้นสีแดงช้ำ มันสร้างความเจ็บปวดให้เธอมากกว่าจะรู้สึกเสียวซ่าน เขาทำราวกับเธอเป็นตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิต จังหวะกระแทกที่หนักหน่วงรุนแรงทำให้ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ
“ อ๊ะๆ มะแม็กซ์เครย์ นะหนูเจ็บ ขะขอร้องล่ะ ไม่..เอาแล้ว ฮึก..มันเจ็บ ฮื้ออ ”
“ เจ็บสิดี จะได้ลืมไม่ลง แน่นดีชะมัด อา..อย่าขมิบแรงสิ หึ ฉันยังไม่อยากเสร็จไว ”
“ อ๊าาส์!!” เสียงหวานหวีดลั่นเมื่อนิ้วมือบดคลึงจุดกระสันหนักๆ
แม็กเครย์ยกร่างบางที่อ่อนปวกเปียกขึ้นและจัดแจงให้เธออยู่ในท่าคลานเขา พวงแก้มสีแดงก่ำแนบสนิทลงกับหมอนนุ่มขณะที่มือหนากดแผ่นหลังบางลงแนบกับเตียงและยกบั้นท้ายกลมกลึงให้ลอยเด่นขึ้นก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นร้อนเข้าไปในร่องเล็กสีสด ช่องทางรักที่ขมิบตอนรัดท่อนเอ็นถี่ๆทำให้มาเฟียหนุ่มซี๊ดปากด้วยความเสียว เขากระหน่ำส่งแท่งร้อนกระแทกเข้าไปไม่หยุดโดยไม่สนใจว่าช่องทางรักจะบอบช้ำแค่ไหน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องสอดประสานกับเสียงหวานที่หวีดร้องขึ้นเป็นพักๆยามเมื่อสะโพกแกร่งกระแทกย้ำๆ
“ อื้อออ ฮึก..อ๊า! ”
แม็กเครย์โน้มตัวลงขบเม้มสร้างรอยแดงสีกลีบกุหลาบไปบนแผ่นหลังขาว ท่อนแขนแกร่งรั้งสะโพกกลมมนขึ้นก่อนจะแทกท่อนเอ็นร้อนเข้าออกอย่างบ้าคลั่งจนร่างบางสั่นเกร็งอย่างแรงและทรุดตัวกองลงกับเตียงนอนอย่างน่าสงสาร ลมหายใจเธอหอบหนักราวกับคนจะขาดใจ แท่งร้อนเกร็งกระตุกถี่ๆพร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปภายในตัวเธอ เฌอแตมรู้สึกอุ่นวาบที่ช่วงท้องขณะที่ท่อนเอ็นยังกระตุกตุบๆอยู่ในร่างกายเธอ มือหนาจับใบหน้าเธอขึ้นมาบดจูบหนักๆ ก่อนจะผละริมฝีปากออก ทันทีที่ท่อนเอ็นหลุดออกจากร่างเธอ น้ำสีขาวขุ่นก็ไหลทะลักมาจนเปรอะเปื้อนผ้าปูที่นอน เฌอแตมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นแม็กเครย์เดินเข้าห้องน้ำไป
‘…โชคดีที่แม็กเครย์ต้องเข้าไปที่เอ็มมาริออน ไม่งั้นคนใจร้ายอย่างเขาคงไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ๆ...’
เสียงเปิดประตู้องน้ำทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือก มาเฟียหนุ่มเดินตรงเข้าไปหยุดที่เตียงนอน สายตาคมเข้มจ้องมองเรือนร่างที่เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำจากฝีมือของเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขยับตัวลงนั่งกับเตียงนุ่ม มือหนาค่อยๆ แกะเนคไทที่ผูกข้อมือเล็กออก รอยแดงช้ำบนผิวรอบข้อมือเล็กทำให้เขามองมันอย่างเงียบๆ
“ ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวฉันจะให้ลูกน้องเตรียมอาหารเย็นมาให้ ”
“ หนูขอกลับคอนโดได้ไหม ”
“ คืนนี้เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่ ”
“ ตะแต่พรุ่งนี้หนูมีเรียนเช้านะ ” เฌอแตมเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างหวาดกลัว แค่คิดว่าคืนนี้เธอต้องกลายมาเป็นที่รองรับอารมณ์จากเขาอีกก็รู้สึกสยองแล้ว
“ ไม่มีแต่ จำที่ฉันบอกได้ใช่ไหม ” แม็กเครย์ตวัดสายตาดุดันคู่นั่นขึ้นมาจ้องหน้าเฌอแตมเขม็ง
“ ค่ะ ” เธอกลืนน้ำลายเหนียวข้นลงคอพลางพยักหน้าน้อยๆตอบเขาอย่างจำใจ
เฌอแตมมองตามร่างสูงที่เดินออกไปจากห้องนอน เสียงเปิดประตูห้องแต่งตัวที่ดังออกมาทำให้เธอรู้ว่าเขากำลังจะแต่งตัวเพื่อออกไปข้างนอก ทันทีที่ร่างบางขยับตัวลุกขึ้นนั่งอาการเจ็บแปล๊บก็จู่โจมตรงกลางกายทันที เธอกัดฟันค่อยๆพยุงร่างกายให้ลุกขึ้นช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ สายตามองดูรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่คนใจร้ายได้ฝากร่องรอยไว้ตามลำตัวของเธอ
หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยเฌอแตมก็เดินออกจากห้องนอนของแม็กเครย์ เธอสวมเสื้อยืดตัวใหญ่และใส่กางเกงบ็อกเซอร์ไว้ด้านในขณะที่เดินเก้ๆกังๆตรงออกไปที่ห้องรับประทานอาหาร ดวงตากลมโตมองอาหารไทยหลายอย่างที่ถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบรียบร้อย กลิ่นหอมของอาหารลอยขึ้นมาแตะจมูกยั่วน้ำลายให้สอก็จริงแต่เธอกลับไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด เธอหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ขณะที่มือเล็กหยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารเข้าปากอย่างเนือยๆ พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับวิคเตอร์ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถือขวดน้ำดื่มและแก้วน้ำมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร
“ อาหารอร่อยไหมครับ ” วิคเตอร์เอ่ยถามยิ้มๆ
“ ก็อร่อยดีค่ะ เอ่อ..ทานข้าวเย็นด้วยกันไหมคะ อาหารเยอะแยะเต็มไปหมดหนูทานคนเดียวคงไม่หมด ” เธอก้มหน้าหลบสายตาของวิคเตอร์อย่างกระดากอายเมื่อสมองนึกถึงเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นในรถยนต์เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา
“ ผมทานมาแล้วครับ เชิญคุณตามสบายเถอะครับ ”
“ คุณไม่ได้ไปกับแม็กเครย์เหรอคะ ” เธอไม่อยากเอ่ยชื่อคนใจร้ายออกมาแต่ก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้เพราะวิคเตอร์มักตามติดแม็กเครย์เสมือนเป็นเงาตามตัว เห็นแม็กเครย์ที่ไหนต้องเห็นเขาที่นั่นเสมอ
“ พอดีนายสั่งให้ผมเตรียมอาหารไว้ให้คุณ เอ่อ..เสื้อผ้าและของใช้บางส่วนของคุณผมนำมาเก็บไว้ที่ห้องแต่งตัวแล้วนะครับ ”
“ หา! เสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัว? หมายความว่ายังไงคะ ”
“ นายสั่งให้ผมไปที่คอนโดคุณแล้วหยิบพวกเสื้อผ้า ของใช้บางส่วนและชุดนักศึกษาของคุณมาไว้ที่นี่ ”
“ คนบ้า! ชักจะรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของหนูมากเกินไปแล้ว แถมยังชอบบังคับให้หนูทำอะไรตามใจเขาไปเสียทุกอย่างจนจะไม่มีพื้นที่ส่วนตัวให้หนูได้หายใจแล้ว เขาเป็นคนร้ายกาจมากและไม่มีเหตุผล เอาแต่ความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ โหดร้าย ป่าเถื่อน เอาแต่ใจ หนูเกลียดเขา! ”
เฌอแตมพรั่งพรูระบายความในใจออกมาอย่างหงุดหงิด เขาส่งคนคอยตามติดชีวิตเธอราวกับนักโทษยังไงยังงั้นแถมเวลานี้ยังเข้าไปยุ่มย่ามในพื้นส่วนตัวแห่งเดียวของเธออีก มือเล็กกำช้อนในมือแน่นราวกับจะทำมันให้หักคามือ
“ เอ่อ..ใจเย็นๆครับ ” เขายิ้มเจื่อนๆ ขณะมองดูอารมณ์เกรี้ยดกราดของหญิงสาวตรงหน้า
“ คุณก็รู้ว่าเขาทำอะไรกับหนูบ้าง คุณเป็นลูกน้องของแม็กเครย์ก็ต้องพูดเข้าข้างเจ้านายของตัวเองอยู่แล้วนี่ ”
“ ผมอยากจะเล่าเรื่องของคุณแม็กเครย์ให้คุณฟังคร่าวๆ เผื่อคุณจะเข้าใจนายขึ้นมาบ้าง ตลอดชีวิตของนายผ่านเรื่องความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เล็กจนโตนายต้องฝึกฝนอยากเคร่งครัดและเรียนรู้เส้นทางธุรกิจทุกอย่างที่ครอบครัวกำหนดให้ มันหล่อหลอมทำให้นายดูเป็นคนเย็นชาและไร้หัวใจ ครอบครัวนายทำธุรกิจมากมายที่ต้องใช้อำนาจอิทธิพลควบคุมคนจำนวนมากถ้าไม่โหดเหี้ยม เด็ดขาดและเลือดเย็นก็คงไม่สามารถปกครองลูกน้องและนำพาธุรกิจให้อยู่รอดได้ครับ
ปกติผมไม่พูดเรื่องส่วนตัวของเจ้านายให้ใครฟังทั้งนั้น แต่สำหรับคุณเฌอแตมแล้วถือว่าเป็นข้อยกเว้น ..ใจจริงแล้วนายคงไม่อยากทำรุนแรงกับคุณหรอก ถ้าคุณไม่ดื้อรั้นหรือทำอะไรขัดใจนายอีก ถ้าคุณทำตัวดีๆ คุณก็จะรับรู้ได้เองว่านายก็มีมุมที่แตกต่างจากที่คุณคิดไว้ครับ เอ่อ..เชื่อผมเถอะครับว่าคุณเป็นคนพิเศษสำหรับนายมากกว่าที่คุณคิดไว้มาก ” วิคเตอร์มองดูหญิงสาวที่นั่งฟังเขาพูดอยู่เงียบๆ หลังจากพูดจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับเขา
“ คุณคงอยู่กับแม็กเครย์มานานมาก แล้วก็คงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหนูเมื่อสามปีก่อนดีไม่ใช่หรือไง.. ที่เขายังเก็บหนูไว้ก็เพราะร่างกายของหนูยังพอมีประโยชน์กับเขา จะฆ่าให้ตายก็คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนแบบเขา ตอนนี้หนูก็เป็นแค่นางบำเรอของเขา แม็กเครย์ไม่ได้คิดอะไรแบบที่คุณพูดหรอก ที่เขาทำไปทั้งหมดก็แค่รู้สึกหวงของก็เท่านั้นเอง ” เธอพูดออกมาตรงๆโดยไม่ได้รู้สึกเคอะเขินเลยเพราะวิคเตอร์เป็นคนที่รู้เรื่องระหว่างเธอกับแม็กเครย์ดี
‘…วันนี้วิคเตอร์ดูจะพูดมากกว่าเวลาปกติ เพราะส่วนมากฉันถามอะไร เขาก็มักจะเลือกที่จะเงียบเสียเป็นส่วนใหญ่ ฉันคิดว่าวิคเตอร์ก็คงรู้เรื่องของฉันดีและคงจะอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องมาพูดระบายความในใจอะไรแบบนี้ให้วิคเตอร์ฟัง อาจจะเพราะความรู้สึกเครียด ไม่สบายใจ รู้สึกเก็บกดและก็แค่อยากจะหาคนที่พอจะรับฟังความอัดอั้นตันใจของตัวเองได้บ้างและวิคเตอร์ก็ดูเป็นคนที่น่าจะรู้จักแม็กเครย์ดีกว่าใคร..’
“ ใช่ครับ ผมอยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านของเทวัญเมื่อสามปีก่อนและผมก็เป็นคนพาคุณลงมาหาเจ้านายเอง ผมคงพูดให้คุณเฌอแตมฟังได้แค่นี้ เอางี้ไหมครับ..ในเมื่อคุณก็หนีจากนายไปไหนไม่ได้อยู่ดี คุณไม่ลองทำตัวดีๆกับนายดูบ้างล่ะครับ บางทีคุณเฌอแตมจะได้เข้าใจในสิ่งที่ผมบอกคุณไง ” วิคเตอร์พยายามพูดจาหว่านล้อมเธอ
“ หนูก็แค่พูดในสิ่งที่เป็นความจริงและถูกต้องเท่านั้น แม็กเครย์ไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายคนอื่นตามอำเภอใจแบบที่ทำกับรุ่นพี่หนู เพราะเป็นมาเฟียมีอิทธิพลมีอำนาจแล้วจะทำอะไรกับชีวิตคนอื่นยังไงก็ได้เหรอคะ เขาน่ากลัวเกินไปและการอยู่กับเขามันทำให้หนูรู้สึกเหมือนชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าเกิดวันไหนหนูไปทำอะไรขัดใจและทำให้เขาโกรธขึ้นมา แม็กเครย์อาจจะฆ่าหนูแบบที่ทำกับคนอื่นก็ได้ ”
“ นายไม่ทำแบบนั้นกับคุณหรอกครับเชื่อผมเถอะ อ้อ..ผมจะบอกอะไรคุณอีกอย่าง เพนเฮ้าส์ที่นี่ถือว่าเป็นเขตพื้นที่หวงห้ามของนายที่ใครก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาถ้าไม่ได้รับอนุญาต คุณเป็นคนแรกที่ได้รับสิทธิ์นั้น ” วิคเตอร์คลี่ยิ้มบางๆให้เธอ
“ ถึงคุณจะพูดแบบนั้น มันก็ไม่ได้ทำให้หนูรู้สึกดีขึ้นหรอกนะ ”
เธอหันไปจ้องหน้าวิคเตอร์ด้วยความไม่พอใจ เขาพูดราวกับมันเป็นสิ่งที่สมควรจะภูมิใจ สำหรับผู้หญิงคนอื่นอาจจะใช่ แต่สำหรับเธอมันไม่ใช่ การได้รับอิสรภาพและหลุดพ้นจากแม็กเครย์ต่างหากคือสิ่งที่เธอต้องการ
“ ลองเอาสิ่งที่ผมบอกไปคิดดูให้ดีๆ ผมอยู่กับคุณแม็กเครย์มานานมากจนรู้จักนิสัยของนายดี เอ่อ..นายชอบคุณมากนะครับ บางทีคุณอาจจะเป็นคนแรกที่นายยอมเปิดใจให้ ”
“ ชอบ? คุณคงเข้าใจผิดแล้ว ที่เขาแสดงออกมาแบบนั้นก็แค่รู้สึกหวงของเท่านั้น แล้วหนูก็ไม่ต้องการให้เขามาเปิดใจอะไรด้วยทั้งนั้น ที่สำคัญ..หนูเกลียดแม็กเครย์! ”
“…” วิคเตอร์ถอนหายใจออกมาขณะมองใบหน้าบึ้งตึงและอารมณ์ฉุนเฉียวของเฌอแตม เขาปล่อยให้เธอนั่งทานอาหารไปเงียบๆ ไม่พูดอะไรกวนใจเธออีกก่อนจะเดินออกจากห้องรับประทานอาหารไป