Share

ตอนที่ 2 ยาในสุรา 1

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-10-29 12:17:13

รัชศกจิ้นหยวนปีที่สิบเก้า กลางเดือนสาม

ในโถงงานเลี้ยงอันโอ่อ่าหรูหรา เบื้องบนฝั่งแท่นประธานปรากฏเรือนร่างสูงศักดิ์ขององค์รัชทายาทเด่นสง่า

ใบหน้าคมสันหล่อเหลาและงดงามเป็นเอกมีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับริมฝีปากสีแดงสดตลอดเวลา ให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าค้นหา ทั้งน่าหลงใหลชวนฝันถึง

พระองค์สวมผ้าแพรสีม่วงลายมังกรสีขาวปักดิ้นสีทองอร่าม      ขับเน้นให้เผยคำว่า ‘รูปงาม’ ยากหาใดเทียม

เขาคือองค์รัชทายาทแคว้นจิน นามจ้าวไท่หรง

ด้านข้างพระวรกายสูงค่าขององค์รัชทายาทจ้าวไท่หรงคือเรือนร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีดำเข้มของเฉิงอ๋อง นามจ้าวเฟิ่ง

เดิมทีหากไม่มีบุรุษสูงศักดิ์ผู้อื่นนอกจากรัชทายาท              ทุกสายตาของบรรดาคุณหนูวัยกำดัดทั้งหลายต่างย่อมต้องมองเพียงว่าที่ประมุขแผ่นดินผู้นี้ผู้เดียว ทว่าวันนี้นั้นแตกต่าง เมื่อในงานเลี้ยงมีเฉิงอ๋องอยู่ด้วย ทุกสายตาจึงเปลี่ยนมาจับจ้องที่จ้าวเฟิ่งเป็นตาเดียว

เหล่าสาวงามนางรำในห้องรับรองก็เช่นกัน พวกนางต่างแอบมองบุรุษหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมคายเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายอย่างจ้าวเฟิ่งจนตาเป็นมัน

หากเอ่ยว่ารัชทายาทหนุ่มทรงหล่อเหลารูปงามเหนือผู้คน บุรุษผู้เหมาะสมเปรียบเทียบเท่าเทียมย่อมมีหนึ่งเดียวคือเฉิงอ๋อง

เพราะนอกจากความคมคายสง่างามที่มีเฉกบุรุษสูงศักดิ์ เขากลับมีความคมคร้ามโดดเด่นเหนือพี่ชายอย่างจ้าวไท่หรง 

เฉิงอ๋องผู้นี้ร้อยวันหมื่นราตรียากนักจะมีโอกาสได้พบพาน ความทรงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์นี้เป็นที่โจษจัน แค่สายตาของเขาที่มองมาอย่างไม่ตั้งใจก็สามารถสะกิดใจสตรีให้ว้าวุ่นหวั่นไหวได้แล้ว เหล่าสตรีได้เห็นเขาเพียงครั้ง ล้วนเก็บไปฝันสมคำร่ำลือ

งานเลี้ยงในตำหนักบูรพาเกิดขึ้นและดำเนินเหมือนทุกครา

ทว่าในจอกเหล้าวันนี้คล้ายมีสิ่งหนึ่งเปลี่ยนไป มิใช่รสชาติ แต่เป็นความรู้สึกหลังดื่มเข้าปากเพียงไม่กี่จอก

จ้าวเฟิ่งรู้สึกร้อนรุ่มอย่างประหลาดมากขึ้นทุกขณะ

ภายในงาน ผู้คนต่างสรวลเสเฮฮา จ้าวไท่หรงร่ำสำราญกับสาวงามที่คอยประกบสงบยอมอยู่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา หันไปด้านหนึ่งมือเรียวเสลาก็ยื่นกับแกล้มถึงริมฝีปากอันสูงค่า หันอีกฝั่งยังมีมือนุ่มประคองจอกสุราส่งให้อย่างแช่มช้าชดช้อย

เขาหันมายกจอกสุราขึ้น สองตาเจ้าชู้เสเพลเหล่มองน้องชายผู้ทำตัว ‘สุภาพชนผู้สง่างาม’ ด้วยรอยยิ้มเยาะ

“น้องพี่ เจ้าเอาแต่วางท่าเช่นนี้ไม่เมื่อยหรือไร?”

คำพูดรัชทายาทแฝงนัยชัดเจนว่ารู้ตัวตนที่แท้จริงของน้องชายที่เหมือนเสือร้ายไม่ต่างจากพี่ชายคนนี้สักนิด

ช่วงเวลางดงามยามค่ำคืน คนย่อมหื่นกระหายไม่ต่างกัน

คำพูดเมื่อครู่หาใช่ต้องการคำตอบใดเพียงหยอกเย้าเท่านั้น ยิ่งเห็นน้องชายมีสีหน้านิ่งครึมข่มอารมณ์ก็ยิ่งชอบใจ รัชทายาทมองยิ้มๆ ก่อนหันไปสนใจสองสาวงามเหนือสามัญข้างกายตนต่อ

จ้าวเฟิ่งสวมชุดสีดำสนิทปักลายสีแดงสดตัดกันอย่างดุดัน ยิ่งขับเน้นให้ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อแลดูทรงเสน่ห์เกินบรรยาย

เขานั่งนิ่งๆ เอนกายอิงพนักเก้าอี้เงียบๆ ทำตัวสงบราวกับไร้ตัวตน แต่กลับไม่มีผู้ใดมองข้ามรัศมีเปล่งประกายของเขาได้

อ๋องหนุ่มมิอาจปลีกตัวออกได้ตามแต่ใจ จำต้องนั่งมองนางรำโยกย้ายบั้นท้าย พาตัวนุ่มนิ่มราวไร้กระดูกพลิ้วกายยั่วเย้าเร้าอารมณ์ไม่สิ้นสุด

ยังไม่นับรวมสาวงามหยาดเยิ้มอย่างหาตัวจับยากนางหนึ่งที่นั่งขนาบอยู่ข้างกายคอยปรนนิบัติรินสุราพะเน้าพะนอเอาใจ  แสดงออกชัดเจนว่าปรารถนาตำแหน่งใดในตำหนักอ๋องก็ได้              ขอเพียงคืนนี้ได้มีช่วงเวลาหอมหวานด้วยกันจนล่วงพ้นราตรีวสันต์

นางผู้นี้มีกลิ่นกายหอมหวนชวนสนเท่ห์ยิ่งนัก “ท่านอ๋อง สุราเพคะ”

สาวงามยื่นเรียวนิ้วขาวผ่องนวลเนียนส่งจอกสุราให้จนถึงริมฝีปากหยักได้รูปด้วยกิริยาเย้ายวน น้ำเสียงไพเราะอ่อนหวาน ดวงตาพราวระยับมองอย่างเชิญชวนพร้อมขึ้นเตียงตลอดเวลา

งานสังสรรค์ค่อยๆ ล่วงพ้น คนหลายคนร่ำสำราญมัวเมา  ข้างกายพวกเขามีสาวงามเอาใจ พวกเขาจึงเอาแต่ใจกับสาวงาม

เปลวเพลิงในตะเกียงเผาไหม้เวลาไปพอควร ทั้งสุราปลุกอารมณ์และคนงามเร้าอารมณ์ บุรุษผู้หนึ่งจะทนอยู่อย่างไรไหว               ในที่สุดจ้าวเฟิ่งก็สะกดกลั้นไฟในใจเอาไว้มิได้

เขาแค่นสบถเสียงหนึ่ง มองอย่างเย็นชา แววตาดำดิ่งราวบ่อลึก ยื่นมือเรียวยาวที่มีเส้นเลือดปูดนูนเด่นปัดจอกสุราออกห่าง พรวดพราดลุกขึ้นทันที เดินไปอย่างไม่ไยดีต่อมารยาทพึงมีด้วยซ้ำ

รัชทายาทจ้าวไท่หรงมองตามยิ้ม ในดวงตาดอกท้อเผยความเจ้าเล่ห์ร้าย

ร่างสูงในชุดดำแลดูสง่างามเป็นพิเศษแม้เดินโอนเอนในความมืดสลัว

จ้าวเฟิ่งที่ลำตัวร้อนผ่าว กลางกายปวดหนึบเพราะดื่มสุราที่มียาบางอย่างผสมอยู่ ยามนี้ริมฝีปากบางเม้มแน่น เร่งรุดเดินไปตามทางศิลาอย่างคนที่ยากสะกดกลั้นอาการรุ่มร้อนเกินทานทน

จู่ๆ ตรงหน้าพลันปรากฏหญิงสาวในชุดงามหรูหราบอกฐานะไม่ธรรมดา ใบหน้าสะสวยหมดจด เดินมาขวางทางเอาไว้

“พี่เฟิ่ง”

นางเรียกจ้าวเฟิ่งอย่างสนิทสนมด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานปานน้ำผึ้ง

อ๋องหนุ่มหรี่ตาลง ความงามพิสุทธิ์แต่กลับยวนใจตรงหน้าทำกล้ามเนื้อตึงแน่นยิ่งเคร่งครัดกว่าเดิม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 64 ไร้คำสัญญา 2

    ติงอี้เทากล่าวเสียงเนิบช้า ทว่าฟังดูทุ้มต่ำทรงพลังดุดัน “ข้าไม่แปลกใจว่าเพราะเหตุใดหนิงเอ๋อร์จึงปักใจรักเพียงเจ้า”ชายชราถอนหายใจ แววตาดุดันแฝงแววจนใจ“น่าเสียดายที่ความรักมักทำให้คนขาดสติด้อยปัญญา แต่เอาเถิด เรื่องที่จวนอ๋องของเจ้า ข้าจะไม่รื้อฟื้นหรือกล่าวโทษใด ทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องที่ข้าติงอี้เทาเข้าใจได้ แต่เจ้าลองมองดู”ติงอี้เทาเอ่ยขึ้นขณะหันหน้าออกไปที่บานหน้าต่างดังเดิม จ้าวเฟิ่งมองตาม เบื้องหน้าในระยะสายตาของทั้งสองคือเส้นทางทอดยาวอันไกลโพ้นมองไม่เห็นปลายอีกฝั่งมิอาจประเมินระยะทางได้แม่นยำ แต่กลับมองออกว่าเป็นทางกลับไปเมืองหลวงแคว้นจิน“ไกลมากใช่หรือไม่?” ติงอี้เทาเอ่ยต่อด้วยสีหน้าเยือกเย็น “นอกจากไกลแล้วยังสูงส่งเกินเอื้อมอีกด้วย”เมื่อวาจายืดยาวเอ่ยถึงตรงนี้ จ้าวเฟิ่งที่ฟังอยู่ถึงกับชะงัก ติงอี้เทาค่อยๆ ผินใบหน้ากลับมามองอ๋องหนุ่ม สุ้มเสียงยังคงเนิบนาบเชื่องช้าไม่เร่งร้อน “หากเป็นชายหญิงทั่วไปเมื่อใจรักระยะทางใกล้ไกลย่อมไร้ปัญหา ฐานะที่แตกต่างล้วนนำพาซึ่งชื่อเสียงหน้าตา ส่งตัวตนขึ้นเหนือคนในวงสังคมอย่างไร้เงื่อนไข เพียงแต่ ตัวท่านที่เป็นถึงอ๋องย่อมไม่อาจทำตามแ

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 63 ไร้คำสัญญา 1

    เขาเปิดประตูเชื้อเชิญแขกผู้มาเยือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เชิญท่าน...ตามข้ามา” เขาปรายตามองจ้าวเฟิ่งปราดหนึ่ง “แค่ท่านคนเดียว ผู้อื่นไม่เกี่ยว”เหล่าองครักษ์ถึงขั้นกระชับดาบข้างเอว สายตามองข่มขวัญสื่อนัยวาจาว่า‘บังอาจ’ถ้วนหน้า พวกเขาล้วนเป็นคนสนิทข้างกายและตายแทนได้ เคยห่างจากผู้เป็นนายเสียที่ใด หาไม่ หากเฉิงอ๋องตกอยู่ในอันตรายหรือเป็นอะไรไป พวกเขามีสิบหัวก็ไม่พอให้ตัด แววตาคมกริบขององครักษ์กับแววตามืดดำของสมุนยวี้จู๋พลันเปล่งประกายพร้อมปะทะ บรรยากาศตึงเครียดยิ่งจ้าวเฟิ่งจึงยกมือปราม ทุกคนถึงได้สงบลงเมื่ออ๋องหนุ่มพ้นบานประตู บุรุษร่างใหญ่กำยำผู้หนึ่งพลันเดินเข้ามาด้วยท่าทางสุขุม สีหน้าเคร่งขรึม เมื่อเข้ามายืนอยู่ตรงด้านหน้าของจ้าวเฟิ่งก็เพียงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มใหญ่เฉยชาว่า “เชิญทางนี้ ท่านประมุขกำลังรอท่านอยู่”จ้าวเฟิ่งตอบรับเสียงอืมในลำคอค่อยกล่าว “เชิญนำทาง”ชายหนุ่มเดินตามการเชื้อเชิญของบุรุษตัวโตด้วยท่าทีลุ่มลึก มิได้รู้สึกขัดเคืองหรือมีโทสะอันใดกับการปฏิบัติแบบไม่เกียรตินี้ เพราะเพียงคิดถึงการกระทำอันเอาแต่ใจของตนที่ผ่านมายามปฏิบัติต่อเพ่ยหนิงก็ตระหนักได้ว่าสมควร

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 62 กระจ่างแก่ใจ 2

    ที่โต๊ะริมหน้าต่างอันเป็นที่ประจำของเพ่ยหนิง จ้าวเฟิ่งนั่งมองเตากำยานอย่างเหม่อลอย ครั้นได้สติก็เพียงหลับตา ยกนิ้วคลึงหว่างคิ้วช้าๆ สีหน้าเคร่งเครียด นึกปวดใจยิ่งจ้าวไท่หรงค่อยๆ เยื้องย่างเดินเข้ามาอย่างไร้สุ้มเสียง ด้วยรู้ตัวดีว่าตนอาจเป็นต้นเหตุเภทภัยในรักของน้องชาย จึงไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงรบกวนทว่าจ้าวเฟิ่งมีหรือจะไม่รู้ถึงการมาเยือน เขาค่อยๆ ลืมตา เอ่ยเสียงเนิบช้า“พี่ใหญ่สมควรตอบรับสมรสพระราชทานไปเสีย เลิกคิดเรื่องสตรีของข้า ไม่ว่านางจะอยู่ที่ใด ท่านไม่ควรใส่ใจทั้งสิ้น”จ้าวไท่หรงยกมือขึ้นเบื้องหน้าอันหมายความว่าเขายอมแพ้ แต่ปากกลับบอก “แต่พี่ใหญ่ไม่ได้ชอบลู่ซือฉี พี่ใหญ่ชอบเพ่ยหนิง”เมื่อได้ยินคำพูดไร้ยางอายไม่เสื่อมคลายของคนเป็นพี่ชาย จ้าวเฟิ่งพลันหน้าบึ้งตึง เอ่ยเสียงเยียบเย็น ไม่ไว้หน้า“นางเป็นภรรยาของข้า ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าคิดหมายปอง”คราวนี้จ้าวไท่หรงไม่เพียงเบิกตาโพลง ยังเงียบกริบทันทีรัชทายาทหนุ่มนึกไม่ถึงว่าน้องชายผู้รักษาจารีตเคร่งครัด ไม่เคยปล่อยตัวไปกับอารมณ์กำหนัดจะรวบรัดคนเขาแล้วน้องสี่ เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก...นอกเขตเมืองหลวง จากภูชมมังกรมองเห็นทิ

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 61 กระจ่างแก่ใจ 1

    ติงอี้เทาบันดาลโทสะกับโต๊ะไม้โบราณตัวโปรดเสร็จก็ลุกขึ้นอย่างโกรธา หนวดเคราสีขาวกระพือด้วยแรงอารมณ์ที่พ่นออกมาเป็นลมหายใจร้อนผ่าวราวเปลวเพลิงทางจมูกเขาผิดเองที่รักและตามใจหลานสาวคนเดียวผู้นี้มากเกินไป ดูแลฟูมฟักอย่างดีล้นเหลือจนแทบจะประคับประคองในอุ้งมือ กระทั่งอีกฝ่ายแข็งแรงเพียงภายนอกแต่กลับอ่อนต่อโลกไปทั้งจิตใจเช่นนี้เขายังจะเอาหน้าเหี่ยวๆ ไปพบเขยแซ่เพ่ยกับลูกสาวในปรโลกอย่างไรไหวติงอี้เทานึกโกรธตัวเองยิ่งนัก ทั้งยังโกรธจ้าวเฟิ่งจนแทบหลั่งน้ำตาเจ้าอ๋องน่าตาย...หานตงเห็นอาจารย์เคียดแค้นเช่นนั้นก็รีบเอ่ยเสียงเข้มขรึม“ขออาจารย์โปรดอย่าเข้าใจในตัวเฉิงอ๋องในทางเลวร้าย ประเมินดูแล้วทุกฝ่ายล้วนเข้าใจผิดต่อกัน แต่ทั้งที่เข้าใจผิดปานนั้น หนิงเอ๋อร์อยู่ในฐานะนักโทษไม่ต่างจากเชลยด้วยซ้ำ คนจะให้ปรนเปรออย่างทรมานเช่นไรก็ย่อมได้ จะรังแกหรือเอาเปรียบก่อนฆ่าทิ้งก็ไม่นับว่าผิดแผก ทว่าเฉิงอ๋องกลับดูแลทะนุถนอมอย่างดี ลอบปกป้องนางจากพี่ชายเสเพลเต็มที่ มองแล้วพวกเขาก็เป็นเแค่คู่รักที่มีปัญหาไม่เข้าใจกันเท่านั้น ยามนี้ขอเพียงทั้งสองได้พบหน้าพูดคุย ทุกอย่างย่อมคลี่คลาย”แม้หานตงจะพูดจามีหลักการและเหต

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 60 จำพราก 3

    ท่านหมอแย้มยิ้มบอกกล่าวข่าวดี กำชับอีกหลายประโยค “อายุครรภ์ยังน้อยนัก ระวังสุขภาพและเรื่องโลดโผนหน่อยจึงจะดี อย่าให้แม่นางวิตกกังวลหรือมีเรื่องอะไรให้ต้องคิดมากอีกเลย”หานตงพยักหน้าเคร่งขรึม วางเงินอีกก้อนอย่างไม่ตระหนี่ท่านหมอมองเงินบนโต๊ะก็ให้รู้สึกสะท้อนใจ ไฉนคนที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาผู้หนึ่งถึงมีเงินก้อนให้ใช้จ่ายมือเติบได้หนอ หานตงไม่สนใจสายตาสงสัยใคร่รู้ของท่านหมอชรา เพียงลุกขึ้นหันมาโอบอุ้มบุตรสาวบุญธรรมขึ้นแนบอกแล้วจากไปควรต้องทราบว่าหานตงแม้เบื้องหน้าปลูกผักขายไปวันๆ ทว่าเบื้องหลังนั้นยังมีร้านสมุนไพรเก่าแก่ที่สุดของยุทธภพซึ่งปลูกและตัดแต่งเพาะพันธุ์จนพืชกลายพันธุ์พัฒนาไปไกล เขามีฉายาโดยไม่เผยโฉมว่าเทพโอสถหมื่นพิษ คนมีเงินมั่งคั่งเท่านั้นถึงจะหาซื้อสินค้านี้ของเขาได้ อีกทั้งหานตงยังทำการค้าหลากหลาย สั่งสมทรัพย์สินเงินทองไว้มากมาย ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมดส่วนการปลูกผักนั้นแท้จริงเป็นเพียงความชอบส่วนตัวที่นิยมปรุงอาหารผสมพืชพันธุ์สมุนไพรบำรุงร่างกายให้อายุยืนนานเหมือนที่เพ่ยหนิงชื่นชอบการปลูกดอกไม้แล้วนำมาแปลงเป็นอาวุธร้ายนั่นแลหานตงอุ้มเพ่ยหนิงขึ้นรถม้า หวดแส้บ

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 59 จำพราก 2

    หน้าประตูบานใหญ่จวนเฉิงอ๋องเพ่ยหนิงมองภาพทหารร่างใหญ่กำยำยื่นคมหอกขวางหน้า พวกเขาล้วนมีท่าทางถมึงทึงอย่างไม่ยอมอ่อนข้อหรือหลงกลเสน่ห์มารยาก็ให้นึกท้อใจ แม้นางจะเอ่ยปากว่าตัวเองเป็นคนของเฉิงอ๋องก็ยังไม่เป็นผล คนยังมองนางเหมือนมดปลวกตัวเล็กๆ ไร้ค่าให้ใส่ใจ“อย่าว่าแต่สตรีต่ำต้อยมีดีแค่สะสวยเช่นเจ้าเลย ต่อให้เป็นคุณหนูสูงส่งผู้งดงามก็ใช่ว่าจะเข้าหาท่านอ๋องของพวกเราได้ง่ายๆ ช่างฝันเฟื่องไม่เจียมตัวยิ่งนัก ไร้ยางอายมาก” ทหารคนหนึ่งพูดจบก็โบกมือไล่เพ่ยหนิงเหมือนไล่แมลงโสโครก“ไปๆ ออกไป อย่าได้พาตัวเองมาทำให้ท่านอ๋องของข้าต้องแปดเปื้อนมัวหมองเพราะสตรีไร้หัวนอนปลายเท้าเช่นเจ้า”“...”เพ่ยหนิงเบิกโต อุทานในใจว่าโอโห ปากหรือนี่ ฉับพลันนั้นนางนึกอยากสั่งสอนทหารผู้นี้จับใจ ให้เขาลิ้มรสฝีมือนางจนลงไปนอนแดดิ้นสิ้นใจเสียตรงนี้ แต่นางไม่ไร้เหตุผลขนาดนั้น จึงเพียงแต่ชี้หน้าว่า “สามหาวนัก!”“บังอาจ! กล้าชี้หน้าคนของจวนอ๋องเชียวรึ?”“ทำไมจะไม่กล้า! ข้าจะตีปากของเจ้าด้วย”ทหารหรี่ตาตวาด “เจ้า!”เพ่ยหนิงเองก็โมโหไม่ยอมความ “ทำไม?”พวกเขาจึงเริ่มมีปากเสียงรุนแรง แน่นอนว่าหานตงไม่เสี่ยงกระโดดข้ามกำแพงเข้าไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status