Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2024-10-27 11:31:11

“อื้อ…คนที่ฟาดนายด้วยไม้เบสบอลนั่นแหละ เธอยังเข้าใจผิดว่าฉันคือนาย” พูดไปแล้วก็รู้สึกแปลกๆ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์เข้าใจผิดว่าคนไหนคือเขา คนไหนคือน้องชายฝาแฝด แต่เฟร์เรกลับไม่รู้สึกอะไร แต่ครั้งนี้ทำไมเขาถึงไม่ชอบก็ไม่รู้ 

“เอ้า! แล้วนายได้บอกไปมั้ย ว่านายเป็นใคร” งานนี้น้องชายแปลกใจ ปกติเฟร์เรจะออกตัวว่าตนมีฝาแฝดป้องกันการเข้าใจผิด

“ไม่ได้บอก”

“อืม…อีกหน่อยเธอก็คงรู้เองว่าเราเป็นฝาแฝดกัน” ฟาโรห์เลิกคิ้วสูง ในเมื่อดูเหมือนพี่ชายไม่อยากบอก ไม่มีเหตุผลอะไรที่ตนจะต้องไปออกตัว

“แต่ฉันกลับไม่อยากให้เธอรู้” เฟร์เรเอ่ยกับตัวเอง เขามีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อยากให้ผู้หญิงบ้านข้างๆ รู้ว่าเขานั้นมีฝาแฝด เพราะถ้ารู้ก็กลัวว่าเธอจะหลงความหล่อของฟาโรห์จนไม่มีใจมองมาที่เขา 

แต่ทว่า…ความคิดนี้ก็ต้องหยุดลง เพราะเหตุผลหลักๆ ที่เฟร์เรมาที่นี่คือการมาตามหาหญิงสาวในภาพถ่ายคนนั้นให้พบ คนที่เขาหลงรักอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ใช่แบ่งใจไปรักผู้หญิงอื่น แต่ก็ไม่วายที่จะมองไปยังบ้านหลังที่อยู่ติดกัน

“จะไม่เข้าบ้านเหรอ” พอเห็นว่าพี่ชายเอาแต่ยืนนิ่ง ฟาโรห์ก็เอ่ยขึ้น

“อืม” เสียงทุ้มเอ่ยรับในลำคอ ก่อนจะเดินผ่านน้องชาย และเสียงจามของฟาโรห์ก็ดังให้ได้ยิน 

“นี่ยังไม่หายแพ้อากาศอีกหรือไง”

“ยัง...ฮัดเช้ย” ฟาโรห์ทำจมูกฟุดฟิด น้ำหู น้ำตาไหล เพราะจามติดกันหลายครั้ง 

“ว่างๆ ก็ไปให้หมอเช็กร่างกายหน่อย เผื่อไอ้ที่จามอยู่นี่จะไม่ใช่แค่แพ้อากาศ”

“ฉันก็ว่าอย่างนั้น” ฟาโรห์รู้ตัวดีว่าเขานั้นแพ้ขนสัตว์ โดยเฉพาะแมว และดูท่าการที่พี่ชายพาแมวที่ไหนก็ไม่รู้ไปหาหมอ ขนแมวคงติดตัวเฟร์เรมาด้วยไม่มากก็น้อย ถึงทำให้เขาจามได้ขนาดนี้ คิดแล้วก็...

ฮัดเช้ย!

“เอาเข้าไป นี่นายเป็นเอามากนะ ไหวมั้ย”

“ไหวๆ ฮัดเช้ย! นายรีบไปอาบน้ำก่อนเลย ฮัดเช้ย!” ขณะเอ่ยบอกก็ดันหลังเฟร์เรให้เข้าไปในบ้าน ฟาโรห์ทิ้งระยะห่างพอสมควร ก่อนจะเดินตามเข้ามา เรื่องที่เขาแพ้ขนสัตว์ เฟร์เรยังไม่รู้ เพราะอยู่ๆ อาการก็กำเริบตอนไปทำงานที่ฮ่องกง 

ซึ่งขณะนั้นเอง เพลงพิณก็กำลังนั่งดื่มน้ำเย็นๆ บนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ อยู่ๆ ก็รู้สึกขนลุก ขนเส้นอ่อนๆ พร้อมใจกันตั้งชันไล่มาตั้งแต่เท้าถึงศีรษะก็ว่าได้ ทำเอาเจ้าตัวสงสัยว่านี่จะใช่ลางบอกเหตุอะไรหรือเปล่า

  “สาธุ...ขอให้ลูกช้างเจอเนื้อคู่ด้วยเถิด ถ้าให้ดีขอให้เป็นผู้ชายข้างบ้าน เพี้ยง!” ทันตแพทย์สาวยกมือท่วมหัวขณะเอ่ยบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 

โดยคำขอของเธอครั้งนี้ ท่าจะสมหวังเสียแล้ว เพราะอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตอบรับ 

“ฮัดเช้ย!” เฟร์เรทำจมูกฟุดฟิด สงสัยช่วงนี้อากาศเปลี่ยน เขาถึงไม่สบายแบบนี้ 

 

วันรุ่งขึ้น ทั้งเพลงพิณและเฟร์เรก็ไปคลินิกสัตว์ของโปรดเพื่อดูอาการของเจ้าแมวน้อยอย่างพร้อมเพรียง เมื่อวานมัวแต่ยุ่งๆ จึงไม่มีใครถามเรื่องเพศว่าตัวผู้หรือตัวเมีย กระทั่งโปรดเฉลยให้ว่ามันคือแมวตัวเมีย และวันนี้อาการบาดเจ็บของมันก็ดีขึ้นมาก นั่นทำให้พิณและเฟร์เรถึงกับถอนหายใจออกมา เพราะต่างก็ลุ้นมาตลอดทาง 

“อีกกี่วัน มันถึงจะหายดีพอจะกลับบ้านได้ครับหมอ” เฟร์เรเอ่ยถามขึ้น 

“น่าจะสามสี่วันครับ แต่ผมอยากให้มันอยู่ที่นี่จนกว่าจะแน่ใจว่าหายดี ค่อยพากลับไปดูแลต่อ”

“งั้นก็ดีเลย ระหว่างนี้ผมจะได้ไปซื้อของรอมัน”

“หืม…รอ พูดแบบนี้คุณจะเอาแมวไปเลี้ยงเหรอ” คนที่ถามประโยคนี้คือเพลงพิณ นั่นเพราะเธอก็ตั้งใจจะเลี้ยงเจ้าแมวน้อยเช่นเดียวกัน 

“ครับ”

“ไม่ได้ ฉันจองแล้ว”

“จอง!” เฟร์เรเอ่ยทวนคำที่ได้ยิน สีหน้าออกจะดูงุนงงเสียด้วยซ้ำ 

“อื้อ…เพราะฉันเกือบเหยียบมัน ฉันต้องชดใช้ด้วยการเลี้ยงมันให้เติบใหญ่สิ” เพลงพิณร่ายยาวถึงเหตุผล แต่เฟร์เรเองก็มีเหตุผลของเขาเช่นเดียวกัน 

“แต่ผมเห็นมันก่อนคุณอีกนะครับ ทำไมผมจะเลี้ยงมันไม่ได้ นี่ก็ตั้งชื่อไว้ให้แล้วด้วย” เธอแค่จะเลี้ยง แต่เขานี่ทั้งจะเลี้ยง ทั้งตั้งชื่อรอไว้แล้วอีกต่างหาก มีหรือที่เพลงพิณจะยอมง่ายๆ 

“ตั้งชื่อแล้วก็ส่วนตั้งสิ ฉันก็ตั้งเหมือนกัน”

“คุณตั้งชื่อมันว่าอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามกลับแทนที่จะตอบ เพลงพิณก็ถามกลับทันที

“แล้วคุณล่ะ ตั้งชื่อมันว่าอะไร”

“งั้นบอกพร้อมกัน” ทันตแพทย์สาวเสนอแนะทางออก ก่อนจะเริ่มนับแล้วบอกชื่อเจ้าแมวไป 

“หนึ่ง สอง สาม...โชคดี”

“ลัคกี้” 

“หยุด! หยุด! หยุดทั้งคู่ คือถ้าอยากเลี้ยงแล้วหาข้อตกลงไม่ได้ ผมมีทางออกให้” โปรดที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ เอ่ยขัดขึ้น สรุปชื่อที่ทั้งสองคนตั้งก็มีความหมายเหมือนกันอีก ขืนเถียงกันไม่จบ เขานี่แหละจะอาสาเลี้ยงแมวเอง...หึ๋ย 

“ทางออกอะไรของแกโปรด” เพลงพิณหันมาถามเพื่อนสนิท 

“แบ่งกันเลี้ยงคนละอาทิตย์ แบบนี้แฟร์ๆ ดี”

“แต่…”

“ไม่ต้องมาแต่” โปรดรีบห้ามคนข้างๆ นั่นทำให้เพลงพิณต้องยอมรับทางออกที่โปรดเสนอมาโดยปริยาย ก่อนจะตอบรับเสียงอ่อย

“ก็ได้”

“ว่าไงครับคุณเบค”

“ได้ครับ” เฟร์เรพยักหน้ารับ 

“โอเค งั้นก็ตกลงตามนี้” สัตวแพทย์หนุ่มสรุปข้อตกลงกันอีกครั้ง

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 64 - จบ

    “เซอร์ไพรส์” ทุกคนในห้องต่างตะโกนคำว่าเซอร์ไพรส์อย่างพร้อมเพรียง นอกจากพ่องานอย่างเฟร์เร ลลินดา ภาคิน บุหลันแล้ว ยังมีโปรดที่ยืนฉีกยิ้มหวานอีกคน ซึ่งโปรดไม่ได้มาคนเดียว ยังพาโชคดีมาด้วยแต่ยังไม่ทันที่เพลงพิณจะได้พูดอะไร เธอก็ต้องตกใจยกกำลังสอง เมื่อเห็นรูปของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจจุบันปรากฏอยู่บนโทรทัศน์ขนาดสี่สิบสองนิ้วที่ติดไว้กับกำแพงห้องโดยเฉพาะรูปปัจจุบันที่อิริยาบถต่างๆ นั้นแทบไม่ซ้ำกัน มีรูปตอนเธอไปซื้อต้นไม้กับเฟร์เร ที่หน้าเยินๆ ตอนไปกินข้าว ดูหนัง อันนี้สวยหน่อย รูปทีเผลอ ตอนเธอนอนน้ำลายยืด หรือแม้แต่ตอนไม่ได้แต่งหน้า และสิ่งที่สะดุดสายตาของเพลงพิณนั่นคือป้ายข้อความที่มักจะถูกใส่ไว้หรือแทรกอยู่มุมใดมุมหนึ่งบนรูปอ่านปะติดปะต่อได้เป็นคำว่า ‘Will you marry me’ นั่นยิ่งทำให้อกซ้ายของเพลงพิณเต้นรัว หายใจก็ชักจะไม่ค่อยทั่วท้องและทันทีที่ฉายมาถึงรูปสุดท้าย คำว่า Will you marry me ก็ชัดขึ้นด้วยป้ายตัวอักษรที่ถูกปล่อยลงมาตรงหน้าเพลงพิณได้อย่างพอดิบพอดี“โรแมนติกสุดๆ” บุหลันเพ้อออกมา เพราะจะมีอะไรโรแมนติกไปมากกว่านี้ไม่

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 63

    หลังจบงานแต่งงานของลลินดาและภาคิน บรรดาเพื่อนสนิทก็ยังคงอยู่กันครบ ไม่มีใครหนีหายกลับกรุงเทพฯ ก่อน เพราะยังไม่จบภารกิจเสียทีเดียวทุกคนดูมีลับลมคมในแปลกๆ แปลกจนเพลงพิณอดที่จะสงสัยไม่ได้ พอถามใครก็บอกว่าไม่มีอะไรอย่างพร้อมเพรียง“เจ้…เย็นนี้เค้าอยากกินปูไข่ เราออกไปซื้อที่ท่าเรือกันนะ”“ไปสิ” เพลงพิณเอ่ยรับปากส้มไปโดยไม่ได้เอะใจอะไรสักนิด ว่าเธอกำลังถูกหลอกให้ออกไปจากโรงแรมก่อนชั่วคราวเมื่อบุหลันพาเพลงพิณไปแล้ว ที่เหลือเริ่มจัดสถานที่ ซึ่งก็คือห้องจัดเลี้ยงเล็กริมสระว่ายน้ำของทางโรงแรมนั่นเอง โดยมีเจ้าสาวหมาดๆ อย่างลลินดาคอยช่วยจัดส่วนหนุ่มๆ อย่างภาคินและเฟร์เรก็ถนัดใช้งานออกแรง ปีนป่ายติดรูปของเพลงพิณจนทั่วห้อง จากนั้นขบวนลูกโป่งก็ถูกนำเข้ามา“เป็นอะไรส้ม ท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆ” เพราะเห็นว่าบุหลันเอาแต่มองโทรศัพท์ เพลงพิณจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น ส่วนคนถูกถามก็แอบสะดุ้งมีพิรุธเบาๆ“เป็นอะไร ถามแค่นี้ต้องสะดุ้งด้วย”“เปล่าเจ้พิณ ไม่มีอะไร พอดีเค้าแค่นั่งคิดอะไร

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 62

    “อะไรคะ”“ผมต้องกลับเยอรมัน” ประโยคที่ได้ยินทำเอาเพลงพิณถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ทำไมมันถึงได้ปุบปับแบบนี้ เธอยังไม่อยากห่างกับเฟร์เร“กลับเยอรมัน เมื่อไหร่คะ”“อีกสองอาทิตย์ครับ ผมทิ้งภาระให้ลูกน้องรับผิดชอบงานของผมมานานมากพอแล้ว ผมต้องกลับไปคุมต่อ” เหตุผลของเฟร์เร ทำให้เพลงพิณไม่อาจแย้งเขาได้ และเธอก็โตพอที่จะเข้าใจคนรัก แม้จะหวิวๆ ในใจที่ต้องอยู่ห่างเขาก็เถอะ“ฉันเข้าใจ”“ผมอยากให้คุณไปด้วย”“สองอาทิตย์ฉันคงลางานไม่ได้แน่ เอางี้…คุณกลับไปก่อน ขอฉันเคลียร์งานแล้วจะบินตามไปนะ” ประโยคที่ได้ยิน ทำให้ใจของเฟร์เรชื้นขึ้นมาได้มาก เพลงพิณเข้าใจเขา“คุณโกรธผมหรือเปล่าที่อยู่ที่เมืองไทยต่อกับคุณไม่ได้”“ไม่โกรธค่ะ แต่ก็รู้สึกหวิวๆ ในอกอยู่เหมือนกัน เสียดายที่เราเจอกันช้าไป เพราะถ้าเจอกันเร็วกว่านี้ ฉันก็คงได้อยู่กับคุณนานกว่านี้”“โธ่…ที่รัก” เฟร์เรคว้าเธอมากอด ฝ่ามืออุ่นๆ ลูบศีรษะของเธอไปมาอย่างปลอบโยน ยิ่

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 61

    “ผมมาที่นี่ก็เพราะมาตามหาคุณ” ยิ่งฟัง เพลงพิณก็ยิ่งงง“ตามหาฉันเหรอ ตามหาทำไม” นั่นน่ะสิ เขามาตามหาเธอทำไม ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ หรือโปรดทำอะไรมิดีมิร้ายแฟนเธอ“เพราะผมรักคุณ ผมรักผู้หญิงคนที่คุณเห็นจากกล้องถ่ายรูปเมื่อครู่นี้ ผมรักเธอ จนยอมทิ้งทุกอย่างแล้วมาตามหาเธอ” เฟร์เรเอ่ยคำว่ารักให้เพลงพิณฟังครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนโปรดนั้นเมื่อรู้และเห็นอะไรมากพอ จึงหมุนตัวกลับออกไป เพราะดูท่าเพลงพิณกับเฟร์เรจะมีเรื่องให้คุยกันอีกนานและก็จริงอย่างที่โปรดคิด เพราะตอนนี้เฟร์เรตั้งคำถามกับ เพลงพิณถึงเรื่องเมื่อครั้งที่เธอไปเที่ยวเบอร์ลิน และเพลงพิณก็ถาม เฟร์เรย้ำอีกครั้ง ว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะหรือ พอได้คำตอบก็ยิ้มแก้มแตก ก่อนจะกระโดดกอดชายหนุ่มแน่น“คุณมาตามหาฉันเหรอ” พอคลายอ้อมกอดออกก็เอ่ยถาม“ครับ ข้ามฟ้า ข้ามทะเลมาตามหาความรักถึงที่นี่” คำพูดหวานๆ ที่ได้ยินทำเอาเพลงพิณแทบจะลอยได้ รู้สึกว่าความรักครั้งนี้ของเธอมันอยู่เหนือคำว่าพรห

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 60

    ความรักของเพลงพิณและเฟร์เรก่อตัวขึ้นอย่างสวยงาม แม้เธอจะเอ่ยบอกขอชายหนุ่มแต่งงานไปตอนเมามาย แต่เฟร์เรกลับคิดจริงจัง และเตรียมเซอร์ไพรส์เพลงพิณไว้แล้ว เพียงแค่รอเวลาเหมาะๆ เท่านั้น และช่วงนี้เขาก็นิ่ง ไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับคืนนั้นอีกทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ทั้งคู่มักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันเสมอ อย่างเมื่อครู่เธอก็อยู่กับเฟร์เร แต่เขาขอตัวไปเอาของที่บ้าน ส่วนเพลงพิณก็นั่งเล่นใต้ซุ้มชิงช้าไม้รอ อยู่ๆ เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น พอหันไปมอง จึงเห็นว่าเป็นโปรด ที่ยืนยิ้มหล่อละลายใจเกย์อยู่“เข้ามาสิแก ประตูไม่ได้ล็อค”“ฉันไม่ได้มาหาแกย่ะ” โปรดตอบกลับมาได้อย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด จริตจะก้านนี่มาเต็ม“เอ้า! แล้วมาหาใครยะ อย่าบอกนะว่าแกมาหาแฟนฉัน”“ใช่…แต่แหม ไม่เจอกันแค่แป๊บเดียว นี่หล่อนแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้แรงเหมือนกันนะยะ” คำพูดของโปรด เพลงพิณทำเพียงแค่ไหวไหล่รับเบาๆ เท่านั้น“ก็แน่ล่ะ ว่าแต่แกจะไปหาเบคเขาทำไม”

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 59

    “อะไรนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง กลัวว่าเขาหูฝาดที่ได้ยินว่าเพลงพิณชวนเขาแต่งงาน“เราแต่งงานกันตอนนี้เลยได้มั้ย ฉันแก่แล้ว มดลูกก็ใกล้จะเสื่อมเต็มที ถ้าขืนชักช้าไปกว่านี้ ฉันกลัวมีลูกยาก” เหตุผลของเพลงพิณดูเหมือนจะฟังขึ้น“นี่คุณพูดจริงหรือแค่พูดขำๆ ตอนเมากันที่รัก”“ฉันพูดจริงๆ ให้เวลาคุณคิดก่อนก็ได้อ่ะ ไว้…พรุ่งนี้ ฉันจะมาฟัง คำ…ตอบ” พูดจบเพลงพิณก็น็อคกลางอากาศ ร่างบางโอนเอน จนเฟร์เรต้องรีบเข้าไปพยุง“คุณพิณ พิณครับ” คนตัวโตเขย่าร่างกึ่งเปลือยในอ้อมกอด แต่เพลงพิณก็ไม่มีท่าทีจะรู้สึกตัว“เมาจนหลับไปแล้วเหรอ” ชายหนุ่มส่ายหน้าให้เธอ ก่อนจะอุ้มกลับมานอนที่เตียง จากนั้นก็หาผ้าไปชุบน้ำหมาดๆ ก่อนจะมาเช็ดตัวให้เธอ เสร็จก็หาเสื้อยืดของเขาในตู้ออกมาให้เธอสวม จากนั้นก็นั่งมองคนที่กำลังหลับพริ้ม“คำว่า...เราแต่งงานกันมั้ย ผมควรจะพูดไม่ใช่เหรอครับ” เฟร์เรเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะลุก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status