ดึงมือเหอซ่างเซี่ยนให้ลุกขึ้นประคองแนบอกพาเดินออกไปทั้งๆ ที่เหอซ่างเซี่ยนหันหน้าหันหลังด้วยเป็นห่วงความรู้สึกของอู่หงถิง แต่หากจะมองให้ถ้วนถี่อู่หงถิงไม่ได้สนใจคำพูดมากกว่าอาหารตรงหน้าที่รสชาติดีและมีแต่ของดีดีที่ไม่เคยได้กินมาก่อน
ดอกไม้นานาพรรณงดงามสองข้างทางเดินที่ปูด้วยก้อนกรวดสีขาวสะอาดตา หวาเซียง กุมมือเหอซ่างเซี่ยนไว้ไม่ห่าง
“หวางเฟย หน้าหนาวปีนี้ข้าให้คนสร้างห้องพักให้เจ้าเสียใหม่ มิดชิดอบอุ่นกว่าเดิม อีกทั้งทำเตาพิงไว้ด้านในมีอ่างน้ำอุ่นกับห้องเครื่องเจ้าจะได้ไม่ต้องเดินเข้าออกมาเสวยกับข้าข้างนอกต้องไอเย็น”
“ท่านพี่ เช่นนั้นท่านพี่ต้องให้เจ้าหรูมาเสวยด้วยทุกเช้าทุกเย็น จะได้ทำความคุ้นเคยกันไว้”
หวาเซียงพยักหน้ายิ้มเศร้าๆ
“หากเจ้าพอใจเช่นนั้น ข้าพร้อมจะตามใจเจ้า หากมันทำให้เจ้าสบายใจ”
เหอซ่างเซี่ยนกลืนน้ำลายของคอยากเย็น จะสบายใจได้อย่างไรในเมื่อไม่มีหญิงคนไหนอยากให้สามีรักคนอื่นมากกว่า แต่ซ่างเซี่ยนรักหวาเซียงอ๋องเสียจนยอมได้ทุกอย่าง เมื่อคิดว่าวันใดที่เขาจะต้องโดดเดี่ยวลำพังเมื่อซ่างเซี่ยนไม่อยู่แล้ว
“ท่านพี่ แค่... มีคนคอยปรนนิบัติและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา เซี่ยนเซี่ยนก็สบายใจเกินพอแล้วเรื่องอื่นไม่ปรารถนา”
ฟางหลุนดึงแขนอู่หงถิงให้ลุกขึ้นจากโต๊ะเสวยเมื่อเห็นว่า ทำท่าทางกินไม่ยอมอิ่มเสียทีเหมือนถ่วงเวลา
“นายหญิงลุกขึ้นเจ้าค่ะตามไปที่สวนดอกไม้กัน”
อู่หงถิงส่ายหน้าเร็วรี่
“นายหญิง”
สายตาดุดุของฟางหลุน ทำเอาอู่หงถิงย่นจมูกทั้งลากทั้งจูงเหมือนเคย อู่หงถิงยืนนิ่งตะลึงกับภาพตรงหน้าดอกไม้นานาพันธ์บานสะพรั่งสวยสดจนเหมือนกับอยู่บนสรวงสวรรค์วิ่งเข้าไปที่ต้นดอกฉาฮวาที่งดงาม กลีบดอกเรียงซ้อนกันเป็นระเบียบ อีกทั้งสีแดงที่สะดุดตา อู่หงถิงก้มลงช้าๆสูดดมกลิ่นหอมรัญจวนใจ (ดอกคาร์มิเลียสีแดงกลิ่นจะหอมกว่าสีอื่น) ของฉาฮวา
หวาเซียงฮ๋องยืนตะลึงมองภาพอู่หงถิงที่กำลังดอมดมดอกฉาฮวาสีแดงสดใส รับกับอาภรณ์สีขาวขลิบแดงราวกับภาพฝันตรงหน้า เหอซ่างเซี่ยนดึงมือตัวเองออกช้าๆ เมื่อเห็นว่าหวาเซียงอ๋องไม่เกาะกุมมือของตัวเองไว้แน่นเหมือนเคย รอยยิ้มเศร้าๆปรากฏที่ริมฝีปากมองตามสายตาของหวาเซียงอ๋องที่พบว่า ความงดงามตรงหน้าแม้แต่เหอซ่างเซี่ยนที่เป็นหญิงด้วยกันยังยากจะปฏิเสธ
ดรุณีวัยแรกรุ่นงดงามผุดผาดริมฝีปากสีแดงกับปลายจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ข้างดอกฉาฮวาสีแดงสด อกอวบอิ่มกับอาภรณ์ที่อวดผิวเนียน อยากจะมองให้ลึกไปถึงประทุมถัน ใครกันจะสามารถละสายตาจากนางไปได้ อีกทั้งรอยยิ้มโลกสว่างยามเผลอไผลของอู่หงถิง เมื่อยามชื่นชมฉาฮวานั่นอีก ช่างงดงามติดตราตรึงใจ
มือใหญ่ของใครบางคนเด็ดดอกฉาฮวาดอกนั้นไปครอบครอง หวาซงอ๋องผู้องอาจนั่นเอง
“หากไม่ถือสา ฉาฮวาดอกนี้ข้าขอเด็ดไปเชยชม”
อู่หงถิงหุบยิ้มกว้างเหลือเพียงรอยยิ้มบางเบา
“เจ้าชอบดอกไม้ ตำหนักบูรพาของข้างดงามกว่านี้หลายเท่า หากเจ้าไม่รังเกียจ ตำหนักบูรพาไร้คู่ของข้าที่นั่น ยัง...ยินดีต้อนรับเสมอ”
หวาเซียงอ๋องคว้ามือเหอซ่างเซี่ยนเดินออกจากตรงนั้นไปทันที
อู่หงถิงส่งภาษามือ แสดงความขอบคุณแต่ก็เดินเลี่ยงออกมาเช่นกันหวาซง ตะโกนตามหลัง
“ข้ายังรออยู่ที่ตำหนักบูรพา หวังว่าชายารองน้องสามจะแวะไปที่นั่น”
อู่หงถิงเดินหลบออกไป ฟางหลุนรีบเข้าประคองไว้เหมือนดังแม่งูจงอางหวงไข่
“นายหญิงเจ้าขา อากาศยิ่งสายยิ่งหนาว ฟางหลุนไปยกชาอุ่นๆ ในห้องเครื่องมาให้ นายหญิงเข้าไปข้างในหาเสื้อคลุมใส่เสียให้เรียบร้อย”
ออกคำสั่งเสียเอง เมื่อเห็นว่าอู่หงถิงเอามือสองข้างถูกันไปมาด้วยความหนาว อู่หงถิงพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเข้าไปข้างใน
หวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังมองด้วยสายตาดุดัน
“ชู้รัก ไปแล้วหรือไร เหตุใดจึงไม่หาที่อื่นที่เหมาะกว่านี้ ทำไมต้องมาใช้จวนของข้าเป็นที่พบปะกัน”
อู่หงถิงเลิกคิ้วสูงไม่เข้าใจเรื่องที่หวาเซียงอ๋องพูด ถูมือสองข้างไปมาด้วยความหนาวเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาคลุมตัวตามคำสั่งของฟางหลุน ยังไม่ทันที่จะถึงราวแขวนเสื้อคลุมก็ถูกกระชากจนร่างเล็กเซเข้าซบอกกว้างของอีกคน
“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ที่เจ้าทำเป็นไม่พูดกับคนในจวนนี้ เพราะว่าเกรงว่าจะเผยความใน เรื่องที่แอบลักลอบพบปะกับหวาซงใช่ไหม”
อู่หงถิงส่ายหน้าไปมา ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น อู่หงถิงลุกขึ้นยืนวิ่งเข้าผลักร่างใหญ่ของหวาเซียงอ๋องเต็มแรงด้วยโทสะ ร่างสูงล้มลงบนแท่นนอนดึงเอาอู่หงถิงล้มลงบนอกกว้างของเขา หวาเซียงอ๋องกอดรัดเอวบางไว้แน่นยิ้มยียวน
“แรงเยอะนักใช่ไหม โมโหข้าที่พูดความจริง หรือว่าโมโหที่ไม่ได้พลอดรักกับชู้รักของเจ้า”
พลิกร่างบางลงใต้ร่างของเขา อู่หงถิงดิ้นรนสุดฤทธิ์แต่ก็ไม่อาจต้านทาน ได้ในเมื่อร่างสูงใหญ่ของอีกคนตรึงร่างบางไว้แน่น
“#_#”
ทั้งผลักทั้งยันก็ยังไม่ยอมปล่อย
“กับข้าแล้วทำห่วงตัว หวาซงอ๋องคงไปถึงไหนถึงไหนจึงกลัวว่าหากยอมข้า เขาจะตำหนิเอาได้ใช่ไหม”
มือใหญ่รวบเอวบางแนบชิดโน้มตัวลงอีกครั้ง ประตูห้องถูกเปิดออกฟางหลุนยืนถือถาดใส่กาน้ำชาตะลึงพึงเพริศอยู่อย่างนั้น หวาเซียงอ๋องรีบลุกพรวดพราดขยับเสื้อผ้าก่อนจะเดินออกไปกระแอมเบาๆ
ฟางหลุนอมยิ้ม วางถาดน้ำชาลง หันหน้ามองอู่หงถิงที่เขินอายแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ผลไม้รสเปรี้ยวรสชาติดีไม่น้อยหงถิงคิดหวาเซียงอ๋องได้มาจากที่แห่งใด คนอย่างเขาเช่นไรจึงเสาะแสวงหาของแบบนี้มาได้หรือสั่งให้ใครไปเก้บมากันแน่แต่ก้ไม่ได้ถามไถ่“นายหญิง ไม่เสวยอะไร กินได้เพียงผลไม้รสเปรี้ยวเจ้าค่ะ”เสียงฟางหลุนคุยกับหวาเซียงอ๋องด้านนอกห้องโดยที่อีกคนไม่กล้าเข้ามาในเมื่อรู้ว่าหงถิงแพ้ท้องและแพ้ลามมาถึงเขาด้วยหลังจากที่รู้จึงทำได้เพียงอยุ่ห่างๆวันๆก็แค่แวะเวียนมาไม่กล้าเข้าไปหาเหมือนเคย“ยาบำรุง ข้าให้ท่านหมอจัดยาบำรุงที่ดีที่สุดในแคว้นฉานให้นายหญิงของเจ้า อย่าลืมเคี่ยวให้หงถิงดื่มเช้าเย็น ยานี้ยังช่วยเรื่องอาการแพ้ท้อง กว่าข้าจะได้มันมาต้องอาสาไปช่วยท่านหมอที่ไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขาห่างออกไปหลายลี้”ฟางหลุนยิ้มไม่อยากเชื่อว่าความรักเปลี่ยนคนได้เพียงนี้ท่านอ๋องเดิมเฉยชาไม่ใส่ใจผู้ใดมาบัดนี้กลับเปลี่ยนจากคนเฉยชาเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นยิ่งนัก"เจ้าค่ะท่านอ๋อง"ย่อกายลงรับบัญชา“นางผอมลงหรือไม่”น้ำเสียงห่วงใยไม่เปลี่ยน"เจ้าค่ะก็กินได้แค่ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างอื่นไม่อาจแตะต้องเครื่องหอมยังต้องโยนทิ้ง"เสียงฟางหลุนตอบเบาๆ"นางลำบากเพียงนี้เชียวหรือข้าจะแบ่งเบานางได้เช่นไรกัน"น้ำเสียง
หวาเซียงอ๋องก้าวเท้ายาวๆยังห้องของหงถิง ข้างหน้านั่นกลับเงียบจนน่าในหาย นางจะเป็นอย่างบ้าง อาการบาดเจ็บที่เขาเห็นรุนแรงไม่น้อย แต่ใจกลับกระหวัดคิดไปถึงเหอซ่างเซี่ยน ความครุกรุ่นบังเกิดขึ้นในใจก้าวขาออกไปจากตรงนั้นทันที“ท่านอ๋อง ชายารองบาดเจ็บถึงเพียงนั้นท่านยังใจร้ายกับนาง”กัวเฉา ประสานมือตัดสินใจอยู่นานกว่าจะกล้าพูด“นางทำให้เซี่ยนเซี่ยนตาย”“ท่านอ๋อง พระชายาเอกนางรู้ว่าตัวเองไม่แข็งแรงจึงนับว่าตัดสินใจไปแล้วด้วยความเด็ดเดี่ยวออกไปตามพระชายารองด้วยความเป็นห่วง ตอนที่กัวเฉาเจอพระชายารองนั้น นางพยายามส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยพระชายาเหอซ่างเซี่ยนแต่ว่ากัวเฉาไม่อาจรู้ว่านางต้องการจะบอกอะไรหากท่านอ๋องจะโกรธใครสักคนขอให้เป็น กัวเฉาเถิด ที่โง่งมไม่สามารถเข้าใจภาษามือ”“เจ้าจงใจพูดแทนนาง มีความหมายใดหรือไม่”“ท่านอ่องนางอาภัพ พูดไม่ได้อีกทั้งแต่งเข้ามาในจวนอ๋องหวังว่าท่านอ๋องจะดีกับนาง แค่แต่งมาเป็นชายารองก็นับว่ารันทดพอแล้วยิ่งเป็นชายารองของท่านอ๋องที่มีสายตามองแต่เพียง ชายาเอกยิ่งทำให้นางน่าสงสาร”“กัวเฉา”ตวาดลั่น“ท่านอ๋องหากกัวเฉา เป็นคนอื่นจึงมิกล้าพูดกับท่านอ่องแบบนี้ ท่านอ๋องเคยสงสั
กระท่อมกลางป่า“พระชายา เอ่อ ๆๆ ไท่จือเฟย ไท่จือเชิญท่านที่ตำหนักบูรพา”เสี่ยวกุน ประสานมือท่าทีนอบน้อม“ไท่จือ”หงถิงเลิกคิ้วสูง“ไท่จือ..เอ่อ..ไท่จือหวาเซียง ท่านอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือให้พระชายาเอ่อพูดผิดตลอด ให้ไท่จือเฟยเตรียมตัวย้ายเข้าไปที่ตำหนักบูรพา”หงถิงยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น“อย่างไรก็ต้องเข้าตำหนักบูรพาในวันนี้ในวันฤกษ์งามยามดี แต่ผิดกันที่ ….สามีเป็นข้า”กอดหงถิงจากด้านหลังไว้แน่น“ท่านพี่ ไหนบอกหงถิงว่าเราสองคนจะเร้นกาย”หงถิงทวงสัญญา“ข้าอยากไปแต่ตอนนี้เสด็จพ่อยังไร้คนที่วางใจได้”“ท่านพี่ ท่านก็เลยไม่วางใจ”“ข้า เกรงใจเจ้าไม่น้อย เจ้ายินดีเป็นไท่จือเฟยของข้าไหมไม่ว่าจะภูเขาดาบทะเลเพลิงเจ้ายังจะอยู่ข้างข้าอีกไหม”ก้มลงกระซิบข้างหู“ไม่ว่า ท่านพี่จะเป็นยาจกหรือฮ่องเต้ หงถิงยังจะเคียงข้าง บอกแล้วมิใช่หรือว่าแม้จะเร้นกายหงถิงก็จะเคียงข้างในเมื่อตอนนี้ท่านพี่เลือกที่จะกตัญญูต่อฝ่าบาทหงถิงจึงไม่อาจคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยยังพร้อมเคียงข้างเสมอ”“ขอบใจเจ้าอย่างไรจึงจะพอกับสิ่งที่เจ้าทำให้ข้า เจ้ายอมเคียงข้างข้าคนที่... เคยร้ายกับเจ้ามาก่อน”“แค่ได้อยู่ข้างกันหงถิงก็พอแล้วไม่ต้อ
“เจ้าเลิกพูดจาให้ร้ายข้า แล้วหาหลักฐานมายืนยันความผิดของข้า”“ข้านี่อย่างไรเล่าหลักฐานท่านพูดเองว่าข้าสมควรตายยาพิษที่ท่านใส่มันลงในอาหารแต่เป็นเพราะสวรรค์มีตา สาวใช้ของข้านางจึงยอมตายแทนเพื่อให้ข้าได้หนีมาเปิดโปงความผิดของท่านเป็นเช่นนี้ข้าจึงทำลายใบหน้าตัวเองเสีย สวรรค์มีตามือสังหารผู้นั้น ได้ลงชื่อสารภาพทุกอย่างไม่อย่างนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่า เขาทำงานผิดพลาดแล้วท่านเป็นคนสั่งให้เขาวางเพลิง ข้าแม้อยากให้นางตายเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น ท่านอาศัยคำขู่ของข้าเพื่อใส่ความข้า”ยื่นร่างคำสารภาพไปมาตรงหน้า หวาเซียงอ๋อง รับมันก่อนจะก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ ์ส่งถึงมือฮ่องเต้“กวงเจ้าหลัว ชั่วช้าเกินไปแล้ว แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขท่านยังใช้เป็นเครื่องมือ ทหารนำตัวไปคุมขังรอวันประหาร”“ฝ่าบาทกวงเจ้าหลัวขอความเป็นธรรม เจ้าหรูข้าก็มิได้บังคับให้นางต้องตายแต่เป็นเพราะหวาจิ้งอ๋อง เห็นว่านางกำลังตั้งครรภ์เกรงว่าหากหวาเซียงอ๋องรู้ว่านางตั้งครรภ์กับใคร เขาจะถูกลงทัณฑ์อีกทั้งคดียักยอกเงินในคลังหลวงในตอนนั้นเป็นหวาจิ้งอ๋องที่อยู่เบื้องหลัง จึงวางแผนให้เจ้าหรูเข้าไปขโมย หลักฐานจากจวนหวาเซียงอ๋องมาเจ้าห
“เสด็จพ่อ”หวาซงอ๋องพยายามเร่งรัดให้มอบเสื้อคลุมมังกรกับเขา“ลูกถูกหวาซง และมือสังหารของเขาล้อมกรอบแต่เป็นเพราะคมกระบี่ของหวาซงที่ทำให้ลูกเสียหลักตกลงไปที่หน้าผาสูง”“ฝ่าบาท ข้าเคยบอกแล้วว่ามือสังหารเหล่านั้นไม่ใช่ของข้า”หวาจิ้งอ๋องได้ที“หุบปากเจ้าเสียน้องรองไหนว่าจะจะอยู่ข้างข้า หากข้าช่วยให้เจ้าพ้นผิดเรื่องที่ฆ่ากวงเจ้าหรู”หวาซงอ๋องหันไปเล่นงานหวาจิ้งอ๋อง“พี่ใหญ่แผนของท่านรัดกุมก็จริง แต่หารู้ไม่ว่าข้าที่รอดมาได้ เพราะท่านไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่มือสังหารที่ทำงานให้ท่าน ท่านยังกำจัดพวกเขาเสียจนสิ้นข้าจึงได้โอกาสสวมรอยอาศัยศพของพวกเขาในการเร้นกายเพื่อรักษาตัว”“ไม่จริงเสด็จพ่อสิ่งที่หวาเซียงอ๋องพูดมาไม่เป็นความจริง”“เสด็จพ่อลูกอาศัยเปลี่ยนอาภรณ์และห้อยป้ายหยกให้กับศพของมือสังหารนายหนึ่งที่ใบหน้าแหลกเหลวจากการตกจากหน้าผา หนีรอดมาได้ เพราะรู้ดีว่าคนของหวาซงอ๋องจะต้องถูกส่งมาให้ค้นหาศพลูก”“หวาซงจริงหรือไม่”“เสด็จพ่อไม่เป็นความจริง หวาเซียงอ๋องพลัดตกจากเหวเอง ลูกไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขากัวเฉา ลากเอามือสังหารที่รอดชีวิตในวันเดียวกับหวาเซียงอ๋องเข้ามา“พูด”“ฝ่าบาท กระหม่อมเป็นมือสังห
“ก็…”กดริมฝีปากปิดปากบางไว้“ไม่ต้องพูดแล้ว แค่เจ้าไม่ยอมเป็นของหวาซง ข้าก็รู้ว่าเจ้ารักข้าเพียงใด ต้องขอบคุณคำพูดของหวาซง ที่บอกว่าจะดูแลชายารองของข้าตอนนั้นเองที่ทำให้ข้าคิดว่าข้าจะตายไม่ได้ทั้งที่เจ็บเจียนตาย เพื่อสิ่งที่เขาคิดจะได้ไม่มีทางเป็นจริงสิ่งเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อคือการที่ได้กลับมากอดเจ้าแบบนี้ แต่ก็กลัวเหลือเกินว่า เจ้าจะเห็นแก่ลาภยศยอมแต่งเข้าตำหนักบูรพา”“ไม่ ไม่ ไม่หงถิงยอมตาย”ตอบเร็วรี่“ ข้ารู้ ว่าเจ้าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าจะต้องเป็นของข้า และให้ข้าได้รักเจ้าแบบนี้ตลอดไปข้าเองต่อจากนี้จะมีมีสายตาไว้มองใคร”หงถิงหน้าเศร้า เมื่อคิดถึงเหอซ่างเซี่ยน“ชายาเอกของท่านเล่า”หวาเซียงอ๋องยิ้มกว้าง“หงถิงหึงข้า ข้าดีใจที่สุด เซี่ยนเซี่ยนนางเป็นดั่งเพื่อนที่คอยหวังดี และเข้าใจข้ามาตลอด ป่านนี้นางก็คงดีใจที่ข้ารักเจ้าได้มากขนาดนี้ แม้เจ้าไม่ใช่เจ้าหรูเพราะความผิดพลาดแต่ความผิดพลาดน้้นกลับทำให้ข้ามีความสุขเพียงนี้"จุมพิตเบาๆ ที่หน้าผาก“คิดถึงหงถิง แล้วก้อนแป้งน้อยในท้องของพ่อเป็นอย่างไรบ้างโก้งโค้งจุมพิตที่หน้าท้องเปลือยเปล่า ที่มองเห็นมาป๋องนูนออกมาเพียงนิด“เจ้