หวงลี่หลิน นักเขียนสาววัย 26ปี เกิดมาในตระกูลร่ำรวยจากการมีธุรกิจผลิตและส่งออกเสื้อผ้าที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของเมืองเอ มีบิดาชื่อนายหวงลี่หยางอายุ 53 ปี มีมารดาชื่อนางหวงเฟยเจิน อายุ 50 ปี มีพี่สาวแท้ๆ ที่รักกันมากหนึ่งคนชื่อหวงลี่จิน อายุ30ปี
ด้วยความที่เป็นบุตรสาวคนเล็กของตระกูล บิดา มารดาและพี่สาวจึงตามใจให้ลี่หลินได้ทำในสิ่งที่รัก โดยเธอนั้นขออนุญาตครอบครัวออกไปใช้ชีวิตด้วยตนเองตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเลยทำให้เพื่อนๆ ที่เพิ่งคบกันไม่รู้ว่า หวงลี่หลินนั้นเป็นทายาทลำดับสองของนักธุรกิจพันล้าน ลี่หลินยึดอาชีพการเป็นนักเขียนนิยายหาเลี้ยงตัวเอง หากแต่ยังมีเงินปันผลของบริษัทที่ยังได้รับอยู่ทุกเดือนเช่นกัน
หวงลี่จิน พี่สาวแสนสวยนั้นมีตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการพ่วงอีกตำแหน่งก็คือดีไซเนอร์ประจำบริษัท เธอสวยและเก่งมีหนุ่มๆ มาหมายปองเธอมากมายแต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะหวงลี่จินนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว และกำลังจะแต่งงานกันภายในปีนี้ ชื่อเฉินเจียงข่าน เขาเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินที่ทำธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่ในเมืองเอ ดูแล้วสองอาชีพที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย หากแต่บุตรสาวกับบุตรชายต่างมาชอบพอกัน ซึ่งบิดามารดาของทั้งสองตระกูลก็แสนจะยินดีปรีดา
“ลี่หลิน กลับมาเยี่ยมป๊ากับม๊าหน่อย ท่านบ่นคิดถึงน้องน่ะ” หวงลี่จินโทรหาน้องสาวสุดที่รักหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานเกือบสองสัปดาห์เพราะเธอนั้นเพิ่งบินกลับจากฝรั่งเศสเพราะไปหาแรงบันดาลใจในการออกแบบคอลเลคชั่นใหม่กับคู่หมั้นหนุ่ม
“อย่ามาพูด ตัวเองคิดถึงเค้าล่ะไม่ว่า เอาป๊ากับม๊ามาอ้างตลอด” หวงลี่หลินรู้ทันพี่สาวคนโตเสมอ เพราะถ้าโทรมาเองแบบนี้ต้องเป็นพี่สาวของเธอที่อยากเจอเธออย่างแน่นอน
“แหม...รู้ทันอีกละ พี่เพิ่งกลับจากหาแรงบันดาลใจที่ฝรั่งเศสมาเมื่อวาน นี่พี่ซื้อของมาฝากเราด้วยนะ กลับบ้านหน่อยสิ พี่คิดถึงเธอมากๆ เลย พอเห็นของฝากนี่ปุ๊บใบหน้าน้องสาวสุดที่รักลอยมาเลยนะ” หวงลี่จินพยายามหว่านล้อมน้องสาวให้กลับบ้าน อันที่จริงบิดามารดาก็บ่นถึงน้องสาวตัวแสบอยู่เหมือนกัน แต่ที่ไม่โทรหาเพราะรู้ว่าหวงลี่หลินนั้นรักอิสระ และไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตนเองเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลเพื่อป้องกันไม่ให้หนุ่มๆ มาหมายปองเธอ
“ว่าแต่ไปฝรั่งเศสกับว่าที่พี่เขยมาหรอ” เสียงหวานจากปลายสายทำเอาคนเป็นพี่หน้าแดงเมื่อนึกถึงคู่หมั้นหนุ่มรุ่นพี่ที่สุดแสนจะเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอเป็นอย่างดี ถึงแม้จะคบกันมาถึงสองปีแล้วก็ตาม เขาก็ไม่เคยล่วงเกินเธอมากไปกว่าการกอดและจูบเพียงเท่านั้น
“อืม..... มาหาพี่หน่อยนะ พี่คิดถึงเราจริงๆ” เสียงหวานของพี่สาวตอบน้องสาวสุดที่รัก
“ได้ๆ เห็นแก่ของฝากนะเนี่ย แต่ไปได้แค่คืนเดียวนะ อยากกลับมาปั่นงานให้เสร็จเดี๋ยวบก.จะตามงานอีก” หวงลี่หลินบอกกับพี่สาวก่อนที่ทั้งคู่จะวางสายไป
“เฮ้อ...ปั่นงานสักหน่อยดีกว่า คืนนี้ต้องเสียเวลาไปหาลี่จินอีกละ หู้วๆๆๆ” สาวสวยบ่นออกมาลำพังก่อนที่จะเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนนุ่มภายในคอนโดสุดหรูที่ซื้อมาจากเงินเก็บตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นของเธอ
ร่างบางเดินนวยนาดเข้าห้องน้ำไปก่อนที่จะได้ยินเสียงน้ำกระทบกับพื้นและเสียงฮัมเพลงเบาๆ ดังออกมา ผ่านไปนานร่างระหงที่อยู่ในผ้าขนหนูสีขาวสะอาดก็เดินออกมาจากห้องน้ำทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่ สองเท้าเล็กย่างก้าวเข้าไปในห้องแต่งตัวที่มีเสื้อผ้าหลากหลายชนิดเรียงรายอยู่ หวงลี่หลินเลือกชุดที่เหมาะกับการใส่กลับบ้านที่สุด เมื่อใส่เสร็จแล้วสาวสวยก็เดินไปเป่าผมจนแห้งแล้วหมุนตัวกลับไปที่โต๊ะทำงานมุมเดิมของเธอ
มือบางหยิบโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่งมาเปิดพิมพ์นิยายที่แต่งค้างเอาไว้ นิ้วเรียวยาวกดลงไปบนแป้นคีย์บอร์ดอย่างชำนาญ ดวงตากลมโตที่มีแว่นสีใสช่วงปกป้องสายตาจากแสงก็จดจ้องไปที่หน้าจอโดยที่ไม่มองแป้นพิมพ์เลยสักนิด นิยายเรื่องนี้ของเธอแต่งเกี่ยวกับสัญญารักแฟนกำมะลอแต่ผลสุดท้ายกลับตกหลุมรักกันจริง โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่านิยายเรื่องนี้กำลังจะเกิดขึ้นกับชีวิตจริงของเธอเองในอีกไม่ช้า
ร่างระหงในชุดเดรสรัดรูปสีชมพูโอรสขับรถเบนซ์คันเล็กเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลหวงซึ่งมีเพียงบิดามารดา พี่สาวและคนรับใช้อีกสิบชีวิตอาศัยอยู่เพียงเท่านั้น พอเห็นรถคันเล็กของคุณหนูเล็กของบ้านขับเข้ามาจอด ถิงหลันคนรับใช้คนสนิทของลี่หลินก่อนที่เธอจะขอออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเพียงลำพังก็รีบวิ่งเข้ามาหาคุณหนูเล็กด้วยความคิดถึง
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้ นายรู้ไหมว่าน้องลี่หลินพักอยู่คอนโดไหน” เยว่อวี่ซินเอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้น เพราะดูจากสาวสวยแฟนกำมะลอของเพื่อนเขาตอนนี้นั้นไม่ได้สติแล้ว“เดี๋ยวเยว่หรูส่งที่อยู่ยัยลี่หลินไปให้พี่ในวีแชทนะคะ”เยว่หรูรู้ดีว่าไม่มีใครรู้จักที่อยู่ของลี่หลินแน่นอนเธอจึงใจดีบอกที่อยู่ให้กับเฉินเจียวจ้าน เพราะเขาดูเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายเธอเสียอีก“ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอพาน้องลี่หลินกลับก่อนนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยลาเมื่อเปิดวีแชทแล้วเห็นชื่อของคอนโดที่หญิงสาวพักเรียบร้อยแล้ว“ค่ะ ฝากดูยัยลี่หลินด้วยนะคะ” สองสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยความเป็นห่วงร่างหนาประคองร่างบางให้เดินออกไปด้วยกัน หวงลี่หลินนั้นยังพอมีสติอยู่บ้างพอได้ยินว่ากลับคอนโด ร่างระหงจึงเดินตามชายหนุ่มไปโดยดี“ไม่ต้องห่วงน้องลี่หลินหรอกนะครับ ถ้าเทียบกันในบรรดาสามคนเราแล้ว ไอ้เจียวจ้านเป็นสุภาพบุรุษที่สุด มันจะไม่เริ่มก่อนแน่นอนถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่เริ่ม”ลู่ตงหานเอ่ยออกมาให้ทั้งสองสาวสบายใจ หากแต่ทั้งสองสาวหันมามองหน้ากันและภาวนาขอให้หวงลี่หลินนั้นไม่ทำอะไรเพี้ยนๆ จนสุภาพบุรุษอย่างพี่เจียวจ้านตบะแตกก็แล้วก
หวงลี่หลินเดินกลับมาที่โต๊ะราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะถอนลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าเขาที่เธอเพิ่งจะขโมยจูบไปเมื่อสักครู่ไม่ได้เดินตามเธอออกมา“เป็นไง สบายใจขึ้นยัง เห้ย!! แล้วทำไมหน้าแดงขนาดนั้น นี่เธอเมามากเลยหรอยัยลี่หลิน” เยว่หรูเอ่ยถามก่อนที่จะทักขึ้นเมื่อสังเกตใบหน้าสวยของเพื่อนสาวที่บัดนี้แดงราวกับตูดลิง“ป่ะ..ป่าว พี่ตงหานคะ ขอลี่หลินลองอย่างอื่นที่ไม่ใช่พั้นซ์ได้ไหม” นักเขียนสาวตอบเพื่อนก่อนที่จะหันไปคุยกับพี่ชายเพื่อนของเพื่อนสนิท“ลองดื่มเบียร์สดดูไหมล่ะ”หญิงสาวพยักหน้ารัวๆ เจ้าของร้านสุดหล่อจึงสั่งบริกรให้จัดมาให้เธอทันที เขาเข้าใจว่าเธอเครียดและโดนผู้หญิงสองคนนั้นดูถูก โดยไม่ได้คิดว่าเธอนั้นไปทำความผิดอะไรไว้เฉินเจียวจ้านหายไปสักครู่เพื่อให้เธอได้ผ่อนคลายความเขินอายลง แต่พอกลับมาที่โต๊ะก็ต้องพบกับร่างระหงที่กำลังโยกย้ายร่างงามไปมาอยู่ท่ามกลางสองสาว และหนุ่มๆ ที่รายล้อมหากแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้พวกเธอด้วยรู้ดีว่าเธอนั่งอยู่กับใคร“หายไปนานเลยนะไอ้เจียวจ้าน ดูแฟนกำมะลอของนายสิ ดื่มเบียร์สดไปสามแก้วกลายเป็นแม่เสือสาวไปซะแล้วฮ่าๆๆๆ” เยว่อวี่ซินเอ่ยขึ้นก่อนที่จะ
“ต๊าย... เมาแล้วหรอยะ เมาแล้วก็ควรจะกลับไปนอนนะ” โหรวโหรวเอ่ยขึ้นมาบ้างเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าสวยของอีกฝ่ายเริ่มแดงนิดหน่อย ต่างจากตอนที่เธอเห็นตอนที่เพิ่งเข้ามา“ไม่เห็นต้องถามเลย คนแบบยัยนี่เคยดื่มเครื่องดื่มอะไรดีๆ แบบนี้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ เธอสองคนนี่ก็ช่างใจดีเนอะที่คบเพื่อนกระจอกกระจอกแบบนี้ แล้วนี่แฟนยัยลี่หลินใช่ไหมคะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณแซ่ไหน มาจากตระกูลอะไร แต่คุณก็ไม่น่าตาต่ำไปคว้ายัยนักเขียนไร้สกุลคนนี้มาเป็นแฟนเลยนะคะ” ถิงถิงแขวะสาวสวยที่ยืนกอดอกมองเธอกับเพื่อนสนิท ก่อนที่จะหันไปคุยกับชายหนุ่มที่ครั้งก่อนหวงลี่หลินแนะนำให้พวกเธอได้รู้จักว่าเขาเป็นแฟนสายตาคมจ้องมองไปที่คนพูดด้วยความไม่พอใจ เขาอยากจะฉีกหน้าผู้หญิงปากเสีย ที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมคนนี้นัก หวงลี่หลินคนนี้น่ะหรอกระจอก ทายาทอันดับที่สองของตระกูลหวง ตระกูลที่มีหน้ามีตา มีฐานะร่ำรวยติดอันดับสองของเมืองเอเนี่ยนะ เฉินเจียวจ้านอยากจะพูดออกไปนัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวถึงยอมให้ผู้หญิงสองคนนี้พูดจาดูถูกอยู่ได้“อ้อ...ครั้งก่อนฉันลืมแนะนำไปใช่ไหมว่าเขาแซ่อะไร เป็นคนตระกูลไหน แต่ในเมื่อเธออยากรู้ฉันก็จะบอกให้เอาบุญ”ห
หนุ่มสาวทั้งสามคู่ยังคงนั่งพูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาหลายๆ คู่ที่มองมาอย่างอิจฉาเลยด้วยซ้ำ หวงลี่หลินนั้นหลังจากที่โดนเพื่อนๆ เอ่ยแซวก็เอาแต่หลุบตามองมือและชวนเพื่อนสาวคุยเปลี่ยนเรื่อง หากแต่คืนนี้นั้นเธอก็คิดบุคลิกของพระเอกในนิยายของเธอออกแล้ว“ยัยลี่หลิน นี่สรุปบก.ให้เธอลองเขียนแนวอีโรติกจริงๆ อะ” เยว่หรูกระซิบถามหลังจากแฟนของเธอเดินออกจากโต๊ะไปทักทายลูกค้าที่มาใหม่“อืม...อย่าเสียงดังเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน โดยเฉพาะคนข้างๆ ฉัน กลับห้องเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าเพราะอะไร”หวงลี่หลินรีบปรามเพื่อนรักเพราะเฉินเจียวจ้านนั้นเป็นรองประธานบริษัทที่เธอเซ็นสัญญาลงนิยายออนไลน์อยู่ ถ้าเขารู้ว่าเธอเอาเขาไปเป็นต้นแบบพระเอกในนิยายของเธอ เธอกลัวว่าเขาจะโกรธเอา เยว่หรูเหลือบไปมองหนุ่มหล่อสุดเซอร์ที่นั่งกระดกวิสกี้เข้าปากอย่างไม่สนใจคนรอบข้างก็พยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ“พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”เฉินเจียวจ้านหันมาบอกแฟนในนามพอหญิงสาวพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตเขาจึงลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ห้องน้ำของแขกวีวีไอพี ตอนนี้ที่โต๊ะจึงเหลือเพียงสามสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มที่ยังคงชวนอ้ายฉิงคุยตั้งแต่ที่มาถึง
“พี่อวี่ซิน ไม่ต้องกอดขนาดนี้ก็ได้เหอะ” เยว่หรูหันไปมองเพื่อนสนิททั้งสองที่มองมาที่เธอและเขาด้วยสายตายิ้มๆ ก่อนที่จะหันมาต่อว่าแฟนหนุ่มที่เธอไม่ได้ต้องการเลยสักนิด“เอาน่า พวกนั้นจะได้เห็นไง ว่าเธอมีแฟนแล้ว ว่าแต่คืนนี้จะแนะนำให้เพื่อนของเธอรู้จักพี่เลยไหม” เยว่อวี่ซินไม่ได้ปล่อยมือจากไหล่บางหากแต่โอบมาชิดกับหน้าอกหนั่นแน่นของตนแล้วพาเธอเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะวีวีไอพี“เธอว่ายัยเยว่หรูจะใจอ่อนให้พี่อวี่ซินไหมอ้ายฉิง” หวงลี่หลินกระซิบถามเพื่อนสนิทสาวอีกคนทันทีที่เห็นสองหนุ่มสาวที่เดินนำหน้าทำตัวติดกันซะขนาดนั้น“ก็ไม่แน่ น้ำหยดลงบนหินทุกวันหินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับใจคน เราสองคนก็ระวังหัวใจกันไว้บ้างเถอะ อะไรที่สร้างเอาไว้ ฉันกลัวว่ามันจะย้อนกลับมาทำร้ายหัวใจตัวเราเอง” อ้ายฉิงเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเอ่ยเตือนหัวใจตัวเองและเพื่อนสนิทสาวอย่างหวงลี่หลินบ้าง“สำหรับฉันไม่มีทางหรอก ฉันยังยึดมั่นในคำปฏิญาณเดิมของตัวเอง” หวงลี่หลินตอบออกมาอย่างมั่นใจ แม้ภายในใจก็พยายามที่จะไม่หวั่นไหวกับแฟนกำมะลออยู่เหมือนกันทางด้านสองสาวที่เต้นกันอยู่กลางฟลออย่างต้องการเช็กความนิยมของพวกเธอเองก็ต้องหันมองไปต
หลังจากนั่งคิดและจินตนาการอยู่สักพัก นักเขียนคนสวยก็หันไปกดแป้นพิมพ์จนเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องนอน ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย จนเวลาล่วงเลยไปเกือบสามชั่วโมง ร่างบางจึงได้บิดกายไปมาก่อนที่เธอจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเก่ง พร้อมทั้งละสายตาคู่สวยที่มีแว่นตาสีใสปกป้องดวงตาเอาไว้จากแสงที่ส่องมาผ่านหน้าจอ“อืมมม...... หิวจัง”เสียงหวานเอ่ยออกมา ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ห้องครัว มือบางหยิบเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาหนึ่งซอง พร้อมทั้งตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าลงไป แล้วเปิดแก๊สเพื่อต้มน้ำรอ ร่างบางหันรีหันขวางหยิบผักสดในตู้เย็นและเนื้อสัตว์มาหั่นอย่างคล่องแคล่ว เพราะออกมาอยู่ข้างนอกตั้งแต่สมัยเรียนจึงทำให้หวงลี่หลิน คุณหนูทายาทอันดับที่สองของตระกูลหวงอย่างเธอนั้นทำอาหารเป็นผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที ชามบะหมี่ที่มีหน้าตาน่าทานก็ถูกวางลงบนโต๊ะอาหาร โต๊ะประจำของนักเขียนสาว แต่ขณะที่กำลังจะตักเอาบะหมี่ในถ้วยเข้าปาก สมาร์ทโฟนเครื่องเล็กของเธอก็แผดเสียงร้องจนคนที่กำลังหิวจนตาลายไม่อาจละเลยได้ ร่างระหงจึงผุดยืนขึ้นแล้วตรงไปหยิบมาก่อนที่มันจะส่งเสียงน่ารำคาญไปมากกว่านี้“ฮัลโหลว่าไง... เอาไงดีฉันรีบทำงานส่งน่ะ