3
ปมแค้น
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ คุณน้าบอกลิดามาสิคะ”
ปาลิดาโวยวายด้วยคำถามที่เธอต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับบิดาของเธอ
“คุณนิรัชประสบอุบัติเหตุรถชนคอสะพาน เสียชีวิตคาที่ค่ะ”
อัสมาทำท่าจะร้องไห้ เมื่อต้องเล่าเรื่องราว ที่เธอสุดจะเสียใจอีกครั้ง
“คุณพ่อไม่ใช่คนขับรถประมาท ไม่มีทาง ต้องมีอะไรแน่ๆ ลิดาไม่เชื่อเด็ดขาด”
ตั้งแต่เด็กจนโต หญิงสาวรู้ว่าพ่อของเธอ มีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ในการขับรถยนต์ ปฏิบัติตากฎอย่างเคร่งครัด ไม่มีทางที่พ่อจะมาตายแบบไม่มีใครมาชนแบบนี้ เธอส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ
“คุณนิรัชดื่มสุราจนเมาค่ะ” อัสมาอธิบายต่อ
“ปกติคุณพี่ไม่ดื่มนะคะ” คราวนี้กานดาสงสัยบ้าง
“ใช่ค่ะ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นคุณนิรัชดื่ม เวลาไปเที่ยวร้านอาหาร ยังดื่มแค่เพียงน้ำอัดลมเท่านั้น แต่ตำรวจส่งชันสูตรเบื้องต้นแล้ว พบว่ามีการดื่มสุราค่ะ”
ผลการสืบสวนของตำรวจ ลงความเห็นว่านิรัชเมาจนขับรถชนกับคอสะพาน เสียชีวิตคาที่ เพราะคอหัก ซึ่งทั้งหมดมันคือความจริง
สิ่งที่ยังค้างคาใจกานดาคือ ทำไมพี่เขยของเธอต้องดื่มเหล้า ในเมื่อเขาไม่ใช่นักดื่ม เรียกได้ว่า เต็มที่ก็แก็วเดียว ตามมารยาทเวลาไปงาน
“ลิดา ทำใจนะลูก พ่อเขาจะได้ไปสบาย น้าอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆหนู มีอะไรเราจะช่วยกันคิด รอให้เสร็จจากงานศพก่อน เราค่อยมาหาคำตอบที่เราค้างคาใจกัน”
กานดารู้ใจหลานสาว ว่าลิดาไม่เข้าใจ ว่าอยู่ดีๆ พ่อของเธอจะดื่มเหล้า เมาจนขับรถชนคอสะพานได้อย่างไรกัน มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แน่ๆ
งานศพเสร็จสิ้นไป ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี อัสมาและกานดาช่วยกันจัดแจงทุกอย่าง ลิดาเองก็มีแต่ความเสียใจ จนแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
“ถึงเวลาที่เราต้องคุยเรื่องทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมพี่นิรัชถึงต้องดื่มจนเมาแบบนั้น”
เมื่อกลับมาถึงบ้าน กานดาเปิดฉากคุยกับอัสมา ต่อหน้าปาลิดาทันที
“คุณนิรัชกำลังขยายธุรกิจ ตามคำแนะนำของคุณธรรมสรณ์ โดยที่คุณนิรัชเอง ไม่ได้มีเงินทุนขนาดนั้น จึงขอหยิบยืมจากคุณธรรมสรณ์”
คนเล่าทำท่าจะร้องไห้ กำมือเหมือนกำลังแค้นอะไรบางอย่างอยู่
“คุณธรรมสรณ์หาออเดอร์สินค้ามาให้ โดยที่ คุณนิรัชไม่ได้ขอให้วางมัดจำ เพราะเห็นกับความสนิท แต่สุดท้ายเมื่อผลิตสินค้าเสร็จตามจำนวน ทางนั้นกลับยกเลิก”
อัสมากำมือทั้งสองแน่น ทุบกับขาของตัวเองอย่างโกรธแค้น ยังคงก้มหน้า น้ำตาซึมไม่มองสบตาสองคนที่กำลังฟังอย่างตั้งใจ
“แล้วไงต่อคะคุณน้า” ปาลิดายังไม่เข้าใจ
“คุณนิรัช ใช้เงินที่กู้ยืมมาจากคุณธรรมสรณ์ในการผลิตสินค้า พอสินค้าขายไม่หมดก็ไม่มีเงินใช้หนี้” อัสมาพูดต่อ
“ในเมื่อเขายกเลิกสินค้า พ่อก็ไม่ต้องใช้หนี้สิคะ ถือเป็นค่าเสียหายไป”
“สัญญาในการสั่งซื้อสินค้าไม่มี เป็นเพียงปากเปล่า มีแต่สัญญากู้ยืมเงิน”
อัสมาอธิบายได้คล่องแคล่ว เหมือนเธอรู้ทุกความเป็นไปของธุรกิจของสามี ทั้งที่ตอนแม่ของปาลิดายังมีชีวิตอยู่ นิรัชไม่เคยปล่อยให้แม่ของเธอได้รู้เรื่องธุรกิจเลย
“คืนนั้นคุณธรรมสรณ์โทรมาทวงเงิน เพราะในสัญญาระบุเวลาการใช้หนี้ไว้และ....”
อัสมาลากเสียงยาว สองมือกุมหน้าร้องไห้ อย่างคนที่เสียใจสุดขีด
“และ.. และอะไรคะ”
ปาลิดาเขย่าแขนแม่เลี้ยง อย่างลืมตัว จนกานดาต้องดึงเธอให้นั่งลง
“คุณพ่อของหนู เอาบ้านหลังนี้และที่ดินของตากับยายหนูค้ำประกันไว้” อัสมาปาดน้ำตา
“คุณพ่อก็เลยเครียดแล้วไปดื่มเหล้าจนเมา จนมาเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะคุณน้าอัสมา”
ปาลิดาประติดประต่อเรื่องได้ จากคำบอกเล่าของแม่เลี้ยง ว่าเพราะอะไรบิดาของเธอถึงต้องไปเมาแบบนั้น
“เลวมาก เลวที่สุด ทำกับเพื่อนแบบนี้”
หญิงสาวผู้สูญเสียกำมือแน่น ยืนขึ้นด้วยความแค้น เธอพอรู้จักกับธรรมสรณ์เพื่อนของพ่ออยู่บ้าง แต่ก็ไม่สนิทเท่าไหร่ เพราะเธอถูกส่งไปเรียนต่างประเทศ
“ตั้งสติ มันอาจมีหนทางที่เราจะไม่ต้องเสียบ้าน เสียที่ดินก็ได้ อย่าใช้แต่อารมณ์”
กานดาไม่อยากจะเชื่อทุกอย่าง ที่อัสมาบอก เพราะเธอรู้จักพี่เขยของเธอดี เขาไม่เคยทำอะไรเสี่ยง มีแต่ชอบคิดอะไรรอบคอบเกินคนทั่วไปคิดด้วยซ้ำ
“จริงด้วยค่ะ น้าว่าหนูลิดาใจเย็นๆก่อน เราอาจพอจะหาเงินไปใช้เขาได้ ถึงแม้มันจะหลายสิบล้านด้วยกัน”
อัสมาพูดเหมือนต้องการให้ลูกเลี้ยงใจเย็นลง แต่จากจำนวนยอดหนี้ที่เธอทำเสียงเน้นย้ำ มันเหมือนกับกำลังโยนไฟใส่น้ำมันอย่างไรไม่รู้
“แล้วคุณอัสมาล่ะจะทำอย่างไรต่อไปคะ ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับพี่นิรัสด้วย”
กานดามีลางสังหรณ์แปลกๆ จึงอยากถามให้แน่ใจ เพราะพี่เขยเคยบอกไว้ ว่าไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับภรรยาคนใหม่
“เราเพิ่งไปจดทะเบียนสมรสกันก่อนวันที่จะขึ้นเครื่องไปรับปริญญาหนูลิดาเองค่ะ คุณนิรัชตั้งใจจะบอกในวันที่หนูลิดาเดินทางมาถึงเมืองไทย แต่ก็มาเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน”
อัสมาร้องไห้เสียงดัง จนคนใช้ในบ้านต่างพากันมาดู เพราะตกใจ
“อ๋อ...อย่างที่คิดไว้เลยค่ะ” กานดาพูดอย่างลืมตัว
“หมายความว่าอะไรคะ” อัสมาหยุดร้องไห้มองหน้ากานดาอย่างไม่พอใจ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันหมายถึงคุณพี่นิรัชดูรักคุณอัสมามาก คงต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องแน่ๆ”
ถึงแม้กานดาจะเป็นน้องเมีย แต่เขาก็อยู่กับนิรัชมาตั้งแต่เด็กๆ เพิ่งไปอยู่อเมริกาได้ไม่ถึงสิบปี ดังนั้นเขารู้จักพี่เขยดี ว่าเป็นคนอย่างไร
การที่นิรัชจดทะเบียนกับอัสมา คงเพราะต้องการแสดงความรับผิดชอบให้เกียรติ ตามนิสัยสุภาพบุรษตัวจริง
“ขึ้นไปพักที่ห้องก่อนนะลิดา น้าจะออกไปธุระข้างนอกเสียหน่อย”
กานดาเดินพาหลานสาวขึ้นไปส่งที่ห้องนอนชั้นบนของบ้าน ก่อนจะขับรถของนิรัชที่มีอยู่หลายคันออกไปข้างนอก
ตอนที่12หัวใจที่หายไป “แพทคุณท้อง ทำไมคุณไม่บอกผม” เมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากร้าน ราเชนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาถามสิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่าการที่ได้เจอแพทเสียอีก นั่นคือการที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ “ไว้เราไปคุยกันที่บ้านดีกว่าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าไร้รอยยิ้ม เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อที่จะทำใจให้ลืมชายหนุ่มให้ได้ แต่วันนี้เมื่อเธอได้เจอเขา ทุกอย่างที่พยายามมา มันช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ บ้านของแพทอยู่ชายเขา มีบ้านเพียงไม่กี่หลังที่อยูใกล้ เพราะหลายครอบครัวต่างก็อยากมีบ้านอยู่ติดถนนแต่พ่อของเธอไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินติดถนน จึงต้องหลบมาอยู่ชายเขาแบบนี้ “พ่อคะนี่คุณราชัน” แพทแนะนำให้พ่อของเธอรู้จักชายหนุ่มที่เธอพามาด้วยภาษาเหนือ พ่อของหญิงสาวรู้ความจริงทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่ลูกสาวหิ้วท้องกลับมาบ้าน ถึงแม้จะแอบเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะเข้าใจดีว่าทุกวันนี้ ทุกคนในครอบครัวมีกินมีใช้เพราะใคร “พ่อรู้เรื่องคุณกับลูกสาวพ่อหมดแล้ว แพทไม่เคยปิดบังอะไรพ่อกับแม่ คุณกลับกรุงเทพไปเถอะ อย
ตอนที่11ตามหาหัวใจ “ราเชน วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงงาน มานั่งคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง อย่าให้พ่อต้องกลายเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองเลย” ชาติชายมานั่งรอราเชนอยู่ที่โต๊ะอาหารตั้งแต่เช้า เพราะเขาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้เขาต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้ “พ่อแน่ใจนะครับว่าพร้อมจะฟัง” ราเชนคิดมาตลอด ว่าบิดาของเขาไม่มีทางรับได้ที่เขาจะมีภรรยาเป็นแค่เพียงพนักงาน เขาจึงไม่คิดจะเล่าให้ฟัง “คงไม่มีอะไรทำให้พ่อทุกข์ใจ มากไปกว่าการที่พ่อต้องมาเห็นลูกเอาแต่เมาทุกวันแบบนี้” ชาติชายคิดอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขาทุกข์ใจมาหลายวันแล้วกับพฤติกรรมของลูกชาย วันนี้เขาจึงต้องการรู้เรื่องทั้งหมดเพื่อหาทางแก้ไข ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ ราเชนเล่าทุกเรื่องตั้งแต่ปัญหาระหว่างเขากับนิศาจนถึงที่เขาไปเจอแพทกำลังโดนดิวตบตีและเขาพาเธอมาอยู่ที่คอนโดแล้วได้มีความสัมพันธ์กัน จนในที่สุดตอนนี้เธอหนีเขาไปแล้ว “ถ้าคนทั้งโรงงานเขาไม่พูดกัน พ่อคงไม่มีทางได้รู้เรื่องจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ชาติชายตัดพ้อลูกชายด้วยความรู้สึกน้อยใจ แ
ตอนที่10สูญเสีย วันนี้ทั้งวันราเชนทำงานอย่างไม่มีความสุขเลย เพราะเขาติดต่อแพทไม่ได้ ไม่ว่าแชทหรือการโทรศัพท์ ติดต่อไปที่ฝ่ายบุคคลเขาก็แจ้งว่าหญิงสาวไม่ได้มาทำงาน สิ่งแรกที่ทำหลังจากงานที่ทำเสร็จ คือการรีบกลับมาที่คอนโด “แพทคุณอยู่ไหน แพท คุณได้ยินผมไหม” ราเชนเหมือนคนเสียสติวิ่งไปทั่วห้องพยายามหาภรรยาของเขา ในมือเขาถือทะเบียนหย่าที่วันนี้เขากับนิศาได้ไปทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่คนที่ชายหนุ่มต้องการเอามาอวดกับไม่อยู่แล้ว ข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญหายไป ราเชนมั่นใจว่าเขาได้เสียเธอไปแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกขว้างปาทั่วห้องไปหมด ราเชนกำลังเสียสติ เขาคิดว่าแพทต้องกลับไปคืนดีกับคนรักเก่าแน่ๆ เมื่อไม่มีทางออกเขาจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่โรงงานเพื่อขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของดิว ราเชนตั้งใจจะไปบุกให้ถึงที่ “เปิด เปิดประตูเดี๋ยวนี้” ราเชนบุกไปที่ห้องของดิวแล้วทุบประตูห้องเช่าขนาดเล็กด้วยความโมโห “อะไรกัน คุณราเชน” คนที่มาเปิดประตูคือทราย เพราะตัวดิวเองกำลังอาบน้ำอยู่
ตอนที่9กอดที่แน่นที่สุด “คิดถึงจังเลย มาหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อยสิ” ราเชนโผเข้ากอดสาวโรงงานที่เขาสุดแสนจะคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันนาน “แพทก็คิดถึงคุณค่ะ ” หญิงสาวใช้มือข้างขวาลูบท้องของเธอไว้ เพื่อหวังว่าความอบอุ่นของอ้อมกอดราเชนจะส่งไปถึงลูกที่อยู่ในท้อง อาหารมื้อเย็นวันนี้หญิงสาวจัดเต็ม เพราะเธอรู้ตัว ว่าคงมีโอกาสทำให้เขากินได้อีกไม่นาน เธอกับลูกก็ต้องไปจากที่นี่แล้ว คืนนี้หญิงสาวแทบจะไม่ได้นอน เพราะถูกอีกฝ่ายแสดงความคิดถึงทั้งคืน แพทก็พยายามระวังเพราะกลัวจะส่งผลถึงลูกของเธอ วันนี้เป็นวันหยุดราเชนพาหญิงสาวไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ ไปไหว้พระ หาของกินอร่อยๆกิน รวมทั้งตอนกลับเขาพาเธอไปซื้อสร้อยคอที่เป็นทองหนักห้าบาท ถ้าเป็นปกติหญิงสาวคงไม่ยอมรับไหว แต่เพราะเธอรู้ ว่าการเลี้ยงเด็กหนึ่งคนต้องใช้เงิน ถ้ากลับไปอยู่บ้านเธอคงไม่ค่อยมีรายได้อะไร ทองนี้คงช่วยเธอกับลูกได้ในตอนนั้น ก่อนจะกลับคอนโด ชายหนุ่มพาหญิงสาวแวะไปที่ร้านเพชรที่อยู่ในห้างใหญ่ ตอนแรกแพทคิดว่าราเชนคงมาซื้อให้กับนิศา เพราะเขาซื้อทองให้เธอแล้ว แต่เม
ตอนที่8เมื่อไม่มีเธอมันเหงา ค่ำคืนแห่งการเยียวยาหัวใจ ของชายหนุ่มที่ทั้งโมโหเสียใจ เสียความรู้สึก และเมามาทำให้คืนนี้หญิงสาวต้องรับบทหนักหลายรอบกว่าเขาจะหายต้องการ เมื่อความทุกข์ใจได้ถูกปลดปล่อยออกทางกาย ราเชนก็หลับสนิท แต่สำหรับแพทแล้ว เธอเริ่มรู้สึกรักเขา และไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบนี้ เพราะโลกแห่งความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ สนองราคะเป็นที่ระบายความทุกข์ให้เขาเท่านั้น เมื่อถึงเวลา สักวันเจ้าของตัวจริงก็ต้องมาเอาคืน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่ทั้งคู่พัฒนาจากเจ้านายกับลูกน้องมาเป็นอย่างอื่นกัน เกือบทุกคืนที่ราเชนมานอนที่คอนโดน้อยครั้งที่เขากลับไปนอนบ้าน แต่ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่มาหาหญิงสาวเพราะหัวใจมันเรียกร้องอยากกอดทุกวัน แพทไปถอนเงินทุกครั้ง เธอก็ไม่เคยเห็นเงินเธอลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น หญิงสาวรู้อยู่แก่ใจว่าราเชน คงเอาข้อมูลเลขบัญชีจากฝ่ายบุคคคลและโอนเงินให้เธออยู่เรื่อยๆ เงินที่ได้มาหญิงสาวส่งไปบ้านเพื่อเป็นค่ารักษาพ่อและซ่อมแซมบ้าน น้องสาวส่งภาพมาให้ดูตอนนี้บ้านของเธอดูดีและน่าอยู่มาก น้องคนกลางก็
ตอนที่7คำสั่งของบิดา ราเชนขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับไปเพื่ออะไร และก็ไม่คิดว่ากลับไปจะเจอใครด้วยซ้ำ “เอ้า! วันนี้ไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนเหรอ” ราเชนแปลกใจที่เห็นนิศานอนกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนเตียงนอน ในชุดนอนแทนชุดเที่ยวกลางคืน “ก็พ่อเชนเพิ่งจะกลับไปบ้านไม่ถึงชั่วโมง ท่านมาขอให้นิศาอยู่บ้านบ้าง ไม่รู้ว่าใครไปฟ้องอะไร” ปากก็เล่า แต่มือก็ยังพิมพ์โทรศัพท์อยู่ไม่เลิก แสดงถึงความไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่กำลังพูด “ท่านคงอยากให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง” ราเชนเข้าใจในสิ่งที่บิดาเขาทำ ชีวิตของเขากับนิศาหลังแต่งงาน ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนคนรักกันเลย เพราะความจริงแล้ว การแต่งงานก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักแต่มันเกิดขึ้นจากผลประโยชน์ของผู้ใหญ่มากกว่า พ่อของนิศาเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการค้า จึงสามารถช่วยหาตลาดให้โรงงานของราเชนได้ตลอด ส่วนพ่อของราเชน ก็เป็นตระกูลเก่านักการเมืองท้องถิ่น ช่วยคุ้มครองการทำธุรกิจที่ไม่ค่อยจะถูกต้องของครอบครัวนิศาได้ ทั้งสองครอบครัวจึงมองเห็นประโยชน์ร่วมกัน นิศาและราเชนก