มุมมองของผู้เขียนพวกเขาอยู่ในห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของ ในขณะที่เดซี่นั่งอยู่ที่ระเบียงเหมือนเคย วาดรูปหัวใจของเธอลงในไดอารี่ เธออยู่บ้ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเป็นเวลานานแล้ว แต่อเล็กซ์ไม่เคยชวนให้เธอออกไปไหนด้วยกันเลยแม้แต่ครั้งเดียวอเล็กซ์จับมือซาช่าแน่นราวกับเธอยังเด็กและจะวิ่งหนีไปถ้าเขาปล่อยมือ พวกเขาหัวเราะอย่างสนุกสนานและรู้สึกเหมือนวันเก่าๆ กลับมา“ฉันต้องการซื้อของใช้ส่วนตัว คุณไปรอฉันที่โรงอาหารเถอะ” ซาช่า อุทาน ผละมือออกจาก อเล็กซ์ แต่เขาจับมือเธออีกครั้งทันทีและตอบว่า “ทำไมล่ะ? ฉันก็เดินไปกับคุณได้”“อเล็กซ์ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? ฉันแค่ต้องการซื้อของส่วนตัวบางอย่าง” เธอขมวดคิ้วไปทางร้านขายชุดชั้นในทางซ้ายของเธอหูของอเล็กซ์กลายเป็นสีแดงเมื่อเขาเกาที่สันจมูก พยายามหาวิธีที่จะมองเธอเธอสะบัดมือของเขาและพูดว่า “ฉันจะไม่ใช้เวลานานนัก”“ฉันจะรอคุณที่นี่ โปรดรีบกลับมาเร็วๆ นะ”เขารออย่างอดทนเพื่อให้ซาช่าซื้อของให้เสร็จแต่เขาก็หยุดกังวลไม่ได้เขาโทรตามซาช่าเป็นครั้งที่สิบ “เสร็จรึยัง”“ว้าว! เพื่อน คุณจะโทรหาฉันเป็นสิบครั้งในสิบนาทีแบบนี้ไม่ได้ หากคุณยังรบกวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้ ฉั
มุมมองของอเล็กซ์ฉันกลับบ้านทันทีเมื่ออ่านข้อความของเดซี่ที่บอกว่าเธอกำลังจะออกไปซื้อของกับเพื่อนๆ เธอทิ้งซาช่าไว้ตามลำพัง ฉันเปิดประตู เรียกเธอดังๆ แต่ไม่เห็นเธอเลย.. ฉันมองหาเธอในห้องครัว ระเบียง และแม้แต่ห้องของเธอ แต่ไม่เห็นเธอ ความตื่นตระหนกเพิ่มขึ้นในเลือดของฉันขณะที่ฉันเปิดประตูห้องของเดซี่ และพบว่ามันว่างเปล่า ฉันเอามือขยี้ผม กระทืบเท้า ฉันโทรหาเธอแต่โทรศัพท์ของเธอวางอยู่บนโซฟา ฉันกำลังจะรีบออกจากบ้านและตามหาเธอ เมื่อฉันเห็นประตูห้องของฉันเปิดออกเล็กน้อย ฉันมีนิสัยชอบปิดห้อง ด้วยความหวังว่าจะพบเธอ ฉันจึงผลักประตูที่แง้มอยู่ออกไป ข้างหน้ามีร่างๆ หนึ่งนอนอยู่บนเตียงของฉัน ฉันเข้าไปใกล้เธอขณะที่เธอกรนเบาๆ เส้นผมของเธอปรกลงบนใบหน้าของเธอ เธอมีรอยยิ้มเล็กๆ ติดอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ เธอดูเงียบสงบ แสงแดดกระทบใบหน้า ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส เธอมีแจ็กเก็ตสีดำของฉันอยู่ในมือ ซึ่งเธอกุมแนบชิดบนหน้าอก รอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝีปากของฉันและฉันอดไม่ได้ที่จะเอนตัวไปข้างหน้าและจูบหน้าผากของเธอ ฉันห่มตัวเธอด้วยผ้านวมก่อนจะปิดผ้าม่าน ฉันทรุดตัวลงบนโซฟาโดยเอามือซุกคอทอดสายตามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทันใดนั้น
มุมมองของซาช่า“อเล็กซ์ พอกับเรื่องระแวงได้แล้ว” เดซี่ทำหน้าบึ้ง “ฉันสงสัยมากเลย”อเล็กซ์หัวเราะเมื่อเขามองมาที่ฉันและยิ้ม “ฉันแน่ใจว่าคุณจะต้องชอบมัน”ฉันแสร้งยิ้มให้เธอ ละสายตาออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อวานตอนทานอาหารเย็น อเล็กซ์ประกาศให้พวกเราเก็บกระเป๋าเพราะเราจะไปพักผ่อนในตอนเช้า ฉันสงสัยว่าทำไมเขาถึงพาฉันไปด้วย เขาจ้างฉันเพื่อให้ฉันทำงานแทนเขา แต่เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน สิ่งที่ฉันทำคือนั่งกินข้าวอยู่ในบ้านของเขา ส่วนหนึ่งของฉันบอกว่าเขาไม่ได้พาฉันไปที่ทำงาน มันเป็นอย่างอื่น แต่ฉันไม่สามารถวางใจได้ฉันมองดูเขาขณะที่เขาหมกมุ่นอยู่กับการขับรถ ตามปกติเขาขับรถด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะที่อีกมือหนึ่งวางอยู่บนตักของเขา ถ้าชีวิตเป็นเหมือนเมื่อก่อน มืออีกข้างของเขาคงจับมือฉันไว้ ฉันคิดถึงมือเขา แต่ฉันมีสิทธิ์ที่จะอยู่กับเขาไหม ฉันควรจะนั่งเบาะหลังในขณะที่คู่หมั้นของเขาควรจะนั่งกับเขาในที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า*ย้อนหลัง*อเล็กซ์วางกระเป๋าไว้ที่ฝากระโปรงหน้าเมื่อฉันกับเดซี่เดินออกไป เดซี่เปิดประตูผู้โดยสารด้านหน้า อเล็กซ์เอ่ย "เดซี่ ช่วยผมหน่อยได้ไหม"“ค่ะ” เธอพยักหน้าพร้อมจับที่จับประตู“อันที่จริง
ตอนที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัย ฉันได้รับโทรศัพท์จากแม่ แม่บอกฉันว่าพ่อประสบอุบัติเหตุ ในปีนั้น ทุ่งนาไม่ได้ให้ผลกำไรที่ดีสำหรับเรา พ่อค่อนข้างเครียด และเมื่อเขาได้ยินว่ามีรับสมัครคนงานซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ไมล์จากบ้านเรา มีการรับจ้างคนงานมาทำงานที่ไซต์ก่อสร้าง เขาไปลองดูทันที และได้งานที่นั่น แต่ในเวลาเพียงสามวัน เขาตกจากที่สูง ฉันรีบกลับไปที่หมู่บ้านเพื่อไปพบเขาที่โรงพยาบาล สะโพกของเขาหักและทำให้เข่าของพ่อก็เจ็บจากแรงกระแทก หมอบอกว่าต้องเปลี่ยนข้อสะโพกและข้อเข่า แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับการผ่าตัดนั้นสูงเกินไป เรานำเงินออมทั้งหมดที่มีออกมาใช้ รวมทั้งขายบ้านของเราและย้ายมาอยู่ในกระท่อมเล็กๆ หลังนี้ แต่ก็รวบรวมได้เพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอสำหรับจ่ายค่ารักษาพยาบาลปัจจุบัน หมอให้เวลาเราอย่างน้อยห้าปีในการผ่าตัด แต่ถ้าการผ่าตัดล่าช้ากว่าห้าปี โอกาสที่เขาจะเดินอีกครั้งจะลดลงอย่างมาก เราได้รับเงินกู้จากญาติของเราที่ช่วยให้เราอยู่รอด แม่ของฉันเริ่มทำงานในทุ่งนาเพียงลำพังและดูแลพ่อของฉันซึ่งไม่สามารถขยับตัวบนเตียงได้ด้วยตัวเขาเอง ระหว่างที่ฉันลาออกจากการศึกษาและเข้าเมืองเพื่อหางานประจำให้ตัวเอง เจ็ดปีผ่านไป
มุมมองของซาช่า ขณะที่นั่งอยู่บนทุ่งหญ้าเขียวขจีมองดูสีสันที่สาดส่องบนท้องฟ้า เรากำลังรอให้ดวงอาทิตย์จมลงในแม่น้ำ เสียสละตัวเองเพื่อให้มองเห็นแสงจากดวงจันทร์และดวงดาวกระจัดกระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า“มันวิเศษเหลือเกิน” ฉันกระซิบ เหมือนภาพวาดที่ถูกแรเงาบนผืนผ้าใบที่เรียกว่าท้องฟ้า สูดหายใจกับมวลอากาศบริสุทธิ์ ฉันลุกยืนขึ้นอยู่บนยอดเขา กางแขนออกสู่ท้องฟ้า มันเงียบสงบ จนฉันรู้สึกคลายกังวลในการหายใจแต่ละครั้ง เรื่องราวหนักใจทั้งความรักและภาระที่มีถูกยกออก ฉันรู้สึกสงบ ฉันรู้สึกมีความสุขและที่สำคัญที่สุด ฉันรู้สึกอยากมีชีวิตอยู่...อยู่กับเขา! ฉันรู้ว่ามันผิด แต่ฉันก็ตกหลุมพรางนี้อีกครั้ง และบางทีเขาอาจจะเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น เพื่อที่ฉันจะได้สารภาพความรู้สึกที่มีต่อเขา และสนองอัตตาของเขา แต่ฉันไม่สามารถต้านทานการดึงดูดจากเขาได้เลย ฉันถูกดึงเข้าหาเขาเหมือนแม่เหล็ก และเขาคือสิ่งเดียวที่สามารถรักษาฉันได้ ฉันไม่สนใจว่าฉันควรทำอย่างไรและโลกต้องการให้ฉันทำอะไร ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือการฟังหัวใจของฉันและทำในสิ่งที่ฉันต้องการมือของเขาคลึงรอบเอวของฉันขณะที่ฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นของป่าและลาเวนเดอร์ที่เล็ด
มุมมองของเดซี่ฉันเห็นพวกเขาเต้นด้วยกัน เห็นเขามองหน้ากันราวกับเป็นคู่รักแห่งยุค ทุกคนเรียกพวกเขาว่าเป็นคู่รักที่ดีที่สุด ทุกคนคิดว่าพวกเขาถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน ฉันเห็นซาช่าเข้ามาแทนที่ฉันไม่ทำฉากไม่ได้แปลว่ามองไม่เห็นสำหรับโลกที่อเล็กซ์เป็นคู่หมั้นของฉัน แต่ความจริงก็คือ ฉันไม่ใช่คนที่เขาต้องการ ฉันเห็นว่าเขามองเธออย่างไรในคืนวันเสาร์ ฉันเห็นว่าเขาหึงแค่ไหนเมื่อผู้ชายคนนั้นแตะตัวเธอในคลับ ฉันเห็นวิธีที่เขาช่วยเธอในคืนวันเสาร์ ฉันได้เห็นทุกอย่างแล้ว และฉันก็ไม่พลาดเห็นความกลัวในสายตาของเขาเมื่อเห็นเธอเสียขวัญ และฉันไม่ได้พลาดวิธีที่เขาเปลี่ยนเพื่อเธอ ฉันรู้เกี่ยวกับห้องที่เขาเก็บไว้ให้เธอ และฉันก็เห็นว่าเขาเก็บความทรงจำของเธอไว้อย่างไร ฉันเห็นเขากอดเธอที่จุดสูงสุดในวันนี้ และฉันเห็นเขาถูกสะกดจิตภายใต้มนต์สะกดของแม่มดคนนี้ จิตใต้สำนึกของฉันบอกว่าเขากำลังลื่นไถลไปจากมือของฉันไม่! ฉันไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ฉันไม่สามารถปล่อยให้ความพยายามของฉันสูญเปล่าได้ ฉันทำงานหนักแค่ไหนเพื่อให้ได้เค้ามา ฉันจะปล่อยเขาไปง่ายๆ ได้อย่างไร ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง. ถ้าฉันสูญเสียอเล็กซ์ ฉันจะส
มุมมองของซาช่า ดวงตาของฉันกวาดมองไปรอบๆ สวรรค์ ฉันเพิ่งก้าวเข้ามา ทุ่งดอกไม้ที่สวยงามทอดยาวสองข้างทาง ด้านซ้ายมีโดมของสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะพบสัตว์เหล่านั้น ฉันรักสัตว์ ระหว่างทางเดินท่ามกลางสีสันต่างๆ ก็มีสิ่งปลูกสร้างสีขาวที่สวยงามตระการตาอยู่ตรงหน้า มันเหมือนวังของเจ้าหญิงฉันหมกมุ่นอยู่กับความงามของสถานที่นี้ จนไม่ได้สังเกตว่ามือของเขาโอบอยู่กับฉัน“ดูสิใครมา!” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นขณะที่มีกลุ่มคนวิ่งเข้ามาหาเรา“นายน้อยมาแล้ว!” หญิงสาวร้องเสียงแหลมพนักงานต่างกระโดดด้วยความดีใจฉันสังเกตเห็นความหรูหราในชุดแต่งตัว เสื้อเชิ้ตสีขาวมุกและกระโปรงสีดำสำหรับผู้หญิง ในขณะที่กางเกงสีดำสำหรับผู้ชาย ผู้หญิงแต่ละคนผูกผมเป็นมวยเรียบร้อยสวมรองเท้าสีดำ ในขณะที่ผู้ชายสวมรองเท้าทางการสีดำเช่นกัน สำหรับฉันมันเป็นทางการเกินไปสำหรับผู้ดูแลบ้าน ฉันมองลงไปที่เสื้อกล้ามสีดำของฉันและรู้สึกแย่ขึ้นมาทันที“มาดามโรเซ่มาแล้ว”คนงานเริ่มตั้งแถวต้อนรับอย่างเป็นระบบตาฉันจดจ่อกับเสียงส้นเท้ากระทบกันสวมรองเท้าหนังส้นสูง กระโปรงทรงดินสอสีดำ และหนังสีเทา เธอสวมต่างหูมุก สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และนาฬิกา
มุมมองของอเล็กซ์“ อเล็กซ์! ที่ลูกช่วยพ่อของเธอ แม่รู้สึกภูมิใจในตัวคุณมาก แต่ทำไมลูกต้องให้เธออยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาด้วยล่ะ” แม่เข้ามานั่งที่เตียงและคุยกับผมในห้องนอน“แม่ครับ ผมจ่ายค่ารักษาให้พ่อของเธอ และเธอมองว่าเป็นหนี้ไม่ใช่การช่วยเหลือเพื่อการกุศลแต่อย่างใด” ผมอธิบายต่อ "เธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่จะรับการกุศล เธอเป็นผู้หญิงที่เคารพตัวเอง"“ลูกเอ๋ย! แม่ไม่ชอบเธอเลยหรือแม่แต่เดซี่ก็ดูไม่ชอบเธอเช่นกัน ได้โปรดกำจัดเธอออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เถอะ”“แม่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเห็นแก่แม่ ผมถึงได้ตกลงหมั้นกับเดซี่ แต่..”“แต่ อะไรอเล็กซ์!”ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่และสารภาพว่า "ผมไม่เคยมีความสุขกับเดซี่ ผมไม่คิดว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือกับเธอได้"แม่กระโดดลงจากเตียงด้วยความโมโห และอ้าปากค้างในสิ่งที่ผมพูดออกไป “แกกล้าคิดอย่างนั้นเหรออเล็กซ์! แกก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์นี้สำคัญต่อครอบครัวของเรามากเพียงใด แม่ขอร้องแกล่ะ อย่าทำลายทุกสิ่งที่สร้างขึ้นมานี้เลย”“ทุกอย่างจะพังทลายถ้าผมตองแต่งงานกับเธอ!” ผมโวยวายก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปผมกระแทกประตูปิดอย่างแรง จนรู้สึกเจ็บที่ข้อนิ้ว แต่มันเป็นความเจ็บ