ชารัณ เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มและดูน่าเกรงขาม แถมเจ้าตัวยังมีรูปงามตรงตามสเปคในแบบที่หญิงสาวทั้งหลายเฝ้าไฝ่ฝัน
เจ้าของร่างใหญ่ไม่ใช่ลุงพุงพลุ้ยหัวล้าน รูปร่างเตี้ยล่ำอย่างที่ขวัญยิหวาคาดเดานั่นเลยสักนิด หากดูไม่ผิดอายุของเขาน่าจะยังไม่เกินสามสิบปี และที่สำคัญกว่านั้นในความหล่อนั่นมันยังดูดุดันอยู่ในที
เขาจ้องมองขวัญยิหวาด้วยนัยน์ตาที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ แต่สายตาของเขามันทำให้คนถูกมอง ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะเจ้าของร่างใหญ่เอาแต่มองสบตากับอีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมละสายตา แล้วเมื่อกุลธิดาเห็นอย่างนั้นเธอถึงกับอุทานออกมาทันที
“อุ้ยดูสิ คุณชารัณคงจะถูกใจกับสินค้าของธิดามากเลยใช่ไหมคะ ธิดาขอรับประกันเลยค่ะว่า ขวัญยิหวาคือของใหม่แกะกล่อง ที่ยังไม่เคยผ่านมือของใครมาทั้งนั้น”
ขวัญยิหวาถึงกับหน้าม้าน เมื่อได้ยินกุลธิดาพูดถึงเธอราวกับว่า เธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชารัณก็ไม่ได้สนใจฟังคำสาธยายของคนเป็นนายหน้า เพราะสายตาของเขามัวแต่จับจ้องมองอีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง
ถึงแม้ขวัญยิหวาจะมีอาการตื่นกลัวเขาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็ยังสามารถควบคุมสติของตัวเองได้ดี
“หมดธุระของเธอแล้ว เพราะงั้นออกไปได้!”
ชารัณออกคำสั่งกับกุลธิดาด้วยน้ำเสียงห้วนดัง ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งร่างอย่างรู้สึกตกใจ เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มเป็นถึงเจ้าของธุรกิจมากมาย ที่มีทั้งขาวและดำอยู่ในกำมือ ซึ่งต้นตระกูลของเขาก็คือพวกของมาเฟียนั่นเอง
“ฉันสั่งให้ไสหัวออกไปไง!”
เขาย้ำคำ และทำตาแข็งใส่อีกฝ่าย ขณะที่น้ำเสียงก็เริ่มจะกระด้างขึ้นไปอีกเท่าตัว
“ให้ไปเดี๋ยวนี้เลยเหรอคะ?” กุลธิดาเอ่ยถามขณะทำท่าทางเลิ่กลั่ก เพราะคาดหวังเอาไว้ว่าเธอจะได้ค่าขนม หลังจากที่ส่งของให้เขาเสร็จเรียบร้อย
“เออสิวะ...ค่าขนมไม่มี มีแต่ลูกปืน!”
กุลธิดาทำหน้าตาตื่นกลัว ก่อนพาตัวเองก้าวเท้าวิ่งออกมาจากห้องนั้นทันที หลังจากที่ได้ฟังประโยคนั่นจบลง โดยปล่อยให้ขวัญยิหวายืนงง แต่ก็ยังคงทำใจสั่นสู้กับคนตรงหน้า ที่ทำท่าเดินวนไปวนมาอยู่เพียงลำพัง
และหลังจากที่เขาไล่กุลธิดาออกไปจากห้อง เจ้าของร่างใหญ่ก็เดินออกไปสูบบุหรี่ตรงระเบียงที่อยู่ทางด้านหลัง โดยไม่ได้สนใจหันมองคนที่ยังอยู่ในห้องด้วยกัน
ขวัญยิหวาจึงอาศัยจังหวะนั้นเดินมานั่งลงบนโซฟา และพยายามถามตัวเองอีกครั้งว่า หากต้องการเปลี่ยนใจเอาตอนนี้ เธอยังทำได้อยู่ใช่ไหม?
ได้...หรือ...ไม่ได้...ยังไงก็ต้องลองดู...
ไวเท่าความคิดเมื่ออยู่ ๆ ชารันก็เดินกลับเข้ามาด้านใน ชายหนุ่มทิ้งก้นลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน จากนั้นจึงเอ่ยถามหญิงสาวออกมาตามตรง
“ขวัญยิหวา...เธอซิงแน่เหรอ?”
“ห่ะ!?”
ชายหนุ่มตีสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่าย ทำหน้าคล้ายกับไม่เข้าใจในประโยคคำถามง่ายๆ ของเขา
“อย่าทำมาเป็นตลกหน่อยเลย ฉันยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนในยุคนี้ ที่ยังคงรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ได้ หึ...แต่ยายนั่นกลับกล้ามาการันตีให้ แถมยังเรียกเงินค่าตัวของตัวเธอไปจากฉันเสียตั้งเยอะแยะ หากกล้ามาย้อมแมวกันรู้ใช่ไหม ว่าฉันคงไม่เอาเธอทั้งสองคนไว้แน่”
ขวัญยิหวารู้สึกอับอาย เมื่อคุณค่าของความเป็นคนถูกตีราคาจนไม่เหลือดี เลือดรักศักดิ์ศรีจึงทำให้ขวัญยิหวารู้สึกโกรธขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ได้ฟังเขาว่าตัวเองอยู่ข้างเดียว
ยิ่งได้ยินว่ากุลธิดารับเงินค่าตัวของเธอไปเยอะกว่าที่คุยกัน มันก็ยิ่งทำให้หญิงสาวโกรธอีกคนจนลมออกหู
“ดูคุณเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างฉลาดและน่าจะช่ำชองพอตัว แล้วทำไมคุณถึงไม่ใช้หัวสมองคิดบ้าง ว่าเรื่องที่ฟังมามันคือเรื่องจริงหรือว่าย้อมแมว อีกอย่าง...หากคุณต้องการความมั่นใจ จะให้หมอตรวจฉันดูก่อนก็ได้นี่คะ”
“ไม่จำเป็น เพราะฉันมีวิธีที่จะพิสูจน์เองได้”
“ไม่ค่ะ...เพราะฉันเปลี่ยนใจไม่ทำ!...”
ว่าแล้วขวัญยิหวาก็เปิดกระเป๋าสะพาย แล้วล้วงหยิบเอาเงินที่ได้รับมาจากกุลธิดา ยื่นส่งคืนให้กับชารัณทันทีหลังจากที่พูดจบ
“นี่คือเงินสองหมื่นห้าครึ่งหนึ่งที่ฉันได้รับมาจากยายนั่น...ฉันคืนให้คุณเลยแล้วกัน ในส่วนที่เหลือคุณก็ไปตามเอาคืนจากยายนั่นเอง...ฉันไปละ”
แต่ก่อนที่ขวัญยิหวาจะทันได้ก้าวออกไปจากห้อง ร่างของเธอก็ถูกอีกคนช้อนอุ้มขึ้นพาดบ่า ราวกับว่าเธอไม่มีน้ำหนักตัว
“คุณจะทำอะไร? ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ทำ!”
“รับเงินไปแล้วนั่นถือว่าเธอคือของฉัน”
หญิงสาวโวยวายเสียงดังพลางเอากำปั้นทุบไปที่หลังของเขา ส่วนเจ้าของร่างใหญ่ก็ได้ฟาดฝ่ามือหนา ลงมาบนแก้มก้นของเธอหลายครั้ง อย่างที่ต้องการเอาคืน
ขวัญยิหวาพยายามดิ้นรนขัดขืนและต่อสู้ทุกวิถีทาง จนกระทั่งถูกอีกคนโยนร่างของเธอลงไปบนที่นอน ก่อนที่เขาจะตามลงมา
“กรี้ดดดด...อย่านะ!”
เสียงหวีดร้องอย่างตื่นกลัว เมื่อเห็นคนตัวใหญ่กว่าไม่มีทีท่าว่าจะหยุดให้ และยิ่งเสียขวัญจนแทบจะบ้าตาย เมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ของอีกฝ่าย รุกล้ำเข้ามาด้านในของกระโปรงตัวสั้น ก่อนจะขยำเข้าไปที่บั้นท้ายของเธอ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันบอกให้ปล่อยไง”
“อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้นได้ไหม หากเธอยอมให้ฉันพิสูจน์ฉันจะยอมจ่าย...”
“ไม่เอา!”
“ฉันยังพูดไม่จบ!”
“เท่าไหร่ก็ไม่เอา...ปล่อยฉันนะ!”
เมื่อถูกลงมืออย่างแข็งกร้าว กลายเป็นว่าทั้งเข่าและศอกของหญิงสาว ต่างประเคนเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมออมมือ แต่มีหรือที่เรี่ยวแรงของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างขวัญยิหวา จะสามารถต่อสู้กับผู้ชายที่มีตัวโตกว่าได้ เพราะในที่สุดแพนตี้สีหวาน ก็ถูกมือของอีกฝ่ายกระชากให้หลุดออกมาจากบั้นท้ายของเธอ
“กรี้ดดดด...ไอ้ชาติหมา!ไอ้หน้าตัวเมีย!”
ขวัญยิหวาทั้งกร่นด่าทั้งหวีดร้อง ด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น แต่ชารัณก็ไม่ยอมละเว้น เพราะเขาคิดว่าเธอเป็นสินค้า ที่เขามีสิทธิ์ตรวจทานเธอได้ในเบื้องต้น...
ยิ่งเธอดิ้นรนขัดขืน มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น!...
“อย่านะ! ช่วยด้วย! หยุดเดี๋ยวนี้!”
แคว่ก!
“กรี้ดดดดดดด”
!!!
!!
!
รถยนต์คันหรูค่อย ๆ วิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี ที่เป็นอาคารแบบโรมันร่วมสมัย ซึ่งถูกปลูกสร้างบนพื้นที่กว่าสามสิบไร่ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในใจกลางเมืองตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี มีความเฟื่องฟูและร่ำรวยมานาน ด้วยการทำธุรกิจสีขาวแต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็น่าจะเป็นสีเทาเสียมากกว่า แล้วที่ยืนยงและสามารถอยู่ท้าทายสายตา ของผู้คนได้จนถึงทุกวันนี้ เนื่องมาจากพวกเขามีเส้นสายอยู่มาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะถูกโค่นล้มให้จมลงง่ายๆเมื่อล้อกลมสีดำจอดสนิท ประตูรถที่ถูกปิดไว้ได้ถูกเปิดออกให้ ด้วยฝีมือของคนคุ้มกันที่อยู่ในชุดสูทสีเดียวกัน และทันทีที่ปลายเท้าของชารัณหย่อนลงถึงพื้น เสียงของลูกน้องที่ยืนอยู่ก็ดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง“ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้านาย”ชารัณเพียงแค่พยักหน้าให้เบาๆ ก่อนที่เขาจะเบี่ยงหน้าหันไปมองอีกคน ที่กำลังลงจากรถยนต์ตามกันออกมาขวัญยิหวาในสภาพที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคล่ง ซึ่งคลุมชุดกระโปรงของเธอที่ใส่เอาไว้จนเกือบจะถึงหัวเข่า และใบหน้าของหญิงสาวก็ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอางที่ผสมกับคราบของน้ำตาแล้วเมื่อลูกน้องทุกคนเห็นเจ้านายพาผู้หญิงก
ขวัญยิหวาทำให้ชารัณขาดความมั่นใจในเสน่ห์ของตนที่มีอย่างล้นเหลือ ถึงแม้เขาจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้เธอสักครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ยินยอมด้วยความที่อยากได้เธอมาครอบครอง เขาจึงต้องว่าจ้างให้หญิงสาวมาเป็นคนรักชั่วคราวของเขาในราคาสามล้าน พอเจ้าตัวได้ยินตัวเลขเท่านั้นดันตอบตกลงทันที แต่ก็ยังคงมีข้อแม้กลับมาให้อีกว่า...ขอรับจ้างงานนี้เป็นเวลาแค่หกเดือนเป็นคนรักกันแค่หกเดือนเพื่อแลกกับเงินสามล้านนี่นะ!สงสัยเจ้าตัวน่าจะอ่านนิยายน้ำเน่ามากเกินไป ถามว่าเขายอมไหม?ยอมสิถามได้...ในเมื่อเงินสามล้านนั่น ชารัณสามารถหาได้โดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีแต่ถึงอย่างนั้นชารัณก็ได้บอกให้เธอมาตกลงทำสัญญาด้วยกันที่บ้าน เพียงเพราะเขาต้องการจะแกล้งเธอเล่นเพราะเห็นว่ามันสนุกดี ที่สำคัญเขาถูกใจที่ได้เจอกับผู้หญิงมือหนึ่ง ถึงแม้ขวัญยิหวาจะเรียกราคาเขามากยิ่งกว่านี้ เขาก็ยินดีที่จะจ่ายให้เธอ“ฉันแค่อยากรู้ความจริงว่า ทำไมเธอถึงได้ตัดสินใจเอาตัวเข้าแลกกับเงินแบบนี้”ขวัญยิหวาทำท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ต้องยอมบอกเขาออกไปตามตรง“ชีวิตของฉันมีค่ามากมาย ไหนจะค่าเช่าหอ ไหนจะค่าเทอม แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ เพราะจู่ ๆ คนที่เ
ชารัณรู้สึกสนุกอีกทั้งยังชื่นชอบผู้หญิงตรงหน้า และเธอทำให้เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาในท่าทาง มิหนำซ้ำแววตานั่นมันก็ดูคล้ายกับใครบางคน“เรื่องเงินฉันไม่มีปัญหา ดูแค่ฉันจ่ายค่าตัวของเธอไปเมื่อคืนนั่นก็หลักแสนแล้วมั้ง แต่เรื่องนั้นเอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง และตอนนี้ฉันได้สั่งคนของฉัน ให้ไปจัดการกับยายแม่เล้าที่เอาเธอมาส่งให้ฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นหัวหมอ เพราะยังมาขอเก็บเงินในส่วนที่ฉันต้องการจ่ายให้เธอเอาเข้ากระเป๋าของตัวเองได้อย่างหน้าด้านๆ คนคดในข้องอในกระดูกแบบนั้นฉันละเกลียดที่สุด”ดวงตาของชารัณแข็งกร้าวดุดันตอนพูด ชวนให้ขวัญยิหวารู้สึกขนลุกซู่ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะลงมือทำอะไรกับกุลธิดา แต่ที่แน่ๆ หลังจากนี้ไปเธอคงต้องใช้สติและสมองของตนเพื่อไม่ให้เสียเปรียบผู้ชายคนนี้ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าของขวัญยิหวานั่นเอง“เมื่อเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน แล้วหลังจากที่เราต้องจากกันตามระยะเวลาที่กำหนด เธอไม่กลัวเหรอว่าถ้าต่อไปหากมีผู้ชายดีๆ เขารู้ประวัตินี้ของเธอ แล้วเขาเกิดรับไม่ได้เธอจะทำยังไง”“เรื่องนั้นฉันจะต้องสนทำไมละคะ ในเมื่อสังคมทุกวันนี้ผู้ชายส่วนใหญ่เขาไม่ได้ยึดติดกับผู้หญิงที่ซิงหร
“ว้าว!”ฉันสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!? ขวัญยิหวาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองเห็นภาพของตน สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ภาพสะท้อนของผู้หญิงในนั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ จากฝีมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหน้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแม่เล้า...ซึ่งมีหน้าที่คอยเสาะหาหญิงสาว เพื่อเอาไปบำเรอความใคร่ ให้กับบรรดาพวกผู้ชายทั้งหลายเหล่านั้นและแน่นอนว่าขวัญยิหวา ก็กำลังจะกลายเป็นเด็กไซด์ไลน์ในชั่วโมงถัดไป ด้วยความเต็มใจและยินดีโดยที่ไม่มีใครบังคับขวัญยิหวาถูกจับแต่งหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว และใส่เสื้อสายเดี่ยวที่ผูกเกี่ยวกันไว้ที่หลังคอ พอๆ กับกระโปรงสั้นที่ใส่แนบไปกับเรือนร่าง ซึ่งรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างลงตัวขวัญยิหวาเป็นนักศึกษาเรียนดี ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยทำให้คนเป็นอาจารย์ หรือเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องของเธอต้องผิดหวัง เพราะด้วยมันสมองและความตั้งใจบวกกับความขยัน มันจึงทำให้หญิงสาวกลายเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของสถาบันแต่มันก็แค่นั้นเอง...เรียนดีเรียนเก่งแล้วเป็นยังไง...เพราะเมื่อสุดท้ายหากเธอมีเงินไม่มากพอ มันก็ทำให้ไปต่อ
ชารัณรู้สึกสนุกอีกทั้งยังชื่นชอบผู้หญิงตรงหน้า และเธอทำให้เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาในท่าทาง มิหนำซ้ำแววตานั่นมันก็ดูคล้ายกับใครบางคน“เรื่องเงินฉันไม่มีปัญหา ดูแค่ฉันจ่ายค่าตัวของเธอไปเมื่อคืนนั่นก็หลักแสนแล้วมั้ง แต่เรื่องนั้นเอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง และตอนนี้ฉันได้สั่งคนของฉัน ให้ไปจัดการกับยายแม่เล้าที่เอาเธอมาส่งให้ฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นหัวหมอ เพราะยังมาขอเก็บเงินในส่วนที่ฉันต้องการจ่ายให้เธอเอาเข้ากระเป๋าของตัวเองได้อย่างหน้าด้านๆ คนคดในข้องอในกระดูกแบบนั้นฉันละเกลียดที่สุด”ดวงตาของชารัณแข็งกร้าวดุดันตอนพูด ชวนให้ขวัญยิหวารู้สึกขนลุกซู่ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะลงมือทำอะไรกับกุลธิดา แต่ที่แน่ๆ หลังจากนี้ไปเธอคงต้องใช้สติและสมองของตนเพื่อไม่ให้เสียเปรียบผู้ชายคนนี้ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าของขวัญยิหวานั่นเอง“เมื่อเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน แล้วหลังจากที่เราต้องจากกันตามระยะเวลาที่กำหนด เธอไม่กลัวเหรอว่าถ้าต่อไปหากมีผู้ชายดีๆ เขารู้ประวัตินี้ของเธอ แล้วเขาเกิดรับไม่ได้เธอจะทำยังไง”“เรื่องนั้นฉันจะต้องสนทำไมละคะ ในเมื่อสังคมทุกวันนี้ผู้ชายส่วนใหญ่เขาไม่ได้ยึดติดกับผู้หญิงที่ซิงหร
ขวัญยิหวาทำให้ชารัณขาดความมั่นใจในเสน่ห์ของตนที่มีอย่างล้นเหลือ ถึงแม้เขาจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้เธอสักครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ยินยอมด้วยความที่อยากได้เธอมาครอบครอง เขาจึงต้องว่าจ้างให้หญิงสาวมาเป็นคนรักชั่วคราวของเขาในราคาสามล้าน พอเจ้าตัวได้ยินตัวเลขเท่านั้นดันตอบตกลงทันที แต่ก็ยังคงมีข้อแม้กลับมาให้อีกว่า...ขอรับจ้างงานนี้เป็นเวลาแค่หกเดือนเป็นคนรักกันแค่หกเดือนเพื่อแลกกับเงินสามล้านนี่นะ!สงสัยเจ้าตัวน่าจะอ่านนิยายน้ำเน่ามากเกินไป ถามว่าเขายอมไหม?ยอมสิถามได้...ในเมื่อเงินสามล้านนั่น ชารัณสามารถหาได้โดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีแต่ถึงอย่างนั้นชารัณก็ได้บอกให้เธอมาตกลงทำสัญญาด้วยกันที่บ้าน เพียงเพราะเขาต้องการจะแกล้งเธอเล่นเพราะเห็นว่ามันสนุกดี ที่สำคัญเขาถูกใจที่ได้เจอกับผู้หญิงมือหนึ่ง ถึงแม้ขวัญยิหวาจะเรียกราคาเขามากยิ่งกว่านี้ เขาก็ยินดีที่จะจ่ายให้เธอ“ฉันแค่อยากรู้ความจริงว่า ทำไมเธอถึงได้ตัดสินใจเอาตัวเข้าแลกกับเงินแบบนี้”ขวัญยิหวาทำท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ต้องยอมบอกเขาออกไปตามตรง“ชีวิตของฉันมีค่ามากมาย ไหนจะค่าเช่าหอ ไหนจะค่าเทอม แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ เพราะจู่ ๆ คนที่เ
รถยนต์คันหรูค่อย ๆ วิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี ที่เป็นอาคารแบบโรมันร่วมสมัย ซึ่งถูกปลูกสร้างบนพื้นที่กว่าสามสิบไร่ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในใจกลางเมืองตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี มีความเฟื่องฟูและร่ำรวยมานาน ด้วยการทำธุรกิจสีขาวแต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็น่าจะเป็นสีเทาเสียมากกว่า แล้วที่ยืนยงและสามารถอยู่ท้าทายสายตา ของผู้คนได้จนถึงทุกวันนี้ เนื่องมาจากพวกเขามีเส้นสายอยู่มาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะถูกโค่นล้มให้จมลงง่ายๆเมื่อล้อกลมสีดำจอดสนิท ประตูรถที่ถูกปิดไว้ได้ถูกเปิดออกให้ ด้วยฝีมือของคนคุ้มกันที่อยู่ในชุดสูทสีเดียวกัน และทันทีที่ปลายเท้าของชารัณหย่อนลงถึงพื้น เสียงของลูกน้องที่ยืนอยู่ก็ดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง“ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้านาย”ชารัณเพียงแค่พยักหน้าให้เบาๆ ก่อนที่เขาจะเบี่ยงหน้าหันไปมองอีกคน ที่กำลังลงจากรถยนต์ตามกันออกมาขวัญยิหวาในสภาพที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคล่ง ซึ่งคลุมชุดกระโปรงของเธอที่ใส่เอาไว้จนเกือบจะถึงหัวเข่า และใบหน้าของหญิงสาวก็ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอางที่ผสมกับคราบของน้ำตาแล้วเมื่อลูกน้องทุกคนเห็นเจ้านายพาผู้หญิงก
ชารัณ เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มและดูน่าเกรงขาม แถมเจ้าตัวยังมีรูปงามตรงตามสเปคในแบบที่หญิงสาวทั้งหลายเฝ้าไฝ่ฝันเจ้าของร่างใหญ่ไม่ใช่ลุงพุงพลุ้ยหัวล้าน รูปร่างเตี้ยล่ำอย่างที่ขวัญยิหวาคาดเดานั่นเลยสักนิด หากดูไม่ผิดอายุของเขาน่าจะยังไม่เกินสามสิบปี และที่สำคัญกว่านั้นในความหล่อนั่นมันยังดูดุดันอยู่ในที เขาจ้องมองขวัญยิหวาด้วยนัยน์ตาที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ แต่สายตาของเขามันทำให้คนถูกมอง ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะเจ้าของร่างใหญ่เอาแต่มองสบตากับอีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมละสายตา แล้วเมื่อกุลธิดาเห็นอย่างนั้นเธอถึงกับอุทานออกมาทันที“อุ้ยดูสิ คุณชารัณคงจะถูกใจกับสินค้าของธิดามากเลยใช่ไหมคะ ธิดาขอรับประกันเลยค่ะว่า ขวัญยิหวาคือของใหม่แกะกล่อง ที่ยังไม่เคยผ่านมือของใครมาทั้งนั้น”ขวัญยิหวาถึงกับหน้าม้าน เมื่อได้ยินกุลธิดาพูดถึงเธอราวกับว่า เธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชารัณก็ไม่ได้สนใจฟังคำสาธยายของคนเป็นนายหน้า เพราะสายตาของเขามัวแต่จับจ้องมองอีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังถึงแม้ขวัญยิหวาจะมีอาการตื่นกลัวเขาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็ยังสามารถควบคุมสติของตัวเองได้ดี “หม
“ว้าว!”ฉันสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!? ขวัญยิหวาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองเห็นภาพของตน สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ภาพสะท้อนของผู้หญิงในนั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ จากฝีมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหน้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแม่เล้า...ซึ่งมีหน้าที่คอยเสาะหาหญิงสาว เพื่อเอาไปบำเรอความใคร่ ให้กับบรรดาพวกผู้ชายทั้งหลายเหล่านั้นและแน่นอนว่าขวัญยิหวา ก็กำลังจะกลายเป็นเด็กไซด์ไลน์ในชั่วโมงถัดไป ด้วยความเต็มใจและยินดีโดยที่ไม่มีใครบังคับขวัญยิหวาถูกจับแต่งหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว และใส่เสื้อสายเดี่ยวที่ผูกเกี่ยวกันไว้ที่หลังคอ พอๆ กับกระโปรงสั้นที่ใส่แนบไปกับเรือนร่าง ซึ่งรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างลงตัวขวัญยิหวาเป็นนักศึกษาเรียนดี ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยทำให้คนเป็นอาจารย์ หรือเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องของเธอต้องผิดหวัง เพราะด้วยมันสมองและความตั้งใจบวกกับความขยัน มันจึงทำให้หญิงสาวกลายเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของสถาบันแต่มันก็แค่นั้นเอง...เรียนดีเรียนเก่งแล้วเป็นยังไง...เพราะเมื่อสุดท้ายหากเธอมีเงินไม่มากพอ มันก็ทำให้ไปต่อ