รถยนต์คันหรูค่อย ๆ วิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี ที่เป็นอาคารแบบโรมันร่วมสมัย ซึ่งถูกปลูกสร้างบนพื้นที่กว่าสามสิบไร่ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในใจกลางเมือง
ตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี มีความเฟื่องฟูและร่ำรวยมานาน ด้วยการทำธุรกิจสีขาวแต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็น่าจะเป็นสีเทาเสียมากกว่า แล้วที่ยืนยงและสามารถอยู่ท้าทายสายตา ของผู้คนได้จนถึงทุกวันนี้ เนื่องมาจากพวกเขามีเส้นสายอยู่มาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะถูกโค่นล้มให้จมลงง่ายๆ
เมื่อล้อกลมสีดำจอดสนิท ประตูรถที่ถูกปิดไว้ได้ถูกเปิดออกให้ ด้วยฝีมือของคนคุ้มกันที่อยู่ในชุดสูทสีเดียวกัน และทันทีที่ปลายเท้าของชารัณหย่อนลงถึงพื้น เสียงของลูกน้องที่ยืนอยู่ก็ดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
“ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้านาย”
ชารัณเพียงแค่พยักหน้าให้เบาๆ ก่อนที่เขาจะเบี่ยงหน้าหันไปมองอีกคน ที่กำลังลงจากรถยนต์ตามกันออกมา
ขวัญยิหวาในสภาพที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคล่ง ซึ่งคลุมชุดกระโปรงของเธอที่ใส่เอาไว้จนเกือบจะถึงหัวเข่า และใบหน้าของหญิงสาวก็ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอางที่ผสมกับคราบของน้ำตา
แล้วเมื่อลูกน้องทุกคนเห็นเจ้านายพาผู้หญิงกลับเข้ามาในบ้าน ก็รู้สึกตื่นตะลึงไปตามๆ กัน
“จากนี้ไป ทุกคนจะต้องให้ความเคารพคุณขวัญยิหวา ในฐานะนายหญิงของบ้าน ถ้าฉันไม่อนุญาตใครก็ห้ามเข้าใกล้ หรือแม้แต่จะพูดคุยด้วยก็ไม่ได้ทั้งนั้น เข้าใจตรงกันนะ”
“ครับ...รับทราบ”
น้ำเสียงห้วนดังที่ฟังแล้วเปี่ยมไปด้วยพลังของชารัณ ทำเอาขวัญยิหวาที่เดินตามหลังยังอดรู้สึกหมั่นไส้เขาไม่ได้
นอกจากจะไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ แล้วยังไม่ให้ใครพูดกับเธอด้วยเนี่ยนะ...
ชารัณทำราวกับว่าขวัญยิหวาได้กลายเป็นนางห้าม แล้วเธอก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้น เพราะหญิงสาวได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ขัดขืนชารัณจนถึงวินาทีสุดท้าย มันจึงทำให้เธอรู้สึกเจ็บระบมไปทั่วทั้งร่างกาย
และในเวลานี้ขวัญยิหวา ก็ยังไม่มีเรี่ยวแรงกระทั่งจะก้าวเท้าขึ้นบนบันได เพื่อตามหลังอีกคนที่เดินนำหน้าเธอขึ้นไปก่อน
“อ๊ะ!ระวังครับ ”
ขวัญยิหวาหันขวับกลับไปมองลูกน้องของชารัณที่เดินตามหลัง และกำลังทำท่าพุ่งตัวเข้ามาหา แต่ก็ไม่ทันคนเป็นเจ้านายที่หันมาคว้าร่างของเธอเอาไว้ได้ แล้วช้อนอุ้มหญิงสาวขึ้นไปชั้นบนด้วยกันในตอนนั้นเลย
“ขอบคุณ...โอ๊ย!”
ขวัญยิหวาเอ่ยคำว่าขอบคุณอย่างเสียไม่ได้ ในตอนที่ถูกอีกคนโยนร่างของเธอลงมาบนโซฟาตัวหนานุ่ม แต่ถึงมันจะนุ่มมากแค่ไหน ก็ยังทำให้เธอรู้สึกเจ็บระบมไปทั้งตัวอยู่ดี เมื่อชารัณเห็นอย่างนั้นเขาจึงหันไปหาลูกน้อง ที่เดินตามหลังกันเข้ามาในห้องพร้อมกับออกคำสั่ง
“ธันวา”
“ครับเจ้านาย”
“แกไปบอกแม่บ้านให้เตรียมยาแก้อักเสบช้ำ และคลายกล้ามเนื้อมาให้ฉันที แล้วถ้าฉันไม่ได้เรียกแกอย่าให้ใครเข้ามาขัดจังหวะ ในตอนที่ฉันกำลังทำธุระอยู่”
“รับทราบครับ”
ธันวาหมุนตัวเดินออกจากห้องตามคำสั่งของคนเป็นนาย ภายใต้ใบหน้าที่ดูเรียบเฉยนั่น ไม่ได้มีแววดุดันเหมือนกับคนเป็นนาย แต่ถ้าลองสังเกตุดูให้ดี ก็น่าจะให้ความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน
ก่อนออกจากห้องลูกน้องของชารัณ ยังหันมายิ้มให้กับหญิงสาว ก่อนที่เขาจะเดินออกไป
ตอนนี้สถานภาพของชารัณมันทำให้ขวัญยิหวาเข้าใจดีว่า ผู้ชายตรงหน้าไม่ใช่บุคคลที่มีฐานะธรรมดาทั่วไป แต่ชายหนุ่มเป็นถึงมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพล ที่ใครๆ หลายคนต่างก็รู้จักกันดีแต่ยกเว้นเธอคนเดียวนี่แหละ
นึกย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน ในตอนที่เขารู้ว่า…ขวัญยิหวายังไม่เคยถูกใครทะลวงฟันเข้าไปด้านใน ข้อตกลงระหว่างกันจึงได้เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น เพียงแต่มันยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ชารัณจึงเสนอให้ขวัญยิหวามาตกลงทำสัญญากันที่บ้านของเขาอีกที
เมื่อประตูห้องนั่งเล่นถูกปิดลง และคงเหลือแค่ชารัณกับขวัญยิหวาที่นั่งประจันหน้ากันบนโซฟาคนละฝั่ง ด้วยความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะเขาไม่อยากจะอยู่ใกล้เธอมากนัก เนื่องจากกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ ก็ใครใช้ให้สวยไปทั้งเนื้อทั้งตัวถึงขนาดนั้นกันวะ
สายตาของชารัณทำให้ขวัญยิหวารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ตอนที่ได้เห็นสีหน้าและท่าทางของเขาแสดงความหงุดหงิดออกมา เพราะเมื่อชารัณได้เห็นกับตา ว่าขวัญยิหวายังไม่เคยผ่านมือใครมาจริงๆ เขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
หงุดหงิด...ที่หญิงสาวคิดทำงานแบบนี้ เพื่อแลกกับเงินที่ได้แค่ไม่กี่บาท
งุ่นง่าน...นั่นเป็นเพราะขวัญยิหวา ดันเกิดมาเปลี่ยนใจเอาในนาทีสุดท้าย เลยทำให้ชายหนุ่มอารมณ์ค้าง แล้วต้องมาคอยยับยั้งชั่งใจตัวเอง
ทั้งที่คนอย่างชารันมีแต่ผู้หญิงมากมายที่มาคอยแบให้ ไม่ใช่ขัดขืนฝืนใจจนถึงขั้นวิ่งไปเกาะหน้าต่าง แล้วเอามาขู่เขาว่าหากยังไม่ยอมหยุดคุกคาม เธอกระโดดจากหน้าต่างลงไปทันที ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวยังทำท่าจะกระโดดลงไปทั้งที่ยังใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ทำเอาเขาต้องรีบวิ่งไปคว้าร่างบางนั่นเอาไว้ กว่าจะลากเข้ามาตกลงกันในห้องได้ ก็เล่นเอาหอบไปตามๆ กัน
ขวัญยิหวาทำให้ชารัณขาดความมั่นใจในเสน่ห์ของตนที่มีอย่างล้นเหลือ ถึงแม้เขาจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้เธอสักครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ยินยอมด้วยความที่อยากได้เธอมาครอบครอง เขาจึงต้องว่าจ้างให้หญิงสาวมาเป็นคนรักชั่วคราวของเขาในราคาสามล้าน พอเจ้าตัวได้ยินตัวเลขเท่านั้นดันตอบตกลงทันที แต่ก็ยังคงมีข้อแม้กลับมาให้อีกว่า...ขอรับจ้างงานนี้เป็นเวลาแค่หกเดือนเป็นคนรักกันแค่หกเดือนเพื่อแลกกับเงินสามล้านนี่นะ!สงสัยเจ้าตัวน่าจะอ่านนิยายน้ำเน่ามากเกินไป ถามว่าเขายอมไหม?ยอมสิถามได้...ในเมื่อเงินสามล้านนั่น ชารัณสามารถหาได้โดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีแต่ถึงอย่างนั้นชารัณก็ได้บอกให้เธอมาตกลงทำสัญญาด้วยกันที่บ้าน เพียงเพราะเขาต้องการจะแกล้งเธอเล่นเพราะเห็นว่ามันสนุกดี ที่สำคัญเขาถูกใจที่ได้เจอกับผู้หญิงมือหนึ่ง ถึงแม้ขวัญยิหวาจะเรียกราคาเขามากยิ่งกว่านี้ เขาก็ยินดีที่จะจ่ายให้เธอ“ฉันแค่อยากรู้ความจริงว่า ทำไมเธอถึงได้ตัดสินใจเอาตัวเข้าแลกกับเงินแบบนี้”ขวัญยิหวาทำท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ต้องยอมบอกเขาออกไปตามตรง“ชีวิตของฉันมีค่ามากมาย ไหนจะค่าเช่าหอ ไหนจะค่าเทอม แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ เพราะจู่ ๆ คนที่เ
ชารัณรู้สึกสนุกอีกทั้งยังชื่นชอบผู้หญิงตรงหน้า และเธอทำให้เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาในท่าทาง มิหนำซ้ำแววตานั่นมันก็ดูคล้ายกับใครบางคน“เรื่องเงินฉันไม่มีปัญหา ดูแค่ฉันจ่ายค่าตัวของเธอไปเมื่อคืนนั่นก็หลักแสนแล้วมั้ง แต่เรื่องนั้นเอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง และตอนนี้ฉันได้สั่งคนของฉัน ให้ไปจัดการกับยายแม่เล้าที่เอาเธอมาส่งให้ฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นหัวหมอ เพราะยังมาขอเก็บเงินในส่วนที่ฉันต้องการจ่ายให้เธอเอาเข้ากระเป๋าของตัวเองได้อย่างหน้าด้านๆ คนคดในข้องอในกระดูกแบบนั้นฉันละเกลียดที่สุด”ดวงตาของชารัณแข็งกร้าวดุดันตอนพูด ชวนให้ขวัญยิหวารู้สึกขนลุกซู่ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะลงมือทำอะไรกับกุลธิดา แต่ที่แน่ๆ หลังจากนี้ไปเธอคงต้องใช้สติและสมองของตนเพื่อไม่ให้เสียเปรียบผู้ชายคนนี้ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าของขวัญยิหวานั่นเอง“เมื่อเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน แล้วหลังจากที่เราต้องจากกันตามระยะเวลาที่กำหนด เธอไม่กลัวเหรอว่าถ้าต่อไปหากมีผู้ชายดีๆ เขารู้ประวัตินี้ของเธอ แล้วเขาเกิดรับไม่ได้เธอจะทำยังไง”“เรื่องนั้นฉันจะต้องสนทำไมละคะ ในเมื่อสังคมทุกวันนี้ผู้ชายส่วนใหญ่เขาไม่ได้ยึดติดกับผู้หญิงที่ซิงหร
“ว้าว!”ฉันสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!? ขวัญยิหวาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองเห็นภาพของตน สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ภาพสะท้อนของผู้หญิงในนั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ จากฝีมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหน้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแม่เล้า...ซึ่งมีหน้าที่คอยเสาะหาหญิงสาว เพื่อเอาไปบำเรอความใคร่ ให้กับบรรดาพวกผู้ชายทั้งหลายเหล่านั้นและแน่นอนว่าขวัญยิหวา ก็กำลังจะกลายเป็นเด็กไซด์ไลน์ในชั่วโมงถัดไป ด้วยความเต็มใจและยินดีโดยที่ไม่มีใครบังคับขวัญยิหวาถูกจับแต่งหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว และใส่เสื้อสายเดี่ยวที่ผูกเกี่ยวกันไว้ที่หลังคอ พอๆ กับกระโปรงสั้นที่ใส่แนบไปกับเรือนร่าง ซึ่งรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างลงตัวขวัญยิหวาเป็นนักศึกษาเรียนดี ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยทำให้คนเป็นอาจารย์ หรือเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องของเธอต้องผิดหวัง เพราะด้วยมันสมองและความตั้งใจบวกกับความขยัน มันจึงทำให้หญิงสาวกลายเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของสถาบันแต่มันก็แค่นั้นเอง...เรียนดีเรียนเก่งแล้วเป็นยังไง...เพราะเมื่อสุดท้ายหากเธอมีเงินไม่มากพอ มันก็ทำให้ไปต่อ
ชารัณ เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มและดูน่าเกรงขาม แถมเจ้าตัวยังมีรูปงามตรงตามสเปคในแบบที่หญิงสาวทั้งหลายเฝ้าไฝ่ฝันเจ้าของร่างใหญ่ไม่ใช่ลุงพุงพลุ้ยหัวล้าน รูปร่างเตี้ยล่ำอย่างที่ขวัญยิหวาคาดเดานั่นเลยสักนิด หากดูไม่ผิดอายุของเขาน่าจะยังไม่เกินสามสิบปี และที่สำคัญกว่านั้นในความหล่อนั่นมันยังดูดุดันอยู่ในที เขาจ้องมองขวัญยิหวาด้วยนัยน์ตาที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ แต่สายตาของเขามันทำให้คนถูกมอง ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะเจ้าของร่างใหญ่เอาแต่มองสบตากับอีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมละสายตา แล้วเมื่อกุลธิดาเห็นอย่างนั้นเธอถึงกับอุทานออกมาทันที“อุ้ยดูสิ คุณชารัณคงจะถูกใจกับสินค้าของธิดามากเลยใช่ไหมคะ ธิดาขอรับประกันเลยค่ะว่า ขวัญยิหวาคือของใหม่แกะกล่อง ที่ยังไม่เคยผ่านมือของใครมาทั้งนั้น”ขวัญยิหวาถึงกับหน้าม้าน เมื่อได้ยินกุลธิดาพูดถึงเธอราวกับว่า เธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชารัณก็ไม่ได้สนใจฟังคำสาธยายของคนเป็นนายหน้า เพราะสายตาของเขามัวแต่จับจ้องมองอีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังถึงแม้ขวัญยิหวาจะมีอาการตื่นกลัวเขาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็ยังสามารถควบคุมสติของตัวเองได้ดี “หม
ชารัณรู้สึกสนุกอีกทั้งยังชื่นชอบผู้หญิงตรงหน้า และเธอทำให้เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาในท่าทาง มิหนำซ้ำแววตานั่นมันก็ดูคล้ายกับใครบางคน“เรื่องเงินฉันไม่มีปัญหา ดูแค่ฉันจ่ายค่าตัวของเธอไปเมื่อคืนนั่นก็หลักแสนแล้วมั้ง แต่เรื่องนั้นเอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง และตอนนี้ฉันได้สั่งคนของฉัน ให้ไปจัดการกับยายแม่เล้าที่เอาเธอมาส่งให้ฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นหัวหมอ เพราะยังมาขอเก็บเงินในส่วนที่ฉันต้องการจ่ายให้เธอเอาเข้ากระเป๋าของตัวเองได้อย่างหน้าด้านๆ คนคดในข้องอในกระดูกแบบนั้นฉันละเกลียดที่สุด”ดวงตาของชารัณแข็งกร้าวดุดันตอนพูด ชวนให้ขวัญยิหวารู้สึกขนลุกซู่ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะลงมือทำอะไรกับกุลธิดา แต่ที่แน่ๆ หลังจากนี้ไปเธอคงต้องใช้สติและสมองของตนเพื่อไม่ให้เสียเปรียบผู้ชายคนนี้ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าของขวัญยิหวานั่นเอง“เมื่อเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน แล้วหลังจากที่เราต้องจากกันตามระยะเวลาที่กำหนด เธอไม่กลัวเหรอว่าถ้าต่อไปหากมีผู้ชายดีๆ เขารู้ประวัตินี้ของเธอ แล้วเขาเกิดรับไม่ได้เธอจะทำยังไง”“เรื่องนั้นฉันจะต้องสนทำไมละคะ ในเมื่อสังคมทุกวันนี้ผู้ชายส่วนใหญ่เขาไม่ได้ยึดติดกับผู้หญิงที่ซิงหร
ขวัญยิหวาทำให้ชารัณขาดความมั่นใจในเสน่ห์ของตนที่มีอย่างล้นเหลือ ถึงแม้เขาจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้เธอสักครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ยินยอมด้วยความที่อยากได้เธอมาครอบครอง เขาจึงต้องว่าจ้างให้หญิงสาวมาเป็นคนรักชั่วคราวของเขาในราคาสามล้าน พอเจ้าตัวได้ยินตัวเลขเท่านั้นดันตอบตกลงทันที แต่ก็ยังคงมีข้อแม้กลับมาให้อีกว่า...ขอรับจ้างงานนี้เป็นเวลาแค่หกเดือนเป็นคนรักกันแค่หกเดือนเพื่อแลกกับเงินสามล้านนี่นะ!สงสัยเจ้าตัวน่าจะอ่านนิยายน้ำเน่ามากเกินไป ถามว่าเขายอมไหม?ยอมสิถามได้...ในเมื่อเงินสามล้านนั่น ชารัณสามารถหาได้โดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีแต่ถึงอย่างนั้นชารัณก็ได้บอกให้เธอมาตกลงทำสัญญาด้วยกันที่บ้าน เพียงเพราะเขาต้องการจะแกล้งเธอเล่นเพราะเห็นว่ามันสนุกดี ที่สำคัญเขาถูกใจที่ได้เจอกับผู้หญิงมือหนึ่ง ถึงแม้ขวัญยิหวาจะเรียกราคาเขามากยิ่งกว่านี้ เขาก็ยินดีที่จะจ่ายให้เธอ“ฉันแค่อยากรู้ความจริงว่า ทำไมเธอถึงได้ตัดสินใจเอาตัวเข้าแลกกับเงินแบบนี้”ขวัญยิหวาทำท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ต้องยอมบอกเขาออกไปตามตรง“ชีวิตของฉันมีค่ามากมาย ไหนจะค่าเช่าหอ ไหนจะค่าเทอม แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ เพราะจู่ ๆ คนที่เ
รถยนต์คันหรูค่อย ๆ วิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี ที่เป็นอาคารแบบโรมันร่วมสมัย ซึ่งถูกปลูกสร้างบนพื้นที่กว่าสามสิบไร่ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในใจกลางเมืองตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี มีความเฟื่องฟูและร่ำรวยมานาน ด้วยการทำธุรกิจสีขาวแต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็น่าจะเป็นสีเทาเสียมากกว่า แล้วที่ยืนยงและสามารถอยู่ท้าทายสายตา ของผู้คนได้จนถึงทุกวันนี้ เนื่องมาจากพวกเขามีเส้นสายอยู่มาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะถูกโค่นล้มให้จมลงง่ายๆเมื่อล้อกลมสีดำจอดสนิท ประตูรถที่ถูกปิดไว้ได้ถูกเปิดออกให้ ด้วยฝีมือของคนคุ้มกันที่อยู่ในชุดสูทสีเดียวกัน และทันทีที่ปลายเท้าของชารัณหย่อนลงถึงพื้น เสียงของลูกน้องที่ยืนอยู่ก็ดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง“ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้านาย”ชารัณเพียงแค่พยักหน้าให้เบาๆ ก่อนที่เขาจะเบี่ยงหน้าหันไปมองอีกคน ที่กำลังลงจากรถยนต์ตามกันออกมาขวัญยิหวาในสภาพที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคล่ง ซึ่งคลุมชุดกระโปรงของเธอที่ใส่เอาไว้จนเกือบจะถึงหัวเข่า และใบหน้าของหญิงสาวก็ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอางที่ผสมกับคราบของน้ำตาแล้วเมื่อลูกน้องทุกคนเห็นเจ้านายพาผู้หญิงก
ชารัณ เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มและดูน่าเกรงขาม แถมเจ้าตัวยังมีรูปงามตรงตามสเปคในแบบที่หญิงสาวทั้งหลายเฝ้าไฝ่ฝันเจ้าของร่างใหญ่ไม่ใช่ลุงพุงพลุ้ยหัวล้าน รูปร่างเตี้ยล่ำอย่างที่ขวัญยิหวาคาดเดานั่นเลยสักนิด หากดูไม่ผิดอายุของเขาน่าจะยังไม่เกินสามสิบปี และที่สำคัญกว่านั้นในความหล่อนั่นมันยังดูดุดันอยู่ในที เขาจ้องมองขวัญยิหวาด้วยนัยน์ตาที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ แต่สายตาของเขามันทำให้คนถูกมอง ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะเจ้าของร่างใหญ่เอาแต่มองสบตากับอีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมละสายตา แล้วเมื่อกุลธิดาเห็นอย่างนั้นเธอถึงกับอุทานออกมาทันที“อุ้ยดูสิ คุณชารัณคงจะถูกใจกับสินค้าของธิดามากเลยใช่ไหมคะ ธิดาขอรับประกันเลยค่ะว่า ขวัญยิหวาคือของใหม่แกะกล่อง ที่ยังไม่เคยผ่านมือของใครมาทั้งนั้น”ขวัญยิหวาถึงกับหน้าม้าน เมื่อได้ยินกุลธิดาพูดถึงเธอราวกับว่า เธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชารัณก็ไม่ได้สนใจฟังคำสาธยายของคนเป็นนายหน้า เพราะสายตาของเขามัวแต่จับจ้องมองอีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังถึงแม้ขวัญยิหวาจะมีอาการตื่นกลัวเขาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็ยังสามารถควบคุมสติของตัวเองได้ดี “หม
“ว้าว!”ฉันสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!? ขวัญยิหวาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองเห็นภาพของตน สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ภาพสะท้อนของผู้หญิงในนั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ จากฝีมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหน้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแม่เล้า...ซึ่งมีหน้าที่คอยเสาะหาหญิงสาว เพื่อเอาไปบำเรอความใคร่ ให้กับบรรดาพวกผู้ชายทั้งหลายเหล่านั้นและแน่นอนว่าขวัญยิหวา ก็กำลังจะกลายเป็นเด็กไซด์ไลน์ในชั่วโมงถัดไป ด้วยความเต็มใจและยินดีโดยที่ไม่มีใครบังคับขวัญยิหวาถูกจับแต่งหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว และใส่เสื้อสายเดี่ยวที่ผูกเกี่ยวกันไว้ที่หลังคอ พอๆ กับกระโปรงสั้นที่ใส่แนบไปกับเรือนร่าง ซึ่งรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างลงตัวขวัญยิหวาเป็นนักศึกษาเรียนดี ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยทำให้คนเป็นอาจารย์ หรือเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องของเธอต้องผิดหวัง เพราะด้วยมันสมองและความตั้งใจบวกกับความขยัน มันจึงทำให้หญิงสาวกลายเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของสถาบันแต่มันก็แค่นั้นเอง...เรียนดีเรียนเก่งแล้วเป็นยังไง...เพราะเมื่อสุดท้ายหากเธอมีเงินไม่มากพอ มันก็ทำให้ไปต่อ