“หม่าม้า ลลิตอยู่ตรงนี้คับ” ลลิตรีบวิ่งออกจากห้องเรียนไปยังจุดที่หม่าม้ายืนอยู่ ลออจันทร์แม้จะสวมเสื้อคลุมตัวหลวมแต่ก็ปิดปังหน้าท้องกลมโตไม่มิด ชายหนุ่มยืนมองลูกชายตนที่วิ่งมาหา
“ไปโรงเรียนวันแรกสนุกไหมครับ” ลออจันทร์เช็ดเหงื่อบนหน้ากลมป้อมอย่างอ่อนโยน
“คับ สนุกดีคับ”ถ้าไม่นับเรื่องที่เขาหยุมหัวแทมมาลีนตอนเช้าน่ะนะ
“แล้วคนข้างหลังหนู ใช่เพื่อนใหม่ลลิตไหมจ๊ะ” ลลิตหันขวับกลับทันทีก็เห็นแทมมาลีนยืนกระมิดกระเมี้ยนท่าทางเขินอาย
“หวัดดีคับ ผมแทมคับ” แทมมาลีนแนะนำตัวต่อตัวละครตัวโปรดด้วยใบหน้าแดงก่ำ
แม่เจ้าโว้ย ลออจันทร์ตัวจริงสวยยิ่งกว่าดาราตัวท็อปอีก
“สวัสดีจ้ะ เรียกน้าลออก็ได้นะจ๊ะ”
“คับ นี่สำหรับคุณน้าคับ” แทมมาลีนยื่นดอกกุหลาบที่ลลิตไม่รู้ว่าแอบไปตัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ยื่นมาให้ลออจันทร์ โอเมก้าแม่ลูกสองเลิกคิ้วก่อนจะหัวเราะและยื่นมือไปรับไว้ก่อนจะเอ่ยขอบคุณเด็ก
สองเดือนผ่านไป“เป็นอะไย ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้น” ลลิตถามแทมมาลีนด้วยความสงสัย เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าบึ้งตึงตั้งแต่เข้าโรงเรียนมา“ก็พระเอกน่ะสิ ทำตัวน่าโมโหชะมัด” ไอ้เรารึอุตส่าห์หวังดีนำของกินไปให้ตอนกลางคืน กะว่าจะสานสัมพันธ์พี่น้องสักหน่อย กลับถูกไล่กลับห้องแถมถูกตอบกลับด้วยเสียงเย็นชาอีก“คราวหน้าไม่ต้องมาเคาะประตูด้วยเรื่องไร้สาระอีก”ปัง เสียงปิดประตูทำให้หนูน้อยวัยสามขวบโกรธจัด เตรียมไปฟ้องผู้ปกครองที่อยู่ในห้องนอนแต่ก็ต้องเลี้ยวกลับแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงร่วมรักอย่างหนักหน่วงดังลอดออกมาให้ตาย ครอบครัวนี้มีคนปกติบ้างไหมเนี่ย“เหม่ออะไยอีกแย้ว” ลลิตเรียกคนที่หน้าตาคล้ายพระเอกแต่มีความหวานมากกว่า คงได้จากป้าดาหวันมาเยอะ“ไม่มีแย้ว ว่าแต่นายจะแอ๊บเด็กไปถึงไหน” แทมมาลีนเอ่ยอย่างสงสัย เขาเพิ่งมาที่นี่ไม่ถึงเดือนเอง ภายในร่างเด็กน้อยมีความคิดของผู้ชายวัยสามสิบอยู่เต็มเปี่ยมถึงแม้จะยังพูดไม
“อ้าปาก”“ไม่เอา ลลิตจะกินเอง” มือเล็กพยายามคว้าช้อนตักไอติม“ลลิตกินเลอะ อ้าปากเร็ว”“ก็ได้” ปากจิ้มลิ้มอ้าปากรับเอาไอติมที่ถูกป้อนโดยพระเอกของเรื่อง ส่วนแทมมาลีนนั้นถูกดาหวันนั่งเทศนาไปด้วยป้อนไปด้วย“เก่งจริงลูกฉัน ตัวกะเปี๊ยกเดียวยังกล้าไปกระโดดกัดผู้ใหญ่อีก อ้าปาก”“อ้าม ก็ยัยป้านั่นผลักพี่จ๋านี่นา”เสียงเล็กเอ่ยแย้งผู้เป็นแม่ก่อนจะอ้าปากรับไอติมคำต่อไป“ยังจะเถียงอีก ลูกได้นิสัยใครมาเนี่ย” ดาหวันยังคงบ่นกระปอดกระแปด ปราบและครามที่ก้าวเข้ามาในร้านอดยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้“ลลิต พ่อมารับแล้วครับ”“ป๊ะป๋ามาแย้ว” ลลิตละจากช้อนที่แทนไทป้อนกระโดดลงเก้าอี้วิ่งกระโจนสู่อ้อมอกพ่อตัวเอง“กินไอติมอร่อยไหมครับ” หอมไปที่ขมับลูกน้อยก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้โดยที่จับลลิตนั่งลงบนตัก“ป๊ะป๋าป้อนให้ดีกว่า” ครามส่งสายตาอ
“ตาคราม ลออเป็นยังไงบ้าง” คุณไพลินกับคุณพิศาลมาถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว หญิงวัยกลางคนมาถึงก็ถามไถ่อาการของลูกสะใภ้ทันที“ตอนนี้หมอกำลังผ่าคลอดครับ” ครามนั่งหน้าห้องโดยที่กอดตัวลลิตที่คอพับคออ่อนไว้กับตัว“แม่จัดการเรื่องห้องพักไว้แล้ว ให้ลลิตไปนอนที่ห้องก่อนเถอะ”คุณไพลินเข้ามาอุ้มร่างของหลานชายไว้ก่อนจะเดินไปยังห้องพักวีไอพี“ฝากคุณแม่ด้วยนะครับ”ให้ลลิตไปนอนรอที่ห้องน่าจะดีกว่าอยู่กับเขา เมื่อเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ครามก็ยิ่งอย่างกระวนกระวายใจคุณพิศาลตบบ่าให้กำลังใจลูกชาย “แกไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้ เป็นพ่อลูกสองแล้วนะ”“ตอนลลิตเกิดผมไม่ได้อยู่ด้วยนี่ครับ” คราวของอัยวาเขาก็ไม่ได้อยู่ด้วยเหมือนกัน ชายหนุ่มลงจากเครื่องมาดูหน้าอัยวาแค่แวบเดียวก่อนจะนั่งเครื่องเพื่อไปทำงานต่อครามนึกด่าตัวเองในใจทำไมเขาถึงไม่ย้อนเวลามาเร็วกว่านี้นะตอนลออจันทร์คลอดลลิตต้องลำบากแค่ไหน ตอนที่เขาดูแลลออจันทร์ในช่วงหลายเดือนมานี้เ
“น้องคีย์ คลานมาทางนี้สิ” ลลิตส่งเสียงเรียกน้องชายตัวอวบอ้วนที่ค่อย ๆ ยันตัวคลานมาที่ตนนั่งอยู่“อา อา” คีย์น้อยอายุได้แปดเดือนแล้วในขณะที่ลลิตอายุห้าขวบอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนแต่ร่างกายไม่ได้ยืดขึ้นแต่อย่างใดมีเพียงคำพูดที่ฟังชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“เร็วเข้า ไม่งั้นพี่จะออกไปเล่นกับแพนเค้กแล้วนะ” คีย์น้อยเมื่อได้ยินว่าพี่ชายจะทิ้งตนไปเล่นกับเจ้าแพนเค้กก็ออกแรงคลานจนมาถึงจุดที่ลลิตอยู่ด้วยความเร็วสูงสุด“เก่งมากเลย น้องใครกันนะ”“อาอาอา”“พูด ลาาา ลิตตต” ลลิตพยายามให้น้องฝึกพูดชื่อตัวเอง“อาาาาา” เจ้าหนูน้อยก็เลียนเสียงเก่งเสียด้วย พยายามทำเสียงตามพี่ชายด้วยตากลมแป๋ว“ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด” ลลิตเบ้ปากเมื่อได้ยินเสียงน้องชาย“น้องเพิ่งแปดเดือนเองครับ ตอนหนูแปดเดือนก็เป็นแบบนี้แห
อึก อึกแรงดูดน้องคีย์ทำให้ลออจันทร์ถึงกับนิ่วหน้า นับวันเด็กน้อยยิ่งดูดแรงขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น ตอนที่ลลิตน้อยดูดนมจากหน้าอกของลออจันทร์ไม่เจ็บเลยสักนิด ลลิตตอนเป็นทารกดูดนมด้วยแรงอันน้อยนิดเหมือนรู้ว่าการกระทำของตัวเองทำให้มารดาเจ็บ“น้องคีย์ ดูดแรงไปแล้วนะ” ลลิตเห็นแม่ตัวเองขมวดคิ้วก็ดุน้องชายแต่ที่ได้รับกลับมาคือแววตากลมแป๋วไร้เดียงสา“ยังจะดูดอีกเหรอ อีกข้างของพี่นะ” ลลิตน้อยถึงแม้ตอนนี้จะห้าขวบแล้วแต่ยังมีนิสัยที่แก้ไม่หายคือติดจุ๊บหน้าอกก่อนนอนเมื่อก่อนก็ไม่ติดขนาดนี้หรอกแต่ตั้งแต่น้องคีย์คลอดออกมาลลิตก็ยิ่งหวง ใบหน้าน่ารักบูดบึ้งเตรียมโน้มตัวไปจุ๊บหน้าอกที่ว่างอีกข้างแต่ถูกครามคว้าตัวไว้เสียก่อน“ไม่ต้องเลยครับ นั่นของพ่อทั้งหมดแหละ” ครามทำหน้าหนาตอบลลิตก่อนจะใช้จมูกฟัดพุงกลมของลูกชายจนเด็กน้อยหัวเราะคิกคักไม่หยุด“งื้อ ป๊ะป๋าไม่เอา มันจั๊กจี้นะ ฮ่าฮ่าฮ่า” ลลิตนอนหัวเราะจนหมดแรงวันนี้พ่อแม่ลูกสี่คนนอนค้างที่
“เราจะไหนเหรอครับ” ลลิตน้อยที่วันนี้ถูกจับแต่งตัวด้วยชุดเอี๊ยมโดยสวมเสื้อยืดลายไดโนเสาร์ไว้ข้างในถามครามอย่างสงสัยแต่พอมองดูทิวทัศน์ที่คุ้นเคยก็โพล่งออกมา “นี่มันทางไปบริษัทของป๊ะป๋านี่ ลลิตจำได้” ลลิตมองเห็นร้านเค้กคุณม่อนที่ผ่านเป็นประจำยามไปเที่ยวเล่นบริษัทจึงนึกออก “ใช่ครับ วันนี้เราจะไปที่บริษัทกัน”ครามตอบลูกชายด้วยรอยยิ้มเลศนัย ลออจันทร์มองท่าทางของสามีแล้วนึกฉงนขึ้นมาอีกรอบ แค่ไปที่บริษัทถึงต้องพาครอบครัวทั้งสี่คนไปด้วยแถมยังกำชับให้เขาแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษอีก “มามา”น้องคีย์ยื่นแขนมาหาลออจันทร์ด้วยท่าทางน่าสงสาร ทารกน้อยยังไม่ชินเวลาที่นั่งคาร์ซีท เด็กชายคีตาส่งสายตาอ้อนวอนไปหาพี่ชายตัวน้อยอีกด้วย “ไม่ได้นะน้องค
“ลลิตเสร็จหรือยังครับ” ลออจันทร์ที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินไปเคาะประตูห้องลูกชายที่อยู่ตรงข้ามเนื่องจากห้องนอนเดิมถูกเด็กชายคีตายึดไปเพื่อความสะดวกในการให้นมตอนกลางคืน ตอนแรกลออจันทร์ค่อนข้างกังวลว่าลลิตจะไม่ยอมแต่เมื่อลองเกริ่นดูเด็กชายกลับยอมอย่างง่ายดาย “ได้สิครับ หม่าม้าจะได้ไม่เหนื่อย” “ลูกชายของหม่าม้าเก่งจังเลยครับ” ลออจันทร์ชมลูกชายจนตัวลอย ลลิตบิดตัวไปมาอย่างขวยเขินก่อนจะจ้องมองด้วยความคาดหวัง “เด็กดีต้องมีรางวัลใช่ไหมครับ” ลลิตอยากได้โมเดลหุ่นยนต์ชื่อดัง เมื่อก่อนเขาก็ไม่ได้สนใจโมเดลหุ่นยนต์หรอกเขาชื่นชอบโมเดลรถมากกว่าแต่ไปโรงเรียนทีไรแทมมาลีนชอบเอามาอวดทุกที ทุกวันคุณหนูแทมมาลีนจะหยิบโมเดลหุ่นยนต์มานอนกอดตอนกลางวันโดยไม
อย่าคิดว่าครามไม่เห็นสีหน้าของลออจันทร์ตอนที่โรสรินพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะถูกหิ้วออกจากร้าน เพียงแต่เขาไม่สะดวกคุยต่อหน้าลูกชายที่ยังเล็กอยู่จึงรีบบึ่งรถกลับบ้านอย่างรวดเร็ว“แพนเค้ก พี่ลลิตมาแล้ว” ลลิตลงจากรถก็หยิบขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงลงไปด้วย เด็กน้อยเกลือกกลิ้งไปตามสนามหญ้าโดยไม่สนใจว่าเสื้อสีขาวจะเลอะแค่ไหน หากเป็นตอนลออจันทร์ปกติล่ะก็จะต้องบ่นลูกชายแน่นอนแต่วันนี้สภาพจิตใจของลออจันทร์ไม่อยู่กับตัวจึงปล่อยผ่านไปอย่างง่ายดาย“ลออ เข้าบ้านกันเถอะ”ครามโอบร่างของลออจันทร์เข้าบ้านแต่ร่างบางกลับผงะออกอย่างตกใจ“ขอโทษครับ ผมใจลอยไปหน่อย” ลออจันทร์รีบเดินเข้าบ้านไม่สนใจครามที่เดินมาด้านหลัง“รบกวนป้าจิตคอยดูลลิตเล่นกับแพนเค้กหน่อยนะครับ” ลออจันทร์วานให้ป้าแม่บ้านดูแลลูกชายครู่หนึ่งก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบน“ได้ค่ะ” ป้าจิตรับคำก่อนจะเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำของเจ้าแพนเค้กแกไปด้วยสงสัยวันนี้คงได้อาบน้ำให้ทั้งคุณหนูลลิตและเจ้าแพนเค
แทนไทเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก วันนี้นอกจากจะมีครอบครัวเพลิงโชติเมธีแล้วยังมีครอบครัวโยธินตระกูลมาร่วมรับประทานอาหารด้วยลินินตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของคุณวาสินีที่ยิ้มไม่หุบตั้งแต่เข้ามา ร่างตุ้ยนุ้ยนั่งเก้าอี้คอยชวนคุณยายพูดคุยด้วยท่าทางไร้เดียงสา ครามกับปราบนั่งคุยล้อมวงกับคุณอารัญและคุณพิศาล เด็กชายคีตานั่งไถโทรศัพท์เงียบ ๆ นั่งข้างลลิตกับแทมมาลีน“อ้าว พี่จ๋าหายไปไหนมา”แทมมาลีนเอ่ยทัก เผลอละสายตาจากหมากรุกที่เขากับลลิตฟาดฟันมาหลายนาที จังหวะที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไม่รู้ตัวเลยว่าลลิตแอบหยิบหมากตัวเองออกไปหนึ่งตัว“ตานายแล้ว รีบเดินสิ”“เร่งทำไม เอ๊ะ ทำไมมันแปลก ๆ”“แปลกอะไร ไม่มี้” ลลิตพูดเสียงสูง ไม่มีพิรุธสักนิด แทมมาลีนที่เห็นท่าทางลลิตเป็นแบบนี้ก็กระโจนเข้าไปขยี้ผมนุ่มทันที“หน็อยแน่ ทำเป็นเนียนเลยนะ”“ปล่อยนะ นายกล้าทำกับพี่เขยแบบนี้ได้ยังไง” ลลิตเผลอตัวหลุดโพล่งออกมา
“บาดแผลสมานตัวดีมาก อย่าลืมมาพบแพทย์ตามนัดอีกสองสัปดาห์นะครับ ตอนนี้คุณหนูสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วครับ”คุณหมอมอบรอยยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้าที่นั่งยิ้มหน้าบาน“ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ”ลลิตไหว้ขอบคุณลุงหมอเจ้าของไข้ที่คอยดูแลเขามาตลอดที่อยู่โรงพยาบาลเมื่อบอกลาคุณหมอเสร็จเจ้าตัวแสบก็ลงมายืนข้างเตียงโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วยพยุงอีกแล้ว“...”แทนไทที่เตรียมอุ้มลลิตทำหน้าเสียดาย ช่วงหลังที่ลลิตพักฟื้นเท้าแทบไม่ติดพื้นเพราะมีครามกับแทนไทคอยอุ้มไปไหนต่อไหนตลอดถึงจะถูกลออจันทร์บ่นว่าก็ทำหูทวนลมทั้งสามีและลูกเขยวันนี้ครามติดประชุมสำคัญทำให้มารับลูกชายออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ แทนไทจึงอาสามารับแทนสร้างความประทับใจให้แก่ลออจันทร์ยิ่งไปอีก“ไปกันครับ ผมอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว”ลลิตเดินนำหน้าลออจันทร์และแทนไทออกไปอย่างร่าเริง“ลูกคนนี้นับวันยิ่งแก่นแก้วไปทุกที” แทนไทมองลลิตที่ทำตัวร่าเริงด้วยแววตาอ่อนโยน“ดีแล้วครับ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้”“หม่าม้า ล
“ตอนนี้แผลผ่าตัดของคุณหนูลลิตปกติดีครับ ไม่มีการติดเชื้อใด ๆ ผู้ป่วยสามารถลุก เดิน นั่งได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนภายใน หมอจะทำการตัดไหมในวันที่ 7 พร้อมกลับบ้านในวันเดียวกันได้เลยครับ”ครามและลออจันทร์นั่งฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ด้วยความดีใจ“คุณหมอหมายความว่า ลลิตหายแล้วใช่ไหมครับ” ลออจันทร์ถามย้ำอย่างตื่นเต้น“ครับ ตอนนี้คุณหนูลลิตปลอดภัยแล้วครับแต่ยังต้องทานยาและมาพบแพทย์ตามนัดด้วยนะครับ”“ขอบคุณครับหมอ” ครามโค้งตัวขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้“ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”คุณหมอนพ เจ้าของคนไข้นึกชื่นชมเจ้าของโรงพยาบาลตรงหน้าที่ไม่ถือตน เมื่อได้เวลาที่ต้องไปตรวจคนไข้ก็ขอตัวออกไปก่อน ลออจันทร์ลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่ยังหลับใหล“ลลิตปลอดภัยแล้วนะครับ”“รีบตื่นมาฟังข่าวดีได้แล้ว เจ้าตัวยุ่ง” เหมือนลลิตรู้ตัวว่าหม่าม้ากำลังพูดกับตน ร่างบางส่งเสียงพึมพำออกมาอย่าง
ครามที่สองมือหอบข้าวของของภรรยาและลูกชายมาเต็มสองมือไม่ยอมให้ป้าจิตช่วยถือเดินเข้าโรงพยาบาลมาพร้อมกับคุณไพลินและคุณพิศาลที่เดินหน้าเครียดสร้างความตื่นตกใจให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก“พี่คราม ผมได้ยินข่าวของลลิตแล้ว หลานของผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอกันต์ที่ออกไปสัมมนาข้างนอกวิ่งเข้ามาเจอครอบครัวของญาติผู้พี่พอดีถามเสียงลั่นไม่นะ หลานชายที่น่ารักของเขาทำไมต้องโชคร้ายขนาดนี้ด้วย“ตอนนี้ลลิตยังปลอดภัย แกก็อย่าตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ได้ไหม กว่าฉันจะปลอบคุณแม่ให้สงบลงต้องใช้เวลาแค่ไหน”ครามกระซิบบอกน้องชายเสียงเบา สายตาคอยมองคุณไพลินที่เดินนำหน้าด้วยความเป็นห่วง“แหะ แหะ เข้าใจแล้วครับ” หมอกันต์แย่งตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเหลืองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน&
“ป๊ะป๋าตื่นสาย”ลลิตพูดลอย ๆ เมื่อเห็นครามอุ้มลินินเดินลงมาจากชั้นบน ตอนนี้เขากับคีตากำลังกินข้าวเช้าที่ป้าจิตเป็นคนทำให้ คีตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เกี่ยวกับแผนการของพี่ชายนั่งตักข้าวต้มกินต่อไป “วันนี้วันหยุด ป๊ะป๋าก็อยากตื่นสายบ้าง หม่าม้าก็ชอบตื่นสายเหมือนป๊ะป๋านะ” ครามตอบโต้ลูกชายด้วยการยกหม่าม้าของเจ้าตัวขึ้นมาอ้าง ลลิตหน้าบูดเมื่อพูดอะไรไปเจ้าพ่อบ้ากามก็ไม่สะทกสะท้านจึงนั่งจ้วงข้าวต้มเข้าปากคำโต “มาค่ะ ลินินเดี๋ยวพ่อป้อนหนูนะคะ” “อื้อ ไม่เอาค่ะ หนูอยากกิงเอง ลินินโตแย้วนะ” เด็กหญิงบอกว่าตัวเองโตแล้ว ครามได้แต่นั่งลงทานข้าวแต่โดยดี “เด็ก ๆ ทานข้าวเสร็จหรือยังครับ”ลออจันทร์ที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาลูกชายลูกสาวก่อนจะไล่หอมหัวคนละหนึ่งที&nbs
"แล้วนายจะกลับอิตาลีเลยหรือเปล่า”ลลิตถามอัยวาขณะที่ทั้งสองอยู่ในลิฟต์ ครามอยากตามลงมาด้วยแต่ถูกเตวิชขวางไว้เสียก่อนจึงได้แต่มองลูกชายและอดีตลูกชายเดินออกไปตาละห้อย “คงต้องกลับเลย ฉันลาหยุดได้แค่ไม่กี่วัน” ราฟาเอลก็ทิ้งการเรียนตามเขามาด้วย อัยวาไม่อยากให้แฟนตัวเองถูกไล่ออกจึงต้องรีบกลับไป“ฉันอยากแวะไปหาคุณยายกับคุณตานะแต่ฉันไปตามที่อยู่เดิมกลับมีคนอื่นเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว” อัยวาพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ ลลิตได้แต่เห็นใจเรื่องของครอบครัวอัยวาเขาคงไปยุ่งมากไม่ได้โอเมก้าสองคนเดินไปยังร้านกาแฟของลออจันทร์ ทันทีที่ลลิตเปิดประตูเข้าไปก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นอัลฟ่าสองคนนั่งจ้องหน้ากันโดยมีน้องคีย์นั่งทำการบ้านด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ“พี่ลลิตมาแย้ว”ลินินที่นั่งอยู่บนตักแทนไทดิ้นลงวิ่งมาหาพี่ชาย“ลินินมาได้ไงครับ” ลลิตถามด้วยความแปลกใจ นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนนี่นา“วันนี้โยงเยียนเล
“ป๊ะป๋าพรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าครับ”ลลิตที่ยื่นหน้ามาทางประตูเอ่ยถามครามที่นั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือ “ลลิต พ่อตกใจหมด”ครามลูบอกปลอบตัวเอง จู่ ๆ ลูกชายก็โผล่แค่ส่วนหัวเข้ามาทำให้ครามตกใจ “คิกคิก ป๊ะป๋าขี้กลัว”ลลิตยอมโผล่ออกมาเต็มตัวเดินเข้าไปนั่งหน้าโต๊ะดี ๆ หยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะมาควงเล่น “หม่าม้าทำอะไรอยู่ครับ”ครามอยากจะถามว่าทำไมลลิตถึงมาหาเขาที่ห้องหนังสือได้ปกติจะตัวติดหม่าม้าตลอด “หม่าม้าอาบน้ำให้ลินินอยู่ครับ ส่วนน้องคีย์นั่งทำการบ้านอยู่ในห้องนอนแล้ว”ลลิตเอ่ยรายงานครบถ้วนก่อนจะวกเข้าเรื่องที่ต้องการถาม “พรุ่งนี้ผมพาเพื่อนใหม่มาเจอป๊ะป๋าได
ตึก ตึก ตึก“พี่คีย์ เร็วหน่อยจิ”เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นทำให้เด็กชายรูปร่างสูงปราดเปรียวเร่งจังหวะฝีเท้าให้ทันสาวน้อยวัยอนุบาล“ลินิน รอพี่ด้วย”เสียงห้าวที่เพิ่งแตกหนุ่มของเด็กชายคีตาเรียกน้องสาวตัวน้อยให้รอตนด้วย“ไม่เอา ลินินคิดถึงพี่ลลิตนี่นา”สาวน้อยวิ่งเข้าไปบริษัทไม่ยอมรอพี่ชายอีกต่อไป ทำให้ คีตาต้องวิ่งตามเข้าไปก่อนจะอุ้มร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนหม่าม้าของเขาเลี้ยงลูกเก่งทุกคนเหมือนที่คุณย่าเคยว่าไว้เป๊ะ จะมีลูกกี่คนก็เลี้ยงลูกให้ตัวจ้ำม่ำทุกคนถึงคุณไพลินจะว่าอย่างนั้นแต่ในใจก็อดปลื้มใจที่บรรดาลูกหลานตัวอวบอ้วนทุกคน ถึงตอนโตขึ้นมาจะหุ่นดีกันหมดก็เถอะ“คิกคิก ปล่อยลินินนะ”สาวน้อยดีดดิ้นอยากลงไปวิ่งเองมากกว่าแต่คีตาไม่ยอมปล่อยให้น้องสาววิ่ง กระชับอ้อมกอดเดินไปยังร้านกาแฟ“พี่ลลิตจะมาหรือยังนะ”ลินินโอบคอพี่ชายคนรองถามอย่างใคร่รู้“คงมาแล้วล่ะ พี่แทนก็คงมาด้วย”“พี่
“อัยวา?”“...”ผู้ชายผิวขาวหน้าตาคล้ายโรสรินหันมาตามเสียงเรียก สายตามีความงุนงงเล็กน้อยก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อคิดออก“ลลิตใช่ไหม !!”คราวนี้ลลิตเป็นฝ่ายงุนงงบ้าง เคยเจอกันแค่ตอนเด็กเพียงครั้งเดียวอัยวาไม่น่าจะจำเขาได้นะ“พวกนายรู้จักกันงั้นเหรอ”เสียงภาษาไทยติดสำเนียงแปร่งดังออกมาจากร่างบึกบึนด้านหลังอัยวาแทนไทมองท่าทีคุกคามของชาวต่างชาติก็ไม่พอใจเคลื่อนตัวมาบังหน้าลลิต ราฟาเอลเห็นท่าทางของแทนไทก็เดินมาบังหน้าโอเมก้าของตนบ้างตอนนี้ต่อให้ลลิตและอัยวาเขย่งสุดเท้าแค่ไหนก็ไม่สามารถมองข้ามหัวไหล่ของอัลฟ่าทั้งสองไปได้“หลบไปเลยนะ” อัยวาร้อนใจถีบไปที่หน้าแข้งของคนตัวยักษ์ทำให้ราฟาเอลถลาไปกอดแทนไทที่อยู่ตรงข้ามหมับสถานการณ์ในตอนนี้ช่างดูอิหลักอิเหลื่อเหลือเกิน แทนไทเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดของราฟาเอลก็ผลักร่างหนาออกไปทันทีพร้อมกับราฟาเอลที่ดีดตัวออกอย่างรวดเร็ว