Share

ตอนที่6

last update Последнее обновление: 2025-04-01 22:26:03

เช้าวันต่อมา

ฉันตื่นนอนด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ขณะอาบน้ำ แต่งตัว แต่งหน้าก็เปิดเพลงฟังพร้อมกับร้องตาม

วันนี้ฉันอยู่ในชุดเดรสสีชมพูดีเทลผูกโบว์ช่วงคอ ตรงช่วงแขนเป็นผ้าชีฟองสีขาว มัดผมหางม้า ปล่อยปอยผมที่ด้านหน้าเล็กน้อย แต่งหน้าโทนสีชมพูอ่อน ดูสดใสสุดๆ

"สวยจัง" ฉันหมุนตัวไปมา จากนั้นจึงฉีดน้ำหอม แล้วสะพายกระเป๋าออกจากห้อง ลงลิฟต์ไปลานจอดรถ

เมื่อถึงบริษัท ฉันก็แลกบัตร แล้วขึ้นไปรอตรงหน้าห้องที่ใช้สัมภาษณ์ในวันนั้น ผ่านไปราวๆ5-10นาที พี่เปรี้ยวก็เดินเข้ามาทักทายฉัน แล้วพาฉันไปห้องทนายบีม

"สวัสดีค่ะ" ฉันพนมมือไหว้ทนายบีมที่นั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องทำงาน

"สวัสดีครับคุณคาริสา" เขารับไหว้พร้อมกับยิ้มบางๆ จากนั้นจึงลุกออกจากที่นั่ง ผายมือให้ฉันนั่งตรงโซฟารับแขก

"เชิญครับ"

"ขอบคุณค่ะ" ฉันเอ่ยแล้วนั่งตรงข้ามกับเขา

"เดี๋ยวพี่ไปเตรียมเอกสารมาให้เซ็นนะคะ" พี่เปรี้ยวพูดกับฉัน

"ค่ะ" เมื่อฉันรับคำ พี่เปรี้ยวจึงเดินออกจากห้อง

"ยินดีที่ได้ร่วมงานกับนะครับคุณคาริสา" เขายื่นมือมาตรงหน้า ฉันจึงยื่นมือไปจับพร้อมกับยิ้มบางๆ "ยินดีที่ได้ร่วมงานเช่นกันคะคุณทนายบีม"

"เรียกพี่บีมเฉยๆก็ได้ครับ"

"ได้ค่ะพี่บีม"

"งั้นพี่เรียกเราว่าน้องสานะ"

"ได้ค่ะ ตามสบายเลยค่ะ" จากนั้นพี่บีมก็บรีฟรายละเอียดงานที่ฉันต้องทำคร่าวๆ เช่น การเก็บข้อมูลหลักฐานที่ต้องใช้ในคดี ประสานงานระหว่างลูกความกับทนาย ทำเอกสารกฎหมาย ฯลฯ

จากนั้นพี่บีมก็พาฉันไปแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ทุกคนเงยหน้ามายิ้มแล้วหันไปทำงานของตัวเองต่อ

"เหมย...ช่วยสอนงานน้องใหม่หน่อย" พี่บีมกวักมือเรียก ผู้หญิงตัวเล็กๆหน้าหมวยๆที่กำลังนั่งทำเอกสารอยู่ที่โต๊ะของตน

"เหมยยังไม่ว่าง พี่บีมเรียกนีน่าสิ นั่งว่างๆอยู่ตรงนั้น" เหมยหันไปชี้ผู้หญิงผมยาวค่อนข้างอวบอัดที่กำลังนั่งกินขนมอยู่หน้าโต๊ะคอมตนเอง

"อะไร! ฉันว่างที่ไหนล่ะ กำลังกินขนมอยู่ เห็นไหมเนี่ย" นีน่าชะโงกหน้ามาตอบเหมย

"ปล่อยสองคนนั้นไปเถอะค่ะพี่บีม เดี๋ยวปีโป้สอนงานน้องเองค่ะ" ผู้หญิงผมยาวตัวเล็กๆเดินมาหาพี่บีม จากนั้นจึงจับมือฉันแล้วดึงไปที่โต๊ะทำงาน ที่ตั้งอยู่หน้าห้องของพี่บีม

"ยัยสองคนนั้นเป็นแบบนี้แหละ เราอย่าถือสาเลยนะ" พี่ปีโป้ตบที่มือฉันเบาๆ จากนั้นจึงเริ่มสอนงาน โดยเริ่มจากการใช้ระบบสารสนเทศในการรับส่งเอกสารต่างๆ เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และเป็นนโยบายในการลดใช้เอกสาร จากนั้นก็สอนเรื่องระบบการยืมครุภัณฑ์ต่างๆ และสอนการออกเอกสารทางกฎหมายของบริษัท และอื่นๆ

ฉันทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่ต่างจากบริษัทเดิมของฉันสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ฉันต้องทำแน่ๆคือการปรับตัวให้เข้ากับคน คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ยังใช้คำพูดนี้ได้เสมอ

เวลาเที่ยง

"น้องสาไปกินข้าวด้วยกันนะ" พี่บีมเดินออกจากห้องมาชวนฉันไปกินข้าวกลางวัน

"ได้สิคะพี่บีม"

"เหมยไปด้วยได้ไหมคะ" เหมยเดินคล้องแขนมากับนีนาแล้วส่งสายตาอ้อนเขา

"ไม่ได้" พี่บีมตอบ

"อ้าว" เหมยทำหน้าเด๋อ

"ล้อเล่น ไปด้วยกันนี่แหละ มีพนักงานใหม่ทั้งทีเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"

"จริงเหรอ...งั้นไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน" นีน่ายิ้มกว้างพลางนึกถึงของกิน

"ต้องถามน้องสาสิ" พี่บีมพูด ทุกคนจึงหันมามองหน้าฉัน

"ยังไงก็ได้ค่ะ"

"เย้~ งั้นไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน" นี่น่ายิ้มดีใจ แล้วตบหลังฉันเบาๆแทนคำพูดว่าดีมาก

"ปีโป้ ไปไหม" พี่บีมชวน

"โอ๊ย จะชวนทำไมคะ ชวนยังไงก็ไม่ไปหรอก ใช่ไหมปีโป้" เหมยหันไปพูดกับพี่ปีโป้

"ขอโทษด้วยนะคะพี่บีม พอดีหนูมีข้าวแล้วค่ะ" พี่ปีโป้หยิบปิ่นโตออกมาจากกระเป๋า แล้วชูให้พี่บีมดู

"เก็บไว้กินตอนเย็นก็ได้นี่นา"

"ไม่เป็นไรค่ะ พวกพี่ไปกันเถอะ" พี่ปีโป้ปฏิเสธ

"ก็ได้ๆ...ใครจะไปบ้าง ไปกันเถอะ" พี่บีมพูดกับพี่ปีโป้จบ ก็หันไปพูดกับคนอื่นๆ

"ไปกันเถอะค่ะ" เหมยเดินนำหน้าไปพร้อมกับนีน่า และเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ส่วนพี่บีมเดินข้างๆฉัน

พวกเขาพาฉันเดินไปข้ามถนนไปยังตึกด้านหน้า ซึ่งเป็นศูนย์อาหาร มีทั้งอาหารไทย ญี่ปุ่น เกาหลี

พวกเราเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่น เนื่องจากมีหลายคน จึงแบ่งนั่งกลุ่มละ4คนบ้าง 5คนบ้าง

"โห~ น่ากินหมดเลยอ่ะ" นีน่าจ้องเมนูอาหาร พลางกลืนน้ำลาย

"สำหรับแก มีไรไม่น่ากินบ้างอ่ะ" เหมยพูด ก่อนจะก้มลงดูเมนู

"น้องสากินอะไร สั่งเลยนะ" พี่บีมยื่นเมนูมาให้ฉันดู 

"เอาราเมนต้มยำ เกี๊ยวซ่า ทาโกะยากิ" นีน่าเริ่มสั่งของกิน ส่วนฉันกำลังไล่อ่านเมนู แล้วจึงเลือกกินข้าวหน้าแซลมอน

เมื่อสั่งอาหารเสร็จ พี่บีมก็เริ่มชวนคุย เพื่อให้ฉันผ่อนคลาย

"ครืด ครืด" เสียงข้อความจากไลน์เข้า ที่หน้าจอเป็นชื่อเคนทาโร่

"อุ๊ย หนุ่มทักมาหรือเปล่าเนี่ย" พี่บีมเอ่ยแซว ฉันยิ้มบางๆไม่ได้พูดอะไร

"เธอมีแฟนแล้วเหรอ อยากมีบ้างจัง" นีน่าพูดขึ้น

"มีแฟนแล้วปวดหัว ไปบาร์โฮสกับฉันดีกว่า" เหมยพูดแล้วหัวเราะ

"ไม่เอาอ่ะ ฉันลงทุนกับการกินก็พอ" นีน่าตอบ

"แล้วเธอล่ะ สนใจไหม" เหมยหันมาถามฉัน

"น่าสนใจดีนะคะ" ฉันตอบ

"จริงเหรอ ไว้เราไปด้วยกันนะ" เหมยขยิบตาให้ฉันแล้วยิ้มกว้าง จากนั้นก็มองฉันเป็นมิตรมากขึ้น ชวนคุยนู่นคุยนี่ไม่หยุด

จากนั้นอาหารจึงมาเสริฟ พวกเรากินอย่างเอร็ดอร่อย นั่งคุยกันจนเวลาเกือบบ่าย จึงชวนกันกลับบริษัท

"ขอบคุณสำหรับมื้อกลางวันนะคะ" พวกเรากล่าวขอบคุณพี่บีม แล้วแยกย้ายกันไปทำงาน

ฉันหยิบกล่องแปรงสีฟันเดินเข้าไปในห้องน้ำ ในขณะที่ยืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจกก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงสะอื้น ในใจรู้สึกกระตุกวูบ คงไม่ใช่กุ๊กกู๋หรอกนะ

ฉันรีบบ้วนปากให้สะอาด แล้วมองส่องเข้าไปในห้องน้ำ โชคดีที่เห็นว่าห้องน้ำห้องสุดท้ายปิดอยู่ 

"แอ๊ด~" ประตูห้องน้ำเปิดออก ฉันสะดุ้งตกใจ ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะคนที่เดินออกมาคือพี่ปีโป้

"ตกใจพี่เหรอ" พี่ปีโป้หัวเราะ

"นิดหน่อยค่ะ...หนูได้ยินเสียงสะอื้นก็นึกว่า..."

"ฮ่าๆ...ไม่มีไรหรอก เมื่อกี้พี่ดูซีรีย์อ่ะ มันเศร้าเกิน อารมณ์เลยค้าง" พี่ปีโป้หัวเราะแล้วล้างคราบน้ำตาออก

"อ๋อ...เข้าใจค่ะ หนูก็เคยเป็น" ฉันหัวเราะเบาๆ

"พี่ไปก่อนนะ"

"ค่ะ" ฉันตอบแล้วเดินเข้าห้องน้ำทำธุระเบา แล้วกลับไปนั่งทำงาน

"ครืด ครืด"  ฉันเปิดข้อความจากไลน์อ่าน เป็นข้อความจากเคนทาโร่ที่ดีใจกับฉันที่ได้งาน ส่วนข้อความล่าสุดคืออยากให้ฉันมาที่ญี่ปุ่นเร็วๆ  ฉันส่งตอบไปหลายข้อความ แล้วบอกเขาว่าถ้าเลิกงานเดี๋ยวจะโทรหาเขา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ล่ารักรุ่นพี่(live broadcast)   ตอนที่29

    หนึ่งเดือนต่อมา ฉันกับคุณใต้หล้าเลือกที่จะจดทะเบียนสมรสกันก่อน แล้วคุยกันว่าถ้าจะจัดงานแต่งงานก็อยากให้มีลูกของพวกเราร่วมงานด้วย ฉันปล่อยเช่าคอนโด แล้วย้ายมาอยู่กับคุณใต้หล้า เขาซื้อบ้านเดี่ยวแถวๆชานเมือง เป็นบ้านสองชั้น มีสระว่ายน้ำในตัวชีวิตของพวกเราเป็นไปอย่างเรียบง่าย วันหยุดพวกเราก็ใช้เวลาร่วมกันบ้าง บางทีก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน บางทีก็ออกไปเที่ยว ค่อนข้างมีความสุขเลยทีเดียว จนกระทั่งวันหนึ่ง "คุณใต้หล้า" ฉันเรียกเขาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น"ครับ" เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน "แบมือ" ฉันบอกเขาพร้อมกับยิ้มมุมปาก เขาจึงยื่นมือมาตรงหน้า ฉันจึงวางของบางอย่างลงบนมือเขา"เซอร์ไพรส์""หืม?" เขามองสิ่งของที่อยู่บนมือของตัวเอง ก่อนจะลุกพรวดขึ้นมากอดฉันด้วยความยินดี"ดีใจไหมคะ?" ฉันถามเขา"ดีใจสิ...ในที่สุดก็จะมีลูกกับเธอแล้ว" เขายิ้มกว้าง และแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ในมือเขาคือที่ตรวจครรภ์ หลังจากนั้นเราสองคนก็เห่อลูกมาก พยายามเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเด็ก และกำลังวางแผนสร้างห้องให้ลูก แม้ฉันเพิ่งจะท้องได้สองเดือน แต่แล้ววันหนึ่ง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในวันที่ฉันเลิกงาน ใ

  • ล่ารักรุ่นพี่(live broadcast)   ตอนที่28

    สองสัปดาห์ต่อมา หลังจากเคนทาโร่ออกจากโรงพยาบาล คุณใต้หล้าก็ส่งเคนทาโร่ไปอยู่ต่างหวัด ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆท่ามกลางธรรมชาติ และยังส่งบอดี้การ์ดในคราบเพื่อนบ้านให้คอยดูแลเคนทาโร่อีกด้วย หนึ่งเดือนต่อมา ฉันกับคุณใต้หล้าไปเยี่ยมเคนทาโร่ เคนทาโร่มีใบหน้าที่สดใส ฉันเห็นแล้วก็รู้สึกสุขใจ เพราะเคนทาโร่น่าจะได้ใช้ชีวิตแบบที่ต้องการแล้ว"คาริสาดูสิ ผมปลูกเองนะ" เขาอวดพืชผักที่ปลูกเอง "เก่งมาก" ฉันยิ้มกว้าง "ผมฝึกทำกับข้าวด้วยแหละ พี่ชานนท์ พี่ที่อยู่ข้างบ้านสอน" เคนทาโร่ทำตาเป็นประกาย"จริงเหรอ...งั้นวันนี้ขอชิมฝีมือคุณหน่อยนะ" ฉันพูด "ได้เลย นั่งรอก่อนนะ" เคนทาโร่ จับมือฉันกับคุณใต้หล้าให้ไปนั่งที่โซฟา แล้วจึงหายเข้าไปในครัวครู่ใหญ่ "มาแล้วๆ" เคนทาโร่เดินถือไข่เจียวต้นหอมร้อนๆ ส่งกลิ่นเย้ายวนใจ แล้วเรียกพวกฉันให้ไปที่โต๊ะอาหาร"หอมมาก" ฉันกลืนน้ำลาย "มีแค่ไข่เจียวเหรอ?" คุณใต้หล้าถาม "มียำปลากระป๋องด้วย" เคนทาโร่ตอบ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในครัว แล้วถือจานยำปลากระป๋องมาวางบนโต๊ะ"มากินข้าวกันเถอะ" เคนทาโร่ ตักข้าวสวยร้อนๆ ยื่นให้พวกเราคนละจาน และหันไปตักของตัวเอง จากนั้นจึงเริ่มกิน "อร่อย"

  • ล่ารักรุ่นพี่(live broadcast)   ตอนที่27

    "เคนทาโร่...กินส้มตำไหม?" "เอาสิๆ ผมชอบ" เขาพยักหน้าเห็นด้วย "ขอหาร้านเด็ดก่อน" ฉันหยิบมือถือขึ้นมาหาร้านส้มตำเจ้าอร่อย เมื่อหาได้ก็บอกเคนทาโร่ ประมาณเกือบยี่สิบนาทีพวกเราก็มาถึงร้าน "โห/โห" ฉันกับเคนทาโร่หันมามองหน้ากัน เมื่อมองเห็นว่าร้านส้มตำคนแน่นร้านมาก อาจจะเป็นเพราะว่าพักกลางวันด้วยแหละมั้ง "ร้านอื่นไหม" ฉันหันไปถามเคนทาโร่ "ดีครับ" เขาพูดจบก็ออกรถ พวกเราจึงหาร้านไม่ไกลจากบริเวณนั้นเพราะหิวแล้ว ขับได้สิบนาทีก็มาถึงร้านส้มตำ ฉันกับเคนทาโร่ก็สั่งตำไทย ตำปูปลาร้า ปีกไก่ย่าง น้ำตก ยำทะเล และจิ้มจุ่ม ระหว่างรออาหารก็คุยสัพเพเหระไปเรื่อย "คาริสาจัง" "หืม?" "เมื่อไหร่จะมีหลาน ผมอยากอุ้มหลาน" "พรวด!" ฉันที่ดูดน้ำส้มอยู่ น้ำส้มพุ่งออกจากปากทันที "แค่กๆ" เคนทาโร่รีบยื่นทิชชู่ให้ "ถามอะไรของคุณเนี่ย" ฉันทำหน้าไม่ถูกเลย "ผมจริงจังนะ คุณก็รู้ว่าผมมีลูกไม่ได้" เคนทาโร่หมายถึงว่าเขาชอบผู้ชาย และไม่คิดที่จะเอาน้ำเชื้อของตัวเองไปทำลูกด้วย "ฉันกับเขายังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น พวกเราเพิ่งจะคบกันเองนะ" "ผมใจร้อนไปเหรอ? ฮ่าๆ" เขาหัวเราะ "ก็ใช่น่ะสิ" "เฮ้อ~ แย่จัง" เขาถอนหายใจด้วยความเ

  • ล่ารักรุ่นพี่(live broadcast)   ตอนที่26

    "พี่คะ" ฉันเรียกเขา "หืม?" "ร้องเพลงให้หนูฟังหน่อยสิ" ฉันลงไปนอนบนเตียง แล้วเท้าคางมองหน้าเขา"เอาเพลงอะไรดี?" "อะไรก็ได้ค่ะ หนูฟังได้หมด" "โอเค" เขาตอบรับ แล้วดีดกีตาร์ เริ่มทำนองเพลง ก่อนจะร้องเพลง ฉันฟังเขาอย่างตั้งใจ เนื้อเพลงที่เขาร้องสื่อความหมายว่าขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน และเขาไม่รู้ตัวว่ารักฉันตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีคือรักไปแล้ว "คิกๆ" ฉันนั่งยิ้มกว้าง ทำตาหวานเยิ้มมองเขา อีตาพี่คนนี้มันโรแมนติกตัวพ่อเลยนี่นา(⁠ ⁠ꈍ⁠ᴗ⁠ꈍ⁠) "แปะๆ" ฉันตบมือรัวๆ แล้วพูดว่า "ร้องเพราะมากเลยค่ะ" "เพลงนี้แต่งเองนะ" "จริงเหรอ" "ใช่...มันเป็นความรู้สึกของผม...ถึงคุณ" "โอ๊ย~" ฉันเอามือจับที่บริเวณหัวใจของตัวเอง แล้วกระตุกทำท่าเหมือนจะตาย "เว่อร์" เขาหัวเราะ แล้วลุกไปเก็บกีตาร์ จากนั้นจึงนอนบนเตียง แล้วตะแคงข้างหันมากอดฉัน "จุ๊บ" เขายื่นหน้า มาจูบริมฝีปากฉันเบาๆ และแน่นอนว่าฉันไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่>⁠.⁠ฉันขบเม้มริมฝีปากเขา แล้วค่อยๆสอดลิ้นเล็กเข้าไปในโพรงปาก ใช้ลิ้นเล็กเกี่ยวรัดลิ้นหนาอย่างหยอกล้อ มือที่ว่างอยู่ก็ยื่นไปปลดกระดุมเสื้อเขา ส่วนเขาใช้มือหนา ลูบไล้ที่บริเวณต้นขา ก่อนจะผลุ

  • ล่ารักรุ่นพี่(live broadcast)   ตอนที่25

    หนึ่งเดือนต่อมา หลังจากที่ตกลงเป็นแฟนกัน เขากับฉันก็เจอกันบ้าง แต่ไม่ได้บ่อย ส่วนใหญ่จะวีดีโอคอลมากกว่าเพราะเขางานยุ่งและคืนนี้เขาสะพายกระเป๋าหนึ่งใบ มายืนอยู่หน้าห้องของฉันแล้วบอกว่า "ผมจะมาอยู่ที่นี่หนึ่งสัปดาห์" "พี่ไม่ทำงานทำการหรือไงคะ?" ฉันเอียงคอถามด้วยความสงสัย "เคลียร์หมดแล้วครับ" "อย่าบอกนะว่า...ที่พี่โหมทำงานหนักตลอดหนึ่งเดือนนี้เพราะจะลามาอยู่กับหนู" "ใช่" เขายิ้มกว้าง "โห~" น้ำตาของฉันไหลริน "ร้องไห้ทำไม" เขายื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน "ฮือ~" ฉันยิ่งร้องไห้หนัก เขาจึงดึงฉันเข้าไปกอดปลอบใจ แล้วอุ้มฉันเข้าห้อง จากนั้นจึงวางลงบนเตียงกว้าง"ไม่ดีใจเหรอ?" "ฮึก...ดีใจสิคะ" ฉันสะอื้นตอบ ก่อนหน้าที่เคยผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันก็เคยคิดว่าเป็นเพราะฉันดีไม่พอหรือเพราะอะไร ทำไมคนอย่างฉันไม่สมควรถูกรักบ้าง ทั้งๆที่ทุกความสัมพันธ์ฉันให้ใจไปเต็มร้อยและซื่อสัตย์กับทุกความสัมพันธ์เสมอ และในวันนี้ฉันได้คำตอบแล้วว่า'เพราะที่ผ่านมาฉันรักไม่ถูกคน' กว่าฉันจะก้าวผ่านความเจ็บปวดและเยียวยาจิตใจตัวเองจากคนก่อนๆค่อนข้างสาหัสทีเดียว ฉันเก็บความผิดพลาดจากคนก่อนๆมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แล้วเริ

  • ล่ารักรุ่นพี่(live broadcast)   ตอนที่24

    เมื่อขับรถตามมาจนถึงจุดหมาย ก็พบว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ฉ้นกับคุณใต้หล้าจึงลงจากรถ "ฮือๆ" เสียงสะอื้นของเหมยดังลอดออกมา ฉันมองเข้าไปก็ไม่เห็นตัวเหมยเพราะคนที่จับตัวเหมยมายืนล้อมเหมยเอาไว้ "สาแก่ใจหรือยัง" เสียงผู้ชายที่เต็มไปด้วยความคับแค้นระคนเศร้าใจดังขึ้น ฉันจำได้ว่ามันเป็นเสียงของคนที่เอาปืนขู่ฉัน "ฮึกๆ...ฮือๆ...ฉันขอโทษ...ฉันไม่รู้" เหมยสะอื้น "ไม่รู้? พูดง่ายๆว่าไม่รู้...ฮ่าๆ" ชายคนนั้นหัวเราะเหมือนคนเสียสติ คุณใต้หล้าจับมือฉันเดินเข้าไปใกล้ พวกเขาได้ยินฝีเท้าของพวกเราจึงพากันเปิดทางออก ทำให้ฉันเห็นโลงศพสามโลงตั้งอยู่ หน้าโลงศพ มีผู้หญิงอายุราวๆสี่สิบปีหนึ่งคน เด็กผู้หญิงอายุราวๆสิบสองปีหนึ่งคน และเด็กชายอายุราวๆเก้าขวบหนึ่งคน เมื่อเห็นอย่างนั้นฉันก็พอนึกเรื่องราวออก ฉันมองไปที่เหมยแล้วเดินเข้าไปหา "เหมย" "คาริสา...ฮือๆ" "แกกลับไปทำงานแล้วเหรอ?" "ใช่" "คดีแรกเหรอ?" "ฮึก...ฮือๆ...ใช่...แต่ฉันไม่รู้นี่...ไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้" "เมาแล้วขับใช่ไหม" "น่าจะใช่...ฮือ" "เฮ้อ~" ฉันถอนหายใจ ไม่รู้จะช่วยยังไง ถ้าพูดในเรื่องของหน้าที่เหมยก็ทำถูกแล้ว แต่ถ้าจะพูดถึง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status