“อีกไม่นานพ่อกับแม่ก็จะได้กลายเป็นคุณปู่คุณย่า ที่มีหลานๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง ไปหาพี่ที่ห้องสิ หลังจากตรวจอาการให้กับพี่สะใภ้ หมออาจจะได้ยินข่าวดีจากพายุก็ได้” ประโยคที่แฝงไปด้วยนัยแอบแฝงของมารดา กำลังทำให้นายแพทย์หนุ่มรู้สึกสงสัยถึงข่าวดีที่มารดาพูดถึง แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป ก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นไปบนห้องแล้วหยิบหูฟังแพทย์(Stethoscope)และเครื่องวัดความ เพื่อมาตรวจให้กับมิรา หลังจากที่นายแพทย์จิรายุตรวจอาการให้กับพี่สะใภ้เสร็จ พร้อมกับจัดยาแก้แพ้ให้กับเธอ เพราะดูท่าทางมิราจะแพ้มาก จนนอนลืมตาแทบไม่ขึ้น “ถ้าคุณมิรากินยาแล้วไม่ดีขึ้น ผมจะให้น้ำเกลือนะครับ พี่ก็ดูแลเธอให้ดี อย่าปล่อยคุณมิราไว้เพียงลำพัง” นายแพทย์หนุ่มพูดพร้อมกับเตรียมตัวจะเดินออกไปจากห้องของพี่ชาย “เดี๋ยวก่อนหมอ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับนาย” เสียงทุ้มของพี่ชายดังขึ้น เมื่อภรรยาปรารถนาอยากให้เขาบอกความจริงกับน้องชาย แม้ว่าฝนสุดาจะขอร้องเอาไว้
“มิราไม่เคยคิดที่จะเป็นที่หนึ่งหรือที่สอง ถ้าหากวันนี้คุณพายุยืนยันที่จะเลือกคุณเอวา มิราขอสัญญาว่าเดินออกไปจากชีวิตของคุณพายุทันที และไม่ต้องกลัวนะคะว่าลูกของมิราจะไม่มีพ่อ เพราะมิราสามารถเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูกของตัวเองได้ค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำคำที่ฟังดูหนักแน่น เมื่อเธอนั้นเบื่อที่จะต้องเผชิญหน้ากับเอวาเต็มที ทั้งที่รู้ดีว่าหล่อนท้องกับผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่สามีของเธอ “จองหอง อวดดี!” น้ำเสียงของหญิงสูงวัยดังตะคอกออกมา ราวกับมิรากำลังเป็นจำเลย “ใจเย็นสิคุณเดี๋ยวความดันก็ขึ้นหรอก” ชายสูงวัยเริ่มที่จะเป็นห่วงภรรยา เมื่อนางมีทีท่าเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเอวาจนออกนอกหน้า แม้ว่าเขาจะไม่ชอบใจที่ลูกชายพาผู้หญิงอีกคนเข้าบ้าน แต่ผู้เป็นบิดาก็อยากได้ฟังความจริงจากปากของลูกชาย เมื่อพายุดูจะมั่นใจว่าลูกในท้องของเอวาไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอย่างแน่นอน “แม่ฟังให้ดีๆ นะครับ เอวาท้องกับฟาเบียน หนุ่มลูกครึ่งที่ผมจ้างเขามาช่วยงานตกแต่งภายใน ผมมีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ รวมทั้งเสียงพูดที่สามารถยืนยันความสัมพันธ์
เวลานี้ปลายลิ้นร้อนผ่าวยังคงโลมเลียกลีบปากบนและล่าง ขณะที่คนตัวเล็กใต้ร่างเผลออ้าปากรับปลายลิ้นอุ่นด้วยความเต็มใจ ความรู้สึกของคนทั้งคู่แทบจะหายใจไม่ออก เมื่อต่างคนต่างก็ใช้ปลายลิ้นโต้ตอบแตะกระหวัดเกาะเกี่ยวแลกเปลี่ยนรสหวานอย่างไม่มีใครยอมใคร “อื้ม อื้อ” เสียงครางจากในลำคอของคนทั้งคู่ดังขึ้นมา เมื่อเจ้ามังกรยักษ์ตั้งลำแข็งขึง เสียดสีกับโหนกนูนกลางกลีบกุหลาบงามบานเบ่ง จนเรือนกายของคนทั้งคู่แนบแน่นแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน “ผมรักคุณจัง รักลูกด้วย เรามาสร้างครอบครัวด้วยกันนะมิรา” น้ำเสียงทุ้มที่ดังอยู่ข้างใบหูเล็กดุจสายน้ำไหลริน แฝงความหมายที่ลึกซึ้งจนทำให้คนตัวเล็กยิ้มร่าออกมาด้วยความสุข สายตาคมกริบค่อยมองลงต่ำ ก่อนจะมาหยุดที่เต้าคู่งามขาวโพลน ไฟในกายของเขามีแรงปรารถนาที่เต็มเปี่ยม มือแกร่งแตะลงไปที่สองเต้า เขาลูบไล้เคล้นไปมาเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปใช้ริมฝีปากร้อนฉ่าครอบครองเม็ดบัวอมชมพู สัมผัสจากปลายลิ้นของคนตัวโต ที่กำลังดูดสลับข้างไปมาเบาๆ กลับทำให้ยอดเม็ดสีหวานแข็งเป็นไตสู้ปลายลิ้นร้
“เชื่อหูตัวเอง หมายความว่ายังไง” คิ้วดกหนาขมวดเข้าหากัน พลางแสดงสีหน้าประหลาดใจ เมื่อมิราไม่ถามซักไซ้ไล่เลียงเรื่องเอวา แถมเธอยังบอกว่าเชื่อหูตัวเองอีกด้วย “ก็มิราได้ยินเรื่องที่คุณเอวาคุยกับพ่อของเด็กในท้องของเธอ ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ซึ่งดวงตากลมโตได้ช้อนขึ้นไปสบสายตาคมด้วยแววตาที่ดูใสซื่อ ยิ่งทำให้พายุรู้สึกหลงใหล ในความไร้เดียงสาของเธอ เธอไปฟ้องแม่ผมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ป่านนี้ที่บ้านคงวุ่นวาย โทรหาผมจนโทรศัพท์แทบพังแล้วมั้ง แต่โทรยังไงก็คงไม่ติด เพราะปิดเครื่องเตรียมง้อเมีย” พายุพูดออกมาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ ก่อนที่ชายตัวโตจะค่อยๆ โน้มตัวเข้าหาคนตัวเล็ก ซึ่งมิราเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะถอยหนี เมื่อพายุรับปากเรื่องนายแพทย์หนุ่มกับฝนสุดา อีกไม่นานเพื่อนของเธอกับสามีคงได้ปรับความเข้าใจกัน “คุณพายุ” “เรียกท
“ลุกได้แล้ว จะทับฉันไว้ทำไมหนักจนหายใจไม่ออกแล้ว คุณยังทำฉันเจ็บไม่พอหรืออย่างไร” มิราพูดออกมาด้วยดวงตารื้นน้ำตาแฝงแววของความชอกช้ำเต็มประดา เมื่อความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาใส่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว “ผมขอโทษที่ทำให้เรื่องของเราไม่ชัดเจน แต่ผมไม่ใช่หมอวายุที่จะไม่กล้าพูดความจริง พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปพบพ่อกับแม่ ในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของนายพายุ และให้ท่านหาฤกษ์แต่งงานให้เร็วที่สุด ก่อนที่ผมจะทำคุณท้องโย้” พายุพูดพร้อมกับเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้มมิรา ดวงตาคมมองไปที่ใบหน้างาม เขาสบตาคนตัวเล็กล้ำลึกมองเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ ฉายแววความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอออกมาอย่างลึกล้ำ “อย่าแม้แต่จะคิด!” มิราร้องห้ามพร้อมกับใช้ปลายนิ้วชี้แตะลงไปที่ริมฝีปากอุ่น เมื่อท่านประธานหนุ่มกำลังจะทาบทับริมฝีปากลงมา เพื่อกดจูบให้สาสมกับความรักที่เขาม
“จะดูแลคุณฝนหรือจะให้ฝนดูแล คุณฝนเดินระวังด้วยนะเจ้า” ดูเหมือนว่านางฟองคำ จะเป็นห่วงเป็นใยฝนสุดามากเป็นพิเศษ นั่งคงเป็นเพราะว่าครอบครัวของนางได้รับการเอาใจใส่จากนายแพทย์จิรายุ ทั้งทางด้านการเงินการศึกษาของบุตรทั้งสอง แล้วเขายังไว้ใจให้ดูแลไร่ชาที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้อีกด้วย “ป้าสบายใจได้ ไปกันเถอะสะบันงา” พอฝนสุดาพูดกับป้าฟองคำจบประโยค เธอจึงไปสั่งสะบันงาให้เดินตามลงไปจากบ้าน อากาศที่นี่ดีมาก ฝนสุดาต้องขอบคุณพี่ชายของนายแพทย์หนุ่ม หลังจากที่เธอทราบความจริงเรื่องพ่อของลูก หญิงสาวตั้งใจว่าจะหนีไปอยู่ต่างประเทศสักพัก แต่พายุกลับไม่ยอม อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเป็นห่วงหลานๆ ที่อยู่ในท้องของฝนสุดา จึงตัดสินใจให้เธอมาอยู่ที่ไร่ชา เพราะความจริงแล้วเขาไม่ได้ขายและที่นี่ยังคงเป็นชื่อของนายแพทย์จิรายุเหมือนเดิม ซึ่งอีกไม่นานมันก็คงจะตกเป็นลูกทั้งสองของเขา “คุณฝนค่ะ” เมื่อทั้งสองเดินชมบรรยากาศในไร่ชาได้สักพัก สะบันงาจึงตัดสินใจที่จะถามในสิ่งที่เธอนั้นสงสัย