Share

บทที่ 4

หวังอี้หลินได้รับรูปถ่ายสร้อยคอ เมื่อมองดูเธอก็รู้สึกคุ้นตาขึ้นมาทันที

จางเหวิน แม่ของเธอเข้าไปมองดูใกล้ ๆ แล้วถอนใจ “คาดไม่ถึงเลยว่าสร้อยคอที่ไม่มีราคาเส้นนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของภรรยาทายาทตระกูลฉู่”

หวังอี้หลินตกใจ

เธอจำได้แล้ว!

สร้อยคอเส้นนี้ คือเส้นที่ห้อยอยู่ที่คอของฉินซู

ที่แท้ ฉินซูก็เป็นคนที่ช่วยฉู่หลินเฉิน!

หวังเจิ้นฮวาพูด “หยุดพูด แล้วรีบหาสร้อยคอเส้นนั้นให้เจอให้เร็วที่สุดเถอะ ถ้าหาไม่เจอ ลูกสาวของเราจะแต่งงานเข้าไปในตระกูลฉู่ได้อย่างไร?”

“ใช่ ใช่ ใช่!”

จางเหวินพูดพลางไปหยิบกระเป๋าสัมภาระของหวังอี้หลิน

“คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ต้องหาแล้ว! หนูรู้แล้วว่าสร้อยเส้นนั้นอยู่ที่ไหน”

หวังอี้หลินหยุดทั้งสองคนด้วยสีหน้าที่หนักแน่น

สองสามีภรรยามองเธอด้วยความประหลาดใจ

“สร้อยคออยู่ข้างนอก หนูจะไปเอามันกลับมา”

พูดจบหวังอี้หลินก็ออกไป

หวังเจิ้นฮวาและจางเหวินนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างอีกครั้ง

จางเหวินตบหน้าอกตัวเอง “เจ้าเด็กคนนี้ ทำให้พวกเรากังวลจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่รู้ว่าของสำคัญขนาดนั้นเอาไปวางไว้ข้างนอกได้อย่างไร...”

หวังอี้หลินมุ่งตรงไปหาฉินซูที่มหาวิทยาลัย

เพื่อที่จะเป็นภรรยาของทายาทตระกูลฉู่ เธอจะต้องเอาสร้อยคอกลับไปให้ได้!

ในขณะนั้น ฉินซูกำลังนั่งรถกลับบ้าน

เธอกับหวังอี้หลินพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน พูดให้ถูกต้องก็คือ ที่นี่คือบ้านของพ่อแม่บุญธรรมของเธอ

เธอเป็นทารกที่ถูกทอดทิ้ง ก่อนที่เธอจะอายุ 15 ปีคุณย่ารับเธอไปเลี้ยง และพาไปพักอาศัยอยู่ในชนบท ในปีนั้นคุณย่าป่วยหนัก พ่อแม่บุญธรรมจึงมารับพวกเขาเข้าไปอยู่ในเมือง

บ้านหลังนี้ นอกจากจะประกอบไปด้วยพ่อแม่บุญธรรมแล้ว ยังมีน้องชายที่อายุน้อยกว่าเธอ 1 ปีอีกคน ที่ยังเรียนซ้ำอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

โจวซือฉิน แม่บุญธรรมของฉินซูเพิ่งจะโทรเรียกให้เธอกลับบ้านมาสอนการบ้านจงหยู่อ๋าง

จงหยู่อ๋างติดเกมมาก ถึงแม้ว่าเขาจะเรียนซ้ำชั้น เขาก็ยังเล่นเกมทั้งวัน อีกทั้งทัศนคติต่อการเรียนของเขานั้นแย่มาก

ฉินซูอยากที่จะใช้มือแยกสมองของเขาออกมาแล้วยัดกระดาษข้อสอบเข้าไป

หลังจากอธิบายข้อสอบให้จงหยู่อ๋างเสร็จสิ้น ซึ่งมันไม่ง่ายเลย ฉินซูก็กลับเข้าห้องไปจัดการกับสิ่งของต่าง ๆ

นำสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับหลินเมิ่งฟานทั้งหมดโยนทิ้งลงถังขยะ

นำเสื้อผ้าที่สกปรกไปวางไปข้างถังซักผ้า คิดว่าอีกประเดี๋ยวค่อยซัก

หลังจากนั้นไม่นาน จงจื้อหย่วน พ่อบุญธรรมของเธอก็กลับถึงบ้าน

เขาหน้านิ่วคิ้วขมวด ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยความอึมครึม

ฉินซูเทน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้เขา “คุณพ่อ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”

จงจื้อหย่วนถอนหายใจ นั่งสูบบุหรี่ด้วยความกลัดกลุ้มบนโซฟา

เห็นเช่นนั้นฉินซูก็รู้ได้ทันทีว่า ปัญหาของโครงการครั้งก่อนยังไม่ได้รับการแก้ไข

จงจื้อหย่วนดูแลโครงการหนึ่งมาสักระยะแล้ว ผลลัพธ์ก็คือการขาดทุนอย่างมหาศาล ทำให้ตอนนี้บริษัทของเขาตกอยู่ในภาวะลำบาก

ฉินซูปิดกั้นความกังวลของเธอไว้ไม่ได้ เธอหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้อง

โจวซือฉินนั่งลงข้าง ๆ จงจื้อหย่วน หยิบบุหรี่ในมือของเขาออก แล้วถามอย่างเป็นกังวลว่า “เหล่าจง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

จงจื้อหย่วนส่ายหัว ลักษณะท่าทางที่หดหู่ของเขาได้อธิบายทุกอย่างแล้ว

โจวซือฉินมีสีหน้าที่หมดหวัง จบแล้ว ครอบครัวของพวกเขามันจบลงแล้ว!

“น่าเสียดาย ครอบครัวของเราไม่ได้โชคดีเหมือนครอบครัวหวังข้างบ้าน!” จงจื้อหย่วนถอนหายใจออกมาทันที

เมื่อครู่นี้ ที่เขากำลังเดินเข้าหมู่บ้านก็พบเจอกับจางเหวินที่กำลังคุยโม้โอ้อวดโดยบังเอิญ หวังอี้หลิน ลูกสาวของเธอกำลังจะแต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยกลายเป็นภรรยาของทายาทตระกูลฉู่!

ตระกูลฉู่ ตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่ง นั่นเป็นวงศ์ตระกูลที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศ ที่มีทั้งเงินและอำนาจ!

ครอบครัวหวังกำลังปีนป่ายไปยังจุดสูงสุด

“คุณแม่ นี่คืออะไร?”

ในตอนนั้นเอง โจวหยู่อ๋าง ลูกชายของเธอเดินออกมาจากระเบียงไปยังห้องนั่งเล่น มือข้างหนึ่งถือเสื้อผ้าที่แห้งไว้ มืออีกข้างหนึ่งถือสร้อยคอไว้หนึ่งเส้น

ในตอนนั้นจิตใจของโจวซือฉินกำลังกระวนกระวาย เธอกวาดตามองอย่างไม่ใส่ใจ “ก็เป็นของไร้ราคาที่แฟนจน ๆ ของฉินซูให้เธอมานั่นแหละ เอาไปทิ้งไป!”

“อ้อ!” โจวหยู่อ๋างแบะปาก กำลังจะโยนทิ้งลงถังขยะ

ตาของจงจื้อหย่วนเป็นประกาย รีบห้ามการกระทำของลูกชาย “อย่ายุ่ง เอามาให้ฉันดูหน่อย!”

เขารู้สึกว่าสร้อยคอเส้นนี้มันทะแม่ง ๆ เขาหยิบมันมาไว้ในมือแล้ววิเคราะห์ดูอย่างระมัดระวัง หวนนึกไปถึงคำพูดของจางเหวินที่พูดไว้ข้างล่างตึก

“ตระกูลฉู่ไม่ใช่ตระกูลธรรมดาทั่วไป คนที่จะเป็นสะใภ้ของตระกูลนี้จะต้องมีสัญลักษณ์บางอย่าง นั่นก็คือสร้อยคอที่มีจี้ทองแดง และมีคำว่าฉู่สลักอยู่ด้านหลัง แต่มันดูไม่มีราคาน่ะสิ...”

จงจื้อหย่วนพลิกดูด้านหลังของสร้อย มีคำว่า “ฉู่” สลักอยู่จริง ๆ!

แววตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที ขจัดความทุกข์ก่อนหน้านี้ไปจดหมดสิ้น พูดอย่างตื่นเต้น “มันคือเส้นนี้ ไม่ผิดแน่!”

“เหล่าจง เกิดอะไรขึ้น?”

จงจื้อหย่วนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสร้อยเส้นนี้ให้ภรรยาของเขาฟัง อีกทั้งยังบอกถึงความคิดของตนเอง

“ตอนนี้มีเพียงฉินซูเท่านั้นที่จะช่วยพวกเราได้!”

จงจื้อหย่วนมองไปยังสร้อยคอในมือด้วยสายตาแวววาว

“แล้วเธอจะยอมไหม? อย่าลืมนะว่าเธอมีแฟนสุดที่รักของเธออยู่!”

แม้ว่าฉินซูจะเป็นคนนำสร้อยคอเส้นนี้กลับมา แต่โจวซือฉินกล้าพนันเลยว่า เด็กสาวจากชนบทคนนี้นั้น ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของสร้อยเส้นนี้อย่างแน่นอน เธอไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งมากขนาดนั้น

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของจงจื้อหย่วนก็มืดสลัว “ต้องมีทางสิ...”

หลังจากอาหารเย็น ฉินซูอยู่ในห้องเพื่อตรวจดูเงินของเธอที่มีอยู่

บริษัทของพ่อบุญธรรมกำลังเกิดปัญหา เธอไม่สามารถนิ่งดูดายได้

น่าเสียดายที่เธอเป็นเพียงเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ถ้าไม่นับเงิน 120,000 หยวนที่หลินเมิ่งฟานยังไม่คืน ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอเหลืออยู่แค่ 8,000 กว่าหยวน

ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย

ฉินซูถอนหายใจออกมา และคิดว่าเธอจะไปหางานพาร์ทไทม์ทำ

ต่อให้ท้ายที่สุดบริษัทของพ่อบุญธรรมเธอจะล้มละลาย อย่างน้อยเธอก็ยังมีรายได้อีกหนึ่งทางไว้จุนเจือครอบครัวและซื้ออาหารบำรุงร่างกายให้คุณย่า

ในตอนนั้นเอง จงจื้อหย่วนเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา

เห็นฉินซูกำลังหางาน เขาก็พูดอย่างปลื้มใจ “เสี่ยวฉิน พ่อรู้ว่าหนูเป็นเด็กดี แต่หนูไม่ต้องทุกข์ใจกับสถานการณ์ของครอบครัวเราตอนนี้หรอก มานี่มา มาดื่มนมแก้วนี้หน่อย”

พูดจบก็ยื่นนมในมือให้กันฉินซู

“คุณพ่อ หนูแค่อยากจะแบ่งเบาภาระของคุณพ่อ” พูดจบก็ดื่มนมต่อหน้าพ่อบุญธรรมของเธอ

จงจื้อหย่วนยิ้มอย่างพอใจ “นอนหลับฝันดีนะ”

เขาดูเธอดื่มนมจนหมดก็หันหลังเดินออกไป ฉินซูปิดประตู

คืนนี้ เธอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว

ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนโซฟานุ่มตัวใหญ่

ฉินซูจับขมับตัวเองแล้วลุกขึ้นนั่ง ความคิดหยุดอยู่ที่เมื่อวานตอนค่ำ ทำไมหลังจากดื่มนมที่พ่อบุญธรรมยกมาให้เมื่อวานตอนค่ำเธอก็รู้สึกสลึมสลือ

ในใจเธอคาดเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เธอกลับไม่กล้าจะเชื่อความคิดตนเอง

มองไปรอบ ๆ เป็นห้องที่แปลกตา

ตกแต่งไปด้วยของโบราณที่หรูหราตระการตา หน้าต่างแกะสลักฉลุลวดลายสวยงาม ผ้าม่านมีราคาสีน้ำเงินเข้มตัดกับพู่สีทองเหลืองอร่าม

ที่นี่ที่ไหน?

ฉินซูที่กำลังงุนงง ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ไม่ไกลดังขึ้น

เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที กดดูข้อความในวีแชทที่โจวซือฉิน แม่เลี้ยงของเธอส่งมา

“ฉินซู นับตั้งแต่นี้ไปเธอคือภรรยาของทายาทตระกูลฉู่ เป็นเด็กดีเชื่อฟังล่ะ ไม่ว่าใครจะถามอะไร ขอให้เธอยืนยันว่าโทเคนนั้นเป็นของเธอ! จำไว้นะ ต้องเป็นภรรยาของทายาทตระกูลฉู่! ”

“ถ้าเธอมีพิรุธ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่จะลำบาก ยังมีย่าของเธอที่นอนอยู่ที่ห้องไอซียู! และถ้าครอบครัวของเราล้มละลาย เราก็ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาที่ราคาแพงหูฉี่ขนาดนั้นได้!”

“สุดท้ายนี้ ฉันอยากจะเตือนเธอ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปห้ามเธอติดต่อกับหวังอี้หลินอีก และห้ามบอกใครว่าเธอรู้จักหวังอี้หลิน จะได้ไม่โดนคนอื่นจับผิด!”

ภรรยาของทายาทตระกูลฉู่? โทเคน? หวังอี้หลิน?

สามอย่างนี้เกี่ยวข้องอะไรกัน?

ดูจากข้อความของแม่เลี้ยงที่ส่งมา ฉินซูรู้ตัวว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เธอรู้สึกถึงความเหน็บหนาวตั้งแต่ปลายเท้าจนกระทั่งในหัวใจเธอ

เธอโดนวางแผนให้มาที่นี่!

พ่อแม่บุญธรรมอาศัยจังหวะที่เธอไม่รู้ตัวพาเธอมาที่ตระกูลฉู่ ให้เธอแต่งงานกับคุณชายตระกูลฉู่ที่เธอไม่เคยพบเห็น!

อีกทั้งข้อต่อรองที่พวกเขาใช้บังคับเธอก็คือ ชีวิตของคุณย่า!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status