Share

บทที่ 12

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เป่าจู้รู้สึกปวดใจที่คุณหนูของตัวเองถูกรังแกเช่นนี้ คำบางคำที่คุณหนูต้องเห็นถึงกาลเทศะเลยไม่สามรถพูดได้ แต่นางเป็นสาวรับใช้ที่หยาบคาย นางไม่กลัว ดวงตาของนางแดงก่ำ "ข้อน้อยเป็นแค่สาวใช้ผู้ต่ำต้อย ยังรู้อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ท่านเป็นถึงแม่ทัพหญิงในราชสำนัก แต่กลับไปคบชู้กับสามีคนอื่นในสนามรบ และตอนนี้กลับอาศัยความสำเร็จมารังแกคุณหนูของข้าโ... "

"เพี๊ยะ!"

การตบอย่างเสียงดังลงบนใบหน้าของเป่าจู

จ้านเป่ยว่างตบเป่าจูอย่างแรงด้วยความโกรธ จากนั้นจ้องมองไปที่ซ่งซีซีด้วยความเย็นชา "นี่ก็คือสาวใช้ที่เจ้าสอนมาหรือ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเลย"

ซ่งซีซีรีบลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งไปพยุงเป่าจูก่อน เมื่อเห็นแก้มของนางบวมทันที ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจ้านเป่ยว่างออกแรงไปมากแค่ไหน

นางหันกลับมาและดวงตาของนางก็เย็นชา จากนั้นนางก็ตบหน้าจ้านเป่ยว่างฉาดหนึ่ง "คนของข้า จะยอมให้เจ้าทุบตีอย่างตามใจเลยเหรอ"

จ้านเป่ยว่างไม่คาดคิดว่านางจะตบเขาเพื่อสาวใช้คนหนึ่ง หน้าของผู้ชายจะโดนผู้หญิงตบแบบง่ายๆ ได้ยังไงกัน โดยเฉพาะต่อหน้ายี่ฝาง

แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต่อสู้กลับ ดังนั้นเขาจึงได้แต่จ้องเขม็งไปที่ซ่งซีซีอย่างเย็นชา และจากไปพร้อมกับยี่ฝาง

ซ่งซีซีเอามือลูบที่แก้มของนางเบาๆ "เจ็บไหม?"

"ไม่เจ็บเจ้าค่ะ" เป่าจูไม่ร้องไห้แต่กลับยิ้ม "โชคดีที่เราจะออกจากจวนแม่ทัพได้เร็วๆ นี้"

"ฝ่าบาทตรัสว่าพระราชกฤษฎีกาจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นวันไหน" ซ่งซีซีไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว

เมื่อจ้านเป่ยว่างเล่าให้นางฟังว่าฝ่าบาทพระราชทานอภิเษกสมรส ที่นางต้องการพบกับยี่ฝาง เพราะนางมีความประทับใจที่ดีต่อยี่ฝาง เพราะยังไงแล้วนางเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกในราชวงศ์ และคิดว่านางคงไม่ยอมมีสามีร่วมกับคนอื่นแน่ๆ

แต่พอวันนี้ได้พบนาง และได้ยินคำพูดของนางมาบ้าง ภาพสวยๆ พังหมดเลย

นางผิดหวังกับแม่ทัพยี่ฝางจริงๆ

งานแต่งงานของพวกเขากำหนดไว้ในเดือนตุลาคม และตอนนี้ก็เป็นช่วงกลางเดือนสิงหาคมแล้ว ดังนั้น พวกเขาจะต้องรีบจัดเตรียมอย่างแน่นอน แต่คนที่สามารถออกหน้ามาจัดเตรียมงานแต่งงานนอกจากนางแล้ว ก็มีแต่ฮูหยินผู้เฒ่ารอของบ้านรองเท่านั้น

ดังนั้นนางจึงต้องตัดความคิดของคนในตระกูลจ้านที่ให้นางออกหน้าเพื่อเตรียมเรื่องจัดงานแต่งงาน

ในที่สุดเรื่องการแต่งงานก็ถูกมอบให้ฮูหยินผู้เฒ่ารองมาจัดการ แต่ฮูหยินผู้เฒ่ารองรู้สึกรังเกียจความใจร้ายและความไม่ชอบธรรมของจ้านเป่ยว่างมาก แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ในครอบครัว และบวกกับพี่สะใภ้คนโตป่วยจริงๆ นางจึงต้องรับหน้าที่ช่วยจัดเตรียมงานแต่งงานแทน

ก่อนวันมอบสินสอบ ป้ารองรวมตัวคนในครอบครัวเพื่อหาเรือ ฮูหยินผู้เฒ่าต้องให้ซ่งซีซีร่วมด้วย ซ่งซีซีรู้ดีว่าพวกเขามีเจตนาอะไร แต่นางก็อยากรู้ว่าพวกเขาจะไร้ยางอายแค่ไหนเชียว

พ่อของจ้านเป่ยว่าง จ้านจี้และอารองจ้านกัง และน้องๆ ของจ้านเป่ยว่างก็อยู่ด้วย

ตอนที่สู่ขอ สินสอดต่างๆ ที่อีกฝ่ายกำหนดไว้ ได้จัดทำรายการอยู่แล้ว และสิ่งของทั่วไปนั้นป้ารองก็เตรียมไว้หมดแล้ว

ตอนนี้เหลือส่วนสินสอด ป้ารองตัดสินใจไม่ได้ เลยเรียกทุกคนมาหาทางออกกัน

จ้านจี้เคยเห็นรายการของสินสอด แล้วเขาได้พูดในตอนนั้นว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จัดให้เยอะขนาดนั้น เมื่อเขาแต่งงานกับซีซีเมื่อปีที่แล้ว นางซ่งบอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าจ้านต้องกินยาตลอดทั้งปีและครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวยมาก เลยไม่ได้ขออะไรมาก แค่รับเงินไปห้าร้อยตำลึง และเครื่องประดับธรรมดาๆ ถือเป็นของหมั้น

ในทางกลับกัน สินเดิมที่ฝ่ายหญิงเอามานั้น มีทั้งบ้านพัก สวนต่างๆ และร้านขายของด้วย แม้แต่เงินสดก็มีหนึ่งแสนตำลึง และเครื่องเรือน ผ้าทอชั้นดีต่างๆ เยอะจนห้องนอนห้องหนึ่งก็ไม่มากพอที่จะจัดเก็บได้

ตลอดทั้งปีนี้ เพราะความช่วยเหลือจากสินเดิมของซีซี ถึงสามารถจ้างหมอมหัศจรรย์ดันมารักษาตัวที่บ้าน กินยาที่เขาสั่งให้

ไม่เช่นนั้น เกรงว่าที่จ้านเป่ยว่างออกศึกไม่ถึงเดือนก็คงเสียชีวิตไปแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (7)
goodnovel comment avatar
Atitan Srikul
สนุกมากขอบคุณมากค่ะ
goodnovel comment avatar
Kantitat
เอาล่ะ พินาศแน่ อิตระกูลจ้านนน!!
goodnovel comment avatar
Penluck
ยิ่งนานบท ยิ่งสนุกขอบคุณที่ เขียนเนื่องดีๆออกมาให้ให้ได้อ่านค่ะ ขอบคุณที่แปลบทเป็นไทย คนชอบอ่าน ยิยาย มาถูกทางค่ะ ขอให้มีคนมาสนับสนุนมาอ่านมากมาย เฮงเฮง มือดีตลอดกาลค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1646

    ขณะเตรียมรับศึก ก็ได้เริ่มเคลื่อนย้ายราษฎรที่อยู่ใกล้ประตูชายแดนเฉิงหลิงเข้าสู่ภายใน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ได้รับผลกระทบจากสงครามนอกด่านยังมีหมู่บ้านอีกหลายแห่ง ซึ่งล้วนเป็นราษฎรแคว้นซาง ที่อยู่อาศัยสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ก่อนหน้านี้แม่ทัพใหญ่เซียวก็เคยชักชวนให้ย้ายเข้าด่าน แต่พวกเขาไม่ยินยอมพวกเขาเห็นว่า ชายแดนเฉิงหลิงกับแคว้นซีจิงมีปัญหามานาน แต่ก็ไม่เคยกระทบถึงพวกตน การย้ายเข้าเมืองก็ไม่ต่างจากทิ้งบ้านเกิด พวกเขายอมตายยังไม่ยอมจากไปครานี้แม่ทัพใหญ่เซียวเป็นผู้ไปเจรจาด้วยตนเอง อีกทั้งยังรับปากว่า หากเกิดสงครามแล้วหมู่บ้านถูกทำลาย เหล่าทหารจะช่วยสร้างบ้านเรือนใหม่ให้แม่ทัพใหญ่เซียวเป็นผู้มีบารมี เป็นที่ยอมรับในหมู่ราษฎร เมื่อเขาไปเจรจาด้วยตนเอง ใช้เวลาพูดอยู่นาน ในที่สุดก็เกลี้ยกล่อมสำเร็จเหล่าทหารก็ช่วยกันขนย้าย ซ่งซีซีก็อยู่ในหมู่ผู้ที่ถูกส่งไปช่วยงานนี้ ภายในไม่กี่วัน ทุกอย่างก็เสร็จสิ้นซ่งซีซีจำได้ว่า เมื่อคราสงครามใหญ่ระหว่างสองแคว้นปะทุ แม้เคยตกลงกันว่าจะไม่สังหารราษฎร ไม่ทำร้ายชาวบ้าน แต่หากเกิดเพลิงสงครามขึ้นจริง การปล้นสะดมและขับไล่ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ การบาดเจ็บ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1645

    กุ้นเอ่อร์สร้างผลงานในศึกอ้าวจื่อหลิ่ง จึงได้รับการเลื่อนเป็นแม่ทัพกองร้อย สามารถบัญชาทหารในสังกัดได้หนึ่งร้อยนายกุ้นเอ่อร์ร้องขอต่อแม่ทัพหลู ขอเป็นผู้ฝึกทหารใหม่ และทหารภายใต้เขานั้น จะขอคัดเลือกจากค่ายฝึกทหารใหม่เดิมทีแม่ทัพหลูไม่เห็นด้วย เห็นว่าเขานั้นกล้าหาญเป็นพิเศษ หากใช้เป็นแนวหน้าในสนามรบ ร่วมกับเหล่าทหารฝีมือดีจะเหมาะที่สุด แต่กุ้นเอ่อร์กล่าวว่าตนเป็นผู้ฝึกยุทธ์จากยุทธภพ ย่อมมีวิธีฝึกเฉพาะตน ใช้กับทหารใหม่ย่อมได้ผลดี อีกทั้งยังรับประกันว่าจะฝึกจนกลายเป็นทหารฝีมือเยี่ยมได้เขายังยินดีจะลงชื่อรับผิดในคำสั่งด้วยตนเองแม่ทัพหลูย่อมไม่คิดจะให้เขาทำถึงเพียงนั้น คนหนุ่มฝีมือดีเช่นนี้พบได้ยาก ย่อมต้องเก็บรักษาไว้และบ่มเพาะให้ดี หากเขาอยากฝึกทหารใหม่ ก็ให้ลองดู หากทำไม่ได้จึงค่อยกลับมากุ้นเอ่อร์จึงดีใจนัก รีบไปยังค่ายฝึกทหารใหม่เพื่อคัดเลือกผู้คนซ่งซีซี หมั่นโถว เสิ่นว่านจือ เฉินเฉิน ย่อมอยู่ในรายชื่อแน่นอน นอกนั้นก็คัดเลือกกันอีก มีทั้งพวกกล้าหาญ พวกมีไหวพริบ หรือพวกที่ฝีมือดีหนึ่งร้อยชีวิต ยกขบวนไปยังสํานักงานกองทัพ หากมีศึกขึ้น พวกเขาชุดนี้ก็ต้องขึ้นสนามรบด้วยที่สํานัก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1644

    ซ่งซีซีได้พบกับเสิ่นว่านจือ เฉินเฉิน และคนอื่นๆ ในที่สุดใบหน้าหนุ่มสาวเหล่านั้น ทำให้ซ่งซีซีรู้สึกราวกับย้อนกลับไปอีกภพหนึ่งทุกคนเข้าสู่ค่ายฝึกทหารใหม่ ได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานที่สุด ซึ่งแม้จะหนักสำหรับทหารใหม่ แต่สำหรับพวกเขา ก็ไม่ต่างจากขูดผิวเท่านั้นดังนั้นเมื่อฝึกทั้งวันจบลง ขณะที่เหล่าทหารใหม่คนอื่นนอนแผ่อยู่บนเตียงรวม หอบหายใจอย่างหนัก พวกเขากลับยังสามารถออกไปวิ่งอีกสองสามรอบ แล้วค่อยนอนบนผืนทรายวางแผนกันต่อใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หมั่นโถวคาบต้นหญ้าไว้ในปาก สองมือหนุนศีรษะ พลางกล่าวอย่างไม่เข้าใจว่า “ซีซี ข้าว่าความฝันมันก็แค่ความฝัน เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยหรือ? ลำบากลำบนมาถึงนี่เพื่อเป็นทหาร แต่ก็ยังไม่ได้ออกรบจริงจังเลยนะ”“ต้องทำขนาดนี้” เสิ่นว่านจือกับเฉินเฉินตอบขึ้นพร้อมกันเฉินเฉินใช้ข้อศอกสะกิดหมั่นโถว “จะไม่ทำถึงขนาดนี้ได้อย่างไรล่ะ? ก็มีเซียนมาเข้าฝันบอกซีซีเลยนะ ไม่อย่างนั้นข้ากับเจ้าฝันบ้างทำไมถึงได้ฝันแต่เรื่องขโมยไก่ขโมยหมา ไม่มีฝันเรื่องแผ่นดินบ้านเมืองเลย?”เสิ่นว่านจือกล่าว “ต่อให้ไม่มีเหตุผลอื่น อย่างน้อยก็มาหาประสบการณ์ยังดี”ใช่แล้ว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1643

    หากเปิดศึกขึ้นจริง ซ่งซีซีย่อมต้องขึ้นสู่สนามรบแน่นอน เพียงแต่ท่านตามิอนุญาต นางจึงต้องหาวิธีอื่นลำดับแรก นางต้องเข้าสังกัดทัพเพื่อเป็นทหาร ขณะนี้แม้นางจะเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย แต่กลับถูกแม่ทัพหลูจับตามอง รอจนฝึกเสร็จ ก็จะขับไล่นางออกไปนางยังมิได้ขึ้นทะเบียนเป็นทหารไร้ซึ่งทะเบียนทหาร ย่อมมิใช่ทหารปกติ เช่นนั้นก็ย่อมไม่อาจขึ้นสู่สนามรบได้นางจึงหารือกับกุ้นเอ่อร์ ให้เขาอยู่ที่นี่ชั่วคราว ตนนั้นจะออกไปหาวิธี แล้วค่อยกลับมาภายใต้ตัวตนใหม่ เพื่อสมทบกับเขาอีกครั้งดังนั้น หลังจากอยู่ในค่ายฝึกไม่กี่วัน ซ่งซีซีก็กล่าวขอกลับเมืองหลวงแม้คนตระกูลเซียวจะอาลัยอาวรณ์ แต่มองเห็นศึกใหญ่ใกล้เข้ามา การที่นางอยู่ต่อไปย่อมไม่ปลอดภัย การกลับจึงเป็นทางที่ดีที่สุดแม่ทัพใหญ่เซียวให้นายท่านเซียวเจ็ดไปส่งนางกับเป่าจูออกจากชายแดนเฉิงหลิง ส่วนกุ้นเอ่อร์กล่าวว่าปรารถนาจะอยู่ในค่ายทหารเพื่อสร้างอนาคต แม่ทัพใหญ่เซียวก็อนุญาตโดยไม่ขัดข้องยามอำลา ต่างก็อาลัยอาวรณ์นัก ล่ำลากันเนิ่นนานแต่ยังมิทันจากตระกูลเซียวไปไกล ซ่งซีซีก็อ้างว่าหิว แล้วชวนท่านน้าลงร้านอาหารนางจะลอบเข้าค่ายทหาร ไม่อาจใช้วิธีสมัครเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1642

    ซ่งซีซีและกุ้นเอ่อร์ร่วมฝึกอยู่หลายวัน กุ้นเอ่อร์ถึงกับติดใจ คิดว่าแถวรบแบบผลักดันนั้นน่าสนุกเป็นพิเศษแต่สำหรับซ่งซีซีแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเชี่ยวชาญจนฝังอยู่ในกระดูก นางแม้แต่สามารถให้คำแนะนำได้ด้วยซ้ำแม่ทัพหลูเป็นผู้เดียวที่รู้ฐานะของนาง ตอนนางไปพูดถึงข้อเสนอแนะต่างๆ แม่ทัพหลูก็ยังเข้าใจว่านางอยากอวดดี คิดจะเรียกร้องความสนใจกระทั่งฟังนางอธิบายการปรับเปลี่ยนแถวรบอยู่หลายรูปแบบ แม่ทัพหลูถึงกับตาเป็นประกาย ยกนิ้วโป้งชม “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น สมกับเป็นบุตรีของแม่ทัพใหญ่ซ่งจริงๆ”เมื่อได้ยินคำนี้ขึ้นมา ซ่งซีซีก็รู้สึกล่องลอยคล้ายฝันหลายปีแล้วที่ไม่มีผู้ใดเอ่ยชมเชยนางเช่นนี้ ครั้งแรกที่นางสร้างผลงานในเขตหนานเจียง ก็มีคนพูดแบบนี้ นางเป็นแม่ทัพประจำกองทัพซวนเจียมีคนพูดแบบนี้ตัวตนที่ผู้คนจดจำมากที่สุดของนาง ก็คือลูกสาวของซ่งหวยอันต่อมา แม้จะได้เป็นพระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง แต่ผู้คนมากมายก็ยังเรียกนางว่า “ใต้เท้าซ่ง”แม้เมื่อถึงบั้นปลายชีวิต นางไม่ข้องเกี่ยวการเมืองอีกแล้ว ก็ยังมีผู้คนเรียกนางว่า “ใต้เท้าซ่งเฒ่า” บ้างก็ยังเรียก “พระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง”ทุกสถานะที่ได้รับล้วนเป็นความภาคภู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1641

    พวกเขาจึงรีบเรียกเหล่าแม่ทัพนายกองมาประชุมหารือทันที พร้อมทั้งส่งสายลับออกไปสืบข่าวเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นอนยิ่งขึ้น แล้วส่งข่าวกลับเมืองหลวงโดยใช้ม้าเร็วเร่งด่วนแปดร้อยลี้ ขอให้ราชสำนักส่งกำลังเสริมโดยเร็วหนานซื่อจัดให้ซ่งซีซีอยู่ในที่พักเรียบร้อย แล้วก็นั่งพูดคุยกับนางอีกนานหนานซื่อปลอบใจนางมิให้โศกเศร้าเกินไป ให้มองไปข้างหน้า แต่ตัวนางเองกลับต้องหันหน้าไปซับน้ำตาหลายคราซ่งซีซีแนบกายอยู่ข้างกายท่านอาสะใภ้ เพียงรู้สึกว่าการได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนั้นช่างดีนัก หลายสิ่งยังมีหวังจะชดเชยได้รุ่งเช้า แม่ทัพใหญ่เซียวออกคำสั่งให้เหล่าทหารกลับเข้าตำแหน่ง ร่วมฝึกทัพ เสริมความแข็งแกร่งให้กำแพงเมือง และวางกลไกในเขตกำแพงชั้นในซ่งซีซีฉวยโอกาสนี้ขออนุญาตท่านตา ขอร่วมฝึกทัพกับกุ้นเอ่อร์ด้วยแม่ทัพใหญ่เซียวคัดค้านอย่างหนัก “ก่อนเจ้าจะมาถึง จดหมายจากมารดาเจ้าก็มาถึงก่อนแล้ว กำชับข้าหลายครั้งนักว่าอย่าให้เจ้าเหยียบสนามรบเด็ดขาด”“ข้าไม่ได้จะเข้าร่วมสนามรบนะเจ้าคะ ข้าเพียงแค่ร่วมฝึกทัพเท่านั้น” ซ่งซีซีเห็นท่านตามีท่าทีเด็ดขาด ก็ยิ้มพลางเขย่าแขนของท่านตา “ท่านตาก็รู้ว่าข้าฝึก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status