Share

บทที่ 3

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เป่าจูหยิบรายการสินเดิมมา "ในเวลาหนึ่งปีนี้ ท่านได้อุดหนุนเงินไปมากกว่าหกพันตำลึง แต่ร้านค้า บ้านพัก และสวนต่างไม่ได้แตะต้องเลย ใบรับรองเงินฝากของฮูหยิงที่เก็บไว้ในร้านฝากเงินตอนมีชีวิต และโฉนดบ้าน โฉนดที่ดิน ฯลฯ ทั้งหมดอยู่ในกล่องแถมได้ปิดไว้เรียบร้อย"

"อืม!" ซ่งซีซีดูรายการนั้น ท่านแม่ของนางให้สินเดิมก้อนโตแก่นางในเวลานั้น คงกลัวว่านางจะต้องทนทุกข์ในครอบครัวของสามี และนางรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างรุนแรงขึ้นมา

เป่าจูถามอย่างเศร้าๆ จากด้านข้าง "คุณหนู เราจะไปที่ไหนได้บ้าง หรือว่าจะกลับจวนโหวเหรอ ไม่งั้นเรากลับภูเขาเหม่ยชานดีไหม"

สายตาของนางแวบภาพที่ทั้งจวนเต็มไปด้วยเลือดและศพอันน่าสลดใจของคนในครอบครัว นางรู้สึกเจ็บปวดใจทันที "ไปไหนก็ได้ ยังไงก็ดีกว่าอยู่ที่นี่"

"พอท่านไปแล้ว มันก็ให้พวกเขาได้สมหวังสินะ"

ซ่งซีซีพูดดรียบๆ "ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกเขาได้สมหวังเถอะ หากข้าอยู่ต่อ ก็จะใช้ชีวิตอย่างทรมานเมื่อต้องเห็นพวกเขารักใคร่กัน เป่าจู ยามนี้ จวนโหวเหลือข้าเพียงคนเดียว ข้าต้องอยู่ดีกินดีเพื่อที่พ่อแม่และพี่ๆ ของข้าที่อยู่ในสวรรค์ได้หายห่วง"

"คุณหนู!" เป่าจูร้องไห้อย่างหนัก นางเป็นผู้รับใช้ที่เกิดมาในจวนโหว ตอนที่คนในจวนโหวถูกสังหาร ทุกคนจากไปในเหตุการณ์นั้น รวมถึงครอบครัวของนางด้วย

หากพวกนางออกจากจวนแม่ทัพ ยังสามารถกลับไปที่จวนโหวได้หรือไม่? แต่มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตในจวนโหว และทุกที่ก็ทำให้คนเรารู้สึกน่ากลัว

"คุณหนู ไม่มีทางอื่นอีกแล้วเหรอ?"

ซ่งซีซีหรี่ตาลง "มี ข้าจะไปที่ราชสำนักและใช้ผลงานของท่านพ่อและท่านพี่เพื่อบังคับฝ่าบาทให้ถอนหมั้น หากฝ่าบาทปฏิเสธ ข้าจะฆ่าตัวตายในวังทอง"

เป่าจูตกใจมากจนรีบคุกเข่าลง "คุณหนู ทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดนะ"

ซ่งซีซีเลิกคิ้วอย่างเย็นชา แค่ยิ้มเบาๆ ว่า "คิดว่าคุณหนูของเจ้าโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ? แม้ว่าข้าจะไปถึงพระราชวังแล้ว ข้าก็จะขอเพียงให้ฝากบาทออกพระราชโองการให้เราหย่าโดยสันติเท่านั้น"

จ้านเป่ยว่างแต่งงานกับยี่ฝาง เป็นพระราชทานสมรส

งั้นที่นางหย่าโดยสันติ ก็ต้องออกพระราชโองการให้ด้วย ถึงจะไปก็ต้องไปอย่างมีหน้ามีตาด้วย แทนที่จะไปเงียบๆ เหมือนถูกไล่ออก

ทรัพย์สินของจวนโหวเจิ้นเป่ยที่เหลือไว้ เพียงพอที่ให้นางอยู่กินมีสุขแล้ว นางไม่จำเป็นต้องให้ตัวเองทนทุกข์ด้วย

มีคนอยู่ข้างนอกตะโกนว่า "ฮูหยิง ฮูหยินผู้เฒ่าเชิญท่านไปหาหน่อยเจ้าค่ะ!"

เป่าจูพูดเบาๆ "เป็นแม่นางชุ่ยเอ๋อร์ที่รับใช้อยู่ข้างกายฮูหยินผู้เฒ่า เกรงว่าฮูหยินผู้เฒ่าอยากโน้มน้าวท่าน"

ซ่งซีซีจัดการสีหน้าก่อนลุดขึ้น "งั้นเราไปกันเถอะ"

พระอาทิตย์ตกส่องแสงอ่อนๆ และลมเย็นส่งเสียงกรอบแกรบ

จวนแม่ทัพคือจักรพรรดิองค์ก่อนมอบให้ท่านปู่ของจ้านเป่ยว่าง จวนแม่ทัพเคยเจริญแข็งแกร่งมาก ตอนยามนี้ก็ตกต่ำไปแล้ว

ลูกหลานเพศชายของตระกูลจ้านส่วนใหญ่รับหน้าที่ต่อสู้อยู่ในสนามรบ และคนที่เป็นขุนนางในราชสำนักมีน้อยมาก บอกกับจ้านจี้ พ่อของจ้านเป่ยว่างมีอาชีพเป็นขุนนางไม่ค่อยดีเท่าไร และอารองของเขา จ้านกังก็เป็นแค่ผู้ช่วยของผู้ว่าราชการเขตของเขตจิงจ้าวเท่านั้น มีแต่จ้านเป่ยว่าง และจ้านเป่ยชิง พี่ใหญ่ของเขาที่ถือว่ามีความสามารถในกองทัพ แต่ก่อนที่จะชนะสงครามครั้งนี้เขาเป็นเพียงแม่ทัพชั้นสี่เท่านั้น

บ้านใหญ่และบ้านรองไม่ได้แยกจากกัน และยังคงอาศัยอยู่ในจวนแม่ทัพด้วยกัน

เพราะหากแยกจากกัน ก็ต้องตกต่ำไปมากกว่านี้อีก

ซ่งซีซีนำเป่าจูมาหาฮูหยินผู้เฒ่า สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าดูดีขึ้นไม่น้อยจริงๆ นางพักอยู่บนเตียงพลางมองซ่งซีซีด้วยรอยยิ้ม "มาแล้วเหรอ!"

ในห้องนอนยังมีจ้านเป่ยชิง พี่ใหญ่ของจ้านเป่ยว่างและนางหมิน ภรรยาของเขา จ้านเส้าฮวน น้องสาวคนที่สามและพวกบุตรของอนุภรรยาก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย

นางลู่ ฮูหยินผู้เฒ่าริงจากบ้านรองก็นั่งข้างๆ แต่สีหน้าของนางดูเย็นชามา และดูเหมือนจะดูถูกเหยียดหยามมาก

"ท่านแม่ ท่านป้ารอง ท่านลุง พี่สะใภ้ใหญ่!" ซ่งซีซียังคงทักทายพวกเขาด้วยคำเรียกเดิม

"ซีซี มานี่!" ฮูหยินผู้เฒ่าให้นางนั่งข้างเตียง จับมือนางอย่างเอ็นดู แล้วพูดอย่างมีความสุขว่า "ยามนี้เป่ยว่างกลับมาแล้ว เจ้าก็มีที่พึ่งแล้ว ตลอดทั้งปีนี้ให้เจ้าต้องลำบากไปจริงๆ แถมมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของเจ้า และจวนโหวเจิ้นเป่ยก็เหลือเจ้าแค่คนเดียวแล้ว โชคดีที่ทุกอย่างผ่านไปแล้ว"

ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนหัวไวดีจริงๆ ย้ำสถานการณ์ของนางไปก่อนโดยบอกว่าที่บ้านเจ้าไม่เหลือใครแล้ว มีเจ้าคนเดียว ต่อไปเรื่องทุกอย่างก็ต้องพึ่งพาตระกูลจ้าน

ซ่งซีซีชักมือออกแล้วพูดอย่างใจเย็น "วันนี้ท่านแม่ได้เจอแม่ทัพยี่ฝางแล้วหรือ?"

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่คิดว่านางจะถามตรงขนาดนี้ รอยยิ้มของนางค้างอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า "เจอมาแล้ว เป็นคนมีนิสัยหยาบคาย และรูปร่างหน้าตาก็เทียบกับเจ้าไม่ได้เลย"

ซ่งซีซีมองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่า "แสดงว่าท่านแม่ไม่ชอบนางเลยใช่ไหม?"
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (26)
goodnovel comment avatar
Jureerat
เนื้อเรื่องดีน่าติดตาม แต่ละตอนสั้นไปให้ลงความเห็น บ่อยเกินไป ขอเลิกอ่านละคะ
goodnovel comment avatar
Michael Estamo
translate in english or tagalog pls.
goodnovel comment avatar
Purni Wangsa
English please
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1642

    ซ่งซีซีและกุ้นเอ่อร์ร่วมฝึกอยู่หลายวัน กุ้นเอ่อร์ถึงกับติดใจ คิดว่าแถวรบแบบผลักดันนั้นน่าสนุกเป็นพิเศษแต่สำหรับซ่งซีซีแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเชี่ยวชาญจนฝังอยู่ในกระดูก นางแม้แต่สามารถให้คำแนะนำได้ด้วยซ้ำแม่ทัพหลูเป็นผู้เดียวที่รู้ฐานะของนาง ตอนนางไปพูดถึงข้อเสนอแนะต่างๆ แม่ทัพหลูก็ยังเข้าใจว่านางอยากอวดดี คิดจะเรียกร้องความสนใจกระทั่งฟังนางอธิบายการปรับเปลี่ยนแถวรบอยู่หลายรูปแบบ แม่ทัพหลูถึงกับตาเป็นประกาย ยกนิ้วโป้งชม “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น สมกับเป็นบุตรีของแม่ทัพใหญ่ซ่งจริงๆ”เมื่อได้ยินคำนี้ขึ้นมา ซ่งซีซีก็รู้สึกล่องลอยคล้ายฝันหลายปีแล้วที่ไม่มีผู้ใดเอ่ยชมเชยนางเช่นนี้ ครั้งแรกที่นางสร้างผลงานในเขตหนานเจียง ก็มีคนพูดแบบนี้ นางเป็นแม่ทัพประจำกองทัพซวนเจียมีคนพูดแบบนี้ตัวตนที่ผู้คนจดจำมากที่สุดของนาง ก็คือลูกสาวของซ่งหวยอันต่อมา แม้จะได้เป็นพระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง แต่ผู้คนมากมายก็ยังเรียกนางว่า “ใต้เท้าซ่ง”แม้เมื่อถึงบั้นปลายชีวิต นางไม่ข้องเกี่ยวการเมืองอีกแล้ว ก็ยังมีผู้คนเรียกนางว่า “ใต้เท้าซ่งเฒ่า” บ้างก็ยังเรียก “พระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง”ทุกสถานะที่ได้รับล้วนเป็นความภาคภู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1641

    พวกเขาจึงรีบเรียกเหล่าแม่ทัพนายกองมาประชุมหารือทันที พร้อมทั้งส่งสายลับออกไปสืบข่าวเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นอนยิ่งขึ้น แล้วส่งข่าวกลับเมืองหลวงโดยใช้ม้าเร็วเร่งด่วนแปดร้อยลี้ ขอให้ราชสำนักส่งกำลังเสริมโดยเร็วหนานซื่อจัดให้ซ่งซีซีอยู่ในที่พักเรียบร้อย แล้วก็นั่งพูดคุยกับนางอีกนานหนานซื่อปลอบใจนางมิให้โศกเศร้าเกินไป ให้มองไปข้างหน้า แต่ตัวนางเองกลับต้องหันหน้าไปซับน้ำตาหลายคราซ่งซีซีแนบกายอยู่ข้างกายท่านอาสะใภ้ เพียงรู้สึกว่าการได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนั้นช่างดีนัก หลายสิ่งยังมีหวังจะชดเชยได้รุ่งเช้า แม่ทัพใหญ่เซียวออกคำสั่งให้เหล่าทหารกลับเข้าตำแหน่ง ร่วมฝึกทัพ เสริมความแข็งแกร่งให้กำแพงเมือง และวางกลไกในเขตกำแพงชั้นในซ่งซีซีฉวยโอกาสนี้ขออนุญาตท่านตา ขอร่วมฝึกทัพกับกุ้นเอ่อร์ด้วยแม่ทัพใหญ่เซียวคัดค้านอย่างหนัก “ก่อนเจ้าจะมาถึง จดหมายจากมารดาเจ้าก็มาถึงก่อนแล้ว กำชับข้าหลายครั้งนักว่าอย่าให้เจ้าเหยียบสนามรบเด็ดขาด”“ข้าไม่ได้จะเข้าร่วมสนามรบนะเจ้าคะ ข้าเพียงแค่ร่วมฝึกทัพเท่านั้น” ซ่งซีซีเห็นท่านตามีท่าทีเด็ดขาด ก็ยิ้มพลางเขย่าแขนของท่านตา “ท่านตาก็รู้ว่าข้าฝึก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1640

    ตอนออกจากวัง ไทเฮาทรงให้ฝูกงกงส่งนางออกจากตำหนักฉือหนิง ซ่งซีซีฉวยโอกาสนั้นยัดซองจดหมายให้ฝูกงกง “รบกวนกงกงมอบถวายแด่ไทเฮาด้วยเจ้าค่ะ”ฝูกงกงชะงักเล็กน้อย “เหตุใดแม่นางซ่งถึงไม่ถวายต่อหน้าเมื่อครู่นี้เล่า?”ซ่งซีซีพยุงมารดา เดินไปพลางกล่าวว่า “เป็นถ้อยคำขอบพระทัยไทเฮาเจ้าค่ะ ข้าพูดไม่เก่ง เอ่ยออกไปไม่ได้จึงได้เขียนไว้แทนใจเจ้าค่ะ”ฝูกงกงหัวเราะเบาๆ “อย่างนั้นเองหรือ เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะรับไว้แล้วนำไปถวายให้”ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น ซ่งซีซีก็ออกเดินทางไปชายแดนเฉิงหลิงพร้อมกุ้นเอ่อร์และเป่าจู ก่อนออกเดินทาง นางยังส่งจดหมายไปถึงเสิ่นว่านจือและหมั่นโถวให้ตามไปที่ชายแดนเฉิงหลิงด้วยนางต้องไปถึงชายแดนเฉิงหลิงก่อนการศึกป้องกันเมืองจะเริ่มขึ้นจดหมายที่นางเขียนถึงไทเฮานั้น ไม่ใช่ถ้อยคำขอบพระทัย หากแต่เป็นการแจ้งว่า พี่สาวร่วมสำนักของนางที่ออกเดินทางร่อนเร่ไปทั่วชื่อศิษย์พี่ผิง พบว่าซีจิงกำลังต่อสู้กันเองอย่างหนัก และได้ยินว่าพวกเขาจะฉวยโอกาสในศึกครั้งนี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองไทเฮาปกติไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน แต่เมื่อเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ หากพระองค์ทรงเชื่อ ก็จะนำไปทูลหารือกับฮ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1639

    ก่อนจะเดินทางไปชายแดนเฉิงหลิง ซ่งซีซีอยากเข้าเฝ้าไทเฮาเพื่อขอถวายบังคมเสียก่อนนางอยากเข้าวังเฝ้าไทเฮามาโดยตลอด อยากพบกับสนมฮุ่ยไทเฟย หรือบางทีอาจเข้าพบฮ่องเต้ในชาติก่อน เมื่อตอนที่ไทเฮาและไทเฟยสิ้นพระชนม์ แม้พระชนมายุมากแล้ว แต่ความเป็นความตายก็ยังยากจะยอมรับ นางเศร้าเสียใจอยู่นานนักเดิมทีคิดว่านั่นคือการจากลาตลอดกาล คาดไม่ถึงว่าวันนี้ยังมีโอกาสได้พบหน้าอีกคราตอนนี้นางยังเป็นสาวในห้องหอ หากจะเข้าวังเฝ้า ก็ต้องให้นางพาแม่ไปด้วย และให้มารดานำบัตรขอเข้าเฝ้าไปถวาย หากไทเฮาโปรด ก็จึงจะได้เข้าวังนับแต่บิดาและพี่ชายสิ้นชีวิต มารดาก็ไม่เคยออกจากจวนเลย ครานี้ได้ออกมาเดินเล่น พบไทเฮาให้เบิกบานใจบ้าง ก็อาจจะดีต่ออาการป่วยของนางซ่งฮูหยินเดิมทีก็ไม่อยากไป ทว่าทนลูกสาวเซ้าซี้หลายครั้งก็จนใจต้องยอมตกลงเพราะดวงตาของนางทำให้เดินไม่สะดวก ตลอดทางที่เข้าวังจึงต้องให้ซ่งซีซีคอยพยุงทั้งสองเดินทางมาจนถึงตำหนักฉือหนิงฝูกงกงออกมาต้อนรับ พอเห็นซ่งฮูหยิน น้ำตาก็คลอหน่อยๆ ใช้พู่ปัดฝุ่นสะบัดหนึ่งที แล้ววางแขนขวาไว้ในอ้อมพับ “ท่านหญิงสบายดีหรือไม่”“กงกงมีน้ำใจ ข้าสบายดีทุกประการ” ซ่งฮูหยินกล่าวพ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1638

    ใช่แล้ว ต้องไปชายแดนเฉิงหลิงเพื่อขัดขวางการเข่นฆ่าล้างหมู่บ้านและการลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาทซีจิงโดยยี่ฝางหนึ่งเพื่อแผ่นดิน สองเพื่อครอบครัวเมื่อคราองค์รัชทายาทซีจิงถูกลบหลู่จนต้องจบชีวิตตนเอง สายลับซีจิงที่แฝงตัวอยู่ในเมืองหลวงจึงบันดาลโทสะ สังหารล้างตระกูลซ่งทั้งตระกูลเพื่อระบายความแค้นการจัดตั้งองครักษ์นั้นเพื่อคุ้มกันครอบครัวและป้องกันเรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็น ทว่าหากต้องการขจัดหายนะครั้งนั้น ก็จำต้องไปสกัดกั้นที่ต้นเหตุการแย่งชิงแนวเขตแดนระหว่างสองแผ่นดินย่อมต้องนำมาซึ่งสงครามครั้งใหญ่ นี่เป็นแผนการของพวกซูลันซือในซีจิง ซึ่งนางไม่อาจแทรกแซงการตัดสินใจของซีจิงได้ แต่ในเมื่อสงครามต้องเกิดขึ้น นางก็จะต้องพลิกสถานการณ์เสียใหม่ยิ่งกว่านั้น น้าเจ็ดสิ้นชีวิตในการศึกป้องกันเมือง นางก็หวังจะช่วยชีวิตน้าเจ็ด อีกทั้งลุงสามก็อาจไม่ต้องเสียแขนข้างหนึ่งเพื่อช่วยจ้านเป่ยว่างดังนั้น เมื่อจัดการกิจการในจวนเรียบร้อยแล้ว นางก็จะมุ่งหน้าไปยังชายแดนเฉิงหลิง โดยอ้างเหตุผลว่าไปเยี่ยมท่านตายามนี้สองแผ่นดินต่างเริ่มทดลองกำลังกันด้วยเรื่องแนวชายแดน สงครามใกล้ปะทุเต็มที ทว่าชายแดนเฉิงหลิงกลับ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1637

    ในจวนโหวเจิ้นเป่ย ซ่งซีซีจับมือมารดาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้มารดาจะตำหนินางว่าเอาแต่ใจ นางกลับยิ้มทั้งน้ำตา ไม่เอ่ยวาจาโต้ตอบสักคำซ่งฮูหยินเห็นนางเป็นเช่นนี้ก็อดหวาดหวั่นมิได้ เอื้อมมือแตะหน้าผากพลางกล่าวว่า “หรือว่าป่วยไปแล้ว? รีบไปเชิญหมอมหัศจรรย์ดันมาเถิด”พี่สะใภ้ทั้งหลายต่างก็กรูกันเข้ามา ถามไถ่สารพัดด้วยความเป็นห่วงบ่าวรับใช้ไปเชิญหมอมหัศจรรย์ดันมา ครั้นซ่งซีซีเห็นเขา นางก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางยังจำได้ดีว่าในปีที่หมอมหัศจรรย์ดันสิ้นชีวิต นางโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง และเป็นผู้จัดการงานศพของท่านด้วยตนเองตอนนี้นางแน่ใจแล้วว่าตนมิได้อยู่ในห้วงความฝัน นางได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครา ย้อนกลับมายังช่วงเวลาก่อนออกเรือนมีหลายสิ่งที่นางสามารถเปลี่ยนแปลงได้ คิดถึงตรงนี้แล้ว นางก็ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งซ่งฮูหยินและบรรดาสะใภ้รุ่นเยาว์ทั้งหลายเห็นนางเป็นเช่นนี้ ต่างก็เข้าใจว่านางคลุ้มคลั่งไปแล้วหลังหมอมหัศจรรย์ดันตรวจอาการแล้ว ก็หันไปกล่าวกับซ่งฮูหยินว่า “คงเป็นเพราะการจากไปของเจิ้นกั๋วกงกับเหล่าแม่ทัพที่นางยังทำใจมิได้ จิตใจจึงสับสนชั่วคราว หากนางไม่ต้องการแต่งงาน ข้าคิดว่าฮูหยินค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status