แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
จ้านเป่ยว่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ยังคงพูดอย่างเย็นชาว่า "นี่มันข้าขอด้วยความผลงานในการออกศึก หากพระองค์ถอนพระราชกฤษฎีกาของเขาจริงๆ มันจะทำให้ทหารผิดหวังแน่ๆ วันนี้พระองค์ทรงเรียกข้าไปพบ แต่ก็ไม่ยอมพบข้า อาจเป็นเพราะเจ้าฟ้องว่าตัวเองได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี ซ่งซีซี ข้าไม่ถือสาเจ้า แต่ข้าเมตตากับเจ้ามามากพอแล้วจริงๆ"

"ข้าหวังว่าเจ้าจะทำตัวดีๆ หยุดสร้างปัญหา หลังจากที่ข้าแต่งงานกับยี่ฝาง ข้าจะให้เจ้ามีลูกเป็นของตัวเองด้วย และเจ้าก็จะมีที่พึ่งพาในชีวิตที่เหลือ"

ซ่งซีซีลดสายตาลง แล้วพูดเบาๆ "เป่าจู่ ส่งแขก!"

เป่าจูยืนขึ้นแล้วพูดว่า "ท่าแม่ทัพเชิญเจ้าคะ!"

จ้านเป่ยว่างเดินจากไปอย่างไม่ลังเล

ก่อนที่ซ่งซีซีจะพูดอะไร น้ำตาของเป่าจูก็ไหลออกมาราวกับลูกปัดที่แตกสลาย

ซ่งซีซีเดินเข้ามาเพื่อเกลี้ยกล่อมนาง "เป็นอะไรอีก?"

"ข้าน้อยรู้สึกน้อยใจแทนคุณหนู คุณหนูไม่รู้สึกน้อยใจหรือ?" เป่าจูถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

ซ่งซีซียิ้มและพูดว่า "น้อยใจสิ แต่ร้องไห้จะแก้ไขปัญหาอะไรได้ล่ะ สู้คิดหาทางออกเพื่อให้เราสองคนมีชีวิตที่ดีจะดีซะกว่า ตระกูลซ่งจะมีคนอ่อนแอที่ไหนกัน"

เป่าจูเช็ดน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้า และเบะปากของนาง "ทำไมทุกคนถึงมารังแกคุณหนูหมดเลย ท่านดีกับคนในจวนแม่ทัพมากด้วยซ้ำ"

"เพราะในสายตาพวกเขา ตอนนี้ข้าไม่สำคัญแล้ว" ซ่งซีซีพูดด้วยรอยยิ้ม จริงๆ แล้วนางไม่เคยมีความสำคัญเลย สิ่งสำคัญคือสินเดิมที่นางอนำมา

น้ำตาของเป่าจูไหลหนักหว่าเดิม เพราะในใจของนาง คุณหนูเป็นคนสำคัญที่สุด

"เอาน่ะ อย่าร้องไห้เลย เจ้าไปทำธุระของเจ้าเถอะ เราต้องใช้ชีวิตตามปกติต่อนี่น่ะ" ซ่งซีซีลูบแก้มนางแล้วพูดว่า "ไปเถอะ!"

"คุณหนู" เป่าจูเช็ดน้ำตาของนาง "แล้วคนที่ท่านนำมาตอนแต่งงานนั้น ท่านจะเอากลับไปด้วยหรือไม่?"

"โฉนดขายตัวของพวกเขายังอยู่กับข้า หากข้าจากไปแล้ว ยี่ฝางจะไม่ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี ดังนั้นต้องให้พวกเขาติดตามข้าด้วย"

ตอนนางแต่งงาน ท่านแม่ของนางให้แม่นมเหลียงและแม่นมฮวงมาด้วย รวมทั้งคนรับใช้สี่คนและสาวใช้สี่คน

เนื่องจากฮูหยินผู้เฒ่าป่วยหนักตลอกทั้งปีนี้ นางจึงต้องดูแลจวนแม่ทัพ ดังนั้นคนที่นางพามานั้นต่างดำรงตำแหน่งสำคัญในจวน เหตุผลหนึ่งก็คือที่จวนแม่ทัพมีคนรับใช่ไม่พอ เพราะเงินเดือนของท่านพ่อสามีกับจ้านเป่ยว่างมีไม่เยอะ และไม่ได้ทำธุระกิจอะไรด้วย ดังนั้นที่จวนไม่มีปัญญาเลี้ยงคนจำนวนมากได้

ประการที่สองคือ นางคิดว่าการใช้คนของตัวเองมันค่อนข้างไว้ใจได้ ไม่งั้นก้ต้องาวงท่าเพื่อสร้างอำนาจ ฮูหยินผู้เฒ่าสุขภาพไม่ดี นางจึงสามารถเจียดเวลาดูแลนางได้มากขึ้น

ส่วนสินเดิมที่นางนำมาด้วย ก็อุดหนุนไปไม่น้อยด้วย ค่ายาสำหรับอาการป่วยของแม่สามีนั้นแพงมาก ฝ่ายจวนก็จ่ายไม่ไหว

แต่โชคดีที่ใช้กำไรจากร้านขายของและเก็บค่าเช่าบ้าน รายได้จากที่ดินต่างๆ ก็พอจ่ายไหว

วันรุ่งขึ้น ซ่งซีซีไปดูแลฮูหยินผู้เฒ่าตามปกติ

แต่ที่นางมาวันนี้ เป็นเพียงเพราะหมอมหัศจรรย์ดันมาแล้ว

เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าเห็นนางมา ก็คิดว่านางคิดตกแล้วเลยโล่งใจ "เดี๋ยวยี่ฝางก็จะมาด้วย พวกเจ้าเจอสักหน่อย ต่อไปจะเป็นพี่น้องกัน ต้องอยู่อย่างสามัคคีกันนะ"

ซ่งซีซีไม่ตอบ นางแค่รอหมอมหัศจรรย์ดันอยู่ข้างๆ เมื่อเขาสั่งยาเสร็จ ซ่งซีซีพูดว่า "ลุงดัน ให้ข้าไปส่งท่านนะ"

"อืม ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้าพอดีเลย" หมอมหัศจรรย์ดันให้เด็กรับใช้ไปเอากล่องยา และออกไปพร้อมกับซ่งซีซีโดยไม่กล่าวลาอะไรกับฮูหยินผู้เฒ่าเลย

พอถึงทางเดิน หมอมหัศจรรย์ดันพูดว่า "เด็กโง่เอ๊ย ครอบครัวนี้ไม่ผู้ใดมีจิตใจดี พวกเขาไม่คู่ควรได้รับความเมตตาจากเจ้า ต่อไปเจ้าไม่จำเป็นต้องส่งคนมาตามหาข้า ข้าจะไม่มาอีกเลย"

ซ่งซีซีกล่าวว่า "ลุงดัน ข้าเข้าใจ ตอไปข้าจะไม่ส่งคนไปตามหาท่านแล้ว ข้าวางแผนจะหย่าแล้ว"

จากนั้นหมอมหัศจรรย์ดันก็ยิ้ม "เด็กดี เช่นนี่ถึงสมเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดของลูกสาวของตระกูลซ่งควรทำ ข้าไม่ขาดเงินเล็กน้อยจากพวกเขาหรอก หากไม่ได้เห็นแก่เจ้า ข้าไม่มารักษานางหรอก"

หมอมหัศจรรย์ดันเห็นคนมาเยอะ แค่เห็นหน้าของฮูหยินผู้เฒ่านั้นก็รู้ว่าเป็นคนโลภมาก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (9)
goodnovel comment avatar
Kantitat
เป่าจูรักนายมากกก พูดดี อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ฟาดมันไปซะ!!!
goodnovel comment avatar
Kantitat
นิยายนี่แปลมาจากภาษาจีน หรือเขียนใหม่โดยคนไทย?!?
goodnovel comment avatar
Kantitat
เออ ดียยย์ เอาซี๊ อิครอบครัวนี้ จะเหลืออะไร 5555
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1642

    ซ่งซีซีและกุ้นเอ่อร์ร่วมฝึกอยู่หลายวัน กุ้นเอ่อร์ถึงกับติดใจ คิดว่าแถวรบแบบผลักดันนั้นน่าสนุกเป็นพิเศษแต่สำหรับซ่งซีซีแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเชี่ยวชาญจนฝังอยู่ในกระดูก นางแม้แต่สามารถให้คำแนะนำได้ด้วยซ้ำแม่ทัพหลูเป็นผู้เดียวที่รู้ฐานะของนาง ตอนนางไปพูดถึงข้อเสนอแนะต่างๆ แม่ทัพหลูก็ยังเข้าใจว่านางอยากอวดดี คิดจะเรียกร้องความสนใจกระทั่งฟังนางอธิบายการปรับเปลี่ยนแถวรบอยู่หลายรูปแบบ แม่ทัพหลูถึงกับตาเป็นประกาย ยกนิ้วโป้งชม “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น สมกับเป็นบุตรีของแม่ทัพใหญ่ซ่งจริงๆ”เมื่อได้ยินคำนี้ขึ้นมา ซ่งซีซีก็รู้สึกล่องลอยคล้ายฝันหลายปีแล้วที่ไม่มีผู้ใดเอ่ยชมเชยนางเช่นนี้ ครั้งแรกที่นางสร้างผลงานในเขตหนานเจียง ก็มีคนพูดแบบนี้ นางเป็นแม่ทัพประจำกองทัพซวนเจียมีคนพูดแบบนี้ตัวตนที่ผู้คนจดจำมากที่สุดของนาง ก็คือลูกสาวของซ่งหวยอันต่อมา แม้จะได้เป็นพระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง แต่ผู้คนมากมายก็ยังเรียกนางว่า “ใต้เท้าซ่ง”แม้เมื่อถึงบั้นปลายชีวิต นางไม่ข้องเกี่ยวการเมืองอีกแล้ว ก็ยังมีผู้คนเรียกนางว่า “ใต้เท้าซ่งเฒ่า” บ้างก็ยังเรียก “พระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง”ทุกสถานะที่ได้รับล้วนเป็นความภาคภู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1641

    พวกเขาจึงรีบเรียกเหล่าแม่ทัพนายกองมาประชุมหารือทันที พร้อมทั้งส่งสายลับออกไปสืบข่าวเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นอนยิ่งขึ้น แล้วส่งข่าวกลับเมืองหลวงโดยใช้ม้าเร็วเร่งด่วนแปดร้อยลี้ ขอให้ราชสำนักส่งกำลังเสริมโดยเร็วหนานซื่อจัดให้ซ่งซีซีอยู่ในที่พักเรียบร้อย แล้วก็นั่งพูดคุยกับนางอีกนานหนานซื่อปลอบใจนางมิให้โศกเศร้าเกินไป ให้มองไปข้างหน้า แต่ตัวนางเองกลับต้องหันหน้าไปซับน้ำตาหลายคราซ่งซีซีแนบกายอยู่ข้างกายท่านอาสะใภ้ เพียงรู้สึกว่าการได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนั้นช่างดีนัก หลายสิ่งยังมีหวังจะชดเชยได้รุ่งเช้า แม่ทัพใหญ่เซียวออกคำสั่งให้เหล่าทหารกลับเข้าตำแหน่ง ร่วมฝึกทัพ เสริมความแข็งแกร่งให้กำแพงเมือง และวางกลไกในเขตกำแพงชั้นในซ่งซีซีฉวยโอกาสนี้ขออนุญาตท่านตา ขอร่วมฝึกทัพกับกุ้นเอ่อร์ด้วยแม่ทัพใหญ่เซียวคัดค้านอย่างหนัก “ก่อนเจ้าจะมาถึง จดหมายจากมารดาเจ้าก็มาถึงก่อนแล้ว กำชับข้าหลายครั้งนักว่าอย่าให้เจ้าเหยียบสนามรบเด็ดขาด”“ข้าไม่ได้จะเข้าร่วมสนามรบนะเจ้าคะ ข้าเพียงแค่ร่วมฝึกทัพเท่านั้น” ซ่งซีซีเห็นท่านตามีท่าทีเด็ดขาด ก็ยิ้มพลางเขย่าแขนของท่านตา “ท่านตาก็รู้ว่าข้าฝึก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1640

    ตอนออกจากวัง ไทเฮาทรงให้ฝูกงกงส่งนางออกจากตำหนักฉือหนิง ซ่งซีซีฉวยโอกาสนั้นยัดซองจดหมายให้ฝูกงกง “รบกวนกงกงมอบถวายแด่ไทเฮาด้วยเจ้าค่ะ”ฝูกงกงชะงักเล็กน้อย “เหตุใดแม่นางซ่งถึงไม่ถวายต่อหน้าเมื่อครู่นี้เล่า?”ซ่งซีซีพยุงมารดา เดินไปพลางกล่าวว่า “เป็นถ้อยคำขอบพระทัยไทเฮาเจ้าค่ะ ข้าพูดไม่เก่ง เอ่ยออกไปไม่ได้จึงได้เขียนไว้แทนใจเจ้าค่ะ”ฝูกงกงหัวเราะเบาๆ “อย่างนั้นเองหรือ เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะรับไว้แล้วนำไปถวายให้”ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น ซ่งซีซีก็ออกเดินทางไปชายแดนเฉิงหลิงพร้อมกุ้นเอ่อร์และเป่าจู ก่อนออกเดินทาง นางยังส่งจดหมายไปถึงเสิ่นว่านจือและหมั่นโถวให้ตามไปที่ชายแดนเฉิงหลิงด้วยนางต้องไปถึงชายแดนเฉิงหลิงก่อนการศึกป้องกันเมืองจะเริ่มขึ้นจดหมายที่นางเขียนถึงไทเฮานั้น ไม่ใช่ถ้อยคำขอบพระทัย หากแต่เป็นการแจ้งว่า พี่สาวร่วมสำนักของนางที่ออกเดินทางร่อนเร่ไปทั่วชื่อศิษย์พี่ผิง พบว่าซีจิงกำลังต่อสู้กันเองอย่างหนัก และได้ยินว่าพวกเขาจะฉวยโอกาสในศึกครั้งนี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองไทเฮาปกติไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน แต่เมื่อเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ หากพระองค์ทรงเชื่อ ก็จะนำไปทูลหารือกับฮ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1639

    ก่อนจะเดินทางไปชายแดนเฉิงหลิง ซ่งซีซีอยากเข้าเฝ้าไทเฮาเพื่อขอถวายบังคมเสียก่อนนางอยากเข้าวังเฝ้าไทเฮามาโดยตลอด อยากพบกับสนมฮุ่ยไทเฟย หรือบางทีอาจเข้าพบฮ่องเต้ในชาติก่อน เมื่อตอนที่ไทเฮาและไทเฟยสิ้นพระชนม์ แม้พระชนมายุมากแล้ว แต่ความเป็นความตายก็ยังยากจะยอมรับ นางเศร้าเสียใจอยู่นานนักเดิมทีคิดว่านั่นคือการจากลาตลอดกาล คาดไม่ถึงว่าวันนี้ยังมีโอกาสได้พบหน้าอีกคราตอนนี้นางยังเป็นสาวในห้องหอ หากจะเข้าวังเฝ้า ก็ต้องให้นางพาแม่ไปด้วย และให้มารดานำบัตรขอเข้าเฝ้าไปถวาย หากไทเฮาโปรด ก็จึงจะได้เข้าวังนับแต่บิดาและพี่ชายสิ้นชีวิต มารดาก็ไม่เคยออกจากจวนเลย ครานี้ได้ออกมาเดินเล่น พบไทเฮาให้เบิกบานใจบ้าง ก็อาจจะดีต่ออาการป่วยของนางซ่งฮูหยินเดิมทีก็ไม่อยากไป ทว่าทนลูกสาวเซ้าซี้หลายครั้งก็จนใจต้องยอมตกลงเพราะดวงตาของนางทำให้เดินไม่สะดวก ตลอดทางที่เข้าวังจึงต้องให้ซ่งซีซีคอยพยุงทั้งสองเดินทางมาจนถึงตำหนักฉือหนิงฝูกงกงออกมาต้อนรับ พอเห็นซ่งฮูหยิน น้ำตาก็คลอหน่อยๆ ใช้พู่ปัดฝุ่นสะบัดหนึ่งที แล้ววางแขนขวาไว้ในอ้อมพับ “ท่านหญิงสบายดีหรือไม่”“กงกงมีน้ำใจ ข้าสบายดีทุกประการ” ซ่งฮูหยินกล่าวพ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1638

    ใช่แล้ว ต้องไปชายแดนเฉิงหลิงเพื่อขัดขวางการเข่นฆ่าล้างหมู่บ้านและการลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาทซีจิงโดยยี่ฝางหนึ่งเพื่อแผ่นดิน สองเพื่อครอบครัวเมื่อคราองค์รัชทายาทซีจิงถูกลบหลู่จนต้องจบชีวิตตนเอง สายลับซีจิงที่แฝงตัวอยู่ในเมืองหลวงจึงบันดาลโทสะ สังหารล้างตระกูลซ่งทั้งตระกูลเพื่อระบายความแค้นการจัดตั้งองครักษ์นั้นเพื่อคุ้มกันครอบครัวและป้องกันเรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็น ทว่าหากต้องการขจัดหายนะครั้งนั้น ก็จำต้องไปสกัดกั้นที่ต้นเหตุการแย่งชิงแนวเขตแดนระหว่างสองแผ่นดินย่อมต้องนำมาซึ่งสงครามครั้งใหญ่ นี่เป็นแผนการของพวกซูลันซือในซีจิง ซึ่งนางไม่อาจแทรกแซงการตัดสินใจของซีจิงได้ แต่ในเมื่อสงครามต้องเกิดขึ้น นางก็จะต้องพลิกสถานการณ์เสียใหม่ยิ่งกว่านั้น น้าเจ็ดสิ้นชีวิตในการศึกป้องกันเมือง นางก็หวังจะช่วยชีวิตน้าเจ็ด อีกทั้งลุงสามก็อาจไม่ต้องเสียแขนข้างหนึ่งเพื่อช่วยจ้านเป่ยว่างดังนั้น เมื่อจัดการกิจการในจวนเรียบร้อยแล้ว นางก็จะมุ่งหน้าไปยังชายแดนเฉิงหลิง โดยอ้างเหตุผลว่าไปเยี่ยมท่านตายามนี้สองแผ่นดินต่างเริ่มทดลองกำลังกันด้วยเรื่องแนวชายแดน สงครามใกล้ปะทุเต็มที ทว่าชายแดนเฉิงหลิงกลับ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1637

    ในจวนโหวเจิ้นเป่ย ซ่งซีซีจับมือมารดาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้มารดาจะตำหนินางว่าเอาแต่ใจ นางกลับยิ้มทั้งน้ำตา ไม่เอ่ยวาจาโต้ตอบสักคำซ่งฮูหยินเห็นนางเป็นเช่นนี้ก็อดหวาดหวั่นมิได้ เอื้อมมือแตะหน้าผากพลางกล่าวว่า “หรือว่าป่วยไปแล้ว? รีบไปเชิญหมอมหัศจรรย์ดันมาเถิด”พี่สะใภ้ทั้งหลายต่างก็กรูกันเข้ามา ถามไถ่สารพัดด้วยความเป็นห่วงบ่าวรับใช้ไปเชิญหมอมหัศจรรย์ดันมา ครั้นซ่งซีซีเห็นเขา นางก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางยังจำได้ดีว่าในปีที่หมอมหัศจรรย์ดันสิ้นชีวิต นางโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง และเป็นผู้จัดการงานศพของท่านด้วยตนเองตอนนี้นางแน่ใจแล้วว่าตนมิได้อยู่ในห้วงความฝัน นางได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครา ย้อนกลับมายังช่วงเวลาก่อนออกเรือนมีหลายสิ่งที่นางสามารถเปลี่ยนแปลงได้ คิดถึงตรงนี้แล้ว นางก็ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งซ่งฮูหยินและบรรดาสะใภ้รุ่นเยาว์ทั้งหลายเห็นนางเป็นเช่นนี้ ต่างก็เข้าใจว่านางคลุ้มคลั่งไปแล้วหลังหมอมหัศจรรย์ดันตรวจอาการแล้ว ก็หันไปกล่าวกับซ่งฮูหยินว่า “คงเป็นเพราะการจากไปของเจิ้นกั๋วกงกับเหล่าแม่ทัพที่นางยังทำใจมิได้ จิตใจจึงสับสนชั่วคราว หากนางไม่ต้องการแต่งงาน ข้าคิดว่าฮูหยินค

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status