Share

บทที่ 8

วันรุ่งขึ้น จ้านเป่ยว่างเข้าไปในพระราชวังตามคำสั่ง เดิมทีเขาคิดว่าพอเข้าไปในวังแล้วก็สามารถเจอกับฝ่าบาทได้ เพราะถึงยังไงตอนนี้เขาเป็นคนโดดเด่นในราชสำนัก

โดยไม่คาดคิด เขารออยู่นอกห้องหนังสือหลวงเป็นเวลาหนึ่งชั่วยามเต็ม ก่อนที่อู๋ต้าปั้นจะออกมาและพูดว่า "ท่านแม่ทัพจ้าน ฝ่าบาทกำลังยุ่งอยู่ เขาบอกว่าให้ท่านกลับก่อน เดี๋ยวจะค่อยเรียกท่านมาใหม่ในวันอื่นขอรับ"

จ้านเป่ยว่างมีสีหน้าประหลาดใจ เขารออยู่นอกห้องหนังสือมานานขนาดนี้ ก็ไม่เห็นมีขารชาการคนใดเข้าออก แสดงว่าพระองค์ไม่ได้ทรงอภิปรายเรื่องการเมืองกับข้าราชบริพาร

เขาถามว่า "อู๋กงกง เดิมทีฝ่าบาททรงเรียกข้ามาเพื่ออะไรหรือ"

อู๋ต้าปั้นพูดด้วยรอยยิ้ม "ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยไม่รู้เรื่องนี้ขอรับ"

จ้านเป่ยว่างรู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่เขาไม่กล้าเข้าไปถามฝ่าบาทโดยตรง "รบกวนกงกงเตือนข้าสสัดหน่อยว่าใช่ข้าทำผิดอะไรหรือไม่?"

อู๋ต้าปั้นยังคงยิ้มและกล่าวว่า "ท่านแม่ทัพเพิ่งกลับมาอย่างมีชัย เป็นวีรบุรุษของบ้านเมือง จะมมีผิดที่ไหนกัน"

"แล้วฝ่าบาท..."

อู๋ต้าปั้นโค้งคำนับและพูดว่า "ท่านแม่ทัพ โปรดกลับก่อนเถอะขอรับ"

จ้านเป่ยว่างยังต้องการถามต่อ แต่อู๋ต้าปั้นได้หันกลับแล้วขึ้นบันไดหินไป ดังนั้นเขาจึงได้แต่จากไปด้วยความไม่สบายใจ

ในงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ฝ่าบาททรงยกย่องเขากับยี่ฝางอย่างมาก ทำไมนี่เพิ่งผ่านไปวันเดียวเอง เขาถึงปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชาเพียงนี้?

เขาออกไปที่ประตูวังเพื่อไปเอาม้า แต่เขาได้ยินเสียงซุบซิบของทหารองครักษ์เฝ้าประตูพระราชวังที่อยู่หน้าประตูของตำหนักเจิ้งหยางกระซิบว่า "เมื่อวานฮูหยิงของแม่ทัพมา และยามนี้แม่ทัพก็เข้าวังด้วย หรือว่าเรื่องพระราชทานอภิเษกสมรสจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมาเหรอ?"

"อย่าพูดไร้สาระ ฝ่าบาททรงอนุญาตต่อหน้าข้าราชการและประชาชน แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นได้อีกล่ะ?"

จ้านเป่ยว่างขมวดขึ้นและเขาก็เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว "ฮูหยิงของข้าเข้าวังเมื่อวานนี้เหรอ?"

องครักษ์หลวงทั้งสองลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าแล้วพูดว่า "ขอรับ นางรออยู่ที่นี่ตั้งหนึ่งชั่วยามฝ่าบาทถึงยอมเรียกนางเข้าพบสักที"

เมื่อวาน จ้านเป่ยว่างอยู่ที่บ้านของตระกูลยี่ทั้งวัน เขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีอยู่ที่ไหน แต่เขาไม่คากคิดว่านางจะเข้าวัง

มิน่าเล่าที่ทัศนคติของฝ่าบาทในวันนี้แตกต่างไปจากเมื่อก่อนกลับเป็นนางที่เข้าวังเพื่อขอร้องให้ฝ่าบาทเพิกถอนพระราชกฤษฎีกาอภิเษกสมรส ช่างเป็นเจ้าเล่ห์จริงๆ!

อุตสาห์ที่ยี่ฝางช่วยพูดแทนให้นางตั้งมากมายเมื่อวานนี้ บอกว่าเป็นเรื่องปกติที่นางจะไม่ยอม โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงเป็นคนใจแคบอยู่แล้ว และไม่สามารถโทษนางได้

เขาขี่ม้าตรงกลับไปจวน หลังจากลงจากหลังม้า เขาก็โยนแส้ขี่ม้าไปที่คนเฝ้าประตู และตรงไปที่เรือนเหวินซี

"ซ่งซีซี!"

ทันทีที่เป่าจูได้ยินเสียงตะโกน นางก็ตกใจมากจนวิ่งไปอยู่ข้างหน้าซ่งซีซี มองดูเขาด้วยความตื่นตระหนก "ท่าน...ท่านอยากทำอะไรเจ้าคะ?"

"เป่าจู่!" ซ่งซีซีพูดช้าๆ "ออกไปเถอะ"

หลังจากฟังคำพูดของแม่นาง เป่าจูก็ถอยกลับไปยืนข้างแม่นาง แต่ก็ยังตื่นตัวเหมือนเสือตัวน้อย

จ้านเป่ยว่างมองไปยังซ่งซีซี ที่กำลังนั่งเงียบๆ บนเก้าอี้ เมื่อคิดว่านางเข้าวังเพื่อขอให้ฝ่าบาทเพิกถอนพระราชกฤษฎีกาของเขา ความรู้สึกผิดที่เขามีต่อนางเพียงเล็ดน้อยนั้นก็จางหายไปหมดเลย

ดวงตาที่เย็นชาของเขาสบกับดวงตาที่ะสงบของซ่งซีซี "เจ้าไปฟ้องต่อพระองค์ และขอร้องให้พระองค์ถอนพระราชกฤษฎีกาสมรสใช่หรือไม่"

ซ่งซีซีส่ายหัว "ไม่!"

"ไม่หรือ?"

เขาเหน็บแนม ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ "เจ้ากล้าทำแต่ไม่กลับยอมรับ นี่ไม่ใช่พฤติกรรมของลูกสาวที่เกิดในครอบครัวทหารสินะ ซ่งซีซี เจ้าหน้าซื่อใจคดมาก"

ซ่งซีซีมองชายผู้โกรธแค้นตรงหน้านาง นางรู้สึกแปลกหน้ามาก แปลกหน้าจนใจนางสั่นเทา

ขนาดนางสงสัยด้วยซ้ำว่านี่ไม่ใช่จ้านเป่ยว่างที่นางรู้จักมาก่อน หรือบางทีนางอาจไม่เคยรู้จักธาตุแท้ของเขามาก่อนมากกว่า

เมื่อจ้านเป่ยว่างเห็นว่านางเงียบ เขาก็คิดว่านางกำลังร้อนตัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ "เจ้าพูดสิ เจ้าได้พูดอะไรกับพระองค์ พระองค์ตอบตกลงกับเจ้าหรือยัง จะเพิกถอนพระราชโองการหรือ? "

ซ่งซีซีลดสายตาลงแล้วพูดว่า "พระองค์ยังไม่ตอบตดลง การแต่งานของพวกท่านจะจัดขึ้นตามกำหนด"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status