Share

บทที่ 4

เวินเหลียงกอดโทรศัพท์มือถือ ปวดใจจนหายใจไม่ออก

ที่แท้พอฟู่เจิงลงจากเครื่องบินก็พาฉู่ซืออี๋ไปเจอกับเพื่อนของเขานี่เอง

พวกเขารู้และอวยพรกันทุกคน

มีแต่เธอที่ถูกครอบอยู่ในกะลา

และสามปีมานี้ การแต่งงานของพวกเขา มีแต่คนตระกูลฟู่ที่รู้

เขาไม่เคยพาเธอไปเจอเพื่อนของเขาเลย แม้ว่าจะเจอบ้าง แต่ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเป็นลูกบุญธรรมตระกูลฟู่โดยปริยาย

“คุณผู้หญิงครับ?”

คนขับรถมาถึงโรงจอดรถเพื่อมาเป็นสารถี เห็นรถของเวินเหลียงยังอยู่จึงเรียกด้วยความสงสัย

เวินเหลียงปาดน้ำตาอย่างว่องไว ทำเป็นไม่ได้ยินและสตาร์ตรถออกไปทันที

เวินเหลียงจะไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวในการทำงาน

ตอนนี้เธอจึงได้แต่ใช้การทำงานเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง

เมื่อเวินเหลียงหาอีเมลของฟู่เจิงพบ จึงอัพโหลดแผนงานลงในอีเมลแล้วกดส่ง

แพล็บเดียวฟู่เจิงก็ตอบกลับสั้นกระชับเหมือนทุกที ‘ผ่าน หลังจากนี้เธอคอยจับตาดูให้มากหน่อยแล้วกัน’

เวินเหลียงหยุดชะงักครู่หนึ่ง พิมพ์คำว่า ‘ได้’ ส่งไปแล้วมอบหมายงานอย่างรวดเร็ว

หลังจากเลิกงานตอนเย็น เวินเหลียงก็ได้รับข้อความจากฟู่เจิง ‘คืนนี้มีธุระ เธอกลับไปก่อน’

เวินเหลียงเม้มริมฝีปาก ในใจเกิดความรู้สึกเจ็บแปลบราวกับถูกเข็มทิ่มแทง ก่อนจะพิมพ์คำว่า ‘ได้’ ด้วยนิ้วมือที่สั่นระริก

เมื่อก่อนคงเพราะเธอถือเป็นกึ่งผู้บริหารระดับสูงของฟู่ซื่อไม่ว่าจะรับรองลูกค้าอะไรหรือเจอกับผู้รับผิดชอบคนไหน เขามักจะรายงานชัดเจน

แต่สองวันนี้ เขาได้ตัดบทเธอด้วยคำพูดสั้น ๆ แค่ว่า ‘มีธุระ’

‘ธุระ’ นี้ก็คงจะหมายถึงการไปอยู่เป็นเพื่อนฉู่ซืออี๋กระมัง

ฟู่เจิงส่งข้อความมาต่อ ‘ตอนไปดูงานได้เอาของขวัญมาให้เธอด้วยแต่ลืมให้น่ะ มันอยู่ในกระเป๋าเดินทางของฉัน เธอไปเอาเองแล้วกัน’

เวินเหลียง ‘ค่ะ’

ฟู่เจิงเห็นการตอบกลับสั้น ๆ บนหน้าจอ ก็เกิดความรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยทันใด พิงกับพนักเก้าอี้และเอามือนวดระหว่างคิ้ว

เลขาหลินเคาะประตูเข้ามา “ประธานฟู่คะ คุณฉู่มาค่ะ”

เวินเหลียงเดินออกจากห้องทำงาน พลันได้ยินพนักงานบางคนที่ยังไม่กลับกำลังคุยอะไรกันอยู่ข้างนอก

“คนที่มาหาประธานฟู่เมื่อกี้น่ะ ใช่แฟนประธานฟู่หรือเปล่า? ดูหุ่นดี๊ดีแหนะ!”

“น่าเสียดายที่ใส่หน้ากากอนามัย”

“พวกเธอรู้สึกไหมว่าตาของแฟนประธานฟู่คล้าย ๆ ฉู่ซืออี๋เลย?”

“ดาราดังฮอลลีวูดคนนั้นน่ะนะ? ไม่หรอกมั้ง? เขาทำงานอยู่เมืองนอกตลอดเลยไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันว่าเขาเหมาะสมกับประธานฟู่มาเลย เฮ้อ!”

“แค่ก ๆ หัวหน้าเวิน” มีคนเห็นเธอจึงทักทาย

การสนทนาหยุดลง ทุกคนต่างทักทายเช่นกัน “หัวหน้าเวิน”

เวินเหลียงหลุบตาลง สีหน้าราบเรียบ “เลิกงานแล้ว พวกคุณคุยต่อกันเถอะ”

ว่าแล้วเธอก็สาวเท้าออกไป ภายใต้ย่างก้าวที่มั่นคงแฝงความร้อนรนนิด ๆ พลางขอบตาแดง รู้สึกขื่นขมในใจ

เธออยากหนีไปให้เร็ว เพราะกลัวจะเห็นภาพที่ทำให้ใจสลาย

ฉู่ซืออี๋มาหาเขาที่บริษัทแล้วเหรอ?

พวกเขายังไม่ได้หย่ากันเลย เขายังจำได้หรือเปล่าว่าภรรยาตัวจริงอย่างเธอยังอยู่ที่บริษัท?

พนักงานข้างหลังเริ่มพูดกันอีก เพียงแต่เปลี่ยนเรื่องแล้ว

“ผู้อำนวยการเวินสวยจัง แต่ฉันเห็นเขาทีไรเป็นต้องกลัวทุกที สมกับที่เป็นน้องสาวประธานฟู่จริง ๆ”

พนักงานที่เพิ่งเข้าทำงานใหม่ประหลาดใจ “ผู้อำนวยการเวินเป็นน้องสาวของประธานฟู่เหรอ?”

“เชอะ น้องสาวที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกันเลยสักกะติ๊ดน่ะสิ พ่อที่ตายไปแล้วของเธอใช้บุญคุณบีบให้ประธานใหญ่ฟู่รับเธอไว้ ไม่อย่างนั้นเธอจะเข้าฟู่ กรุ๊ปได้ยังไงล่ะ?”

“ฟังใครพูดมาน่ะ?”

“จากแผนกประชาสัมพันธ์นั่นไง”

“ความจริงผู้อำนวยการเวินเป็นคนดีมากเลยนะ”

ณ ที่จอดรถชั้นใต้ดิน เวินเหลียงคาดสายนิรภัยเรียบร้อยแล้ว พอเงยหน้าก็เห็นเงาคนสองร่าง

ฟู่เจิงใส่ชุดสูทสีขาวที่เธอเลือกให้เขาเมื่อเช้าตัวนั้น ซึ่งขับเน้นรูปร่างเขาให้สูงสง่า

ข้างกายเขาคือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ใส่หน้ากากอนามัยกับหมวกแก๊ป กำลังคล้องแขนเขาและแหงนหน้าพูดกับฟู่เจิงอย่างสนิทสนม ฟู่เจิงเอียงหน้ามาเล็กน้อยด้วยสีหน้าอ่อนโยนและฟังเธออย่างตั้งใจ

ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังพูดอะไรอยู่ เธอจึงได้แกว่งแขนของฟู่เจิงอย่างออดอ้อน

ฟู่เจิงยิ้มละมุนพร้อมพยักหน้ารับปาก ซึ่งรูปปากนั้นน่าจะพูดคำว่า ‘ได้’

ฉู่ซืออี๋ รักแรกของเขากลับมาแล้วจริง ๆ

เนกไทสีแดงสดบาดตาของเวินเหลียงยิ่งนัก

เดิมทีนั่นเป็นเนกไทที่เธอเลือกให้เขาเพื่อฉลองเรื่องที่เธอตั้งครรภ์ต่างหาก

ทว่าเวลานี้เขากลับใส่มันไปออกเดตกับรักแรก

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status