ความอยากมากมายไม่หมดแค่อกอวบใหญ่ แต่ช่วงเอวอวบอิ่มก็ทำให้เขาอยากขยำขยี้ฝ่ามือลงไป อยากจับบั้นเอวนี้และกระชากเข้าใส่ กระชากเข้า กระชากออก จนกว่าหยาดน้ำร้อนรุ่มจะพวยพุ่ง
โดยเฉพาะสะโพกผายที่ซุกซ่อนความมหัศจรรย์เอาไว้ เขาก็อยากจะเปิดดูสิ่งที่อยู่ภายใน อยากรู้ว่าที่ลึกลับแห่งนั้นจะซุกซ่อนอะไรไว้ จะเป็นดอกไม้งามที่มีน้ำหวานฉ่ำเยิ้มส่งกลิ่นครวญครางเรียกแมลงตัวผู้อย่างเขาลงไปดูดเลียน้ำหวานหรือเปล่า และเขาแน่ใจว่าสิ่งที่นัชชาพยายามหนีบต้นขาซุกซ่อนต้องหวานมากๆ แน่
“น้องหนู เอ่อ... จะอาบน้ำก่อนไหมคะ”
เขาถามและก็ทำให้หล่อนต้องเงยหน้ามอง ยิ้มแหย เพราะหล่อนก็ไม่รู้ว่าควรอาบน้ำก่อนหรือไม่ แต่ถ้าดูในละครหลังข่าว หล่อนก็เห็นเจ้าบ่าวพาเจ้าสาวล้มตัวลงบนที่นอนทั้งที่เครื่องทรงยังอยู่ครบ ยังอดคิดไม่ได้ว่า สร้อยคอ เส้นผม ชุดไทยแต่งงานเหล่านั้นจะไม่พันกันยุ่งเหยิงหรอกหรือ ควรจะถอดออกก่อนเริ่มกิจกรรมอย่างที่ก้องภพทำให้หล่อนนี่นา แต่นั่นไม่รวมถึงเรื่องอาบน้ำ
“เอ่อ... หนูไม่รู้ค่ะ ควรอาบน้ำก่อนไหม”
ก้องภพยิ้มขำระคนเอ็นดู เขาบีบปลายจมูกแดงระเรื่อด้วยความเขินอายนั้นเบาๆ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ผู้ชายควรพูดให้ชัดเจน เพื่อเจ้าสาวจะได้ไม่เขินอายไปมากกว่านี้
“ก็ถ้าไม่รีบร้อนก็ควรจะอาบน้ำกันก่อน เพราะยืนรับแขกอยู่ตั้งนาน ก็อาจจะมี... เหงื่อ”
หล่อนมองเขาตาโต พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะหลุบมองต่ำ แก้มแดงจมูกแดงมากขึ้น
“แต่ถ้ารีบร้อน... ก็ไม่ต้อง หรือบางคนอาจชอบกลิ่นเหงื่อปนกลิ่นน้ำหอม เพราะมันให้ความรู้สึกเซ็กซี่เหมือนเราได้กลืนกินตัวตนของกันและกัน”
หล่อนอ้าปากค้าง แหงนหน้ามองเขา ดวงหน้าอิ่มเอมแต่มีเครื่องหน้าจิ้มลิ้มนั่นทำให้เขาตัดสินใจได้
“แต่พี่ก้องรีบค่ะ ทนไม่ไหวแล้ว”
ก้องภพช้อนร่างที่มีเพียงชุดชั้นในสีขาวขึ้นแนบอก ท่ามกลางดวงตาตื่นๆ ของนัชชา แต่นั่นยิ่งทำให้เขายิ้มกว้าง คืนนี้ล่ะเขาจะกลืนกินนัชชาให้ทั่วทั้งตัว จะดอมดมให้สมความอยาก จะละเลียดให้สมความปรารถนา และจะ... ให้มันสุดติ่ง
“พี่ก้อง... อื้อ...”
นัชชาไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้นเมื่อริมฝีปากรุมร้อนทาบทับลงมาหา จูบครั้งนี้ไม่เหมือนจูบแรกในวันนั้น และไม่เหมือนจูบแผ่วเบาในอีกหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ทว่ามันเรียกร้อง รุกเร้า ให้หล่อนจูบตอบ และหล่อนก็ทำตามหัวใจปรารถนา
ลิ้นน้อยๆ เรียนรู้ที่จะตวัดต้อนหยอกเย้ากับลิ้นอุ่นซ่านที่แทรกลึกเข้ามาตวัดเลีย ไล้วน และดูดริมฝีปากหล่อนดังจ๊วบ ราวจะสูดจิตวิญญาณหล่อนให้หลุดออก ก่อนจะแทรกลึกเข้ามาตวัดเลีย หยอกเย้า ไล้วนกับลิ้นน้อยๆ ของหล่อนเล่น
“อื้อ... พี่ก้อง...”
เสียงที่จำได้ว่าเป็นเสียงของตัวเอง แต่จังหวะน้ำเสียงที่ครางกระเส่าแบบนั้นหล่อนไม่เคยทำเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้
“อืม... พี่ก้อง...”
หล่อนควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ใบหน้าแหงนขึ้นปรือตาขึ้นน้อยๆ และก็มองเห็นเพดานห้องที่ตกแต่งเป็นรูปกามเทพตัวเล็กตัวน้อย เหมาะแล้วที่จะเป็นห้องหอ ก่อนจะหลุบสายตาลงมองศีรษะทุยสวยที่ซุกไซ้ หล่อนอยากสัมผัสเขาเหมือนกัน
แค่คิด... ฝ่ามือก็เคลื่อนไปลูบไล้เรือนผมตัดสั้น พลางหลับตาเร่าร้อง เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้อีกครา เพราะริมฝีปากและจมูกเร่าร้อนกำลังซุกไซ้ที่ต้นคอของหล่อน พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ก็เคลื่อนไปตามเรือนร่าง คลึงเคล้นไปทุกจุดที่เคลื่อนผ่าน ก่อนจะวกมาที่ความอวบใหญ่จนหล่อนสะดุ้ง
“อื้อ... พี่ก้อง...”
ก้องภพปลดตะขอบอดี้สูท ก่อนจะค่อยๆ รั้งออก เผยให้เห็นทรวงอกอวบใหญ่ล้นมือจนเขาต้องอุทานออกมา
“โอว... นมน้องหนูสวยเหลือเกินค่ะ สวยมาก”
โดยเฉพาะปลายยอดสีแดงสดนั้นก็เรียกน้ำลายมาสอในปาก ก้องภพกางฝ่ามือกะขนาด ยิ้มกว้าง เพราะแน่ใจว่ากำไม่มิดแน่นอน ก่อนจะแตะเบาๆ ที่ปลายยอดชูชันจนนัชชาผวา
“อะ! พี่ก้อง!”
“จ๋า... น้องหนูน่ากินที่สุด”
ฝ่ามือใหญ่โอบประคองเต้าล้น ค่อยๆ เคล้นคลึงตามจังหวะหยุ่นจนนัชชาบิดกายไปมา หล่อนปรือตามองเขาสะลึมสะลือ ซึ่งเขาก็เห็นว่ากิริยานั้นน่ารักที่สุด คืนนี้เขาจะกลืนกินหล่อนให้หมดทั้งตัว จะทำให้นัชชามีประสบการณ์แสนวิเศษสุด เขาจะพาหล่อนขึ้นสวรรค์นับครั้งไม่ถ้วน เริ่มจากไต่ภูเขาขึ้นสวรรค์
“พี่ก้อง... อื้อ... พี่ก้อง...”
นัชชาบิดกายไปมาอย่างนิ่งไม่ไหว เมื่อความอวบใหญ่ถูกบีบเคล้นอย่างเบามือ ปลายนิ้วที่แตะและบีบอย่างแผ่วเบาบนปลายยอดก็ทำให้หล่อนละล่ำละลักเปล่งเสียงร้องไม่รู้ความหมาย เพราะฝ่ามือของก้องภพกำลังสอนให้หล่อนรู้จักความซ่านเสียวจากสัมผัสของผู้ชาย และเมื่อเขาฝังหน้าลงมา หล่อนก็สะท้าน
“อะ! อื้อ... พี่ก้อง... พี่ก้อง”
“จ๋า... น้องหนู อืม... หอมเหลือเกินค่ะ หอมมาก...”
ก้องภพซุกไซ้จมูกลงสูดดมความหอมจากอกใหญ่แนบชิด ก่อนจะพรมจูบไปทั่วทั้งสองเต้า มือก็บีบเคล้น จมูกก็ซอนซุก ปากก็ไล้จูบไปจนทั่ว เขาอยากตีตราเป็นเจ้าของ อยากเป็นคนแรกและคนเดียวที่สัมผัสความสวยงามของนัชชา
“อืม... สวยเหลือเกิน น้องหนูสวยที่สุดเลยค่ะ”
เขาพูดขณะริมฝีปากอยู่เหนือยอดสีแดงสดก่อนจะแลบลิ้นออกมาตวัดแผ่วเบา จนนัชชาผวาเฮือกแอ่นอกขึ้นสูงให้เขางับได้อย่างถนัด และริมฝีปากก็ทำหน้าที่ตามใจ นั่นคืออ้าออกเล็กน้อยครอบครองเอาไว้ ส่วนฝ่ามือก็บีบเคล้นเต้าอวบตามอารมณ์
เสียงพูดในคลิปถูกแทนที่ด้วยบทเพลงแห่งความรัก จากนั้นก็เป็นภาพถ่ายแรกที่คริตแอบถ่ายสมิดา ภาพหล่อนเคี้ยวขนมเต็มปาก ภาพหล่อนหาว ภาพหล่อนทำหน้ามุ่ยเพราะร้อน ภาพหล่อนกอดน้องหมีตัวโต จนมาถึงภาพในธีมวาเลนไทน์ ซึ่งความหมายของภาพก็มีเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้นที่รู้ เพราะเป็นวันแรกที่ความรักเบ่งบาน เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อคริตจูงมือเจ้าสาวขึ้นไปบนเวที สายตาเจ้าบ่าวที่มองเจ้าสาว ทำให้สาวพลัสไซส์ทุกคนมีความหวัง แค่หล่อนสวยในแบบฉบับของตัวเอง สวยด้วยทัศนคติการใช้ชีวิต แค่นั้นผู้ชายดีๆ ก็ตกถึงท้อง.. ในห้องหอ... “ที่รัก... อื้อ... น้องไม่ไหวแล้วนะคะ โอว... ซี้ด... พี่จ๋า... ไม่ไหวแล้ว... น้องไม่ไหวแล้ว...” สมิดาแอ่นร่างขึ้นสูงเปล่งเสียงครวญครางไม่ขาดปาก สะโพกใหญ่ก็ส่ายร่อนไม่หยุด เพราะลิ้นร้อนชอนลึกจนหล่อนทนอยู่เฉยไม่ไหว ต้องส่ายร่อนสะโพกให้เคลื่อนไหวอยู่ตลอด ทว่ายิ่งส่ายร่อนมากเท่าไร ก็คล้ายกับว่าลิ้นร้อนจะสอดใส่และชอนเข้าลึกมากยิ่งขึ้น “โอว... ที่รักขา... โอว... ซี้ด... เสียว... โอว... น้องเสียว ซี้ด... เสียว...” ความเสีย
ดวงตากลมโตมีแววหวาดหวั่นมองเจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวเจ้าเนื้อไม่ต่างจากหล่อน “บอกว่าประมาณสิบโมงน่ะค่ะ” หล่อนตอบอ้อมแอ้มเพราะนี่ก็ 10 โมงแล้วแต่ยังไม่เห็นวี่แวว “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะ ว่าคนไหนอะพี่ติ๊นา” ทุกสายตามองตรงมายังหล่อน ก็ใช่น่ะสิ เพราะไม่เคยมีใครเห็นหน้าตาของคริสติน่ามาก่อน ภาพแทนตัวในสื่อออนไลน์ที่คริสติน่าใช้จะเป็นภาพสาวอ้วนแต่งตัวเปรี้ยว และทุกคนก็เคารพในความเป็นส่วนตัวของกันและกัน จึงไม่เคยมีใครถามถึงหน้าตาที่แท้จริง แม้แต่เพศก็ไม่มีใครรู้ ทั้งเวลาที่คริสติน่าโทร.หาหล่อน ก็ไม่เคยเปิดกล้อง รู้แต่ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นผู้หญิงค่อนข้างมีอายุเท่านั้น“พี่ติ๊นาบอกว่าจะใส่ชุดสีแดงค่ะ บอกว่าแดงแรงฤทธิ์ เห็นปุ๊บ พวกเราจะรู้ทันทีว่าเป็นพี่เขา” “หือ... แต่นี่ไม่เห็นมีใครแต่งแดงสักคนเลยนะ” สมิดามองออกไปด้านนอกอีกครั้ง ไม่มีวี่แววเลยว่าจะมีใครแต่งแดงเดินเข้ามา “น้องสะดิ้งลองโทร.หาสิ” “โทร.หลายรอบแล้วค่ะพี่ ปิดเครื่อง” “ฮะ! ตายล่ะ แล้วถ้าพี่ติ๊นาไม่มา เราจะทำไงล่ะ โน่น! นักข่าวรอกั
ร่างเปลือยลุกขึ้นจากเตียง ตรงไปหยิบกางเกงขาสั้นที่ถอดกองอยู่ ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา เขาต้องสั่งเตรียมงานของวันพรุ่งนี้ ‘ธีมวาเลนไทน์ พร้อมถ่าย 6 โมงเย็น’ นั่นคือข้อความที่ส่งออกไป ก่อนที่ร่างเปลือยจะเคลื่อนเข้าหาเตียงนอน แทรกร่างเข้าใต้ผ้าห่มนวมผืนเดียวกันกับหล่อน แต่ไม่มีสิ่งใดจะอุ่นเท่ากายเนื้อที่เขากอดอยู่นี้ กอดตระกองร่างอวบอิ่มที่นอนตะแคงข้างเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวนวลเนียนและหัวไหล่น่าจูบน่าหอม แต่เขากลับ... “อื้อ... พี่คริต...” “ขอโทษจ้ะ นอนต่อนะ” คริตกอดกระชับเอวเจ้าเนื้อแนบเข้าหาลำตัวของเขา พลางมองรอยฟันจางๆ ที่หัวไหล่ของสมิดา ก่อนจะจูบทับลงไปอีกครั้ง..ผ่านมาอีก 1 เดือน ข่าวคาวๆ เรื่องนางแบบพลัสไซส์แอบกินตับกับช่างภาพที่กระจายอยู่บนหน้าสื่อก็ไม่มีทีท่าว่าจะคลายลง ทุกสื่อเพ่งเป้าไปที่หล่อนกับคริต มีหลายรายการติดต่อขอสัมภาษณ์ แต่สมิดาไม่ได้รับปาก หล่อนบอกแต่เพียงว่าคิวไม่ว่าง ส่วนหากมีใครมาคอมเม้นท์ในสื่อออนไลน์ของหล่อน หล่อนก็จะตอบทีเล่นทีจริงว่า ‘ไม่บอก ปล่อยให้งง’ พร้อมทั้งติดแฮชแท็กเก๋ๆ ว่า #ไม่ผอมแต่อร่อ
“พี่คริต!” “ไหวไหม” “อื้อ... ไหว...” หล่อนตอบพลางจิกเล็บที่ท่อนแขนของเขา เพราะความเจ็บปวดจากตรงนั้นกำลังกระจายวาบไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เจ็บมากแต่รู้ว่าไม่ควรร้อง เจ็บทุกคราที่เขาขยับเขยื้อนไม่มีสิ่งใดจะลดทอนลงได้ เพราะเขายังคงเดินหน้า เชื่องช้าแต่ปวดร้าว “อื้อ... พี่คริต...” “จ๋า... สะดิ้งแน่นเหลือเกิน โอว... แน่นที่สุด โอว...” หล่อนยิ้มแห้งเมื่อได้ยินเสียงครวญครางนั้น หล่อนเจ็บ แต่กลับได้ยินเสียงแห่งความสุข “โอว... สะดิ้งจ๋า... พี่จะไปช้าๆ อืม... โอว... ซี้ด... แน่นมาก โอว...” เขาจูบซับหยาดน้ำตาของหล่อน ก่อนจะเคลื่อนมาที่ปาก จูบอ่อนหวานและดุดันหนักแน่นตามอารมณ์ จากนั้นก็แทรกเรียวลิ้นชอนไชจนสมิดาเคลิ้ม ราวจะหลงลืมความเจ็บได้ชั่วครู่ แต่เมื่อท่อนแข็งขยับสอดใส่เพิ่มเข้ามาอีก หล่อนก็ได้ต้องอดกลั้นไว้ ใบหน้าที่นิ่วลงอย่างเจ็บปวดของสมิดาทำให้เขารู้ว่าต้องปลุกเร้าหล่อนให้มากกว่านี้ ปลายลิ้นจึงลากลงมาที่เต้าอวบใหญ่ เลียไล้ บีบเคล้น และดูดดื่มปลายยอดอย่างหนักหน่วง สลับกั
คริตละปากจากความหวานฉ่ำที่อร่อยลิ้นสุดๆ เคลื่อนใบหน้าขึ้นไปหาคนที่ยังครวญครางกระเส่าจากความเสียวที่ได้รับสองครั้งติดๆ เขาอยากปลอบโยนอยากพูดให้หล่อนผ่อนคลาย ทว่าริมฝีปากที่เผยอค้างและยังมีเสียงครางเล็ดลอดกลับทำให้เขาเปลี่ยนใจ ลิ้นร้อนชอนลึกสู่อุ้งปากหวาน ตวัดพลิ้วให้หล่อนรับรู้รสชาติความหอมหวานของตัวเอง รัดรึงดึงรั้งลิ้นน้อยๆ ให้ตามติด พัวพันดุนดูดจนหล่อนครางฮือ จากนั้นหล่อนก็คล้องต้นแขนรอบลำคอเขาและเป็นฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาต่อสู้ “อื้อ... พี่คริต...” “จ๋า... หวาน... อืม...” “พี่คริต... อื้อ... ซี้ด... อื้อ...” คริตเคลื่อนใบหน้าคลอเคลียอยู่ที่อกอวบ โอบกระชับให้ปลายยอดทั้งสองดันชิด ก่อนจะละเลงลิ้นพลิ้วส่ายสะบัดจนสมิดาดิ้นพล่าน จากนั้นก็ลากลิ้นลงมาตามหน้าท้อง กัดเบาๆ ไปทุกส่วน ดูดเลีย เม้ม และลากลิ้นสู่ความหอมหวานอีกครั้ง “อื้อ... พี่คริต...” หล่อนร่ำร้องเพราะเขาไม่ได้ซุกหน้าลงไป แต่กลับเคลื่อนขึ้นมาหา และส่งนิ้วไปละเลง “ซี้ด... พี่คริต...” สมิดาปรือตาขึ้นมองเขา จนเขาอ
สมิดาอมยิ้ม หล่อนมองเขาผ่านม่านน้ำตา เขาไม่รู้ว่าหล่อนจะเชื่อคำบอกรักของเขาไหม แต่เขาจะพิสูจน์ “พี่คริต... อื้อ... พี่คริตขา... อื้อ...” สมิดาสะบัดเรือนผมไปมาจนยุ่งเหยิง หล่อนควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะความซ่านเสียวพวยพุ่งไปทั่วร่างทำให้หล่อนขาดสติ เรือนร่างคล้ายจะทำตามทุกอย่างที่ คริตชี้นำ แค่เขาช้อนฝ่ามือเข้าใต้แผ่นหลัง เต้าอวบใหญ่ของหล่อนก็แอ่นขึ้นจนชิดติดขอบปาก หล่อนอยากให้เขากลืนกิน กัด ดูด หรือทำอะไรก็ได้ให้หล่อนผ่อนคลายจากความเสียวนี้ ทั้งที่อีกใจก็ร้องบอกว่าหล่อนอยากเสียวให้มากกว่านี้ หล่อนอยากไปให้สุด อยากให้เขาทำตามที่ต้องการ ไม่ต้องอ่อนโยนกับหล่อน “อื้อ... พี่คริต... ซี้ด... พี่คริตขา...” หล่อนดีดดิ้นตามความซ่านเสียวที่ไล้วนอยู่รอบปลายยอดสีสด เพราะเขายังคงดูดดื่มไล้เลียราวกับเม็ดเชอร์รี่ของหล่อนเอร็ดอร่อยเหลือเกิน ทว่าหล่อนกลับอยากให้เขาขยับเคลื่อนปลายลิ้นไปที่ดอกไม้สดสวย ที่จุดนั้นมีความน่าละอาย มีน้ำหวานชุ่มฉ่ำล้นทะลักจนหยาดเยิ้มออกมา และก็ทำให้หล่อนคันยิบและเจ็บจี๊ดจนต้องบดเบียดต้นขาเข้าหากัน “ซี้ด... พี่คริตขา...”