เวลาล่วงเลยไปถึงตอนค่ำ เราสองคนออกมานั่งดินเนอร์กันที่ร้านอาหารไม่ไกลมากเท่าไร แล้วเดี๋ยวจะกลับไปค้างที่บาร์ในคืนนี้เพื่อความปลอดภัย พี่บลูมให้รางวัลเธอจนแทบไม่มีแรงจะเดินด้วยซ้ำ เขาทำไม่หยุดอย่างที่พูดจริงๆ ส่วนเธอไม่เคยจะขัดเรื่องนี้ได้เลยสักครั้ง แค่เป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่ปลุกความต้องการครอบครองเป็นเจ้าของขึ้นมา พอผสมกับความคิดถึงตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ห่างกันยิ่งทำให้อารมณ์เดือดพล่านได้ง่ายมากขึ้น
เขาคือคนเดียวที่เธออยากอยู่ด้วยที่สุด
“ส่งไฟล์งานมาด้วยนะฟีนด์”
“อืม”
“คิดถึงตอนเราอยู่ด้วยกันสองคนนะ”
“นี่ถ้าไม่มีเรื่องเฮงซวยเกิดขึ้นฉันจะแวะไปหาพี่อีกแน่นอน อยู่ดีๆพี่ก็หายไปเล่นเอาฉันหวั่นใจคิดว่าจะโดนผัวทิ้งซะอีก พื้นที่สีแดงมันทุรกันดารมากจนไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลยเหรอ?”
“ก็พอประมาณเลยแหละ แต่ฟีนด์ก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าพี่มีรอยแผลเป็นเยอะขนาดไหน ถ้าเป็นตอนโดนยิงพี่ไม่มีสติด้วยซ้ำ แถมยังต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆอีกเกือบอาทิตย์กว่าจะหลบออกมาได้”
“งานโหดกว่าบอดี้การ์ดอีกเหรอ?”
“โหดกว่าหลายสิบเท่าเลยแหละ จะว่าคล้ายทหารรับจ้างก็ได้นะ แล้วพื้นที่ตรงนั้นมันอยู่ใกล้เขตสงคราม ผู้ก่อการรัายก็เยอะ ไหนจะพวกฉวยโอกาสอีก นี่ยังไม่รวมกับแก๊งเล็กๆในพื้นที่ด้วยนะ บางคนมันทิ้งความเป็นมนุษย์ไปแล้วด้วยซ้ำ มันไม่ได้ฆ่าเพราะต้องฆ่า แต่ฆ่าเพราะสนุกเฉยๆ”
“แล้วพี่ไปทำอะไรที่นั่น?”
“มันคือความลับ”
“แต่นี่เมียนะ!”
“เพราะเป็นเมียแหละยิ่งบอกไม่ได้ รีบกินเถอะจะได้มีแรงมาเล่นท่ายากต่อ”
“เดี๋ยวจะขย่มให้หักเลย!”
“มั่นใจนะว่าจะไม่เสียดายถ้าของพี่หัก”
“เสียดายสิ! ใหญ่ยาวแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆนะ”
“นึกว่าจะแน่”
“กินเอาแรงเยอะๆเลยนะ คืนนี้ฉันจะลงโทษพี่เอาให้สาสมบ้าง”
“ลงโทษเรื่อง?”
“ชอบกวนประสาทไง!”
“อยากโดนเมียลงโทษใจแทบขาดแล้ว”
เขามันก็เป็นแบบนี้ตลอด
ยั่วโมโหเก่ง
อาหารค่ำของเราที่ร้านธรรมดาทั่วไปแต่พิเศษได้เพราะมีพี่บลูมอยู่ด้วยนี่แหละ ดีนะที่เขาไม่ใช่คนติดหรู ไม่ใช่คนเรื่องมาก เป็นคนเหมือนจะอะไรก็ได้แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย เรื่องยิบย่อยพวกนั้นเขาไม่เก็บมาใส่ใจเพราะต้องคิดเรื่องงานตลอดเวลา
ไม่รู้สิว่าเธออดทนคบกับเขามาได้ยังไงนานขนาดนี้ ปรกติเธอไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูง ให้รอคอยอะไรนานๆก็ไม่ไหว แต่พอเป็นเขากลับทำให้เธอยอมได้หมดขอแค่ยังมีกันและกันอยู่ เรื่องความซื่อสัตย์เธอมั่นใจในตัวเขามากและไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาจะทำให้เธอระแวงขึ้นมาได้เลยสักครั้ง
ถึงเขาจะดูดิบเถื่อนและกวนประสาทเก่ง
แต่คลั่งรักและขี้หวงมากนะ
“จะทำอะไร?” เขาจับมือข้างซ้ายของเธอแล้วยิ้มกว้างจนน่าสงสัย
“ซื้อของมาฝาก แต่พึ่งจะมีเวลาให้” เขาหยิบแหวนเพชรสีน้ำเงินเล่นแสงวิบวับแวววาวขึ้นมาแล้วสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายทันที เมียยิ้มกว้างด้วยความชอบใจเพราะเธอชอบสีฟ้า ไม่ก็น้ำเงิน หรือคราม เขาเลือกมาเพราะเห็นว่าแหวนวงนี้สวยสะดุดตาและน่าจะเหมาะกับนิ้วเล็กเลยซื้อมาฝาก
“ชอบไหม?”
“ชอบ”
“พี่ตั้งใจเลือกตั้งนานกว่าจะได้”
“รู้ขนาดนิ้วฉันได้ไง?”
“ก็ลองกับนิ้วก้อยของตัวเองดู พอใส่ได้ก็เอาแล้วคิดว่าฟีนด์ต้องใส่ได้สักนิ้ว”
“ขอบคุณนะพี่บลูม”
“ใส่ตลอดเลยนะ คนจะได้รู้ว่ามีผัวแล้ว”
“แล้วพี่ล่ะ?”
“ใครจะเอา”
“ปากเหรอน่ะ! เมื่อวานไปงานเลี้ยงยังมีชะนีสองคนมาวอแวอยู่เลย คิดแล้วก็น่าโมโห!”
“อย่าคิดมากเดี๋ยวแก่ไว”
“โบท็อกซ์ฉันดี!”
หลังจากกินอาหารเสร็จแล้วเราก็ไปนั่งเล่นกันต่อที่บาร์ประมาณชั่วโมงกว่าถึงกลับห้องพัก เราสองคนโรมรันกันอย่างบ้าคลั่งและมีความสุขมาก จนกระทั่งตีสามกว่าๆเมียถึงได้หมดฤทธิ์หมดแรงนอนสลบคาอกเลย เขาค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นแล้วเปิดโน๊ตบุ๊คเพื่อเช็คเรื่องงานที่มีเวลาแค่สามเดือนในการจบเรื่องพวกนี้ เขาตั้งใจจะพักร้อนยาวสักเดือน ก่อนจะไปเคลียร์ปัญหาภายในที่ลุกลามเหมือนเชื้อโรค
เขาจะย้ายมาอยู่ดูแลเธอที่นี่
น่าจะมีธุรกิจดีๆให้ทำบ้างแหละมั้ง
เขาวางแผนจะเปิดสถานบันเทิงที่ไม่ใช่แค่สถานบันเทิงทั่วไปอย่างเดียวแน่นอน แล้วจากนั้นจะขยายไปอย่างอื่นโดยที่มีลูกน้องช่วยจัดการดูแลหลายอย่าง เรื่องที่อยู่ก็กำลังต่อเติมใกล้จะเสร็จแล้วแหละ ในอนาคตจะพาเมียแอยู่ที่นั้นด้วยกัน
เขาวางแผนอนาคตของเราไว้เยอะมาก
ฟีนด์อยู่ในชีวิตของเขาเสมอ
งานที่พ่อแม่และพี่พยายามบังคับให้เขากลับไปทำมันไม่เคยอยู่ในสายตาเลยสักครั้ง องค์กรใหญ่ที่ต้องอยู่ในกฏระเบียบไม่เหมาะกับคนเอาแต่ใจตัวเองทุกอย่างแบบเขาหรอก แค่นึกภาพตัวเองใส่สูทผูกไทด์เดินไปเดินมาด้วยความระแวงคนที่แทงข้างหลังแบบนั้นก็อยากจะอาเจียนออกมาแล้วล่ะ
เขาชอบชีวิตที่เป็นอยู่แบบนี้มากกว่า
เพราะงี้ถึงหนีมาตลอด
เรื่องพื้นที่สีแดงมันไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสักนิดสำหรับเขาที่เจนสนามหลากหลายรูปแบบ สิ่งที่เขาเป็นมันก็ไม่ต่างกับทหารรับจ้างหรือทีมนักฆ่าหรอก ครั้งนี้เขาไปเพื่อสืบค้นบางเรื่องและช่วยคนออกมาจนได้ด้วยความยากเย็นมากพอสมควร ฐานผลิตอาวุธของบริษัทถูกถล่มยับจากศัตรูที่รู้เพราะข่าวหลุดลอดออกไป ถ้าหากว่าพวกมันได้คนสำคัญไปความลับคงหลุดออกมาเยอะแน่นอน เขาใช้เวลานานพอสมควรเพื่อเคลียร์ปัญหาตรงนั้นให้จบ
เรื่องของเมียแค่หาต้นตอเจอ
แค่นั้นก็จบ
นิ้วกดแป้นพิมพ์ในขณะที่แววตากวาดมองทุกตัวอักษรและภาพที่ถูกแอบถ่ายมาได้ หลักฐานการฟอกเงินเยอะมาก การขนย้ายของผิดกฏหมายและการใช้บริษัทอัญมณีเป็นตัวบังหน้าธุรกิจมืด ชื่อตัวละครลับโผล่มาให้เห็นชัดเจนโดยไม่ต้องเดาอะไรให้มาก สมองเริ่มคิดวิเคราะห์ความเสียหาที่จะเกิดขึ้นหากเรื่องนี้หลุดลอดออกไป มูลค่าเงินของบริษัทที่ถูกยักยอกไปประมาณสองร้อยล้านเพื่อสร้างสถานการณ์เอาแพะมารอรับความผิดแทน ส่วนมูลค่าจริงที่ซุกซ่อนเอาไว้ทั้งหมดนั้นมีมูลค่าประมาณสามพันล้านเห็นจะได้
งานนี้พัวพันกับนักการเมืองใหญ่นี่เอง
มิน่าล่ะถึงเล่นแรงขนาดนี้
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้ากว่าใจที่ร้อนกว่าอยู่ดี งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แขกมาร่วมเป็นพยานรักอย่างล้นหลาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น รูปคู่บ่าวสาวที่ใช้ตกแต่งงานใครเห็นก็ล้วนยิ้มออกมาเพราะเจ้าบ่าวหน้าดุดันมาก ต่อให้ยิ้มก็หน้าดุเหมือนเดิม ในขณะเจ้าสาวสวยหวานเหมือนเจ้าหญิงแทบทุกรูปที่ใช้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลิลลี่สีขาวสะอาดตาเป็นหลัก เสียงเปียโนและเสียงไวโอลินในบทเพลงรักเป็นตัวผสมชั้นดีให้งานแต่งครั้งนี้หวานชื่นมากขึ้น นี่คือการแต่งงานที่หลายคนคิดว่ากะทันหัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าคบกันมาสี่ปีกว่าแล้ว บลูมคุยกับแขกในงานด้วยความเป็นกันเองมากแล้วมองเวลาด้วยความร้อนใจ ลูกน้องทั้งหมดคนรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจมาก แถมพวกมันยังเป็นคนนำเสนอตัวเอง ใบหน้าดุดันมีรอยยิ้มกว้างให้กับทุกคนที่ร่วมยินดี แม้ว่าจะไม่ชอบหน้าบางคนมากเท่าไรก็ตามพ่อแม่ให้ของขวัญแต่งงานเกาะส่วนตัวที่มีวิวทิวทัศน์ดีงามมูลค่าราวๆเจ็ดร้อยล้าน พี่ชายบ่นนิดหน่อยที่ถูกแต่งงานตัดหน้าไปก่อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากและให้ของขวัญเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ มูลค่าราวๆสี่ร้อยล้านโดยประมาณ พี่สาวใ
“พี่มีเรื่องจะบอก”“อะไรเหรอ?” “พ่อลาออกจากประธานแล้วจะใช้ชีวิตเกษียณที่คฤหาสน์ส่วนตัว”“แบบนี้ก็แสดงว่า…พี่บลูมกลับไปทำงานเหรอ!?” “ตอนแรกพี่ขี้เกียจอยู่นะแต่คิดๆแล้วพี่คงจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ถ้าอยากมีฟีนด์อยู่ในชีวิต ไบรท์ก็ให้ข้อเสนอมาดีด้วยสิ โบว์ก็รบเร้าไม่หยุดเลยแล้วฟีนด์ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอถึงอ้อนแทบทุกครั้งที่คุยกัน ถึงเรื่องนี้มันจะฝืนใจตัวเองหน่อยแต่หน้าที่ตรงนั้นมาเป็นของพี่มาตลอด ลูกน้องหลายคนยังรอพี่กลับไป”“พี่บลูม…” “แต่งงานกันพี่นะฟีนด์?” เขาก้มลงมองหน้าเมียที่ตาโตด้วยความตกใจแล้วลุกนั่งทันที “พี่ว่าไงนะ!?” อยู่ดีๆก็พูดออกมาแบบไร้ความโรแมนติกเลยนี่นะ เขาขยับเข้าไปจูบเมียแล้วดันตัวเธอให้ลงนอนไปก่อนจะผละออกมาสบตา เราจูบกันอย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มเลย เพียงไม่กี่นาทีเสื้อผ้าร่วงลงไปกองที่พื้นพรมเหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าที่กอดรัดนัวเนียนกันบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่กำลังเปิดหนังอยู่ เขาผละใบหน้าออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับหยิบแหวนแต่งงานมาจากกางเกงที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ“แต่งงานกับพี่นะที่รัก” “มาขออ
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ การจากลาที่ไม่ใช่ตลอดไป แต่หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ความรับผิดชอบต่องานและชีวิตคนอยู่ในกำมือทำให้ไม่สามารถอยู่กับความสุขตรงนี้ได้นานเกินไปบลูมนอนจูบเมียหลังจากบอกรักกันอย่างหนักมาตลอด ตัวเราเปล่าเปลือยแนบชิดกัน แววตาคู่สวยที่มองเต็มไปด้วยความรักและซ่อนความกังวลเอาไว้ไม่มิด ทุกสัมผัสจากเธอคือสิ่งที่ดีที่เขาจะจดจำเอาไว้เป็นกำลังใจในช่วงเวลายากลำบาก เมื่อจบเรื่องนี้แล้วเขาจะกลับมาอยู่กับเธออีกยาวนาน หน้าที่กับความรักสวนทางกันถ้าดื่มดำนานเกินไปลูกน้องที่นั่นอาจจะตาย “พี่ต้องไปแล้ว” “ห้ามเป็นอะไรนะ” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพี่จะกลับมานอนกอดเมียแบบนี้จนเมียเบื่อหน้าเลย” “ใครจะเบื่อได้เล่า!” “ไปอาบน้ำกันเถอะ”เราสองคนช่วยกันอาบน้ำแล้วจูบกันไม่หยุด มือเล็กบีบครีมอาบน้ำแล้วถูกจนเกิดฟองก่อนจะลูบไล้เรือนร่างที่กำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นเยอะมากขึ้นกว่าเดิมจากเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเขาก็คือคนที่ดูดีมากสำหรับเธอเสมอ ใบหน้าหล่อเมื่อก่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแต่ก็ยังทำอะไรไม่สะดวกเท่าไร เรื่องของเมียไม่น่าเป็นห่วงมากแล้วมั่นใจว่าต่อจากนี้เธอจะรับมือไหว ไอ้นักการเมืองคนนั้นเครื่องบินตกขณะที่หลบหนีออกนอกประเทศจนเป็นข่าวดัง หลายคนคาดว่าถูกใครสักคนสั่งเก็บเพื่อไม่ให้มีการซัดทอด ส่วนไอ้เวรที่สู้กับเขามันชื่อไวท์ มันยังไม่ตายแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอาคืน มันน่าจะกำลังรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเช่นเดียวกันกับเขา มันอยากวัดฝีมือกับเขาวันนั้นมันไม่ได้สนใจฟีนด์ด้วยซ้ำ“หมอบอกว่าพี่จะได้ออกวันไหน?” เขาหันไปถามเมียที่กำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ “ถ้าอาการดีกว่านี้ก็น่าจะออกอาทิตย์หน้ามั้ง” ผัวถามแบบนี้ครั้งที่เท่าไรแล้วนะ “พี่เบื่อ!” “ทนๆให้หายดีก่อน” “ที่นี่มันน่าเบื่อ! มองไปทางไหนก็น่าเบื่อไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักอย่าง แล้วคนอื่นล่ะ?” “เห็นว่าจะมาเยี่ยมวันนี้แหละอีกเดี๋ยวคงถึง” “ฟีนด์รู้ไหมเราอยู่ที่ไหน?” “ใจกลางเมืองเลย” “แบบนี้ขโมยรถสักคันหนีน่าจะง่าย” “พี่บลูม!!” “เรียกซะดังเลย!” “พี่ไม่เข็ดบ้างเลยรึไงห่ะ!?” “เข็ดอะไร?” “ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง!” “ก็ยังไม่ตายสักหน่อย!” “ถ้าหากพี่หนีออกจ
เกรย์ แฮม โจ เคน เฟย และไค เดินมาตั้งใจจะเยี่ยมบอสและบอกให้คุณหนูรู้ว่าคุณท่านมาถึงแล้ว แต่ว่าภาพที่เห็นมันชัดเจนเลยว่าไม่ควรจะเข้าไปขัดจังหวะใดๆทั้งสิ้น คุณหนูจับมือพี่บลูมจูบซ้ำๆไม่หยุดแล้วร้องไห้ออกมาตลอด บางครั้งก็ซบไปใบหน้าลงบนเตียงแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เรื่องอาการบาดเจ็บหนักจนอาจจะไม่รอดรู้จากหมอแล้ว เรื่องที่บอสทำเพื่อช่วยชีวิตลูกน้องก็รู้แล้วเช่นกัน เป้าหมายหลักของพวกมันคือคุณหนูฟีนด์ แต่คนที่มันอยากฆ่าคือบอสคนเดียว “หรือว่าคุณหนูจะรักบอสจริงๆวะ?” เคนถามเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสัย“นั่นดิ! เมื่อวานก็ไม่ได้คุยกันเลย วันนี้เกือบตายก็ยังไม่ได้คุยสักคำอีก” ไคบอกเพิ่ม“ไม่ตายเว้ย! นายน้อยของกูไม่มีทางตายหรอก!” โจรีบแย้งออกมาแล้วเม้มปากแน่นข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พวกเราทั้งสี่คนรู้ดีว่าหัวหน้าวางแผนมาเป็นอย่างดีและพยายามช่วยชีวิตขนาดไหน ตั้งแต่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมาถึงสี่ปีผ่านเรื่องเลวร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่บอสจะทิ้งลูกน้องให้ตายโดยไม่พยายามช่วย “นายน้อย…หมายความว่าไงวะโจ!?” ไคขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและตกใจมาก“ก็…เมื่อก่อนเรารู้ว่านายน้อยคือคนออกแบบทุก
“พี่บลูม!!”“เร็วๆสิโจ!!” ในวินาทีนั้นที่เราสบตากันเขายิ้มกว้างให้ก่อนจะถูกยิงแล้วล้มตัวลง แต่ก็ไหวตัวหลบอีกฝั่งทันก่อนจะถูกกระสุนอีกนัดปลิดชีพเอาได้ถ้าช้าสักวินาที เลือดของเขาไหลทะลักออกมาแต่ยังแข็งใจฝืนลุกขึ้นเพื่อจะปกป้องเธอให้ได้ ตัวเขาโชกไปด้วยเลือดและบาดแผล เขายิงคนที่มันวิ่งมาทางเธอแม่นเหมือนจับวางพร้อมกับหลบอีกคนที่พุ่งเป้าจะเอาชีวิตเขาอย่างเดียว เธอมองไปทางโจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถดังขึ้นและแล่นมาทางนี้ด้วยความเร็วมาก เอี๊ยด!!“ขึ้นรถเร็ว!!”“ไปเอาพี่บลูมมาเดี๋ยวนี้!!”“เกาะแน่นๆนะคุณหนู”“ชิ่งเต็มที่เลยโจ” ทางด้านบลูมยืนแสยะยิ้มจ้องมองไอ้เวรที่อึดได้ใจขนาดโดนยิง โดนกระทืบจมตีนจนกระอักเลือดออกมายังลุกขึ้นไหว ถูกเขาจับทุ่มลงพื้นถนนก็ยังรอด สภาพมันโซซัดโซเซใกล้จะตายเต็มทนแล้วแหละ ตัวเขาถูกรุมนั่นเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบาดเจ็บหนักและเสียสมาธิจากการหันไปมองเมีย พวกลูกน้องมันพุ่งเป้าไปหา เขาหยิบปืนมายิงคุ้มกันให้กับเมียกับลูกน้องและพลาดโดนยิง “กูไม่มีทางให้ครั้งนี้มึงหนีไปหรอก!!” “งั้นมึงก็ผ่านไอ้นี่ไปให้ได้สิ!”“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!” บลูมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของมัน