หน้าที่หลักคือผัวในความลับ...มั้ง! หน้าที่รองที่บอดี้การ์ดประจำตัวแม่คุณทูนหัวที่กำลังเท้าเอวใส่แล้ววีนฉ่ำแบบไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย นู้นก็จะเอา นี่ก็จะเอา คิดบวกไม่เคยมีแต่พร้อมบวกไม่เคยขาด เดือดร้อนผัวก็วิ่งสี่คูณร้อยลากขึ้นรถตลอด เด็กดื้อต้องโดนอะไรกูไม่รู้ แต่เท่าที่รู้คือต้องหาอะไรปิดปากเมียแล้ว!! "โธ่เว้ย!! ออกไปแล้วไม่ต้องมาให้เห็นหน้า!" "กล้าไล่ผัวเหรอ!?" "แล้วคิดว่าฉันไล่หมารึไงเล่า ออกไป!!" [ บลูม Vs. ฟีนด์ ]
Узнайте большеปัง!! ปัง!! ปัง!!
“ระวัง!!”
“พาคุณหนูหนีไป!!”
บอดี้การ์ดตัวใหญ่วิ่งด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่ขายาวจะทำได้แล้วคว้าตัวผู้หญิงตัวเล็กแค่หน้าอกอุ้มวิ่งหนีออกไปทันที เสียงปืนดังไล่หลังตามมาติดๆจนกระทั่งมาถึงรถที่จอดรออยู่แล้ว เพียงไม่กี่นาทีรถคันหรูขับออกไปด้วยความเร็วมากและรถอีกคันตามมาติดๆอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน รถทั้งสองคันเหมือนกำลังขับแข่งกันบนท้องถนนแต่ความจริงไม่ใช่เลย นี่คือการตามล่าเพื่อเอาชีวิตผู้หญิงในรถที่เป็นลูกสาวคนเดียวของมาเฟียหน้าใหม่
ครั้งนี้ให้เจ็บตัวไม่ได้หรอก
เขามาดูแลเธอเองไม่ว่าใครก็ห้ามฆ่า
“เอาปืนมา!”
“อย่าครับคุณหนู”
“ฉันยิงแม่นน่า!”
“รถกันกระสุนทั้งคันแล้วคุณหนูจะเปิดหน้าต่างรับกระสุนทำไม!?”
“นี่กล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอไอ้บ้า!!”
“ขึ้นคร่อมยังทำมาแล้วนับประสาอะไรกับขึ้นเสียง!?”
“กรี๊ด!! ไอ้บ้า!!”
“โอ๊ย!! หุบปากได้แล้ว เสียงแหลมๆมันทำให้เสียสมาธิ!!”
“ฉันเป็นเจ้านายนะ!!”
“แต่พี่เป็นผัว!!”
“ไอ้ผัวเฮงซวย!!”
ด้านนอกรถมีคนหาทางจะยิงเข้ามาให้ได้ ส่วนด้านในก็เหมือนว่ามีสงครามขนาดย่อมเช่นกัน รถคันหรูที่มีรอยโดนยิงแทบทั้งคันขับด้วยความเร็วสูงหาทางสลัดรถที่ตามติดเหมือนเจ้ากรรมนายเวรให้หลุดพ้นไป ผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมงที่ถูกไล่ล่าในที่สุดก็สามารถหลุดออกมาได้อย่างสะบักสะบอมมากพอสมควร
เอี๊ยด!!
“จอดทำไม!?”
“แล้วจะอยู่ให้มันตามทันรึไง!?”
“พูดดีๆไม่เป็นรึไงห่ะ ความจริงเอาปืนมาให้ฉันยิงมันก็จบแล้ว”
“อวดเก่งจริงๆ ทีตอนพี่วิ่งไปอุ้มทำไมไม่ยิงล่ะ มาปากเก่งทำไมตอนนี้!?”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะ ตอนนี้พี่เป็นแค่บอดี้การ์ดลืมตัวไปแล้วรึไง!?”
“ในรถคันนี้มีแค่เราสองคน ตอนนี้พี่เป็นผัวไม่ใช่ลูกน้องใครทั้งนั้น!”
“พวกนั้นเป็นใคร!?”
“ยังไม่รู้”
“ไม่ได้เรื่อง!”
“ว่าพี่แล้วตัวเองรู้เหรอ?”
“ก็…”
“ก็ไม่รู้เหมือนกันนี่!”
“ฉันน่าจะอยู่ฆ่ามันให้ตายๆไปซะ!”
“มันจะฆ่าเธอก่อนดิ!”
“หุบปาก!!”
“ไปกันได้แล้ว ที่นี่เป็นเซฟเฮ้าส์แล้วอีกเดี๋ยวคนอื่นจะตามมา”
“เดินช้าๆไม่ได้รึไงเนี่ย ฉันเดินตามไม่ทันนะ!”
“ช่วยไม่ได้ก็เกิดมาขาสั้นเอง”
“ปากหมาที่สุด!!”
บลูมเดินถือปืนเข้าไปในบ้านที่มีรั่วล้อมสูงพร้อมกับกวาดสายตามองด้วยความระมัดระวังมากพอสมควร เขาเดินนำเธอขึ้นไปที่ห้องพักเพราะตอนนี้คุณหนูคนสวยมอมแมมเหมือนตัวอะไรสักอย่างไปคลุกฝุ่นมา ในระหว่างที่รอเธออาบน้ำก็กดโทรศัพท์อ่านข้อความที่ลูกน้องรายงานมา ทุกคนกำลังจะมาที่นี่แล้วประชุมกันอีกทีเพราะคืนนี้คุณหนูต้องออกงานในฐานะทายาทคนเดียวของนักธุรกิจนำเข้าอัญมณี เขาพึ่งมารับหน้าที่นี้วันแรกแทนทีมบอดี้การ์ดเก่าของเธอที่บาดเจ็บหนักจากการปะทะครั้งก่อนและตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่
เงยหน้ามาอีกทีเพราะได้กลิ่นหอม
ฟีนด์ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวยืนเท้าเอวจ้องมองกันอยู่
หน้าที่หลักคือผัวในความลับ...มั้ง! หน้าที่รองคือบอดี้การ์ดประจำตัวแม่คุณทูนหัวที่กำลังเท้าเอวใส่แล้ววีนฉ่ำแบบไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย นู้นก็จะเอา นี่ก็จะเอา คิดบวกไม่เคยมีแต่พร้อมบวกไม่เคยขาด เดือดร้อนผัวก็วิ่งสี่คูณร้อยลากขึ้นรถตลอด
เด็กดื้อต้องโดนอะไรกูไม่รู้
แต่เท่าที่รู้คือต้องหาอะไรปิดปากเมียแล้ว!!
"โธ่เว้ย!! ออกไปแล้วไม่ต้องมาให้เห็นหน้า!"
"กล้าไล่ผัวเหรอ!?"
"แล้วคิดว่าฉันไล่หมารึไงเล่า ออกไป!!”
“ไม่ออก!”
“ฉันจะแต่งตัว”
“พี่เห็นมาทั้งตัวแล้วจะอายอะไรอีก!?”
“พี่บลูม!!”
“นั่งลงเดี๋ยวเช็ดผมให้”
ฟีนด์นั่งลงบนเตียงด้วยความไม่ชอบใจเท่าไรแต่ทางเลือกเธอมีน้อย พี่บลูมถูกส่งตัวมาเพื่อดูแลเธอชั่วคราวในช่วงที่บอดี้การ์ดส่วนตัวรักษาตัวให้ดีก่อนจะกลับมาทำหน้าที่เดิม มือใหญ่หยิบผ้ามาเช็ดผมที่เปียกให้ไม่แรงมากแต่ก็เล่นเอาหัวแทบโยกกันเลยทีเดียว จากนั้นมือหยาบที่เคยจับแต่อาวุธฆ่าคนก็หยิบไดร์เป่าผมมาทำต่อด้วยความไม่ถนัดสักเท่าไร แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ชายเถื่อนแบบนี้จะทำอะไรอ่อนโยนไม่เป็น
สิ่งที่เขาทำมันคือความใส่ใจ
แต่ว่าเธอทำเอาน่าจะดีกว่าหลายเท่า
“เสร็จแล้ว”
“ขอบใจ”
“พี่จะลงไปเช็ครอบๆบ้านก่อนนะ แล้วเดี๋ยวลูกน้องจะเอาชุดที่ใส่คืนนี้กับเครื่องสำอางมาให้ เราต้องไปให้ทันงานก่อนสองทุ่มไม่งั้นจะมีข่าวเสียหายเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน”
“รู้แล้วน่าไม่ต้องย้ำหรอก!”
“อ่อ! อย่าให้เห็นว่าสนใจใครล่ะ?”
“มีสิทธิ์อะไรมาหวง?”
“เอากันตอนนี้ยังได้นะฟีนด์!”
“ออกไปเลยไป๊ไอ้บ้ากาม!!”
บลูมเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับถือปืนเพื่อตรวจเช็คบ้านหลังนี้ให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครมาฆ่ายัยเด็กปากดีได้ หลังจากเดินสำรวจชั้นบนครบหมดทุกห้องแล้วก็เดินสำรวจชั้นล่างและตามด้วยสำรวจรอบบ้าน แววตาดุดันจ้องมองด้วยความระมัดระวัง สัญชาตญาณป้องกันตัวที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กทำงานอย่างหนักหน่วงตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็ปาไปบ่ายโมงกว่าๆแล้ว
ทีมของพวกเขาไปรับเธอมาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อจะพามาเซฟเฮ้าส์ที่ปลอดภัย ก่อนจะถูกดักโจมตีในตอนแวะกินอาหารเพราะคุณหนูหิว จากนั้นก็ปะทะกันลากยาวหลายชั่วโมง
เซฟเฮ้าส์หลังนี้ปลอดภัย
คืนนี้เราน่าจะมาค้างที่นี่แทนโรงแรม
เขาเดินกลับเข้าไปในบ้านจากนั้นก็เปิดตู้ลับที่ใช้เก็บซ่อนอาวุธ คืนนี้ในตอนกลับพวกเราต้องถูกเล่นงานอย่างแน่นอนและไม่รู้ว่าจะจบลงตอนไหนด้วย เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับตำแหน่งประธานบริษัทของพ่อเธอที่พึ่งจะรับช่วงต่อมาได้ไม่นาน หลังจากนั้นมีการเปิดโปงเรื่องยักยอกทรัพย์ของหลายคนที่ถือหุ้นส่วนและทำงานอยู่ หลายคนหนีออกนอกประเทศทันและบางคนถูกสั่งเก็บทันที มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่ติดคุก แต่นั่นมันไม่จบเพราะมีการล้างแค้นทันทีและต้องการทวงคืนทุกอย่างที่เสียไป
คุณหนูฟีนด์คือเป้าหมายในครั้งนี้
ฆ่าเพื่อล้างแค้น
“นี่ทำอะไรอะ?”
“ชักว่าว”
“อี๋! น่าเกลียดที่สุด”
“ก็เห็นอยู่ว่าเช็คปืนแล้วจะถามทำไม?”
“เผื่อมีอะไรให้ช่วยไง”
“ช่วยอย่าเป็นปัญหาก็พอ”
“ปากเหรอห่ะ! ฉันไม่แปลกใจเลยที่ใครๆก็เกลียดพี่”
“แล้วไง?”
ฟีนด์นั่งลงที่เก้าอี้แล้วหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูแก้เบื่อระหว่างรอคนอื่นมา คืนนี้เธอต้องไปออกงานกับพ่อเพราะจะมีการพูดคุยเรื่องงานกับเจ้าของเหมืองขนาดใหญ่ที่นั่งเครื่องบินข้ามประเทศมาถึงที่นี่
เธออายุยี่สิบสี่แล้วยังต้องเรียนรู้อีกเยอะกว่าจะเก่งมาก ไหนจะต้องเรียนศิลปะการต่อสู้ให้หนักขึ้นกว่าเดิมเพราะหนทางข้างหน้าไม่ใช่เรื่องงานเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว อาวุธก็ใช้เป็นแค่ปืนสั้นธรรมดาและยิงไม่แม่นเท่าไรนัก แต่เธอพยายามมากจริงๆเพื่อจะขึ้นเป็นที่หนึ่งและจะไม่ยอมให้ใครมาฆ่าตัดตอนง่ายๆด้วย
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ช้ากว่าใจที่ร้อนกว่าอยู่ดี งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แขกมาร่วมเป็นพยานรักอย่างล้นหลาม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น รูปคู่บ่าวสาวที่ใช้ตกแต่งงานใครเห็นก็ล้วนยิ้มออกมาเพราะเจ้าบ่าวหน้าดุดันมาก ต่อให้ยิ้มก็หน้าดุเหมือนเดิม ในขณะเจ้าสาวสวยหวานเหมือนเจ้าหญิงแทบทุกรูปที่ใช้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลิลลี่สีขาวสะอาดตาเป็นหลัก เสียงเปียโนและเสียงไวโอลินในบทเพลงรักเป็นตัวผสมชั้นดีให้งานแต่งครั้งนี้หวานชื่นมากขึ้น นี่คือการแต่งงานที่หลายคนคิดว่ากะทันหัน แต่ใครจะรู้เล่าว่าคบกันมาสี่ปีกว่าแล้ว บลูมคุยกับแขกในงานด้วยความเป็นกันเองมากแล้วมองเวลาด้วยความร้อนใจ ลูกน้องทั้งหมดคนรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจมาก แถมพวกมันยังเป็นคนนำเสนอตัวเอง ใบหน้าดุดันมีรอยยิ้มกว้างให้กับทุกคนที่ร่วมยินดี แม้ว่าจะไม่ชอบหน้าบางคนมากเท่าไรก็ตามพ่อแม่ให้ของขวัญแต่งงานเกาะส่วนตัวที่มีวิวทิวทัศน์ดีงามมูลค่าราวๆเจ็ดร้อยล้าน พี่ชายบ่นนิดหน่อยที่ถูกแต่งงานตัดหน้าไปก่อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากและให้ของขวัญเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ มูลค่าราวๆสี่ร้อยล้านโดยประมาณ พี่สาวใ
“พี่มีเรื่องจะบอก”“อะไรเหรอ?” “พ่อลาออกจากประธานแล้วจะใช้ชีวิตเกษียณที่คฤหาสน์ส่วนตัว”“แบบนี้ก็แสดงว่า…พี่บลูมกลับไปทำงานเหรอ!?” “ตอนแรกพี่ขี้เกียจอยู่นะแต่คิดๆแล้วพี่คงจะใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ถ้าอยากมีฟีนด์อยู่ในชีวิต ไบรท์ก็ให้ข้อเสนอมาดีด้วยสิ โบว์ก็รบเร้าไม่หยุดเลยแล้วฟีนด์ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอถึงอ้อนแทบทุกครั้งที่คุยกัน ถึงเรื่องนี้มันจะฝืนใจตัวเองหน่อยแต่หน้าที่ตรงนั้นมาเป็นของพี่มาตลอด ลูกน้องหลายคนยังรอพี่กลับไป”“พี่บลูม…” “แต่งงานกันพี่นะฟีนด์?” เขาก้มลงมองหน้าเมียที่ตาโตด้วยความตกใจแล้วลุกนั่งทันที “พี่ว่าไงนะ!?” อยู่ดีๆก็พูดออกมาแบบไร้ความโรแมนติกเลยนี่นะ เขาขยับเข้าไปจูบเมียแล้วดันตัวเธอให้ลงนอนไปก่อนจะผละออกมาสบตา เราจูบกันอย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มเลย เพียงไม่กี่นาทีเสื้อผ้าร่วงลงไปกองที่พื้นพรมเหลือเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าที่กอดรัดนัวเนียนกันบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่กำลังเปิดหนังอยู่ เขาผละใบหน้าออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับหยิบแหวนแต่งงานมาจากกางเกงที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ“แต่งงานกับพี่นะที่รัก” “มาขออ
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทันในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ การจากลาที่ไม่ใช่ตลอดไป แต่หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ความรับผิดชอบต่องานและชีวิตคนอยู่ในกำมือทำให้ไม่สามารถอยู่กับความสุขตรงนี้ได้นานเกินไปบลูมนอนจูบเมียหลังจากบอกรักกันอย่างหนักมาตลอด ตัวเราเปล่าเปลือยแนบชิดกัน แววตาคู่สวยที่มองเต็มไปด้วยความรักและซ่อนความกังวลเอาไว้ไม่มิด ทุกสัมผัสจากเธอคือสิ่งที่ดีที่เขาจะจดจำเอาไว้เป็นกำลังใจในช่วงเวลายากลำบาก เมื่อจบเรื่องนี้แล้วเขาจะกลับมาอยู่กับเธออีกยาวนาน หน้าที่กับความรักสวนทางกันถ้าดื่มดำนานเกินไปลูกน้องที่นั่นอาจจะตาย “พี่ต้องไปแล้ว” “ห้ามเป็นอะไรนะ” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก อีกไม่นานพี่จะกลับมานอนกอดเมียแบบนี้จนเมียเบื่อหน้าเลย” “ใครจะเบื่อได้เล่า!” “ไปอาบน้ำกันเถอะ”เราสองคนช่วยกันอาบน้ำแล้วจูบกันไม่หยุด มือเล็กบีบครีมอาบน้ำแล้วถูกจนเกิดฟองก่อนจะลูบไล้เรือนร่างที่กำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็นเยอะมากขึ้นกว่าเดิมจากเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนเขาก็คือคนที่ดูดีมากสำหรับเธอเสมอ ใบหน้าหล่อเมื่อก่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะแต่ก็ยังทำอะไรไม่สะดวกเท่าไร เรื่องของเมียไม่น่าเป็นห่วงมากแล้วมั่นใจว่าต่อจากนี้เธอจะรับมือไหว ไอ้นักการเมืองคนนั้นเครื่องบินตกขณะที่หลบหนีออกนอกประเทศจนเป็นข่าวดัง หลายคนคาดว่าถูกใครสักคนสั่งเก็บเพื่อไม่ให้มีการซัดทอด ส่วนไอ้เวรที่สู้กับเขามันชื่อไวท์ มันยังไม่ตายแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอาคืน มันน่าจะกำลังรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเช่นเดียวกันกับเขา มันอยากวัดฝีมือกับเขาวันนั้นมันไม่ได้สนใจฟีนด์ด้วยซ้ำ“หมอบอกว่าพี่จะได้ออกวันไหน?” เขาหันไปถามเมียที่กำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ “ถ้าอาการดีกว่านี้ก็น่าจะออกอาทิตย์หน้ามั้ง” ผัวถามแบบนี้ครั้งที่เท่าไรแล้วนะ “พี่เบื่อ!” “ทนๆให้หายดีก่อน” “ที่นี่มันน่าเบื่อ! มองไปทางไหนก็น่าเบื่อไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักอย่าง แล้วคนอื่นล่ะ?” “เห็นว่าจะมาเยี่ยมวันนี้แหละอีกเดี๋ยวคงถึง” “ฟีนด์รู้ไหมเราอยู่ที่ไหน?” “ใจกลางเมืองเลย” “แบบนี้ขโมยรถสักคันหนีน่าจะง่าย” “พี่บลูม!!” “เรียกซะดังเลย!” “พี่ไม่เข็ดบ้างเลยรึไงห่ะ!?” “เข็ดอะไร?” “ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง!” “ก็ยังไม่ตายสักหน่อย!” “ถ้าหากพี่หนีออกจ
เกรย์ แฮม โจ เคน เฟย และไค เดินมาตั้งใจจะเยี่ยมบอสและบอกให้คุณหนูรู้ว่าคุณท่านมาถึงแล้ว แต่ว่าภาพที่เห็นมันชัดเจนเลยว่าไม่ควรจะเข้าไปขัดจังหวะใดๆทั้งสิ้น คุณหนูจับมือพี่บลูมจูบซ้ำๆไม่หยุดแล้วร้องไห้ออกมาตลอด บางครั้งก็ซบไปใบหน้าลงบนเตียงแล้วยกแขนกอดเอาไว้ เรื่องอาการบาดเจ็บหนักจนอาจจะไม่รอดรู้จากหมอแล้ว เรื่องที่บอสทำเพื่อช่วยชีวิตลูกน้องก็รู้แล้วเช่นกัน เป้าหมายหลักของพวกมันคือคุณหนูฟีนด์ แต่คนที่มันอยากฆ่าคือบอสคนเดียว “หรือว่าคุณหนูจะรักบอสจริงๆวะ?” เคนถามเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสัย“นั่นดิ! เมื่อวานก็ไม่ได้คุยกันเลย วันนี้เกือบตายก็ยังไม่ได้คุยสักคำอีก” ไคบอกเพิ่ม“ไม่ตายเว้ย! นายน้อยของกูไม่มีทางตายหรอก!” โจรีบแย้งออกมาแล้วเม้มปากแน่นข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พวกเราทั้งสี่คนรู้ดีว่าหัวหน้าวางแผนมาเป็นอย่างดีและพยายามช่วยชีวิตขนาดไหน ตั้งแต่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมาถึงสี่ปีผ่านเรื่องเลวร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่บอสจะทิ้งลูกน้องให้ตายโดยไม่พยายามช่วย “นายน้อย…หมายความว่าไงวะโจ!?” ไคขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและตกใจมาก“ก็…เมื่อก่อนเรารู้ว่านายน้อยคือคนออกแบบทุก
“พี่บลูม!!”“เร็วๆสิโจ!!” ในวินาทีนั้นที่เราสบตากันเขายิ้มกว้างให้ก่อนจะถูกยิงแล้วล้มตัวลง แต่ก็ไหวตัวหลบอีกฝั่งทันก่อนจะถูกกระสุนอีกนัดปลิดชีพเอาได้ถ้าช้าสักวินาที เลือดของเขาไหลทะลักออกมาแต่ยังแข็งใจฝืนลุกขึ้นเพื่อจะปกป้องเธอให้ได้ ตัวเขาโชกไปด้วยเลือดและบาดแผล เขายิงคนที่มันวิ่งมาทางเธอแม่นเหมือนจับวางพร้อมกับหลบอีกคนที่พุ่งเป้าจะเอาชีวิตเขาอย่างเดียว เธอมองไปทางโจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงรถดังขึ้นและแล่นมาทางนี้ด้วยความเร็วมาก เอี๊ยด!!“ขึ้นรถเร็ว!!”“ไปเอาพี่บลูมมาเดี๋ยวนี้!!”“เกาะแน่นๆนะคุณหนู”“ชิ่งเต็มที่เลยโจ” ทางด้านบลูมยืนแสยะยิ้มจ้องมองไอ้เวรที่อึดได้ใจขนาดโดนยิง โดนกระทืบจมตีนจนกระอักเลือดออกมายังลุกขึ้นไหว ถูกเขาจับทุ่มลงพื้นถนนก็ยังรอด สภาพมันโซซัดโซเซใกล้จะตายเต็มทนแล้วแหละ ตัวเขาถูกรุมนั่นเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบาดเจ็บหนักและเสียสมาธิจากการหันไปมองเมีย พวกลูกน้องมันพุ่งเป้าไปหา เขาหยิบปืนมายิงคุ้มกันให้กับเมียกับลูกน้องและพลาดโดนยิง “กูไม่มีทางให้ครั้งนี้มึงหนีไปหรอก!!” “งั้นมึงก็ผ่านไอ้นี่ไปให้ได้สิ!”“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!” บลูมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของมัน
แฮมนั่งรถไปกับเฟยพร้อมกับนักฆ่าฝีมือยอดเยี่ยมที่มีค่าตัวสูงจากเดอะมิราเคิล เคนนั่งรถไปกับไคพร้อมกับนักฆ่าสาวเช่นกัน ส่วนโจนั่งรถมาพร้อมกับบลูมและด้านหลังคือคุณหนู เกรย์จะเป็นคนติดต่อหาทางช่วยเหลือทุกคนเมื่อเกิดเรื่องขึ้นและอัพเดทสถานการณ์ต่างๆด้วย งานนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนล้วนเจอแต่นักฆ่าที่จ้างมาเพื่อเอาคืนและชิงตัวคุณหนูฟีนด์ไปเพราะต้องการเค้นคอเอาทุกหลักฐานที่ยังเหลืออยู่ไปทำลายทิ้งให้สิ้นซาก แต่ละคนฝีมือดีเยี่ยมทั้งนั้นยิ่งไว้ใจไม่ได้เลยทุกอย่างถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี แต่อีกฝ่ายก็วางแผนมาเป็นอย่างดีเช่นกัน หลังจากเตรียมทางหนีให้ท่านที่เป็นเหมือนพ่อแล้วถึงได้มาที่นี่เพื่อเอาคืน ไวท์คือมือขวาที่จัดการงานด้านมืดให้แทบทั้งหมด กุมความลับหลายอย่างเอาไว้และเคยปะทะฝีมือกับหัวหน้าบอดี้การ์ดร่างใหญ่นั้นมาก่อนจนอาการสาหัส ในตอนนี้ก็ยังไม่หายดี แต่จิตใจมันร้อนลุ่มอยากปะทะอีกครั้งต่อให้ตายก็ยอมขอเพียงแค่ได้สัมผัสถึงฝีมือชั้นยอดที่หาได้ยากอีกสักครั้งก่อนจะมีใครต้องตายไป โลกนี้มีคนฝีมือระดับนี้อยู่ไม่มากนั่นทำให้เจอได้ยากเขามองผ่านกล้องส่องทางไกลแล้วยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นรถซีดานขับออกไปคนละเส
บลูมมองตามเมียที่เดินไปด้วยความงงมากว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองแหวนที่นิ้วแล้วทำหน้าเศร้าเหมือนเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น วันนี้เขายังไม่ได้ดุหรือบ่นอะไรสักคำเลยนะ หรือว่าเธอเหนื่อยกับการฝึกฝนจนไม่อยากจะมองหน้าคนออกแบบอย่างเขา ในเวลานี้ถ้าจะตามไปที่ห้องคงดูไม่ดีแน่นอน อยู่ดีๆก็โดนเมียเคืองเฮ้อ…แล้วจะง้อเมียยังไงดีวะตอนค่ำเราออกมากินอาหารข้างนอก แล้วต่อที่บาร์เพื่อคลายเครียดก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง บลูมมองเมียที่มองแหวนแล้วทำหน้าเศร้ามาก เขาชวนคุยเธอก็คุยแต่ไม่เหมือนเดิม เธอถอนหายใจใส่ จ้องหน้าด้วยความไม่พอใจบ่อยครั้ง เขาหยอกก็ไม่สน เขากวนประสาทก็ไม่หัวร้อน สุดท้ายเขานั่งดื่มแล้วมองเมียที่ทำหน้าเศร้าทั้งที่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่รู้เลยว่าเมียโกรธเรื่องอะไรกันอยู่เธอไม่ยอมคุยกับเขาดีๆถ้าหากว่าเธอกังวลเรื่องวันพรุ่งนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกเพราะเราทุกคนรู้ว่ามันจะมีการปะทะแน่นอน ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมามุกไหน แล้วมีคนขายข่าวให้มันรึเปล่าว่าการประชุมครั้งนี้จัดที่นอกเมือง เมียเครียดไปก่อนแทนที่จะผ่อนคลาย ยังไงเขาก็ไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายเมียได้ง่ายๆเด็ดขาด ถ้ามัน
เช้าวันต่อมาฟีนด์นอนอมยิ้มบนเตียงนุ่มเพราะผัวยังอยู่ด้วย ตั้งแต่เขากลับมาจากโรงพยาบาลเราแทบจะไม่ได้นอนกอดกันเพราะเขาต้องเคลียร์งานเยอะมาก เธอเองก็ต้องเคลียร์งานเยอะมากเช่นกัน เวลาของเราในช่วงนี้ค่อนข้างหนักหน่วงจนบางครั้งอยากจะงอแงแล้วทิ้งงานไปดื้อๆ แต่พอเห็นพี่บลูมที่รักษาตัวยังไม่หายดีแต่กลับมาทำงานชนิดที่ลืมวันลืมคืน เขาวางแผนสารพัดอย่างเพื่อดูแลเธอและพ่อแม่ไม่ให้ใครมาทำร้ายได้ง่ายๆทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บขนาดนั้น เห็นแบบนั้นแล้วงี่เง่างอแงไม่ลงจริงๆ เขาบอกว่าทำทุกอย่างเพื่อเธอปลอดภัย เธอจะสร้างปัญหาไม่ได้เขาหลับสนิทและกอดเธอไม่ปล่อยเลย เขาไม่เปลี่ยนไปจากวันคืนที่เราอยู่ด้วยกันสักเท่าไร วันนี้รู้สึกดีกว่าเมื่อวานมากหลายเท่า เธอขยับตัวเบาๆเพราะกลัวว่าเขาจะตื่นนอน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องแอบถ่ายรูปคนบ้างานเก็บเอาไว้ดูแก้คิดถึงในช่วงเวลาที่เราไกลกันเขามาช่วยเธอก่อนจะกลับไปเคลียร์งานเขามีความรับผิดชอบเสมอพี่บลูมดีไปทุกมุมมองเลยทั้งที่ยังหลับอยู่ ผิวกายของเขาไม่ได้มีสีผิวที่สม่ำเสมอกันซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอก เขาเล่นลุยทุกอย่างแบบท้าแดดท้าลมและไม่สนใจสภาพอากาศขนาดนั้น ตามตัวมีรอย
Комментарии