“ซือฟุ ท่านมาขวางข้าทำไม คนจากแคว้นหานข้าอยากเห็นว่าจะมีใบหน้าเหมือนอาจารย์ไหม”
“เหมือนข้า องค์หญิงชอบหรือไม่”
ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆจ้องตาใสของอีกคน
“ชอบซี้ ชอบมากเลยทีเดียว ซือฟุเราไปดูพวกเขากัน”
คว้ามือของอีกคนวิ่งลิ่วไปยัง ท้องพระโรง
“หลันเล่อ องค์หญิงรองมานี่”
หันซ้ายหันขาวยืนบิดไปบิดมาเมื่อพระสนมของบิดา เอ่ยปากทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“หลันเล่อถวายพระพรเสด็จพ่อเสด็จแม่พระสนมลู่ฟาง พี่ใหญ่”
ย่อกายลงเงอะงะไม่ได้มีท่าทีอ่อนหวานแม้แต่น้อย
“ฮองเฮา เจ้าตามใจนางจนเคยตัวไม่สำรวมสักนิด หลันเล่อวันนี้มีแขกเมืองฮ่องเต้แคว้นหาน เสด็จเยี่ยมเยือนเผ่าปาเอ่อถัวของเราเจ้าไม่สำรวมเช่นนี้ ยังกล้ามาวุ่นวาย”
หลบอยู่ด้านหลังสนมลู่ฟางที่ยกมือขึ้นคว้ามือของหลันเล่อใว้อย่างปลอบโยน ฮองเฮาหน้าตึง
“ฝ่าบาทนางยังเด็กนัก พร่ำสอนอีกไม่นานจะกลายเป็นองค์หญิงที่งดงามในไม่ช้า”ก้มหน้าซ่อนยิ้มภายใน
"ฮ่องเต้แคว้นหานมาดีมาร้ายไม่อาจหยั่งรู้ หลันเล่อเข้าไปข้างใน"
องค์ชายใหญ่ส่งสายตาดุดันมายังหลันเล่ออย่างจงใจทำให้หลันเล่อหดหัวไม่กล้า อีกทั้งยังก้มหน้านิ่ง
" ถงหมิ่นพานางกลับไปที่ห้องนาง"
องค์ชายใหญ่ออกไปสำทับเมื่อเห็นว่าทั้งฮ่องเต้และฮองเฮาไม่มีการท้วงติง ถงหมิ่นพยักหน้าให้กับหลันเล่อที่ก้าวเดินนำออกจากท้องพระโรงไปในทันที
“ ต้าหมิงคุนฮ่องเต้แคว้นหานเสด็จจจจจจ”
"ขัาน้อยจื่อจื่อผู้แทนพระองค์ในต้าหมิงคุนฮ่องเต้”
จื่อจื่อ ประสานมือตรงหน้าท่าทีองอาจ
“ฮ่องเต้แคว้นหาน ไม่ปรากฏกาย ไร้ความจริงใจ”
“ฝ่าบาทโปรดอภัย ฝ่าบาทหมิงคุนของเราประชวรจากการเดินทางคาดว่าต้องใช้เวลาพักฟื้น เมื่ออาการดีขึ้นแล้วจึงจะแวะมาถวายพระพรฝ่าบาทอย่างแน่นอน” หลันเซ่อฮ่องเต้ ทำสีหน้าแสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน
“ข้าหลันเซ่อมิบังอาจ เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้แคว้นหานยิ่งใหญ่เพียงใดอีกทั้งยังเป็นคนหนุ่มอนาคตไกล ข้าแค่เพียงคนแก่ชรา ไม่อาจบังคับให้ใครต้องมาเกรงใจ”
“ฝ่าบาท ลู่ฟางเองก็คิดถึงหลานไม่น้อยเอาอย่างนี้ดีไหม ลู่ฟางอาสาเยี่ยมไข้ ต้าคุนหมิงฮ่องเต้บอกเล่าเจตนารมณ์ของฝ่าบาท”
น้ำเสียงอ่อนหวานจริงใจ แก้ไขสถานการณ์หลันเซ่อถอนหายใจเบือนหน้าหนี
“ตามใจเจ้า”น้ำเสียงอ่อนโยน
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” หลันตี้ยิ้มมุมปาก
“เสด็จแม่ คนแค้นหานเป็นอย่างไรบ้าง”
หลันเล่อเอ่ยปากถามฮองเฮา
“เฮ้อ จะเป็นอย่างไรก็แค่พวกที่ตั้งใจมาสืบข่าวว่าเผ่าปาเอ่อถัวของเรามีสิ่งใดที่อยากได้บ้างก็เท่านั้น หากพึงใจก็ยกทัพหากไม่พึงใจก็แค่สานสัมพันธ์เหมือนที่เคยทำมานานนม”
“เสด็จแม่เหมือนที่เขาส่ง พระสนมลู่ฟางมาอย่างนั้นหรือ”
“สนมลู่ฟางเป็นเสด็จพ่อเจ้าที่พึงใจนาง แค่เพียงตั้งใจว่าจะช่วยเป็นด่านหน้าคอยปกป้องชายแดนของแคว้นหาน ต่อกรกับแคว้นฉินแคว้นใต้ ฮ่องเต้แคว้นหานก็ส่งนางมามานี่ทันที”
“เสด็จแม่แล้วเราต้องส่งใครไปไหม หากว่าเขาต้องการ”
“ไม่มีทาง เราไม่ต้องส่งใคร พี่ใหญ่ของเจ้าไม่มีทางยอมแม้เสด็จพ่อจะหลงใหลสนมลู่ฟางนางชี้นกเป็นไม้เสด็จพ่อก็คล้อยตาม แต่มีพี่ใหญ่เจ้าอยู่ทั้งคนไม่ต้องกลัวว่าจะต้องยอมคนของแคว้นหานที่กระหายในอำนาจนั่น”
“เสด็จแม่เช่นนั้นเราก็วางใจได้แล้วใช่ไหม”
“หลันเล่อเจ้าอย่าบอกนะว่าจะหนีออกไปเที่ยวนอกเขตวังหลวงอีกแล้ว”
“เสด็จแม่รู้ทันหลันเล่ออีกแล้ว”
ยกมือขึ้นลูบหลังเบาๆ
“หลันเล่อของแม่จะต้องระวังตัวให้มากมีคนต่างแคว้น เข้ามาในเขตวังหลวง ไม่ได้มาแค่คนสองคนแต่มาทั้งกองทัพเพื่ออารักขาฮ่องเต้ต้าหมิงคุน”
“ต้าหมิงคุน”ฮองเฮาพยักหน้า
“ฮ่องเต้หนุ่ม อายุอานามเพิ่งจะสามสิบหกแต่ก็มีชื่อก้องไปทั่วเจ็ดคาบสมุทร”
“ช่างเถอะท่านแม่ ข้าออกไปเดินเที่ยวในตลาดสักสองชั่วยาม เสด็จแม่ช่วยปิดอย่าให้พี่ใหญ่รู้ว่าข้าออกไป”
“เฮ้อ หลันเล่อ พี่ใหญ่เขาหวังดีกับเจ้าวันๆวิ่งตามแต่ซือฟุ แม่กำลังคิดว่าไม่อยากให้เจ้าใกล้ชิดซือฟุมากไปเพราะอย่างไรเขาก็คนที่อื่นไม่ใช่คนของเผ่าปาเอ่อถัวของเรา”
“อาจารย์ดีกับข้ายิ่งนักหากไม่ใช่อาจารย์ข้ายังนึกไม่ออกว่าจะเป็นใครได้อีก”
“อืม หลันเล่อสักวันจะต้องแต่งออกไปถึงเวลานั้นจะต้องมีคนที่รักจริงใจกับเจ้ายิ่งกว่าถงหมิ่น”
หกเดือนผ่านไป“ฮองเฮาทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังขึ้น ทั่วท้องพระโรงขุนนางชั้นผู้ใหญ่ก้าวขาออกมาด้านหน้า“บัดนี้แคว้นหานสงบร่มเย็นด้วยพระบารมีของฮองเฮา แม้ฝ่าบาทจะสวรรคตไปไม่นานทว่าบ้านเมืองกับ เจริงรุ่งเรืองการค้าขายกับต่างแคว้นล้วนดีตามไปด้วย ชาวบ้านล้วนอยู่เย็นเป็นสุข ยิ้มแย้มถ้วนหน้าจึงมีฎีกาส่งเข้ามาในวังหลวงมากมายชื่นชมสรรเสริญ”ยื่นพานใส่ฎีกามากมายตรงหน้าขันทีมารับไปส่งให้เอ่อหลันเล่อ“ข้าตั้งใจไหว้พระขอพรที่วัดบุปผาแดง ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับท่านอา.. ฝ่าบาทงานในราชสำนักยกให้จื่อจื่อคอยจัดการแทน”น้ำตารื้นขอบตา“ฮ่องเต้ แคว้นใต้เสด็จเยี่ยมเยือนที่แคว้นหาน ประสงค์จะทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลให้กับฝ่าบาทในวาระครบรอบหกเดือนเช่นกัน”“อืม ฝ่าบาทหยางซานชิงก็ไม่เคยลืมเรื่องนี้”“ข้าน้อยได้ป่าวประกาศให้ราษฎรทั่วแคว้นร่วมไว้อาลัยและงดให้มีการจัดเก็บภาษี สร้างโรงทานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอีกทาง”เอ่อหลันเล่อยิ้มบางๆ“ฮองเฮาข้าน้อยส่งถงหมิ่นกับหานจงคอยอารักขา”จื่อจื่อประสานมือ“ขอบใจท่านองครักษ์”สองข้างทางมีพุ่มดอกเหมยกุ้ยฮวาเบ่งบานงดงามบนป้ายหลุมศพของ ...ต้าหมิง
“ข้าไม่เคยรักเจ้าเมิ่งเม่ย”ต้าหมิงคุนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ“ไม่ไม่จริงฝ่าบาทรักข้าฝ่าบาทเลยลงทัณฑ์นาง” ต้าหมิงคุน ขยับตัวด้วยความยากลำบาก“หมอหลวง ตามหมอหลวง”หลันเล่อตะโกนลั่น“เจ้าอภัยให้ข้าแล้วใช่ไหม”“ไม่ฝ่าบาทอย่าอภัยให้นางนางเป็นคนที่ ทำร้ายเมิ่งเม่ยได้ยินไหมฝ่าบาทรักเมิ่งเม่ยฝ่าบาทจะต้องเกลียดนาง”“คนที่ข้ารักคือหลันเล่อได้ยินไหมเมิ่งเม่ย คนที่ข้ารักก่อนหน้านั้นคือลี่หลันเล่อและตอนนี้คนที่ข้ารักคือเอ่อหลันเล่อ”กระอักเลือดสดสดออกมา หลันเล่อกอดร่างเปื้อนเลือดสะอื้นไห้ เมิ่งเม่ยยิ้มหยัน“ฝ่าบาทไม่รักเจ้าได้ยินไหมเมิ่งเม่ยได้ยินไหมเจ้ามันนางแพศยา เจ้ารู้ดีว่าฝ่าบาทไม่เคยรักเจ้า”เมิ่งเม่ยตะโกนดังลั่นสติเลื่อนลอย คล้ายดังคนเมา ชี้มีดไปตรงหน้าเอ่อหลันเล่อ“เจ้ากลับมาทำไม กลับมาทำไมทั้งๆ ที่ข้ากับฝ่าบาทกำลังจะลงเอยด้วยดี ฝ่าบาทกำลังจะลืมเจ้า นางมารเจ้ากลับมาทำไม”“เมิ่งเม่ยส่งมีดให้ข้า”จื่อจื่อค่อยๆ ขยับกายเข้าใกล้“ไม่พี่ใหญ่ข้าฆ่าคนที่นางรักนาง จะต้องทวงแค้นข้าเหมือนที่ผ่านมา พี่ใหญ่ข้าเกลียดนางได้ยินไหมแต่เพราะสวรรค์ไม่เคยเข้าข้างข้า มีข้าจะต้องมีนางแล้วยังให้นางเหนือกว่าข้า
“ข้าไม่อาจทนเห็นความขัดแย้งและข้า..ข้าไม่อาจดูดายที่จะให้ท่านอาฝ่าบาทโดดเดี่ยวเพียงลำพัง”“หลันเล่อเจ้าปล่อยให้พวกเขาทำร้ายข้า คลุมตัวข้าหรือ เรามิใช่พี่น้องกันหรือไร”สายตาแสดงความผิดหวังหลันเล่อก้มหน้า“ฝ่าบาท หลันเล่อมีบางอย่างอยากจะขอ ปล่อยพี่ใหญ่ไปเสีย”ต้าหมิงคุน พยักหน้าไปมา“ข้าไม่คิดจะกล่าวโทษเขาอยู่แล้วเพียงแค่เขากลับใจ อย่างไรความสัมพันธ์สองแคว้นยังเป็นเหมือนเดิมเพราะท่านน้ายังอยู่ที่นั่นและเจ้ายังอยู่ที่นี่”“ข้ายินดีคุมตัวเขากลับปาเอ่อถัวด้วยตัวเอง”หยางซานชิงอาสา เหลือบตามองหลันเล่อด้วยความรู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่อาจเคียงข้างนางได้หลันเล่อทรุดกายลงข้างๆ หลันตี้“พี่ใหญ่ กลับไปที่ปาเอ่อถัวเสียเถิด”หลันตี้สะบัดมือจ้องหน้าหลันเล่อด้วยสายตาเกลียดชังอย่างที่หลันเล่อไม่เคยเห็นมาก่อน“เจ้ากับข้าขาดกันตั้งแต่วันนี้ ข้าทำทุกอย่างเพื่อปาเอ่อถัวให้รุ่งเรืองแต่เจ้ากับเห็นแก่ผู้อื่น”หลันเล่อสะอื้นอย่างแรง“ข้าผิดเอง หลันเล่อไปอาจเกลียดชังได้เท่าที่ลี่หลันเล่อต้องการหลันเล่อไม่อาจ...ตัดใจจากคนที่ทำร้ายทำลายตัวเองในครั้งก่อนได้ เพราะที่หลันเล่อเห็นคือฝ่าบาทที่ใจดีที่สุด”หยางซาน
ถงหมิ่นหอบเอาร่างบางไว้ในอ้อมแขน“อาจารย์ เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”ใบหน้าและแววตาใสซื่อถงหมิ่นยิ้มอ่อนโยน“เรากำลังจะกลับวังหลวง”เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนวังหลวงต้าหมิงคุนนั่งบนบัลลังก์มังกรด้วยท่าทีองอาจ แผลรอยมีดที่อกข้างซ้ายยังสร้างความเจ็บปวดให้ตลอดเวลา“รอคอยการมาของพวกเราช่างเป็นนกรู้เสียจริง”หลันตี้พูดขึ้นดังๆ ก้าวขาเข้ามาในท้องพระโรงโอ่อ่า“ความจริงความขัดแย้งนี้เป็นเพียงของท่านคนเดียวหลันตี้ไท่จือ ข้ายังคงยึดถือความสัมพนธ์อันดีระหว่างสองแคว้นในเมื่อท่านน้าก็ยังอยู่ที่ปาเอ่อถัวหลันตี้ขมวดคิ้ว“หลันเล่อเล่านางอยู่ที่ไหนกัน ท่านอย่าบอกว่าคุมตัวนางไว้เสียแล้ว”ต้าหมิงคุน ยิ้มเศร้าๆ“ท่าน ให้นางมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งหลันเล่อที่แสนจะพิสุทธิ์ ท่านจงใจให้นางต้องพบกับความขัดแย้งอย่างเลี่ยงไม่ได้”“นางเป็นคนปาเอ่อถัวจะเกิดหรือจะตายก็เป็นคนปาเอ่อถัว”“ท่านคิดดังคนเห็นแก่ตัว ท่านเองหาได้สนใจว่าหลันเล่อจะต้องพบเจอกับสิ่งใดดีเป็นข้าที่รู้ทันไม่ได้สั่งให้ลงทัณฑ์นางอย่างที่ท่านต้องการ แต่ถึงกระนั้นสุนัขป่าหากอยากจะกินลูกแกะก็ต้องหาทางกินจนได้ ไม่ว่าข้าจะทำเช่นไรท่านก็จะต้องส่งทัพ
“ไท่จือชอบกลิ่นหอมของดอกเหมยกุ้ยฮวา”ลี่หลันเล่อยิ้มหวานเมื่อได้ยินเมิ่งเม่ยพูดแบบนั้น สวรรค์ลิขิตไว้แล้วแม้แต่ดอกไม้ต้าหมิงคุนยังชมชอบเหมือนกันกับหลันเล่อ“ข้าเองก็ชอบดอกเหมยกุ้ยฮวา”เมิ่งเม่ยยิ้ม“เจ้าก็ นำน้ำอบกลิ่นดอกเหมยกุ้ยฮวาอบอาภรณ์ของเจ้าแล้วสวมมันไปพบไท่จือจะดีไหม”ลี่หลันเล่อยิ้มเอียงอาย“ข้าไม่กล้าเกรงว่าไท่จือจะไม่อยากพบข้า”“ในครั้งแรกเจ้าก็ไม่กล้าแล้วเช่นไรจะชนะใจไท่จือ ข้ารึอุตส่าห์บอกกับไท่จือว่าเย็นนี้มีคน .. อยากพบไท่จือน่านะ คุณหนูลี่เจ้าไปพบไท่จือข้าจะได้ไม่ผิดคำพูด”“ก็ได้ แต่ยามค่ำมืดออกไปพบบุรุษไม่น่าอายไปหน่อยหรือ”“คุณหนูลี่เจ้าน่ะชอบไท่จือมิใช่หรือ”ลี่หลันเล่อพยักหน้าหงึกหงัก“เจ้าชอบไท่จือก็ไม่เห็นว่าจะน่าอายตรงไหนคุณหนูลี่เปิดเผยจริงใจอยู่แล้วมิใช่หรือ”ค่ำคื่นมืดมิดอาภรณ์สีม่วงอ่อนพร้อมกับกลิ่นดอกเหมยกุ้ยฮวา เยื้องย่างเข้ามายังที่นัดหมายร่างตะคุ่มของต้าหมิงคุนเลิกคิ้วสูง“เจ้า ไปห่างๆ ข้า”ต้าหมิงคุนผลักร่างบางของลี่หลันเล่อลงไปกองกับพื้น“บังอาจนัก ข้าแพ้กลิ่นดอกเหมยกุ้ยฮวา”ร่างสูงเซถลาถอยหลังล้มลงไปบนพื้นทันที“ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยด้วย”จื่อจื่อวิ่งออก
“พระนางอย่าได้แค้นเคืองอีกเลยท่านไม่มีอะไรที่จะไปต่อกรกับฮองเฮา”สะบัดมือฟาดลงใบหน้าของนางกำนัลข้างกาย“ข้ามีทุกอย่างเหนือกว่านางเหนือกว่านางมาตลอด ยกจอกยาขึ้นกระดกรวดเดียวหมดถ้วยแม้รสชาติของยาในถ้วยจะขมเพียงใดแต่เมิ่งเม่ยกลับรู้สึกว่าแม้จะฝืนใจเพียงใดก็ต้องทำหยางซานชิงกระตุกบังเหียนม้าให้หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับกายป้ายหลุมศพ เห็นเด่นชัดแต่ไกล“ลี่หลันเล่อ พร่ำเพ้อคะนึงหา”ด้านหน้ามีช่อดอกเหมยกุ้ยฮวาเก่าใหม่วางเรียงรายบนเนินดินจนแทบจะมองไม่เห็นพื้นดินเบื้องล่างรอบเนินดินกลับพบดอกเหมยกุ้ยฮวางอกงามชูดอกสีแดงสดแข่งกันอวดโฉมงดงาม“ฝ่าบาทใกล้จะถึงวังหลวงแคว้นหานแล้วที่นี่เนินเหมยกุ้ยฮวามักจะไม่ให้ใครย่างกรายเข้ามา”“ทำไมกัน”“ว่ากันว่าบริเวณนี้และอีกกว่าสิบลี้ไม่ให้ผู้คนสัญจรเพราะเป็นที่ฝังศพของ..คุณหนูลี่ ต้าหมิงคุนฮ่องเต้อยากให้นางอยู่อย่างสงบห้ามใครย่างกรายอีกทั้งต้าหมิงคุนเมื่อมีโอกาสมักจะมาที่นี่เป็นประจำจึงต้องกันไว้เพื่อความปลอดภัย”หยางซานชิงเอื้อมมือหยิบดอกเหมยกุ้ยฮาขึ้นมาดอมดม“ต้องใช้ดอกเหมยกุ้ยฮวา มากมายเพียงใดในการนี้”“ว่ากันว่าดินแดนทางเหนือของแคว้นหานมีทุ่งดอกเหมยกุ้ยฮวา