“หลังจากนี้คุณก็เรียกผมว่าหลินเฟิงเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ”หลินเฟิงพยายามที่จะรักษาทัศนคติที่เป็นมิตรเอาไว้แต่ยิ่งเขาแสดงความเป็นมิตรมากเท่าไหร่ หลินฝานก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้นเขามักจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีเจตนาอื่นอีกเวลานี้ มือถือของหลินฝานก็ดังขึ้นมาดูหมายเลขที่โทรเข้า เขาก็รีบรับสายทันทีถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะมองไม่ชัดว่าใครเป็นคนโทรมา แต่ก็ได้ยินเสียงพูดด่าดังมาจากปลายสายโดยไม่ตั้งใจ จนทำให้เขาขมวดคิ้ว“ไอ้สกุลหลิน แกแม่งทำอะไรอยู่กันแน่วะ? ตกลงผลการทำงานของเดือนนี้มันจะยังสำเร็จอยู่ไหม?”หลินฝานที่อยู่ตรงข้าม พยักหน้าซ้ำ ๆ แล้วพูดว่า “เจ้านายวางใจ รับรองว่าทุกอย่างจะต้องสำเร็จ”“ถ้าหากเดือนนี้ผลการทำงานของแกไม่ได้มาตรฐาน ก็ลาออกไปซะ”หลังจากที่หลินฝานขอโทษและยอมรับความผิดพลาดอยู่พักหนึ่ง ก็วางสายไปเขาถอนหายใจยาว และดูเหมือนว่าหลินเฟิงจะจ้องมองที่ตัวเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก“แหะแหะ ให้คุณเห็นเรื่องตลกแล้ว”แต่ทว่า หลินเฟิงก็ไม่ได้จะหัวเราะเยาะใส่ “ตอนนี้เศรษฐกิจอยู่ในสภาวะถดถอย การขายบ้านก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”หลินฝานพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ครับ”“
ชายร่างกำยำคิดไม่ถึงว่า ผู้ชายคนนี้จะขี้ขลาดขนาดนี้เขาหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “แกแม่งพูดขอโทษแล้วเรื่องมันจะจบเหรอ?”หลินฝานพูดอย่างสับสนมึนงงว่า “แล้วคุณต้องการทำอย่างไรครับ?”“เอาเงินมาสองพันห้าร้อยบาท ฉันจะเอาไปซ่อมกันชน” ชายกำยำพูดด้วยสีหน้าดุร้าย“หา?” หลินฝานตกตะลึงจนตาค้างเขาขับชนเองแล้วยังจะให้ควักเงินสองพันห้าร้อยบาทให้อีกเหรอ?สิ่งนี้มันสมเหตุสมผลตรงไหน?“หาอะไร? รีบ ๆ ควักเงินมา” ชายกำยำคว้าคอเสื้อของเขาพร้อมกับคุกคามหลินฝานโต้เถียงด้วยเหตุผลว่า “พี่ชาย มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ผมก็ขอโทษคุณแล้ว ทำไมยังต้องให้ล้วงเงินออกมาสองพันห้าร้อยบาทด้วยล่ะ?”ในหนึ่งวัน ตัวเขาทำงานหาเงินยังไม่ถึงสองพันห้าร้อยบาทเลยเงินนี้ เขาไม่อยากจะจ่ายเลยจริง ๆ“งั้นรถของฉันก็โดนขูดเปล่า ๆ เหรอ?”ชายร่างกำยำถลึงตาใส่ “แกแม่งอย่ามาเวิ่นเว้อน่ะ รีบส่งมาเร็ว ๆ“ขณะที่พูดก็ตบหน้าพร้อมกับสั่งสอนเขาเล็กน้อยในเวลานั้นเอง หลินเฟิงรีบก้าวไปข้างหน้าและคว้าข้อมือของเขาไว้ชายร่างกำยำตะลึงงัน และจ้องไปยังหลินเฟิง “แกแม่งเป็นใครวะ?”หลินเฟิงพูดเสียงเย็นชาว่า “ข่มเหงรังแกกันจนเกินไปหรือเปล่า? ขอโทษเขาซ
แต่เขายอมรับในชะตาชีวิตตั้งนานแล้วเขาทำร้ายคน ใครจะช่วยจัดการให้เขา? ในครอบครัวของเขามีเพียงแค่แม่ที่แก่เฒ่ากับน้องสาวที่ยังเรียนหนังสืออยู่ถ้าเขาเกิดเรื่องขึ้น ทั้งครอบครัวก็จะต้องพังทลายมองดูแผ่นหลังของหลินฝานที่จากไปไกลหลินเฟิงถอนหายใจอย่างจนปัญญา......วิลล่าตระกูลเซี่ยงเมืองเจียงโจว ตอนนี้แสงไฟสว่างจ้าวันนี้ก็คืองานวันเกิดของเซี่ยงจื่อหลาน คุณชายคุณหนูที่มีหน้ามีตาของเมืองเจียงโจวต่างถูกเชิญให้เข้าร่วมงานหลี่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเชิญ แต่หลี่ฮุ่ยหรานยุ่งอยู่กับงานจึงไม่ได้เข้าร่วมแต่ส่งให้จางซินมาร่วมงาน สำหรับงานสังคมแบบนี้ จางซินอยากมาร่วมแต่ก็ไม่มีโอกาสด้วยซ้ำ “แม่เจ้า…”เมื่อเดินเข้าวิลล่า จางซินก็กวาดตามองไปรอบ ๆ ถึงแม้ตระกูลเซี่ยงจะอาศัยอยู่ที่วิลล่า แต่การตกแต่งไม่รู้ว่าหรูหรากว่าคฤหาสน์ตระกูลหลี่มากแค่ไหนรูปวาดบนผนังแต่ละรูปมูลค่ามหาศาล“คุณเซี่ยงมาแล้ว…”“คุณเซี่ยงสวยอย่างกับนางฟ้านางสวรรค์”ในกลุ่มคนมีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นมาจางซินเห็นแบบนี้ก็รีบเบียดเข้าไปกลางกลุ่มคนเห็นแค่เซี่ยงจื่อหลานเดินลงมาจากชั้นสอง ชุดเดรสคริสตัล โอ
“ฉัน…ลูกพี่ลูกน้องของฉันก็คือประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป!” จางซินหน้าเขียวคล้ำ รู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบากเซี่ยงจื่อหลานได้ยินแบบนี้ก็ยกรองเท้าส้นสูงเตะไปที่ท้องน้อยของเธอจางซินล้มตึงลงไปบนพื้นทั่วร่างรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก และก็ปวดแสบปวดร้อนที่ท้องน้อยเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ตัวเองทำอะไรให้เซี่ยงจื่อหลานโมโหถึงขนาดนี้“เทียนซิง ตี้ส้า…”เซี่ยงจื่อหลานตะโกนเสียงดังบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนอยู่ข้างประตูคุกเข่าตรงหน้าเธอทันที“ข้าน้อยอยู่นี่”“ไปจับตัวประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ปคนนั้นมาให้ฉัน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย” เซี่ยงจื่อหลานตะโกนอย่างบ้าบิ่นทั้งสองคนสบตากัน ถึงแม้ไม่รู้ว่าคุณหนูโมโหเพราะอะไร แต่เจ้านายเป็นคนสั่งพวกเขาก็ต้องปฏิบัติทันที“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”ทั้งสองคนตอบรับแล้วถอยออกไป“คุณเซี่ยง เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ? ทำไมถึงโมโหขนาดนี้?” คนอื่น ๆ พากันถามด้วยใบหน้าที่เป็นกังวลเซี่ยงจื่อหลานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และโบกมือ “ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรค่ะ ทุกท่านร่วมงานให้สนุกนะคะ วันนี้ฉันร่างกายไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ขอตัวไปพักก่อนนะคะ”ทุกคนสีหน้างุนงง บุคคลสำคัญในวันนี้ก็คือเธอนะแต่เธอกลับไม่อ
หลี่ฮุ่ยหรานถูกตบจนหน้าตางุนงง“พูดจาซี้ซั้ว สร้อยเส้นนี้คุณพ่อของฉันเป็นคนมอบให้ฉันชัด ๆ ฉันดูแล้วเธอเป็นคนขโมยไปแน่นอน” เซี่ยงจื่อหลานขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดสร้อยเส้นนี้ตัวเองเป็นคนมอบให้สวีเชาสวีเชาจะมอบให้เธอได้อย่างไร?หลี่ฮุ่ยหรานพูดด้วยสีหน้าไร้ความผิด “นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ฉันกับคุณเซี่ยงไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน จะขโมยสร้อยไปได้อย่างไรคะ?”เทียนซิงกับตี้ส้าที่อยู่ข้าง ๆ ก็มองตากัน รู้สึกว่าที่หลี่ฮุ่ยหรานพูดก็มีเหตุผลก่อนหน้านี้พวกเธอทั้งสองคนไม่เคยเจอหน้ากัน หรือว่าหลี่ฮุ่ยหรานคนนี้สามารถหยิบของผ่านมิติได้เหรอ?เซี่ยงจื่อหลานมุมปากกระตุก ถ้าหากสร้อยเส้นนี้ไม่ใช่หลี่ฮุ่ยหรานขโมยไป มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ สวีเชาเอาสร้อยเส้นนี้มอบให้หลี่ฮุ่ยหรานแต่เธอไม่ยอมเชื่อว่าสวีเชาจะทรยศเธอพูดด้วยความมั่นใจว่าหลี่ฮุ่ยหรานเป็นคนขโมยไป“ใครจะไปรู้ว่าเธอจะขโมยไปตอนไหน”“ยังกล้าแก้ตัวต่อหน้าฉันอีก?”เซี่ยงจื่อหลานตบใบหน้าของเธออีกครั้ง“พูดมา สร้อยคอเส้นนี้เธอเป็นคนขโมยไปใช่ไหม?”หลี่ฮุ่ยหรานน้ำตาไหลออกมา ความรู้สึกที่ถูกคนใส่ร้ายทำให้เธอทรมานอย่างมากเธออ
โรงพยาบาลเมืองเจียงโจว จางเต๋อหลินถูกผู้อำนวยการหวังเชิญมาทำการผ่าตัดนอกสถานที่เขากำลังจะกลับไปก็เห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่ถูกส่งเข้ามาในห้องฉุกเฉินเขารีบขอบันทึกการรักษาของหลี่ฮุ่ยหรานมาร่างกายฟกช้ำไปทั่ว กระดูกหักสามจุด“โห…พระเจ้า!”จางเจ๋อหลินตกตะลึงจนตาค้าง “ใครใจกล้าขนาดนี้ ถึงได้กล้าทำร้ายคุณหลี่?”เขาไม่รอช้า โทรหาหลินเฟิงในทันทีได้ยินแบบนี้ หลินเฟิงก็ตามมาที่โรงพยาบาลเจียงโจวโดยเร็วที่สุดเพิ่งมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เขาก็เห็นจางซินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลินเฟิงรีบเดินเข้าไปถามด้วยเสียงเย็นชา “ใครทำร้ายพี่สาวของเธอ?”จางซินคิดไม่ถึงว่าคนที่มาถึงคือหลินเฟิง เธอขมวดคิ้วพูด “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”เธอยังมีความแค้นเรื่องไท้ส่วยป่าสีเลือดเมื่อครั้งที่แล้วอยู่ถ้าหากหลินเฟิงเอาไท้ส่วยป่าสีเลือดให้เธอเร็วหน่อย ไม่แน่เธอก็อาจจะได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกับคุณเซี่ยงไปแล้วจะมีเรื่องบ้าบอมากมายขนาดนี้เหรอ?“ฉันถามเธออีกครั้ง” หลินเฟิงขี้เกียจจะเวิ่นเว้อกับเธอ จากนั้นก็จับคอเสื้อของเธอเอาไว้ แล้วดึงเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีหลี่ฮุ่ยหรานบาดเจ็บ และเธอก็บังเอิญอยู่ที่นี่ ถ้าพูด
“ฮัลโหล? คุณชายหลิน?”“ช่วยผมตรวจสอบหน่อยว่าคุณหนูตระกูลเซี่ยงตอนนี้อยู่ที่ไหน? ยิ่งเร็วยิ่งดี”จ้าวเทียนหวาฟังจากน้ำเสียงที่เย็นชาของหลินเฟิงก็สามารถฟังออกได้คุณหนูตระกูลเซี่ยงคนนี้เกรงว่าจะจบเห่แล้วเขาไม่กล้าเอื่อยเฉื่อยแม้แต่น้อย จากนั้นก็ตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของเซี่ยงจื่อหลานด้วยเวลาที่เร็วที่สุด“คุณหลิน ตอนนี้เซี่ยงจื่อหลานอยู่ที่ไนท์บาร์”หลังจากที่หลินเฟิงได้รับตำแหน่งที่แน่นอนของเซี่ยงจื่อหลาน เขาก็เดินทางไปที่ไนท์บาร์ในทันทีขณะเดียวกันสวีเชาก็โอบไหล่ของเซี่ยงจื่อหลานแล้วพูดปลอบ “หลานหลาน สร้อยคอเส้นนั้นถูกหลี่ฮุ่ยหรานขโมยไปจริง ๆ ครับ”“ก่อนหน้านี้ผมมีการร่วมธุรกิจกับหลี่ซื่อกรุ๊ป และก็ไม่ได้ระแวงอะไรเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ได้”เซี่ยงจื่อหลานถามด้วยความสงสัย “จริงเหรอ?”“แน่นอนครับ ถ้าหากคุณไม่เชื่อผม ผมสาบานต่อสวรรค์ ถ้าผมโกหกคุณ ผม…”สวีเชานิ้วมือชี้ไปบนฟ้า ยังไม่ทันพูดออกจากปาก เซี่ยงจื่อหลานก็กดมือเขาเอาไว้“อย่าพูดจาซี้ซั้ว ฉันเชื่อคุณแล้วก็ได้”สวีเชายิ้ม “ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณรักผมมากที่สุด”“คุณวางใจได้ ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่ไปมาหาสู่กับหล
หลินเฟิงมองดูผู้ชายสองคนผู้หญิงหนึ่งคนที่อยู่ตรงหน้าความทรงจำในหัวก็ปรากฏขึ้นมาทันทีผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่เห็นที่คฤหาสน์อ่าวเทียนสุ่ยก่อนหน้านี้ไม่นานไม่ใช่เหรอและความสัมพันธ์กับสวีเชาก็ไม่ธรรมดา“ดูท่าเธอก็คือเซี่ยงจื่อหลานสินะ?”หลินเฟิงจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ตอนนี้ไปคุกเข่าขอโทษหลี่ฮุ่ยหรานซะ ฉันจะพิจารณาไว้ชีวิตหมา ๆ ของเธอ”“คุกเข่าขอโทษให้เธอ? หลี่ฮุ่ยหรานเป็นใครกัน? เธอคู่ควรด้วยเหรอ?” เซี่ยงจื่อหลานเหยียดหยามถึงที่สุด“แม่ง หมาบ้าจากที่ไหนกัน กล้ามาเห่าอย่างบ้าคลั่งอยู่ที่นี่?” หวงเทียนเช่อมองหลินเฟิงด้วยความดูถูกเซี่ยงจื่อหลานกวาดตามองหวงเทียนเช่อกับเฟิงเหยน “ในเมื่อนายอยากแก้แค้นให้หลี่ฮุ่ยหราน งั้นวันนี้ก็อย่าได้คิดจะมีชีวิตออกไปเลย”“ศิษย์พี่ทั้งสองคน คนคนนี้มอบให้พวกพี่จัดการนะคะ ถือว่าช่วยศิษย์น้องเล็กน้อย”หวงเทียนเช่อหัวเราะเสียงดัง “ศิษย์น้องหญิงพูดอะไรเนี่ย วันนี้เป็นวันเกิดของศิษย์น้อง เดิมทีพวกเราก็ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไร”“งั้นก็หักแขนหักขาของไอ้หมอนี่ เอาให้ศิษย์น้องหญิงเลี้ยงเป็นสุนัขแล้วกัน!”เซี่ยงจื่อหลานปิดปากหัวเราะ “ศิษย์พี่คิดได้รอบ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ