เซี่ยงตงเซิงพูดขึ้นทันที “ถ้าหากท่านผู้นำหวงออกไปลงมือด้วยตัวเองจะต้องจับไอ้เวรนี่ได้แน่นอนครับ”ในตอนนี้หวงเฮ่อลุกขึ้นช้า ๆ “ตอนนี้ผมต้องการข้อมูลทั้งหมดของไอ้หมอนี่ รวมทั้งภูมิหลังของหมอนี่”เซี่ยงตงเซิงสั่งให้ไป๋จินเต๋อไปเอามาทันทีไม่นานนักก็นำข้อมูลทั้งหมดออกมาบนเอกสารแสดงข้อมูลว่า หลินเฟิงไม่มีพ่อไม่มีแม่ เติบโตมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อสามปีก่อนแต่งงานเข้าตระกูลหลี่...หลายปีมานี้มีชีวิตเรียบง่ายอย่างมากหวงเฮ่อพลิกดูผ่าน ๆ ก็พูดขึ้น “ไอ้หมอนี่มีความสามารถขนาดนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน”เซี่ยงตงเซิงก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ผมก็คิดแบบนั้นครับ ดูท่ามีคนตั้งใจลบบางอย่างออกไป”“หึ ไม่ว่ามันมีที่มาจากไหน กล้าฆ่าลูกชายของฉัน ไม่ว่ามันเป็นใคร ฉันก็จะสับมันให้เละ” หวงเฮ่อคำรามด้วยความโมโหดวงตาคู่หนึ่งยังกวาดมองไปทางเซี่ยงตงเซิงกับไป๋จินเต๋อเซี่ยงตงเซิงสัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บทันทีในตอนนี้หวงเฮ่อพูดขึ้น “พวกตระกูลหลี่คงไม่ต้องให้ผมลงมือจัดการหรอกนะ?”“ท่านผู้นำหวงวางใจได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนังแพศยาตระกูลหลี่คนนั้น พวกเราไม่มีทางปล่อยตระกูลหลี่ไปอยู่แล้ว”เซี
หลินเฟิงปล่อยหมัดออกไปเต็มแรงหวงเฮ่อเห็นแบบนั้นก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสี ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้หมอนี่จะมีพลังชี่แท้ที่มหาศาลขนาดนี้เขารวบรวมพลังทั้งหมดต้านทานเอาไว้“ปึง” เสียงอุดอู้ดังขึ้นมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นหลินเฟิงไม่ได้ขยับเขยื้อน หวงเฮ่อกลับถอยหลังไปหลายก้าวติดต่อกัน“ปึงปึงปึง…”แต่ละก้าวที่ถอยหลัง บนพื้นก็มีรอยแตกปรากฏขึ้น“นาย…”แผ่นหลังของหวงเฮ่อมีเหงื่อเย็นไหลออกมาทันที ทั้งลำแขนเหมือนกับถูกไฟช็อต มีความรู้สึกชาไปหมดคิดไม่ถึงเลยว่าวัยรุ่นคนนี้จะมีพลังขนาดนี้ตัวเองใช้แรงทั้งหมดก็ยังไม่สามารถทำอะไรไอ้หมอนี่ได้สักนิดมิน่าละตั้งแต่ต้นจนจบไอ้หมอนี่ไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ ทั้งสิ้นในตอนที่หลินเฟิงเตรียมจะลงมือฆ่าจู่ ๆ ฉินเซี่ยวเทียนก็ตามมาถึง และตะโกนเสียงดัง “ไว้ชีวิตคนด้วย”หลินเฟิงหยุดชะงัก เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเซี่ยวเทียน ถึงได้ดึงพลังกลับ“ผู้ว่าฉิน คุณมาได้อย่างไร?”ฉินเซี่ยวเทียนเดินเข้ามาอย่างไวและพูดตามความจริง “เรื่องของคุณกับตระกูลเซี่ยงผมได้รับรู้แล้ว ดังนั้นจึงมาเจรจากับคุณหน่อย”“คิดไม่ถึงว่าเมื่อมาถึงก็เห็นคุณกับท่านผู้นำหวงสู้กันอย่างดุเดือด”“ที
“ความรู้สึกของคุณผมเข้าใจได้ แต่พวกเราไม่ควรจะถูกคนหลอกใช้นะครับ”ฉินเซี่ยวเทียนพูดขึ้น “ผมกับสหายน้อยหลินรู้จักกันได้ไม่นาน แต่การวางตัวของเขาผมรู้ดี”“เขาไม่เหมือนกับคนที่สามารถเหยียดหยามศพได้”ปกติหลินเฟิงเพียงแค่ลงมือก็ตายแล้ว จากที่หวงเฮ่อพูด ศีรษะของหวงเทียนเช่อถูกคนเหยียบจนเละหลินเฟิงไม่มีทางที่จะเหยียบศีรษะของหวงเทียนเช่อหลังจากที่ฆ่าเขาตายด้วยซ้ำคำพูดของฉินเซี่ยวเทียนทำให้หวงเฮ่อใจเย็นลงเล็กน้อย แต่เขาก็ยังไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับหลินเฟิง“ผมไปถามหลินเฟิงเอง เรื่องนี้มอบให้ผมเป็นคนจัดการ ผมจะให้คำตอบที่คุณพึงพอใจแน่นอนครับ”พูดจบเขาก็เดินไปตรงหน้าหลินเฟิง และถามด้วยสีหน้าจริงจัง “สหายน้อยหลิน คุณบอกผมมาตรง ๆ คุณได้ฆ่าหวงเทียนเช่อไหม?”หลินเฟิงถึงแม้จะรู้สึกดูถูกหวงเฮ่อคนโง่คนนี้ แต่เขาก็ไม่มีทางรับคำใส่ร้ายจากคนอื่นมีความเป็นไปได้สูงว่าเขาถูกคนอื่นใส่ร้ายจริง ๆเขาส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น “ผมก็แค่ถีบเขาไปครั้งเดียว และพลังฝ่าเท้านั้นไม่มีทางตายแน่นอน”“หลังจากที่ผมกลับไป คนของตระกูลเซี่ยงฆ่าเขาหรือไม่นั้นผมก็ไม่รู้ได้”ฉินเซี่ยวเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่
“ผมจะไปมีแผนอะไรได้ ถ้าหากเซี่ยงจื่อหลานไม่ขอโทษหลี่ฮุ่ยหราน งั้นผมก็จะทำลายตระกูลเซี่ยง” หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาฉินเซี่ยวเทียนก็แสดงท่าทีทันที “ถ้าหากสหายน้อยหลินต้องการความช่วยเหลือก็บอกมาได้เต็มที่ ผมสนับสนุนการตัดสินใจของสหายน้อยหลินเสมอ”ถึงแม้ในอดีตตัวเองจะผูกมิตรกับตระกูลต่าง ๆแต่ถ้าให้เขาเลือกระหว่างหลินเฟิงกับตระกูลเซี่ยง เขาก็จะเลือกหลินเฟิงโดยที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย“ขอบคุณมากครับ”เช้าวันต่อมา เซี่ยงตงเซิงไปหาหวงเฮ่อทันทีเพิ่งเข้าประตู เขาก็ถามขึ้นด้วยความรีบร้อน “ท่านผู้นำหวง ศีรษะของหลินเฟิงคนนั้นล่ะครับ?”หวงเฮ่อสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “หลินเฟิงคนนั้นความสามารถแข็งแกร่งมาก ผมไม่สามารถฆ่าเขาได้”“อะไรนะครับ? ไม่ได้จัดการทิ้งเหรอครับ?” เซี่ยงตงเซิงตกตะลึงอย่างมากแม้แต่ไป๋จินเต๋อที่อยู่ด้านหลังเขาก็ชะงักหวงเฮ่อก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟิงเหรอ?“ความสามารถของหลินเฟิงคนนั้นแข็งแกร่งกว่าคุณอีกเหรอครับ?” เซี่ยงตงเซิงซักถามหวงเฮ่อเหลือบตามองเขา ถึงแม้หลินเฟิงแข็งแกร่งกว่าตัวเองเป็นเรื่องจริง แต่เขาไม่อยากยอมรับด้วยซ้ำ“เป็นไปได้อย่างไร?”เซี่ยงตงเซิง
ช่วงระยะเวลาที่หลี่ฮุ่ยหรานบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย ตระกูลหลี่ก็ถูกแก้แค้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนบริษัทย่อยแต่ละแห่งถูกตระกูลเซี่ยงโจมตี ราคาหุ้นตกลงจนต่ำสุดในประวัติศาสตร์แทบจะใกล้ถึงจุดที่จะล้มละลายและวันนี้เช้าหลี่ฮุ่ยหรานก็เพิ่งฟื้นขึ้นมาจางกุ้ยหลานก็หน้าตาโศกเศร้า “แม่เจ้า ตระกูลหลี่ของพวกเราเจอกับอุปสรรคอะไรตอนนี้นะ?”“ทำไมสวรรค์ถึงไม่ยุติธรรมกับตระกูลหลี่ถึงขนาดนี้?”หลี่เหวินเชาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สองมือกำแน่น “แม่งเอ๊ย อย่างมากพวกเราก็แค่สู้ตายกับตระกูลเซี่ยง”“สู้กับผีน่ะสิ แกคนเดียวจะไปส่งความตายเหรอ?” คุณปู่ตระกูลหลี่ตวาดใส่จางซินไม่ได้พูดมาโดยตลอด เธอก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะมาจนถึงขั้นนี้“ฮุ่ยหราน หนูกับคุณเซี่ยงมีความบาดหมางอะไรกันแน่? ทำไมคุณเซี่ยงคนนั้นถึงได้มุ่งเป้าไปที่หนูแบบนี้?” คุณปู่ตระกูลหลี่ถามขึ้นทันทีตอนนี้ต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน ถึงจะแก้ปัญหาได้แต่หลี่ฮุ่ยหรานก็สีหน้างุนงงเช่นกัน “หนูก็ไม่รู้ ก่อนหน้านี้เคยได้ยินแต่ชื่อของเซี่ยงจื่อหลาน ไม่เคยเจอหน้าเธอด้วยซ้ำ”“จะมีเรื่องบาดหมางกับเธอได้อย่างไร?”คราวนี้ คนตระกูลหลี่ทุกคนหมดคำพ
“หลินเฟิง ใครใช้ให้แกมา?” จางกุ้ยหลานเห็นหลินเฟิงสีหน้าก็บึ้งตึงทันทีตอนนี้ตระกูลหลี่กลายเป็นแบบนี้เธอคิดว่าหลินเฟิงเดินทางมาในตอนนี้ก็เพราะมาหัวเราะเยาะ“เลิกโวยวายได้แล้ว ฉันเป็นคนให้หลินเฟิงมาเอง” ในตอนนี้คุณปู่ตระกูลหลี่ลุกขึ้นยืนแล้วพูดออกมา“คุณปู่ ตอนนี้มันเวลาไหนกันแล้ว? คุณเรียกไอ้ตัวซวยคนนี้มาทำไม?” จางกุ้ยหลานได้ยินว่าเป็นความคิดของคุณปู่เธอจึงกลอกตาในทันที“ฉันเรียกให้หลินเฟิงมาเพื่อต้องการให้ทุกคนรวมตัวกันหารือเกี่ยวกับปัญหานี้” คุณปู่ตระกูลหลี่พูดขึ้นจางกุ้ยหลานกลับพ่นลมออกจากจมูกเยาะหยันหลินเฟิง “เขาเนี่ยนะ? จะจัดการปัญหาอะไรได้?”“เธอพูดให้น้อย ๆ หน่อยเถอะ”คุณปู่ตระกูลหลี่ถลึงตาใส่จางกุ้ยหลานเขารีบเดินไปด้านข้างหลินเฟิง “หลินเฟิง ตอนนี้ตระกูลหลี่อยู่ในภาวะวิกฤติ เมื่อก่อนนายเป็นลูกเขยของตระกูลหลี่ ครั้งนี้อยากจะให้นายช่วยเหลือ ใช้เส้นสาย”“ดูว่าสามารถช่วยเหลือตระกูลหลี่แก้ปัญหาวิกฤติได้หรือไม่!”หลินเฟิงพูดอย่างนิ่งเรียบ “คุณปู่วางใจได้ครับ มีผมอยู่ตระกูลหลี่ไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นแน่นอนครับ”“ใช้เวลาไม่นาน คุณหนูของตระกูลเซี่ยงก็จะมาขอโทษถึงที่บ้านครั
สวีเชาหลบสายตา ในหัวครุ่นคิดด้วยความรวดเร็วครู่หนึ่งก็พูดโต้กลับ “ผมไม่มีความเกี่ยวข้องกับเซี่ยงจื่อหลานใด ๆ ทั้งสิ้น สร้อยทับทิมเส้นนี้ผมก็เป็นคนซื้อมา”“เพียงแต่ว่าเซี่ยงจื่อหลานก็อยากซื้อเช่นกัน ผมไม่ได้ขายให้เธอ เพราะเหตุนี้เธอจึงแค้นใจผม”คนตระกูลหลี่มองตากัน ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างยืนกรานในความคิดของตนเอง ใครพูดจริงพูดเท็จพวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใครในตอนนี้หลินเฟิงมองไปทางจางซิน และพูดกับเธอ “เธอพูดสิ สร้อยเส้นนี้เป็นของเซี่ยงจื่อหลานหรือว่าสวีเชา?”จางซินคิดไม่ถึงว่าเขาจะโยนหัวหอกมาทางเธอพูดได้ว่าคำพูดแค่ประโยคเดียวของเธอก็สามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของคนตระกูลหลี่ได้ในใจของเธอก็มีแผนอยู่แล้ว ในเมื่อวันนั้นเซี่ยงจื่อหลานยังสวมสร้อยคอแซฟไฟร์ที่ออกแบบโดยเฉพาะฝีมือการประดิษฐ์เหมือนกับสร้อยคอทับทิมเส้นนั้นทุกประการแต่พูดตามความจริง ก็จะต้องผิดใจกับสวีเชา ส่วนหลินเฟิงก็ไม่มีทางซาบซึ้งใจใด ๆ ต่อเธอเธอนึกถึงความแค้นก่อนหน้านี้ของทั้งสองคน เธอไม่สู้ช่วยเหลือสวีเชาเพื่อได้รับความรู้สึกดี ๆ ยังจะดีกว่า“นี่…สร้อยคอเส้นนี้เป็นของคุณชายสวีจริง ๆ คุณเซี่ยงก็แค่อิจฉาริษยาก
“จริงเหรอ?” คุณปู่ตระกูลหลี่ดวงตาเป็นประกาย และถามด้วยความเหลือเชื่อ“เรื่องจริงแน่นอนครับ”หลินเฟิงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “คุณปู่ ผมไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ”พูดจบหลินเฟิงก็เดินออกไปข้างนอกหลินเฟิงรับสายของเซี่ยงตงเซิงปลายสายของโทรศัพท์มีเสียงคำรามของเซี่ยงตงเซิงดังขึ้นมา “ไอ้สกุลหลิน ลูกสาวของฉันตอนนี้ใกล้จะไม่ไหวแล้ว นายรีบรักษาให้ลูกฉันซะ”เซี่ยงตงเซิงร้อนใจจนยุ่งเหยิงไปหมดอาการลูกสาวของเขาในตอนนี้ ร้ายแรงมากยิ่งขึ้นแล้วแขนขาก็ยกขึ้นไม่ไหว ทำได้แค่นั่งอยู่บนรถเข็นหลินเฟิงกลับพูดอย่างเรียบฉย “ไม่ต้องรีบร้อน ลูกสาวของคุณยังมีเวลาอีกสามวัน ตอนนี้ยังต้องทรมานไปอีกระยะหนึ่ง”“นาย..”เซี่ยงเติงเซิงกำลังจะพูดขึ้นแต่ก็ถูกหลินเฟิงขัดจังหวะ“เซี่ยงตงเซิง ตอนนี้ผมต้องเตือนคุณหน่อยว่า คุณกำลังขอร้องผม คุณไม่มีสิทธิมาสั่งผม”“ได้ ไอ้สกุลหลิน นายต้องการอะไรกันแน่ ถึงจะช่วยรักษาลูกสาวของฉัน?”“การแบนตระกูลหลี่ฉันจะปลดออกเดี๋ยวนี้ นายคิดว่าเป็นอย่างไร?”เซี่ยงตงเซิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน“ผมเคยบอกกับคุณแล้ว ว่าถ้าต้องการให้ลูกสาวของคุณมีชีวิตรอด ก็ให้เธอขอโทษหลี่ฮุ่ยหราน” หลินเฟิงพูด
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ