“จางเต๋อหลิน ท่านผู้นำสำนักไป๋เกาเมืองเจียงโจวมาถึงแล้ว!”“คุณชายถังอวิ๋นเฟิงของตระกูลถังเมืองเจียงโจวมาถึงแล้ว!”เจ้าของจากบริษัทน้อยใหญ่ที่มาร่วมงานศพคุณปู่หลี่ และคู่ค้าคนอื่น ๆ ของตระกูลหลี่ก็มึนงงไปหมดแล้วเนื่องจากเสียงตะโกนนอกประตูคนใหญ่คนโตทั้งเจียงเป่ยมาถึงที่งานกันเกือบหมดแล้ว“ทำไมฉันไม่เคยรู้เกี่ยวกับตระกูลหลี่เล็ก ๆ นี้ จะรู้จักบุคคลใหญ่โตเยอะแยะขนาดนี้?”“ดูท่าต่อไปจะต้องเกาะแข้งขาของตระกูลหลี่ให้แน่นแล้ว!”“ข่าวล่าช้าไปหน่อยไหม? เพื่อนของฉันทำงานที่หลี่ซื่อกรุ๊ป”“ได้ยินมาว่าเมื่อคืน หลี่ซื่อกรุ๊ปจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฉุกเฉิน คุณหลี่ฮุ่ยหรานท่านประธานใหญ่ เปลี่ยนเป็นคุณกู้เฉินจากตระกูลกู้เมืองเจียงหนานแล้ว”“ฮะ? งั้นอย่างงี้จะต้องเรียกเป็นหลี่ซื่อกรุ๊ปอีกไหม?”“ใครจะไปรู้ล่ะ?”“บุคคลคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าทั้งหมดต้องมาเพราะคุณชายกู้เมืองเจียงหนาน”“ต่อให้หลี่ฮุ่ยหรายจากตระกูลหลี่จะสวยแค่ไหน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้คนใหญ่คนคนโตมาถึงที่นี้ได้ เพื่อใครกัน พริบตาเดียวก็สามารถมองออกได้แล้ว”“ใช่แล้ว ใช่แล้ว พวกคุณไม่ได้ลืมไปใช่ไหม? คุณหลี่ฮุ่ยหราน
ท่าทางของกู้เฉินทำให้คนใหญ่คนโตจากเมืองเจียงโจวตกอยู่ในความเงียบขรึม“ไอ้เวร!”ซ่งเฉียนคุนที่เป็นผู้ที่ใช้กำลัง นิสัยตรงไปตรงมาเขารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินเฟิงและฮุ่ยหรานอยู่แล้วถึงแม้จะหย่าร้างกัน แต่หลินเฟิงนั้นยังคงมีความผูกพันกับอดีตภรรยาอยู่ หมอนี่ที่มาจากตระกูลกู้เข้ามาแทรกแบบนี้ อยากตายเหรอ?!“พวกเราจะเอาเรื่องนี้ไปยืนยันกับสหายน้อยหลินเฟิง คุณชายกู้ ดูแลตัวเองให้ดีเถอะ”พูดจบ ซ่งเฉียนคุนก็สะบัดมือเดินจากไปด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร“นายกรัฐมนตรีฉิน นี่……”กู้เฉินก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่พ่อของตัวเองเชิญมาเหรอ?“เจ้าหนุ่มตระกูลกู้ นายคงไม่คิดว่าพ่อของนายเชิญมา พวกเราถึงมาแสดงความเสียใจในงานศพของคุณปู่ตระกูลหลี่หรอกนะ?”จางเต๋อหลินดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ และหัวเราะเหยียดหยาม: “พวกนายตระกูลกู้เนี่ยนะ ยังไม่คู่ควรที่จะให้พวกเราเดินทางมาหรอก” “คุณชายกู้ ผมแนะนําให้คุณล้มเลิกความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณซะ”หลิวกั๋วฮุยไม่อยากจะมองกู้เฉิน เขาหันหลังกลับไปทันที:“คุณควรจะคิดเอาไว้ว่า จะชี้แจงกับสหายน้อยหลินเฟิงด้านนั้นอย่างไร! ตระกูลกู้ของคุณ ดันยั่ว
หลังจากวางสายในที่สุดหลินเฟิงก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว และได้ขับรถมาจอดที่ด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลหลี่“ขอโทษครับ คุณหลิน คุณชายกู้ออกคำสั่งเป็นพิเศษ ไม่อนุญาตให้คุณขับรถเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่”คนเฝ้าประตูขวางรถของหลินเฟิงไว้ และมีท่าทางที่แข็งกร้าว“อุ๊ยอุ๊ยอุ๊ย ทำไมกันล่ะ? จะดูถูกกันเกินไปรึเปล่า? ”หลี่ซืออวี่กดหน้าต่างและกําลังจะด่าคนเฝ้าประตู แต่ถูกหลินเฟิงห้ามเอาไว้“ช่างเถอะ ยังไงฉันก็ไม่อยากอยู่นาน”จากนั้นก็หาที่จอดรถข้างทาง หลินเฟิงและหลี่ซืออวี่สวมชุดสีดําเข้ามาในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ด้วยกัน ที่นี่ แวบแรกเขาเห็นกู้เฉินกำลังพูดคุยกับเซี่ยงตงเซิงด้วยความดีใจอย่างมากศัตรูเจอหน้ากันก็มีสายตาดุดันเป็นพิเศษในตอนที่เซี่ยงตงเซิงเห็นหลินเฟิงก็สายตาดุดันขึ้นมาทันที“เหอะ”เซี่ยงตงเซิงรู้ว่าหลินเฟิงนั้นไม่ใช่หาเรื่องกันได้ง่าย ๆ จึงไม่ได้หาเรื่องใส่ตัวแต่เผยรอยยิ้มที่ไม่หวังดีให้หลินเฟิงด้วยความอึมครึม และแสยะยิ้มพูด: “ทะนุถนอมช่วงเวลาแห่งความสุขสุดท้ายของคุณเอาไว้เถอะ คุณหลิน”“จัดงานศพให้ลูกชายของคุณเมื่อไหร่? ส่งคนไปแจ้งผมที่อ่าวเทียนสุ่ย มันจะให้เกียรติแน่นอน”
“อดีตภรรยาของคุณยิ่งไร้เหตุผล ให้พวกเราออกไป”ได้ยินหลี่ซืออวี่แก้ต่าง หลี่ฮุ่ยหรานอ้าปาก กําลังจะอธิบาย แต่สุดท้ายก็ปิดตาลง เก็บไว้ในใจ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า:“หากคุณกล้าไม่เคารพคุณปู่อีกครั้ง ก็ออกไปให้หมด”“ไม่ต้องพูดแล้ว”หลินเฟิงจ้องมองหลี่ซืออวี่ ทำให้เธอหุบปากได้สักทีจากนั้น หลินเฟิงเดินไปหาหลี่ฮุ่ยหราน ขนานกับเธอ และคุกเข่าหน้าโลงศพของคุณปู่หลี่ไห่ซาน โค้งตัวกราบสามครั้งแรง ๆ“คุณปู่ คุณเป็นผู้มีพระคุณของผมในตอนนั้น หลินเฟิงไม่เคยลืม”“หลินเฟิงอกตัญญูไม่สามารถปกป้องตระกูลหลี่ได้ ทำให้ท่านต้องตาย เป็นบาปใหญ่อย่างมาก ผมรู้สึกเสียใจในก้นบึ้งหัวใจอยู่ตลอดเวลา หวังว่าคุณปู่จะให้อภัยเฟิงเอ่อร์”หลังจากคําพูดเหล่านี้จบลง จางกุ้ยหลานที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มเยาะอย่างไม่พอใจว่า:“อุ๊ย รู้ด้วยเหรอว่าตัวเองทําบาปร้ายแรงอะ?”“ใช่ แกทำให้คุณปู่ต้องตาย!”จางซินยังแสร้งทําเป็นร้องไห้อยู่ด้านข้าง ชี้ไปที่หลินเฟิงต่อหน้าทุกคนและด่าว่า:“นายมันเป็นฆาตกรฆ่าคน!”“แม่! ซินซิน!”หลี่ฮุ่ยหรานสูญเสียการควบคุมอารมณ์กะทันหัน เธอดวงตาแดงก่ำพูดขึ้นด้วยความโมโห: “ขอร้องพวกคุณเถอะ พูดน้อยลงหน่อย
แต่แผนการตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงการมีตัวตนของกู้เฉิน ตลอดจนถึงจุดอ่อนที่อยู่ในมือของเขา ทําให้หลี่ฮุ่ยหรานต้องเลือกทางที่ขัดต่อความประสงค์ของเธอ เพื่อความปลอดภัยของหลินเฟิง เธอจำเป็นต้องเสียสละตัวเอง“ไม่ต้องดูแล้ว ตอนนี้พี่หลินเฟิงเป็นของฉันเรียบร้อยแล้ว”หลี่ซืออวี่พูดเบา ๆ ข้างหลี่ฮุ่ยหราน เธอเป็นผู้หญิงเหมือนกับหลี่ฮุ่ยหราน ย่อมรู้ความหมายในสายตาของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงรีบแสดงความเป็นเจ้าของออกมา“อะไรนะ?”หลี่ฮุ่ยหรานมองหลี่ซืออวี่ด้วยความนิ่งอึ้ง เธอน่าจะเป็นแค่นักศึกษาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ?แต่งตัวเปลือยโป๋แบบนี้ หน้าตาก็ธรรมดา พึ่งพาการแต่งหน้าทั้งหมด และดูจากคำพูดเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าไม่รู้จักคิดหลินเฟิงจะตกหลุมรักผู้หญิงอย่างเธอได้อย่างไร?ความประหลาดใจในดวงตาของหลี่ฮุ่ยหราน ทำให้ปมด้อยในก้นบึ้งของหัวใจของหลี่ซืออวี่แอบกําเริบขึ้นมาหลี่ฮุ่ยหรานเกิดมาสวยงามธรรมชาติ ท่าทางสง่างาม แม้ว่าช่วงนี้ซูบผอมลงไปไม่น้อย แต่อูฐที่ตายก็ยังใหญ่กว่าม้าหลี่ซืออวี่ก็แค่ผู้หญิงที่รู้จักแต่แต่งตัวแต่กลับไม่มีสมบัติผู้ดีภายใต้ใบหน้าที่สวยงามของหลี่ฮุ่ยหราน มองยังไงก็มองไม่พอด้วยซ้ำแ
หลินเฟิงได้รับสายของเหยาปินที่โทรเข้ามาเสียงปลายสายของเหยาปินที่กำลังหอบแฮ่กๆ แม้แต่แรงจะพูดก็ลดลงไม่น้อย“คุณหลิน เราทำสำเร็จแล้ว โอวหยางชิ่งและโอวหยางป๋อพ่อของเธอ เชื่อคำพูดของผม เชื่อว่าไม่นานคุณจะได้รับข่าวการขายไผ่กลืนทองแน่นอน”“อืม ลำบากคุณแล้ว ว่าแต่ทำไมเสียงหายใจคุณถึงอ่อนแรงแบบนี้ล่ะ?”หลินเฟิงจับโทรศัทพ์ขึ้นมา และถามอย่างแปลกใจ“หึหึ มันเป็นแผนทรมานร่างกายเพื่อให้ข้าศึกไว้ใจนิดหน่อยน่ะครับ ซี้ด...ฝีมือของผู้หญิงคนนั้นชั่วร้ายมาก ซี่โครงของผมหักไปหลายซี่ เกือบตายคามือเธอ” เหยาปิดถึงแม้จะหัวเราะอยู่ แต่หลินเฟิงก็รับรู้ได้ถึงการฝืนหัวเราะของเหยาปิน“คุณมีเวลาก็ไปที่สำนักไป๋เกาแล้วแจ้งชื่อผมได้เลย จะมีคนให้การรักษาคุณอย่างดี”“ครับ”เหยาปินรับปากในทันที แต่หลังจากนั้นเธอก็พูดด้วยความกังวลเล็กน้อยว่า “คุณหลิน ผมอยากเตือนอะไรคุณหน่อย ไอ้เฒ่าปีศาจโอวหยางป๋อนั่นคือปรมาจารย์อันดับต้น ๆ ของลำดับโลก ตอนที่คุณสู้กับเขา คุณต้องระวังเขาให้มาก” “อืม ผมรู้แล้ว”หลินเฟิงวางสายไป แล้วขับรถพาหลี่ซืออวี่กลับไปยังอ่าวเทียนสุ่ยรอหลินเฟิงกลับมายังอ่าวเทียนสุ่ยเขาเห็นชายวัยกลางคนในช
หลี่ซืออวี่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหงื่อเย็นไหลซึมออกมาที่หน้าผากของเธอโรงแรมไป๋ถิงนี่บังเอิญเป็นสถานที่ที่เธอคิดวางแผน เพื่อให้หลินเฟิงเกิดความเข้าใจผิดว่ามีความสัมพันธ์กับเธอ และภายในโรงแรมไป๋ถิงมีกล้องวงจรปิดทั้งทางเดินและในลิฟต์แอบถ่าย?หรือว่าพฤติกรรมของตัวเองในวันนั้น จะมีคนแอบถ่ายเอาไว้ได้?หรือว่าที่คุณหนูตระกูลไป๋คนนี้ต้องการที่จะคุยกับหลินเฟิง เป็นเพราะเรื่องนี้กันนะ ?หากถูกเปิดโปงเข้างั้นก็ไม่ต้องพูดว่าหลินเฟิงจะโกรธมาก สิ่งของที่เขาได้มอบให้เธอก็จะถูกเอากลับคืนทั้งหมด และชีวิตรุ่งโรจน์ที่เธอฝันไว้ก็คงดับสลายไปเช่นกันเมื่อคิดมาถึงตอนนี้ หลี่ซืออวี่รีบฝืนยิ้มแล้วมองไปที่หลินเฟิงพร้อมกับพูดว่า “พี่หลินเฟิงคะ วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ขอกลับห้องไปพักก่อนนะคะ”“อืม เธอไปเถอะ”เมื่อได้เห็นท่าทีที่ผิดปกติของหลี่ซืออวี่ หลินเฟิงก็เกิดความสงสัยเป็นอย่างมากจริงนั่นแหละในฐานะเทพปรมาจารย์ขั้นเทพ ความสามารถควบคุมตนเองแข็งแกร่งมากหากดื่มเหล้าจนหมดสติจริงๆ เขาจะทำเรื่องมิดีมิร้ายกับหลี่ซืออวี่ได้ยังไง?และในวันต่อมาเขาก็ไม่ได้พบความผิดปกติใดๆในร่างกายของตัวเองจริงๆ แล้วหลินเฟ
แต่หลินเฟิงนิ่งเฉยเหมือนภูเขาในเมื่อสงสัยว่าเธออาจจงใจวางแผนใส่ร้ายตัวเอง หลินเฟิงจะเปิดโอกาสให้เธอได้อย่างไร?“ซืออวี่ ช่วงนี้ผมยุ่งมาก เรื่องชายหญิงยังไม่ขอพิจารณาในตอนนี้”พูดพลาง หลินเฟิงก็นำเสื้อผ้าตัวหนึ่งของเขาคลุมบนร่างของซืออวี่ไว้ จากนั้นผลักเธอออกจากประตู และล็อกประตู“คุณ!”หลี่ซืออวี่ยืนเท้าเปล่าอยู่หน้าประตูของหลินเฟิง เธอกระทืบเท้าด้วยความโกรธแค้นภาพนี้บังเอิญถูกหลินเสวี่ยฮุ่ยที่ตื่นมาตอนกลางคืนเห็นเข้าพอดีเธอเห็นท่าทางของหลี่ซืออวี่แบบนี้ ก็มีความคิดบางอย่างเช้าตรู่ของวันต่อมาหลินเฟิงที่พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ได้ขับรถพาหลี่ซืออวี่ไปที่ตระกูลไป๋เมืองหนานโจวกับเขาหลี่ซืออวี่ดูต่อต้านเล็กน้อย และพูดอ้อน: “พี่หลินเฟิง ไม่อย่างงั้นพี่ไปคนเดียวเถอะ ฉันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอยู่……”“ฉันต้องการยืนยันเรื่องหนึ่ง วางใจเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”ความเย็นชาของหลินเฟิงทําให้หลี่ซืออวี่ตื่นตระหนกมากขึ้นระหว่างทาง สีหน้าของหลี่ซืออวี่เปลี่ยนไปแย่ลงเรื่อย ๆเมืองหนานโจวไม่ไกลจากเมืองเจียงโจว ใช้เวลาขับรถไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมงเมื่อมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลไป๋ หลี่ซืออวี
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ความโกรธบนใบหน้าของหลงหยวนก็ค่อยๆ หายไปเขาหัวเราะกะทันหัน เสียงหัวเราะนั้นชั่วร้ายมาก“หลินเฟิง นายเก่งจริงๆ นายกล้าทำให้ฉันอับอายแบบนี้”ในตอนนี้บนโต๊ะของหลงหยวนมีโทรศัพท์มือถือจอกว้างตั้งไว้อยู่และบนโทรศัพท์ กำลังเปิดข่าวประจำวันไว้อยู่ในวิดีโอที่ข่าวเผยแพร่ออกมาหลงซิ่วที่คลุ้มคลั่งถูกเซนเซอร์บังเอาไว้ กับถานหงราชินีนักร้องเมื่อฟังเสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของถานหงในวิดีโอ หลงเยียนก็หันกลับมามองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา“ทันหงกับหลงซิ่วล่ะ ให้พวกเขามาพบฉัน!”"นี่......"ผู้คุ้มกันตระกูลหลงลังเลเล็กน้อย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า:“เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เราจึงส่งคนไปตามหาพวกเขา สุดท้ายก็พบพวกเขาในบาร์ใต้ดินที่คุณหลงซิ่วมักไปเยี่ยมเยียน”“รอให้พวกเราพบคุณหลงซิ่วและถานหง พวกเขาก็ตายไปแล้ว...”“......”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มดุร้ายบนใบหน้าของหลงหยวนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น“หลินเฟิงนะหลินเฟิง นายประกาศสงครามกับฉันเหรอ? ฆ่าหลงอวี่และหลงเซี่ยว และทำให้ตระกูลหลงของฉันต้องอับอาย ฉันจะเก็บหนี้เลือดทั้งหมดนี้ไว้เป็นหลักฐาน!”"ไม่ช้าก็เร
ถานหงกำลังหัวเราะเยาะตัวเองเธอวางแผนมาเป็นเวลานาน โดยต้องการใช้ตระกูลหลง เพื่อแก้แค้นหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียและคนอื่นๆติดไม่ถึงว่านี่จะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายแม้แต่หลงซิ่วซึ่งได้รับการยกย่องว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ก็ไม่สามารถต้านทานได้ในขณะนี้เขาถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจเหมือนกับตะพาบน้ำแต่ทว่าถานหงกลับไม่รู้ว่าหลงซิ่วยังไงก็เป็นถึงรองหัวหน้าฝ่ายธุรการแนวหลังของสำนักหลงผาน ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเพียงแค่ด้อยกว่าหลินเฟิงมากไปหน่อยก็เท่านั้นเองยิ่งกว่านั้นเขายังมีความเย่อหยิ่งมากเกินไป เขาไม่ได้พาลูกน้องของเขามาด้วย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ดังนั้นจึงถูกหลินเฟิงเอาชนะได้อย่างง่ายดายหลินเฟิงเตรียมยาพิษไว้สำหรับหลงซิ่วโดยเฉพาะเมื่อหลงซิ่วต้องการใช้พลังชี่แท้ พิษก็จะออกฤทธิ์พิษนี้จะไม่ฆ่าหลงซิ่วทันที แต่จะทำให้เขาเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าในตอนแรกเขาสามารถต้านทานด้วยความมุ่งมั่นและพลังชี่แท้ของเขาได้ แต่เมื่อพิษค่อยๆ รุกรานร่างกาย เขาก็สูญเสียสติทั้งหมดไปหลังจากระบายความโมโห ก็เสียชีวิตทันทีเขากล้าใช้กลอุบายสกปรกกับหลินเฟิง ดังนั้นหลินเฟิงก็ไม่มีทา
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน