“คุกเข่าลงแล้วฆ่าตัวตายซะหลินเฟิง แล้วฉันจะเหลือร่างของแกไว้”หลงยวนกุมอำนาจครั้งนี้ไว้ก่อนจะพูดออกมาอย่างโมโหบอดี้การ์ดที่เขาเลือกมาไม่มีคนธรรมดาเลยสักคน ต่อให้เป็นหลินเฟิงแต่ถ้าต้องเจอกับคนมากมายขนาดนี้ก็คงจะสู้ไม่ไหวยิ่งไม่ต้องพูดถึงถ้าจะต้องเจอกับหลงยวนที่บรรลุถึงขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านและไหนจะมียอดฝีมืออีกนับสิบคนด้วยพูดได้เลยว่าครั้งนี้หลินเฟิงไม่มีทางหนีไปได้ง่าย ๆ“หึ คุณชายหลงยวนผมก็นึกว่าคุณจะเชื่อใจในฝีมือของตัวเอง”หลินเฟิงหัวเราะออกมาก่อนจะพูด “แต่ไม่คิดเลยนะว่าคุณก็ไม่เท่าไหร่ แค่จะรับมือกับผมคนเดียวก็ต้องเรียกคนมามากขนาดนี้”“ต่อให้คุณฆ่าผมให้ตายได้ แต่ไม่คิดเหรอว่ามันไม่มีศักดิ์ศรีอะไรเลย?”“สิงโตจับกระต่ายป่าก็ยังต้องใช้แรงตั้งมากมาย”หลงยวนไม่ได้หลงกลคำพูดของหลินเฟิงเขาหัวเราะเสียงเย็นชา “ฉันคุ้นกับฝีมือของคนตระกูลหลินดี ถ้าไม่มียอดฝีมือมากพอก็คงจะจัดการแกไม่ได้”“เพื่อที่จะจัดการแกให้สิ้นซาก ฉันไม่สนใจศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น”“หึหึ...”ได้ยินหลงยวนพูดแบบนี้หลินเฟิงก็หัวเราะออกมา“ดูท่าคนพวกนี้คือคนที่คุณชายหลงยวนพามาจากจิงเฉิงสินะ? ผมยอมรับว่าค
หยางเทียนฉีหัวเราะเสียงดังก่อนจะพาคนเดินเข้ามาในห้องโถงของตระกูลกู้ในฐานะของประธานหอการค้าของเมืองเจียงโจว จางเทียนฉีถือว่าเป็นคนที่มีเงินเยอะที่สุดในกลุ่มนั้น เพื่อที่จะได้สนิทกับหลินเฟิงเขาเองก็ลงแรงไปไม่น้อยไม่ใช่แค่เพียงแบ่งคนในตระกูลแต่ก็ยังต้องซื้อพวกยอดฝีมือจากตลาดมืดมาอีกหลายสิบคนตอนนี้มีคนมากกว่าหนึ่งพันคน“คุณหลิน สำนักเทียนเตาของเรามากันหมดแล้วเพื่อที่จะร่วมสู้ไปกับคุณ!”ซ่งเฉียนคุนก้าวยาว ๆ เข้ามาด้านในห้องโถงใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาและด้านหลังก็ตามมาด้านบรรดาลูกศิษย์ในสำนักเทียนเตา“หึหึ คุณหลิน สำนักร้อยพฤกษาก็มาแล้ว คนอาจจะน้อยหน่อย อย่าโกรธกันนะครับ”จางเต๋อหลินพูดขึ้นอย่างมั่นคงก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับการประคองของหลานสาวจางเจียหนิงด้านหลังของเขาก็มีคนจากตระกูลเล็กใหญ่อื่น ๆ ที่ติดค้างบุญคุณของจางเต๋อหลินเดินตามเข้ามา นับดูก็หลายร้อยคนเช่นกันเพราะว่าคนที่เข้ามามีมากขึ้นเรื่อย ๆ คนที่อยู่ห้องโถงของตระกูลกู้เองก็เริ่มที่จะเบียดกันแล้วขนาดคฤหาสน์ของตระกูลกู้ยังถูกคนจำนวนมากล้อมเอาไว้คนใหญ่คนโตในเมืองเจียงโจวต่างก็พากันมารวมตัวอยู่ที่นี่ ขนาดคนตระกูลป๋
ถึงว่าล่ะทำไมหลินเฟิงถึงได้แสดงออกอย่างเย็นชาและบ้าคลั่งขนาดนั้นที่แท้ก็เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี!แน่นอนว่ากู้เฉินและถังอวิ๋นเฟิงไม่มีทางเดาได้ว่าหลินเฟิงจะรู้แผนการของพวกเขาแล้ววางแผนมาแบบนี้เรื่องนี้ต้องไปถามป๋ายจินเต๋อดูแล้วล่ะตอนนี้กู้เฉินและถังอวิ๋นเฟิงรู้สึกหมดหวังเป็นอย่างมากต่อให้เป็นตระกูลหลงแต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับหลินเฟิงที่มีอำนาจของคนทั้งเมืองคอยหนุนหลังไว้ได้และพวกเขาทั้งสองคนในสถานการณ์แบบนี้ก็ไปกระตุกหนวดเสืออย่างหลินเฟิงเข้าแล้ว ก็คงไม่ได้มีจุดจบที่ดีเช่นกันตระกูลหลงก็คงช่วยพวกเขาไม่ได้เพราะแม้แต่หลงยวนเองก็ยังแทบจะปกป้องตัวเองไม่ได้อยู่แล้วถ้าหลงยวนกล้าที่จะลงมือกับหลินเฟิงคนพวกนี้ไม่มีทางนิ่งดูดายแน่ ๆหรือถ้าหากจะลองดูสักตั้งทั้งหลงยวนและคนตระกูลหลงคงต้องได้ฝากชื่อไว้ที่นี่“พี่...พี่ ผม...ผมกลัว! ผมกลัวอ่ะ! ผมไม่อยากตาย! ผมไม่อยากตายที่นี่นะ!”หลงเชาตกใจจนร้องไห้ แม้แต่กางเกงเองก็เปียกไปหมดเพราะฉี่ราดออกมา“ถูกล้อมไว้หมดแล้ว…”หลงยวนมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นว่าด้านนอกห้องโถงก็มีคนล้อมรอบอยู่เต็มไปหมด เขารู้ดีว่าเขาสูญเสียอำนาจไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์จะไ
"ทำไม? หรือว่าคุณชายหลินไม่อยากยอมรามือ?”แววตาของหลงยวนมีความโมโหผุดขึ้นมาไอ่บ้าหลินเฟิงนี่ไม่รู้อะไรซะแล้ว“คุณชายหลิน อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณนะ ถ้าเกิดว่าผมเป็นอะไรไปที่เจียงโจว…”หลงยวนมองไปรอบ ๆ ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็นชา “พวกผู้อำนาจที่นี่อย่าคิดจะว่าจะรอดแม้แต่คนเดียว!”ได้ยินคำขู่ของหลงยวน ผู้คนของเมืองเจียงเจียงโจวต่างก็พากันแสดงสีหน้ากังวลออกมา“ผมไม่ได้จะต่อกรกับคุณ”หลินเฟิงค่อย ๆ เดินตรงไปข้างหน้าก่อนจะมองตาหลงยวน “ก็แค่อยากจะอธิบายเรื่องนึงให้คุณเข้าใจ”“เรื่องอะไร?”หลงยวนยังพอรับรู้จากความรู้สึกได้ว่าเลเซอร์สีแดงพวกนั้นยังคงถูกส่องมาที่ตัวของเขา“เรื่องของถังหว่าน”หลินเฟิงพูดคำนี้จบ หลงยวนก็แทบจะระงับความโมโหในใจของตัวเองไม่อยู่“ทำไม? คุณชายหลินจะทำให้ผมอับอายต่อหน้าคนมากมายแบบนี้เหรอ?”หลงยวนหัวเราะเสียงเย็นชา“ผมไม่ชอบทำอะไรแบบนั้น แล้วก็ไม่สนใจจะทำด้วย”หลินเฟิงส่ายหน้า “ผมสามารถใช้ตัวผมเป็นประกันได้เลยว่าผมกับถังหว่านไม่มีอะไรเกินเลยทั้งนั้น”“คุณจะพูดแค่นี้เหรอ? คุณคิดว่าผมจะเชื่อไหม? ยังจะเอาชีวิตมาเป็นประกัน ชีวิตคุณมันมีค่าสักเท่าไหร่กันเชียว?”
"คุณชายหลิน สองคนนี้เหรอ?”เสิ่นหานเดินเข้ามาก่อนจะชะโงกหน้าเข้ามาแสดงสีหน้าสงสัย“เก็บเอาไว้ก็เป็นปัญหา ตระกูลกู้ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องมีแล้วก็ได้ ส่วนถังอวิ๋นเฟิง…”หลินเฟิงมองถังอวิ๋นเฟิงที่คุกเข่าโขกหัวขอร้องตัวเองเหมือนกับมองสุนัขตัวหนึ่งเขายิ้มเบา ๆ “พวกที่เลี้ยงไม่เชื่องแบบนี้ถ่ายคลิปความผิดของเขาไว้แล้วส่งไปให้ตระกูลถัง ส่วนตัวคนก็จัดการได้เลย”“ครับ”เสิ่นหานทำความเคารพ“คะ...คุณชายหลินไว้ชีวิตผมด้วย ไว้ชีวิตผมด้วย! ผมถูกคนอื่นหลอก ผมถูกกู้เฉินหลอกนะครับ ไว้ชีวิตผมด้วย…”ทหารสองคนหิ้วปีกถังอวิ๋นเฟิงที่ยังไม่หยุดโวยวายออกไปส่วนกู้เฉินนั้นเขาเหมือนกับเสียสติไปแล้ว ตอนนี้เขาลงไปนั่งหัวเราะเสียงดังอยู่ที่พื้น“ไม่คิดเลยนะหลินเฟิง ฉันคิดไม่ถึงเลย! ว่าแกจะมีคนคอยหนุนหลังมากขนาดนี้ ฉันผิดเอง ฉันคำนวณผิดเอง…”กู้เฉินทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ“หลินเฟิง ฉันทำคนเดียวฉันรับคนเดียว”กู้เฉินพยายามฝืนตัวออกจากบรรดาทหารที่เข้ามารุมล้อม “ถือว่าฉันขอแก ทั้งหมดนี่เป็นแผนของฉันคนเดียว ไม่เกี่ยวกับพ่อของฉัน…”“ไม่เกี่ยวกับลูกน้องของฉันแกปล่อยตระกูลกู้ไปได้ไหม?!”“แกปล่อยตระกูลกู้ไปได้ไ
"เร็วเข้าซินซิน เหลืออีกแค่สิบนาทีพวกเรายังไปสนามบินทันอยู่!”จางกุ้ยหลานเร่ง“มาแล้วค่ะ ๆ!”จางซินหอบเอาเครื่องสำอางค์ราคาแพงของหลี่ฮุ่ยหรานออกมาจากห้องของเธอ ก่อนจะจับทั้งหมดยัดลงไปในกระเป๋าถือ“เราอยู่ที่เจียงโจวไม่ได้แล้ว อย่าว่าแต่เจียงโจวเลย เราอยู่ที่ประเทศนี้ไม่ได้แล้ว เก็บของแล้วหนีไปหลบที่ประเทศอื่นก่อน!”จางกุ้ยหลานมองจางซินที่พยายามยัดเครื่องสำอางค์ลงไปในกระเป๋าก็อดจะโมโหไม่ได้ “โถ่เอ๊ยซินซิน ถ้ามัดยัดลงไปไม่ได้ก็ไม่ต้องยัดแล้ว ของพวกนี้มันจะราคาเท่าไหร่กันเชียว? รีบไปเร็วเข้า!”“คุณอาซื้อตั๋วเครื่องบินหรือยังคะ?”“ซื้อแล้ว ฉันมีเงินในบัญชีอยู่หลายแสน แล้วก็ของพวกนี้ด้วย พอให้พวกเราอยู่เมืองนอกไปสักระยะแล้วล่ะ!จางกุ้ยหลานเร่งรีบในตอนที่พวกเธอหนีออกมาพร้อมแขกคนอื่นๆก็ไม่ได้เลือกว่าจะอยู่ที่ตระกูลกู้นานนักเพราะดูจากท่าทีของหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว จางกุ้ยหลานก็รู้ว่าวันนี้การแต่งงานไม่มีทางสำเร็จแน่นอนในเมื่อหลี่ฮุ่ยหรานไม่ได้แต่งงานกับตระกูลกู้งั้นตระกูลหลี่ก็คงไม่ต้อนรับพวกเธอ และไหนจะยังไปมีเรื่องกับตระกูลกู้และตรงกูลหลงอีก โดยเฉพาะตระกูลหลงยิ่งแล้วใหญ่ถ้าตระกูล
"พวกตระกูลหลี่จากทางเจียงเป่ยทำเรื่องเอาไว้ก็ไปรับผิดชอบเอง อย่าคิดจะหนีไปไหนเชียว!”หลัวอวี้เฟิ่งพูดเสียงดัง “เพื่อไม่ให้ตระกูลกู้และตระกูลหลงเข้าใจผิด วันนี้ฉันต้องจับพวกแกแม่ลูกเอาไปมอบให้ทั้งสองตระกูลนั้นจัดการ!”“แล้วจากวันนี้ไป สองตระกูลเราขาดกัน!”“อะไรนะ?!”จางกุ้ยหลานรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เกือบจะเป็นลมล้มลงไปที่พื้นจางซินที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รีบเปลี่ยนสีหน้าก่อนจะรีบเข้าไปออเซาะ “คุณน้าหลัวคะ เราเป็นญาติกันอย่าตัดขาดกันขนาดนี้เลยค่ะ”“หึ”หลัวอวี้เฟิ่งแค่นยิ้ม ก่อนจะมองไปทางจางซินแล้วพูดประชดประชัน “จางซินเธอไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้อยากจะมานับญาติกับฉัน”“เธอเป็นฐาติกับจางกุ้ยหลาน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน”“ฉันไม่มีญาติที่ขโมยเครื่องประดับของคนอื่นในงานแต่งงานหรอกนะ!”เรื่องดี ๆไม่มีใครรู้ แต่เรื่องแย่ ๆ คนต่างก็รู้กันทั่วได้ยินหลัวอวี้เฟิ่งพูดแบบนี้ จางซินก็หน้าแข็งค้างไม่คิดเลยว่าเรื่องที่เธอขโมยเครื่องประดับของหลี่ฮุ่ยหรานจะมีคนรู้เรื่องเร็วขนาดนี้ แล้วต่อจากนี้เธอจะทำมีหน้าไปเจอคนอื่นได้ยังไงล่ะ?“น้องสะใภ้ ถ้าซินซินเป็นคนนอกแต่ฉันไม่ใช่ ใช่ไหมล่ะ?”จา
พวกนั้นแย่งเอากระเป๋าถือของจางซินและจางกุ้ยหลานไว้ก่อนจะกดทั้งสองคนไว้ที่พื้นและมัดมือมัดเท้าเอาไว้“เอาตัวไป!”จางกุ้ยหลานและจางซินถูกลูกน้องของหลัวอวี้เฟิ่งแบกตัวออกไปส่วนกระเป๋าที่ใส่ของมีค่าถูกหลัวอวี้เฟิ่งเห็นเข้าก็ถูกยกเอาไปวางไว้ที่รถของตนเองและฮุบทุกอย่างเอาไว้เองคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือจางกุ้ยหลานและจางซินที่ยุ่งกันมาทั้งวันแต่ทุกอย่างกลับเป็นการทำเพื่อหลัวอวี้เฟิ่งทั้งนั้นผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงหลี่ฮุ่ยหรานที่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจถูกเหยาปินพามาส่งที่คฤหาสน์ตระกูลหลินที่ด้านหน้าคฤหาสน์เธอเห็นรถที่เธอซื้อให้กับแม่ของเธอก็เลยคิดว่าจางกุ้ยหลานกลับมาแล้วแต่ในตอนที่เปิดประตูเข้าไปด้านใน ก็พบว่าบ้านของตัวเองเหมือนถูกโจรบุกเข้ามาปล้นไม่มีผิดอย่าว่าแต่จางกุ้ยหลานและจางซินเลย ขนาดคนรับใช้ที่เธอจ้างไว้ก็ไม่เห็นสักคนในตอนนี้เธอรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างถึงเธอจะไม่รู้ถึงจิตใจของจางกุ้ยหลาน แต่ไม่ว่ายังไงอีกฝ่ายก็เป็นแม่ของเธอ วันนี้ที่เธอกลับมาที่บ้านก็เพราะกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย“นี่อะไรน่ะ?”เหยาปินหยิบเอาตั๋วเครื่องบินสองใบจากพื้นขึ้นมา หลี่ฮุ่ยหรานรับเอามาถ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ