“จีอวิ๋นเจี๋ย แก...แกตายแน่...แก...”ไม่รอให้จีอวิ๋นเทียนเอะอะโวยวายด้วยความบ้าคลั่งอีกครั้ง จีอวิ๋นเจี๋ยก็ต่อยไปที่ใบหน้าของเขาทำให้คนทั้งคนกระแทกไปบนพื้นอย่างแรงลูกน้องของจีอวิ๋นเทียนที่อยู่รอบๆ เห็นแบบนี้ ก็รีบพุ่งเข้ามาจะช่วยเหลือจีอวิ๋นเทียน แต่หลินเฟิงเพียงแค่ก้าวออกไปหนึ่งก้าว พวกบอดี้การ์ดเหล่านี้ก็วิตกเกรงกลัวจนไม่กล้าลงมือ ไม่กล้าเข้ามา“ถ้าหากอยากตายพวกนายก็เข้ามาสิ”หลินเฟิงกอดอกด้วยสีหน้านิ่งฌแยนี่จึงทำให้พวกบอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆ พากันตกอยู่ในความลังเล“คุณ...คุณหลิน!”ในตอนนี้เอง รถกอล์ฟคันหนึ่งขับเข้ามา“ผู้นำตระกูลของพวกเราผีเข้าสิงแล้วครับ ขอร้องคุณ ช่วยผู้นำตระกูลของเราด้วยครับ!”“ผีเข้าสิง?”หลินเฟิงขมวดคิ้ว“ก่อนหน้านี้ผมบอกไว้แล้วไม่ใช่เหรอ อย่าแตะต้องร่างกายของผู้นำตระกูลจีตามอำเภอใจ? หรือว่าพวกคุณไม่ได้ทำตาม?”หลินเฟิงถามด้วยใบหน้าเย็นชา“พวกเรา...”บริวารที่มาขอความช่วยเหลือจากหลินเฟิงพูดขึ้นด้วยความกระอักกระอ่วน:“พวกเราทำตามแล้ว แต่ว่าเผลอชั่วขณะ ทำให้คุณชายน้อยจีหาวปีนขึ้นไปบนตัวของผู้นำตระกูลจี ดังนั้นถึงได้...”“ไม่ต้องพูดแล้ว”หลินเฟิง
“ถือว่านายโชคดีไป!”“อ่อก...”จีอวิ๋นเทียนอ้วกเป็นเลือดออกมา และขดตัวอยู่บนพื้น จากนั้นก็หมดสติไปทันทีไม่นานนัก หลินเฟิงนั่งรถกอล์ฟของบริวารคนนี้ กลับไปที่หน้าห้องนอนจีว่านจ่าง“เยี่ยมมาก”หลินเฟิงมองดูวิลล่าที่อยู่ตรงหน้า ที่ถูกจีว่านจ่างที่คลุ้มคลั่งทำลายไปกว่าครึ่ง บริวารที่จีว่านหลัวพามาที่อยู่บริเวรรอบๆ คนที่ตายก็ตายไป คนที่บาดเจ็บก็บาดเจ็บไปต่อให้ครั้งนี้ในตอนสุดท้ายจีว่านจ่างแคล้วคลาดปลอดภัยแต่ตระกูลจีก็ได้รับความเสียหายไม่น้อย“คุณหลินคุณมาแล้วเหรอครับ? เร็วครับ...คุณหลิน ช่วยคิดหาวิธี ช่วยพี่ชายของผมหน่อย!”จีว่านหลัวคุกเข่าขดตัวอยู่บนพื้น เขาเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของตัวเอง และมองไปทางหลินเฟิงด้วยความรู้สึกผิดถ้าหากรู้ว่าจีหาวนั่นทำเรื่องเลวร้าย เขาก็ควรจะตบเด็กเวรนั่นให้ตายไปล่วงหน้าซะเลย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดมากมายขนาดนี้“ผู้นำตระกูลจี...”หลินเฟิงมองจีว่านจ่างที่ผิวหนังแดงก่ำ และกำลังต่อสู้อยู่กับบริวารแดนแปรภาพของตระกูลจีสองสามคนที่อยู่ไกลออกไป สีหน้าของเขาก็เผยความประหลาดใจเล็กน้อยดูท่าแล้วตระกูลจีนี้ไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลร่ำรวยและมีอ
“วิชาการป้องกันตัวที่แข็งแกร่งมาก”หลินเฟิงกวาดตามองจีว่านหลัว ในใจก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยดูท่าถึงแม้สำนักเสวียนเทียนจะรวบรวมเคล็ดลับบู๊โบราณเอาไว้ แต่มีเคล็ดลับวิชาบู๊บางอย่างก็ถูกแพร่กระจายไปที่อื่น แถมยังมีลักษณะเฉพาะของตัวเองแต่โชคดีที่หลินเฟิงฝึกบำเพ็ญหยวนชี่ทั้งห้านี่เป็นวิชาบู๊ขั้นพื้นฐานที่ตอนนั้นผู้ดูแลสำนักเสวียนเทียน สอนให้เขาด้วยตัวเองมีหยวนชี่ทั้งห้า เพียงแค่ศิลปะการป้องกันตัวไม่เกินธาตุทั้งห้า หลินเฟิงก็สามารถใช้หยวนชี่ทั้งห้ามองทะลุ เลียนแบบ และถึงขั้นที่ดัดแปลงได้นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมก่อนหน้านี้หลินเฟิงสามารถใช้วิชาบู๊ของคนอื่นได้ตามใจชอบ“เต่าหางมังกรดำกลับสู่ตำแหน่ง!”หลินเฟิงตะโกนเสียงต่ำ ทำตามวิชาบู๊ที่จีว่านหลัวใช้ออกมา เขาก็ปล่อยออกมากระบวนท่าหนึ่งเช่นกันหลินเฟิงรวบรวมพลังชี่แท้สีเหลืองเข้มไว้ที่ใต้เท้า จากนั้นเตะก้อนหินที่โจมตีมาจนกระเด็นออกไป“ปึง!”“ผู้นำตระกูล ล่วงเกินแล้วครับ!”ผู้อาวุโสชุดขาวที่หนวดยาวเปื้อนเลือดพุ่งไปที่ด้านข้างจีว่านจ่าง จากนั้นกดไหล่ข้างซ้ายของเขาเอาไว้“เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว ไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว”บริวารแดนแปรภาพวั
“ฮ่าฮ่าฮ่า...”จีอวิ๋นเทียนที่นอนหมอบอยู่บนพื้น ดวงตาข้างหนึ่งที่ยังถือว่าสมบูรณ์แบบมองไปข้างหน้า ในดวงตาเผยความตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก“สมควร...แกมันสมควรแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า...”จีอวิ๋นเทียีนใช้เสียงแหบแห้งของตัวเอง หัวเราะเสียงดังออกมาจนแสบแก้วหูแทบทุกคนเหมือนกับเห็นภาพเหตุการณ์ต่อไปนั่นก็คือศีรษะของหลินเฟิงระเบิดออกเหมือนกับแตงโมจีอวิ๋นเจี๋ยถึงขั้นจับประตูไว้แน่น และหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด“หือ”มองดูการโจมตีที่บ้าระห่ำของจีว่านจ่าง ในที่สุดหลินเฟิงก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตระกูลจีมีความสามารถที่อยากจะแทนที่ตระกูลหลิน และกลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลร่ำรวยของเมืองจิงแล้วคนผู้นี้ต่อให้ไม่มีสติ พลังที่ระเบิดออกมาก็ยังน่าหวาดกลัวถึงขนาดนี้ เกรงว่าความสามารถที่แท้จริงสามารถเทียบเทียมกับอาฝูที่อยู่ข้างกายพ่อของเขาได้แล้ว“แต่ว่า...”หลินเฟิงจะตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?“ปีศาจชั่วร้ายกลืนกินพลังสวรรค์”หลินเฟิงพูดออกมาเสียงเบา ทันใดนั้นพลังชี่แท้สีแดงก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของหลินเฟิง เหมือนกับลมที่โหมพัดอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงกันหมดพลังชั่วร้ายที่ระ
“เอาล่ะ เลิกเหม่อได้แล้ว”สายตานิ่งเฉยของหลินเฟิงเรียกสติของคนตระกูลจีทั้งหมดที่สมองขาวโพลน“ผู้นำตระกูลจีถูกผมควบคุมเอาไว้แล้ว ถึงแม้แขนซ้ายของเขาจะหัก แต่เพียงแค่นอนรักษาอยู่บนเตียงไม่กี่วันก็เพียงพอแล้ว”หลินเฟิงเดินไปที่ด้านข้างจีอวิ๋นเจี๋ย และตบไหล่ของเขา“เอ่อ?”จีอวิ๋นเจี๋ยนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง ยังไม่เข้าใจความหมายของหลินเฟิง“ไปสิ”หลินเฟิงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าจะให้เขาออกมาเก็บกวาดสถานการณ์พังพินาศ และนี่ก็สามารถช่วงชิงบารมีภายในตระกูลจีมาให้เขาอยู่ได้บ้างในที่สุด จีอวิ๋นเจี๋ยก็เข้าใจความหมายของหลินเฟิงแล้วเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความซับซ้อน และพยักหน้าให้หลินเฟิงอย่างหนักแน่นจีอวิ๋นเจี๋ยเดินเข้าไป ออกคำสั่งคนรับใช้ของตระกูลจีที่ยืนตกใจอยู่ข้างๆ ให้หามพ่อของเขาไปพักที่บ้านหลังอื่นจากนั้น เขาก็เดินเข้าไปอีก และให้พวกบอดี้การ์ด คุมตัวจีอวิ๋นเทียนที่นั่งมองศพลูกชายของตัวเองด้วยความเหม่อลอย“จีอวิ๋นเทียน! คุณพ่อถูกนายวางยาพิษใช่ไหม?! พูดมา!”เมื่อเผชิญหน้ากับการเค้นถามของจีอวิ๋นเจี๋ยต่อหน้าบริวารของตระกูลจี และจีว่านหลัว จีอวิ๋นเทียนรู้แล้วว่าแนวโน้มของตัวเองหมดไปแล้ว
“......”จีว่านหลัวนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง จากนั้นเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง จึงยิ้มและส่ายหน้า“อวิ๋นเจี๋ยพูดได้ถูกต้อง”“งั้นก็จัดการแบบนี้ นำตัวสองคนนี้ไปคุมขัง รอให้พ่อหายดีแล้ว ค่อยรายงานเรื่องในวันนี้ให้คุณพ่อ ให้เขาตัดสินใจ”เมื่อเห็นว่าพวกบริวานก็ไม่ได้คัดค้านอะไร จีอวิ๋นเจี๋ยจึงออกคำสั่งในทันที“อ่อใช่แล้ว สหายหลินเฟิง เมื่อครู่ผมเหมือนได้ยินจีอวิ๋นเทียนพูดว่า...”จีอวิ๋นเจี๋ยเดินไปที่ข้างกายหลินเฟิง ยังไม่รอให้เขาพูดจบ จู่ๆ ที่ข้างหน้าก็มีเสียงผู้หญิงที่เย็นชาดังขึ้นมา“อุ๊ย? ตระกูลจีของพวกคุณนี่ครึกครื้นจริงๆ เลย ไม่รู้ว่าฉันมาทันหรือว่ามาไม่ทัน?จีว่านหลัวได้ยินเสียงนี้ ก็พากันหันมองไปพร้อมกับพวกบริวารตระกูลจีตอนมองไปไม่เท่าไหร่แต่เมื่อเห็นคนที่มาถึง ทุกคนก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที“หลงเซียว ใครใช้ให้คุณเข้ามา?”จีอวิ๋นเจี๋ยเดินออกมา ถามด้วยใบหน้าเย็นชาถูกต้องแล้วในตอนนี้คนที่ลงจากรถ และพาบอดี้การ์ดมาสิบกว่าคน ก็ต้องเป็นหลงเซียวของตระกูลหลงที่สวมเสื้อรัดตัว กระโปรงหนังคลุมบั้นท้ายหลงเซียวพาดเสื้อคลุมชุดทหารไว้บนบ่า บนศีรษะยังสวมหมวกทหารสีดำของประเทศมังกร เธอกวาดสายตามองจ
“คุณหลงเซียว ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยครับ...พวกเขาจะฆ่าผม!”จีอวิ๋นเทียนที่พุ่งเข้ามา ถูกบอดี้การ์ดตระกูลจีที่อยู่รอบๆ ล็อกเอาไว้ และลากไปที่คุกใต้ดินของตระกูลจีโดยไม่มีความเกรงใจแม้แต่นิด“จีอวิ๋นเจี๋ย ฉันสั่งให้นายปล่อยจีอวิ๋นเทียนตอนนี้”“เดี๋ยวนี้! ทันทีทันใด!”หลงเซียวออกคำสั่งด้วยท่าทางหยิ่งผยอง“ไม่”จีอวิ๋นเจี๋ยส่ายหน้าด้วยความนิ่งเฉย จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง: “ผมไม่ปล่อย คุณจะทำอะไรผมได้?”“คุณจะลงมือกับผมที่ถิ่นของตระกูลจีงั้นเหรอ?”“ฉันเกลี้ยกล่อมให้นายครุ่นคิดให้ดีๆ นะ จีอวิ๋นเจี๋ย”หลงเซียวรู้สึกหงุดหงิดในใจเล็กน้อย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จีอวิ๋นเจี๋ยคนนี้เป็นแค่คนขี้ขลาดตาขาวที่ปล่อยให้คนอื่นกลั่นแกล้งได้ตามใจชอบ ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน ทำไมจู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนไปแข็งกร้าวแบบนี้?แถมยังกล้าต่อต้านเธอขนาดนี้?“ไม่จำเป็นต้องครุ่นคิด ตอนนี้ คุณหนูหลงเซียว ผมเชิญคุณออกจากตระกูลจีของผม ตอนนี้ตระกูลจีของผมไม่สะดวกรับแขก”“จีอวิ๋นเจี๋ย ถ้าหากฉันพูดว่าไม่ล่ะ?”หลงเซียวพูดด้วยความนิ่งเฉย“งั้นก็อย่าโทษที่ผมใช้ความรุนแรง!”จีอวิ๋นเจี๋ยตะโกนเสียงทุ้มต่ำ: “อารอง บริวา
หลงเซียวเพิ่งจะพูดประโยคนี้ออกมา เธอก็คิดได้ว่าไม่ถูกต้องเพราะว่าเมื่อเธอยอมรับแบบนี้ ก็กลายเป็นยอมรับว่าเธอเคยร่วมมือกับจีอวิ๋นเทียนของตระกูลจี วางแผนลอบทำร้ายผู้นำตระกูลจีคนปัจจุบันไม่ใช่เหรอ?นี่เป็นปัญการสมาคมของตระกูลที่รุนแรงเป็นอย่างมากถ้าหากถูกแพร่งพรายออกไป จะต้องถูกโลกภายนอกรังเกียจ ชื่อเสียงป่นปี้อีกอย่างถึงแม้ตระกูลหลงจะธุรกิจใหญ่โต ไม่ได้หวาดกลัวตระกูลจี แต่ถ้าหากทำให้ตระกูลจีโมโห ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถลอบกัดตระกูลหลงได้นี่เป็นความแค้นเคืองที่ไม่จำเป็นอย่างมากคิดได้ถึงตรงนี้ หลงเซียวก็รีบเปลี่ยนคำพูดในทันที:“ฉันหลงเซียวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายจีอวิ๋นเทียนของตระกูลจี เห็นเขาได้รับการปฏิบัติแบบนี้ ในฐานะเพื่อนจึงทนดูไม่ได้ก็เท่านั้นเอง”“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลจีของพวกคุณ ฉันไม่ได้อยากจะยุ่งสักหน่อย”หลงเซียวพูดอย่างเย็นชา“งั้นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลจีในวันนี้ จึงเป็นเรื่องภายในของตระกูลจี ถ้าหากคุณหลงเซียวไม่ใช่คนที่สมรู้ร่วมคิดกับจีอวิ๋นเทียน งั้นก็เชิญเถอะครับ”ในคำพูดของจีอวิ๋นเจี๋ยมีความหมายแอบแฝง จึงทำให้หลงเซียวพูดไม่ออกถ้าหากเธอฝืนท
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ